อดีตนายกฯ หญิงนิวซีแลนด์จะไปประชุมใหญ่พรรคเดโมแครต

เวลลิงตัน 19 ส.ค. – นางจาซินดา อาร์เดิร์น อดีตนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ จะไปร่วมการประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตของสหรัฐที่จะเปิดฉากขึ้นที่เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ โฆษกส่วนตัวของอาร์เดิร์นส่งอีเมลยืนยันกระแสข่าวก่อนหน้านี้เรื่องนางอาร์เดิร์นจะไปเข้าร่วมการประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 สิงหาคม นอกจากนี้ยังจะเข้าร่วมการประชุมนอกรอบของการประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตด้วย การประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตจะเป็นการเฉิลมฉลองการเสนอชื่อนางคอมมาลา แฮร์ริส เป็นตัวแทนพรรคอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะมีคนจำนวนมากเดินทางมายังเมืองชิคาโก เพื่อแสดงการสนับสนุนเธอ   สำหรับประวัติของนางอาร์เดิร์น วัย 44 ปี เธอรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์คนที่ 40 ในปี 2560 นับเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 3 ของประเทศ อาร์เดิร์นเป็นที่จับตาในระดับโลกนับตั้งแต่นำบุตรสาววัย 3 เดือนไปเข้าร่วมการประชุมใหญ่สหประชาชาติในปี 2561 เธอสวมฮิญาบเพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับชุมชนมุสลิม หลังเกิดเหตุสังหารหมู่ชาวมุสลิมที่เมืองไครสต์เชิร์ชในปี 2562 และประสบความสำเร็จในเบื้องต้นในการรับมือกับโรคโควิด-19 ระบาด เธอประกาศลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนมกราคม 2566 โดยให้เหตุผลว่า หมดพลังแล้ว จากนั้นก็ไม่ปรากฏตัวต่อสื่อเท่าใดนัก.-814.-สำนักข่าวไทย

อดีตนายกฯ หญิงนิวซีแลนด์ได้รับบรรดาศักดิ์

เวลลิงตัน 5 มิ.ย.- นางจาซินดา อาร์เดิร์น อดีตนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ได้รับบรรดาศักดิ์เป็น “เดม” หรือ “ดาม” (Dame) ซึ่งใช้นำหน้านามเหมือนคำว่า “เซอร์” (Sir) สำหรับผู้ชาย จากผลงานในช่วงที่เป็นผู้นำประเทศ นายกรัฐมนตรีคริส ฮิปกินส์ที่รับตำแหน่งต่อจากนางอาร์เดิร์นเผยว่า นางอาร์เดิร์นได้รับบรรดาศักดิ์ในวันนี้ ตามที่มีชื่ออยู่ในรายชื่อผู้ได้รับการสถาปนาบรรดาศักดิ์ในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพและวันบรมราชาภิเษกสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ของอังกฤษ ซึ่งทรงดำรงตำแหน่งพระประมุขของนิวซีแลนด์ นายฮิปกินส์กล่าวว่า เดม จาซินดา อาร์เดิร์นที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีระหว่างปี 2560-2566 ได้รับการยอมรับในผลงานการบริหารประเทศในช่วงที่เกิดความท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดในยุคปัจจุบัน เธอนำพาประเทศผ่านพ้นเหตุการณ์ก่อการร้ายในปี 2562 และการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เขาได้เห็นด้วยตนเองถึงความมุ่งมั่นที่เธอมีให้แก่ประเทศ ด้านนางอาร์เดิร์น วัย 42 ปี กล่าวว่า รู้สึกลังเลใจที่จะรับบรรดาศักดิ์นี้ เพราะสิ่งที่เธอทำส่วนใหญ่มาจากความร่วมมือร่วมใจของชาวนิวซีแลนด์ทั้งประเทศ ไม่ใช่ตัวเธอคนเดียว อาร์เดิร์นชนะเลือกตั้งในปี 2560 ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 40 ของนิวซีแลนด์ขณะอายุเพียง 37 ปี ถือเป็นผู้นำรัฐบาลหญิงอายุน้อยที่สุดในโลก และชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลายในปี 2563 ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย ต่อมารัฐบาลสายกลางซ้ายของเธอเผชิญกับปัญหาเงินเฟ้อสูงและวิกฤตที่อยู่อาศัยราคาแพง จนกระทั่งเธอการประกาศในเดือนมกราคมสร้างความตกตะลึงไปทั้งประเทศว่า จะลาออกจากตำแหน่งและวางมือทางการเมืองเนื่องจากหมดไฟในการทำหน้าที่แล้ว.-สำนักข่าวไทย

“จาซินดา อาร์เดิร์น” ปราศรัยทิ้งท้ายต่อรัฐสภานิวซีแลนด์

นางจาซินดา อาร์เดิร์น อดีตนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ อำลารัฐสภาในวันนี้ ยุติอาชีพในแวดวงการเมืองหลังจากนำพานิวซีแลนด์ก้าวผ่านวิกฤตหลายเรื่องในขณะที่ตัวเธอต้องเผชิญกับการล่วงละเมิดทางออนไลน์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

“อาร์เดิร์น” ปฏิบัติภารกิจสุดท้ายในฐานะนายกฯ นิวซีแลนด์

เวลลิงตัน 24 ม.ค.- นางจาซินดา อาร์เดิร์น ของนิวซีแลนด์ปฏิบัติภารกิจสุดท้ายในฐานะนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ในวันนี้ และยืนยันว่าการถูกข่มเหงทางออนไลน์อย่างต่อเนื่องไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งอย่างกะทันหัน นางอาร์เดิร์นวัย 42 ปี ไปเยี่ยมชุมชนชาวเมารีบนเกาะเหนือ เธอเผยกับสื่อขณะปฏิบัติภารกิจในฐานะนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งสุดท้ายว่า ไม่อยากให้การลาออกของเธอถูกมองว่าเป็นการวิจารณ์ประเทศในแง่ลบ เธอซาบซึ้งใจที่ได้รับตำแหน่งอันแสนวิเศษนี้มาหลายปี หลังจากนี้เธอจะถอยออกมาจากการเมืองในประเทศ ส่วนคำแนะนำที่จะมีให้แก่นายคริส ฮิปกินส์ วัย 44 ปี ซึ่งจะสาบานตนรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในวันพรุ่งนี้คือ ขอให้เป็นในสิ่งที่เป็นตัวเอง นางอาร์เดิร์นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาตั้งแต่ปี 2560 และจะครบวาระ 3 ปีสมัยที่ 2 ในเดือนตุลาคมนี้ เธอประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า จะลาออกเนื่องจากหมดไฟในการทำงานแล้ว หลังจากนำพาประเทศผ่านพ้นภัยพิบัติทางธรรมชาติ เหตุก่อการร้ายครั้งร้ายแรง และโรคโควิด-19 ระบาด ขณะที่นายฮิปกินส์เผยว่า นางอาร์เดิร์นถูกข่มเหงอย่างน่ารังเกียจในช่วงที่เป็นผู้นำประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ว่าที่นายกฯ นิวซีแลนด์ประกาศปกป้องครอบครัว

นายคริส ฮิปกินส์ ว่าที่นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ตำหนิการโจมตีส่วนตัวที่เกิดขึ้นกับนายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ว่าเป็นเรื่องน่ารังเกียจ และประกาศว่าเขาจะปกป้องครอบครัวไม่ให้ตกเป็นเหยื่อการโจมตี

นิวซีแลนด์ได้นายกฯ คนใหม่แล้ว

เวลลิงตัน 22 ม.ค.- พรรครัฐบาลนิวซีแลนด์ได้หัวหน้าพรรคคนใหม่แล้วในวันนี้ เพื่อทำหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์นที่ประกาศจะลาออกจากตำแหน่งภายในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่ประชุมพรรคแรงงานวันนี้ให้การรับรองนายคริส ฮิปกินส์ วัย 44 ปี เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ และนายกรัฐมนตรีคนที่ 41 ของประเทศ นายฮิปกินส์ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเพียงคนเดียวกล่าวตอบรับว่า เป็นสิทธิพิเศษและความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต เขารู้สึกเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและตื่นเต้นกับความท้าทายที่รออยู่ หลังจากนางอาร์เดิร์น วัย 42 ปี ที่ดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2560 ประกาศลาออกอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาโดยให้เหตุผลว่า หมดไฟที่จะบริหารประเทศแล้ว นายฮิปกินส์ได้รับเลือกตั้งเข้าสภาสมัยแรกในปี 2551 สร้างผลงานจากการเป็นรัฐมนตรีที่รับผิดชอบเรื่องการรับมือกับโควิด-19 หลังจากได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุขในปี 2563 เขาเผยว่า จะสาบานตนรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันพุธหน้า เมื่อนางอาร์เดิร์นยื่นหนังสือลาออกต่อผู้สำเร็จราชการแทนสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร และเขาได้รับแต่งตั้งจากผู้สำเร็จราชการฯ .-สำนักข่าวไทย

เปิดโผตัวเก็งนายกฯ นิวซีแลนด์คนใหม่

เวลลิงตัน 20 ม.ค.- การชิงชัยเป็นนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์คนใหม่ แทนที่นางจาซินดา อาร์เดิร์น เริ่มแล้วในวันนี้ หลังจากเธอประกาศจะลงจากตำแหน่งในเดือนหน้า พรรคแรงงานของนางอาร์เดิร์นจะประชุมในวันอาทิตย์นี้เพื่อหารือเรื่องเลือกผู้นำพรรคคนใหม่ที่จะทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนตุลาคม ขณะนี้มีตัวเก็งทั้งหมด 3 คน คนแรกคือนายคริส ฮิปกินส์ วัย 44 ปี ที่ได้รับเสียงชื่นชมจากการทำหน้ารัฐมนตรีที่รับผิดชอบเรื่องการรับมือกับโรคโควิด-19 มาร่วม 2 ปี อย่างไรก็ดี เขายอมรับเมื่อปีก่อนว่า ประชาชนเหนื่อยล้ากับมาตรการปิดประเทศที่ใช้มาตั้งแต่เริ่มพบการระบาด และเพิ่งยกเลิกเมื่อเดือนสิงหาคม นายฮิปกินส์เป็นสมาชิกสภามาตั้งแต่ปี 2551 ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมาหลายกระทรวง เขาไม่ปฏิเสธเรื่องจะชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค แต่ออกตัวว่า คิดว่าเวลานี้ประชาชนต้องการเวลาอีกระยะหนึ่ง ตัวเก็งคนที่ 2 คือ คิรี อัลลัน อดีตทนายความวัย 39 ปี ที่ถูกจับตามองว่าอาจจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีที่เป็นชนเผ่าเมารีคนแรกของประเทศ เธอเข้าสู่สภาครั้งแรกปี 2560 และต้องลางานในปีถัดมาเนื่องจากตรวจพบว่าเป็นมะเร็งปากมดลูกระยะที่ 3 แต่สามารถกลับมาปฏิบัติหน้าที่ภายใน 3 เดือน เธอเกิดในครอบครัวชนชั้นทำงาน และแต่งงานกับคู่รักที่เป็นสตรีหลังจากนิวซีแลนด์ผ่านกฎหมายการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน ตัวเก็งคนที่ 3 คือ ไมเคิล วูด วัย […]

นายกฯ หญิงนิวซีแลนด์ประกาศลาออกจากตำแหน่งเดือนหน้า

เวลลิงตัน 19 ม.ค. – นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ของนิวซีแลนด์ ประกาศว่าจะลาออกจากตำแหน่งในเดือนกุมภาพันธ์ โดยให้เหตุผลว่า เธอไม่มีพละกำลังเหลือมากพอที่จะปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีอีกต่อไป นายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์นกล่าวในที่ประชุมสมาชิกพรรคแรงงาน (Labour Party) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลนิวซีแลนด์ ในวันนี้ว่า เธอเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ทุ่มเทให้กับการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างเต็มที่ตราบเท่าที่จะทำได้ และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะเธอจะหยุดทำสิ่งนั้นแล้ว เนื่องจากเธอไม่มีพละกำลังเหลือมากพอที่จะปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อไปเป็นเวลาอีก 4 ปี สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์นได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ครั้งแรกในปี 2560 และพาพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายกลาง ชนะการเลือกตั้งครั้งใหญ่ในปี 2563 ขณะที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เธอได้รับเสียงชื่นชมจากนานาชาติเกี่ยวกับการรับมือเหตุก่อการร้ายที่มัสยิด 2 แห่งในนิวซีแลนด์ การควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงการเป็นผู้นำคนที่สองของโลกที่ให้กำเนิดบุตรขณะดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศ อย่างไรก็ดี คะแนนนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์นและพรรคแรงงานจากผลสำรวจความเห็นในประเทศเริ่มถดถอยลงเมื่อไม่นานมานี้ ท่ามกลางสถานการณ์ที่นิวซีแลนด์กำลังเผชิญกับปัญหาเงินเฟ้อและอัตราก่ออาชญากรรมที่เพิ่มสูงขึ้น.-สำนักข่าวไทย

สองนายกฯ หญิงปฎิเสธว่าหารือกันเพราะอายุใกล้กัน

เวลลิงตัน 30 พ.ย. – นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ของนิวซีแลนด์ และนายกรัฐมนตรีซานนา มาริน ของฟินแลนด์ ปฏิเสธข้อสงสัยของผู้สื่อข่าวชายที่ถามขึ้นว่า การที่ผู้นำทั้งสองคนนัดพบปะหารือกันที่นิวซีแลนด์เป็นเพราะทั้งคู่มีอายุใกล้เคียงกันและมีหลายสิ่งที่คล้ายกัน นายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์น วัย 42 ปี และนายกรัฐมนตรีมาริน วัย 37 ปี ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวชายคนดังกล่าวจากสถานีวิทยุนิวส์ทอล์ก ซีบี (Newstalk ZB) ของนิวซีแลนด์ว่า ทั้งสองคนนัดหารือกันเพราะเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่เพราะเป็นผู้นำหญิงอายุน้อยเหมือนกัน นายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์นยังตั้งคำถามกับผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวว่า เธอสงสัยว่าเขาจะตั้งคำถามนี้กับผู้นำประเทศที่เป็นผู้ชายหรือไม่ ทั้งยังระบุว่า แม้เธอกับนายกรัฐมนตรีมารินเป็นผู้หญิงที่ได้ก้าวเข้ามามีบทบาททางการเมืองที่มีผู้ชายเป็นใหญ่ก็จริง แต่การที่ทั้งคู่พบกันคงไม่ใช่เพราะเหตุผลที่ว่าทั้งสองคนเป็นผู้หญิงเหมือนกันอย่างแน่นอน นายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์นยังกล่าวถึงความสัมพันธ์ทางการค้าของนิวซีแลนด์กับฟินแลนด์ว่า การพบหารือกันในวันนี้เป็นโอกาสดีที่จะส่งเสริมการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ โดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเด็นที่ว่าทั้งสองคนเป็นผู้หญิงเหมือนกัน ขณะที่บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า ขณะนี้ นายกรัฐมนตรีมารินกำลังปฏิบัติภารกิจเยือนนิวซีแลนด์อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก และถือเป็นนายกรัฐมนตรีฟินแลนด์คนแรกที่เยือนนิวซีแลนด์ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์นกับนายกรัฐมนตรีมารินยังได้เปิดการหารือระดับทวิภาคีร่วมกันในประเด็นต่าง ๆ เช่น ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ปัญหาค่าครองชีพ การให้ความสนับสนุนแก่ยูเครนหลังถูกรัสเซียบุกโจมตี และเหตุชุมนุมประท้วงในอิหร่าน.-สำนักข่าวไทย

ศาลนิวซีแลนด์ชี้กำหนดอายุ 18 ปีเลือกตั้งเข้าข่ายเลือกปฏิบัติ

เวลลิงตัน 21 พ.ย. – ศาลสูงสุดของนิวซีแลนด์ชี้ว่า การที่นิวซีแลนด์กำหนดให้บุคคลที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปมีสิทธิเลือกตั้งเป็นการกระทำที่เลือกปฏิบัติ ทำให้รัฐสภานิวซีแลนด์จำเป็นต้องหารือกันว่าควรจะปรับลดอายุของบุคคลที่มีสิทธิเลือกตั้งหรือไม่ ศาลสูงสุดของนิวซีแลนด์ระบุในวันนี้ว่า การที่กฎหมายนิวซีแลนด์กำหนดให้บุคคลที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปมีสิทธิเลือกตั้งเป็นการกระทำที่ไม่สอดคล้องกับกฎหมายสิทธิพื้นฐานของพลเมือง (Bill of Rights) ซึ่งต้องการให้ประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไปเป็นอิสระจากการถูกเลือกปฏิบัติ ขณะที่ความเห็นดังกล่าวของศาลสูงสุดนิวซีแลนด์ทำให้รัฐสภานิวซีแลนด์จำเป็นต้องหารือร่วมกันว่าควรจะปรับลดอายุของผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งหรือไม่ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนอภิปรายในสภาและได้รับการตรวจสอบจากคณะกรรมการเฉพาะกิจของรัฐสภา แต่ไม่ได้เป็นข้อบังคับว่าจะต้องทำตามเช่นนั้น นายเคเดน ทิปเลอร์ ผู้อำนวยการร่วมของ ‘เมก อิท ซิกซ์ทีน’ (Make It 16) กลุ่มนักเคลื่อนไหวที่เรียกร้องให้นิวซีแลนด์กำหนดให้ประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไปมีสิทธิเลือกตั้ง ระบุว่า ความเห็นของศาลสูงสุดนิวซีแลนด์ถือเป็นเหตุการณ์ครั้งสำคัญทางประวัติศาสตร์ รัฐบาลนิวซีแลนด์และรัฐสภาไม่สามารถที่จะเพิกเฉยต่อข้อคิดเห็นดังกล่าวได้ และต้องปรับเปลี่ยนกฎหมายให้บุคคลอายุ 16 ปีขึ้นไปมีสิทธิเลือกตั้ง ทั้งยังระบุว่า รัฐบาลนิวซีแลนด์มีเหตุผลไม่เพียงพอที่จะห้ามไม่ให้ประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไปมีสิทธิเลือกตั้ง เนื่องจากบุคคลเหล่านี้สามารถทำใบขับขี่ ทำงานเต็มเวลา และจ่ายเงินภาษีได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ในขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ของนิวซีแลนด์ เผยว่า รัฐบาลนิวซีแลนด์จะร่างกฎหมายเพื่อปรับให้บุคคลอายุ 16 ปีขึ้นไปมีสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งจะต้องผ่านความเห็นชอบจากการลงมติในรัฐสภาด้วยคะแนนร้อยละ […]

นิวซีแลนด์ยกเลิกมาตรการคุมโควิดเกือบทั้งหมดแล้ว

เวลลิงตัน 12 ก.ย. – นิวซีแลนด์ประกาศยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากากอนามัยในอาคารและคำสั่งบังคับฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในบางตำแหน่งงาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนไปใช้แนวทางอยู่ร่วมกับเชื้อโควิด นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ของนิวซีแลนด์ กล่าวที่งานแถลงข่าวในกรุงเวลลิงตันวันนี้ว่า ตั้งแต่เที่ยงคืนวันนี้เป็นต้นไป ชาวนิวซีแลนด์ไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยในทุกสถานที่ ยกเว้นสถานบริการด้านสุขภาพ เช่น โรงพยาบาลและสถานดูแลผู้สูงอายุ นอกจากนี้ รัฐบาลจะยกเลิกข้อกำหนดที่ใช้วัดระดับความเสี่ยงของการแพร่ระบาดในชุมชนและข้อจำกัดเพื่อควบคุมโรคโควิด ผู้นำนิวซีแลนด์ยังระบุว่า ตอนนี้นิวซีแลนด์อยู่ในสถานะพร้อมยกเลิกข้อจำกัดควบคุมโรคที่เหลืออยู่ เนื่องจากพบยอดผู้ป่วยโควิดและผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลลดลงในขณะที่ฤดูหนาวใกล้สิ้นสุด รวมถึงมีอัตราฉีดวัคซีนโควิดอยู่ในระดับสูง ขณะที่ธุรกิจบางประเภทอาจกำหนดให้ลูกค้าสวมหน้ากากอนามัยได้ และเป็นหน้าที่ของเจ้าของธุรกิจที่จะตัดสินใจว่าจะบังคับให้พนักงานฉีดวัคซีนโควิดหรือไม่ เนื่องจากรัฐบาลนิวซีแลนด์จะยกเลิกคำสั่งบังคับฉีดวัคซีนโควิดในวันที่ 26 กันยายน ในขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางมายังนิวซีแลนด์ไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนโควิดหรือแสดงผลตรวจหาเชื้อโควิดอีกต่อไป ยกเว้นผู้ที่มีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นบวกที่ต้องกักตัวอยู่ในบ้านเป็นเวลา 7 วัน ขณะที่ผู้ที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดไม่จำเป็นต้องกักตัว แต่ต้องตรวจหาเชื้อโควิดทุกวัน ขณะนี้ นิวซีแลนด์มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 1.76 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 2,800 คน. -สำนักข่าวไทย

ทั่วโลกห่วงเหตุกราดยิงกระทบภาพประเทศต้นแบบของสหรัฐ

วอชิงตัน 26 พ.ค. – ทั่วโลกต่างประณามเหตุกราดยิงที่โรงเรียนประถมในรัฐเทกซัสของสหรัฐที่ทำให้มีเด็กเสียชีวิต 19 ราย และครูเสียชีวิต 2 ราย พร้อมตั้งข้อสังเกตถึงการชูภาพลักษณ์ความเป็นประเทศต้นแบบของสหรัฐว่ายังคงมีประสิทธิภาพหรือไม่ ชาติพันธมิตรของสหรัฐ รวมถึงนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่ของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ซึ่งไม่ค่อยกล่าวถึงปัญหาในสหรัฐมากนัก ต่างแสดงความวิตกกังวลหลังมือปืน วัย 18 ปี ก่อเหตุกราดยิงที่โรงเรียนประถมศึกษาในเมืองอูวัลเดของรัฐเทกซัส จนทำให้มีเด็กนักเรียนเสียชีวิต 19 รายและครูเสียชีวิต 2 ราย ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ซึ่งได้รับอาวุธจากสหรัฐเพื่อนำมาใช้ป้องกันการบุกรุกของรัสเซีย มองว่า เหตุกราดยิงดังกล่าวเป็นเรื่องที่น่ากลัว ส่วนประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ระบุว่า เขาขอมีส่วนร่วมกับผู้ที่ต่อสู้เพื่อยุติความรุนแรง ในขณะเดียวกัน ชาติพันธมิตรบางส่วนของสหรัฐได้ตั้งคำถามว่า ทำไมสหรัฐจึงไม่สามารถแก้ปัญหาเหตุกราดยิงในประเทศได้ ทั้งที่รัฐธรรมนูญสหรัฐมีสิทธิที่จะแก้กฎหมายครอบครองอาวุธและจัดการกลุ่มนักล็อบบี้ทางการเมืองที่ไม่ต้องการให้ออกกฎหมายควบคุมการซื้อปืนได้ ในขณะที่สหรัฐมีสถิติผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงโดยเฉลี่ยมากถึงวันละ 111 ราย นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ของนิวซีแลนด์ ซึ่งอยู่ในระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนสหรัฐ เผยกับสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสของสหรัฐว่า รัฐบาลนิวซีแลนด์ได้แก้กฎหมายควบคุมปืนให้เข้มงวดยิ่งขึ้นหลังมือปืนที่เชื่อเรื่องคนผิวขาวเป็นใหญ่ก่อเหตุกราดยิงที่มัสยิด 2 แห่งในเมืองไครสต์เชิร์ชจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 51 รายเมื่อปี […]

1 2 3 4
...