สหรัฐเรียกร้องอิสราเอลปกป้องพลเรือน
รองประธานาธิบดีสหรัฐระบุว่า มีชาวปาเลสไตน์กำลังถูกสังหารในกาซามากเกินไป ขอเรียกร้องให้อิสราเอลปกป้องพลเรือนให้มากขึ้น พร้อมกับเผยวิสัยทัศน์ของสหรัฐสำหรับกาซาหลังสงครามยุติ
รองประธานาธิบดีสหรัฐระบุว่า มีชาวปาเลสไตน์กำลังถูกสังหารในกาซามากเกินไป ขอเรียกร้องให้อิสราเอลปกป้องพลเรือนให้มากขึ้น พร้อมกับเผยวิสัยทัศน์ของสหรัฐสำหรับกาซาหลังสงครามยุติ
รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ของสหรัฐ เดินทางเยือนเกาะปาลาวันในประเทศฟิลิปปินส์ ย้ำคำมั่นสหรัฐจะยึดมั่นในพันธสัญญาที่จะปกป้องฟิลิปปินส์ในกรณีถูกโจมตีตามข้อตกลง
รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ของสหรัฐจะเดินทางไปเยือนเกาะแห่งหนึ่งในฟิลิปปินส์ ซึ่งอยู่ใกล้กับน่านน้ำที่จีนอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ เพื่อแสดงให้เห็นว่าสหรัฐให้การสนับสนุนฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นพันธมิตรกับสหรัฐมาอย่างยาวนานและตอบโต้การแผ่ขยายอิทธิพลของจีนมากขึ้นเรื่อย ๆ ในภูมิภาคนี้
ปิดฉากลงแล้วสำหรับการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ และมีพิธีส่งมอบการเป็นเจ้าภาพเอเปค ครั้งที่ 30 ให้แก่สหรัฐอเมริกา นายกฯ มอบชะลอม 3 สี ซึ่งเป็นสัญลักษณ์การประชุมเอเปค 2565 ให้กับรองประธานาธิบดีสหรัฐ
วอชิงตัน 19 พ.ย.- รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริสของสหรัฐเผยวันนี้ว่า สหรัฐจะช่วยเหลือไทยพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ด้วยเตาปฏิกรณ์ขนาดเล็ก เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของโครงการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เอเอฟพีรายงานอ้างทำเนียบขาวสหรัฐว่า ความช่วยเหลือนี้เป็นส่วนหนึ่งของความริเริ่มโลกเรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero World Initiative) ที่สหรัฐจับมือกับภาคเอกชนและกลุ่มผู้ใจบุญเปิดตัวในการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกร้อนครั้งที่ 26 หรือคอป 26 (COP26) ที่กลาสโกว์ของสกอตแลนด์เมื่อปี 2564 เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด สหรัฐจะให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคแก่ไทยในการพัฒนาเทคโนโลยีเตาปฏิกรณ์ชนิดโมดูลขนาดเล็กหรือเอสเอ็มอาร์ (Small Modular Reactors : SMR) ที่ผลิตในโรงงานและสามารถเคลื่อนย้ายได้ โดยทั่วไปแล้วเตาปฏิกรณ์แบบนี้ถือว่าปลอดภัยเพราะไม่จำเป็นต้องให้คนเข้าไปปิดเครื่องในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่ระดับสูงในคณะของนางแฮร์ริสที่เดินทางมาร่วมการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกหรือเอเปค (APEC) ที่กรุงเทพฯ เผยโดยขอสวนนามว่า สหรัฐมุ่งหวังที่จะทำงานร่วมกับไทยเพื่อใช้ประโยชน์จากเอสเอ็มอาร์และแหล่งพลังงานสะอาดที่ไว้ใจได้ ทำเนียบขาวไม่ได้ให้กรอบเวลาในเรื่องนี้ แต่เผยว่าจะสนับสนุนไทยในการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2608 ซึ่งเป็นการปล่อยปริมาณก๊าซเรือนกระจกให้เท่ากับปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ถูกดูดซับกลับคืน นอกจากนี้ยังได้ประกาศความริเริ่มร่วมกับไทยในการเสริมสร้างความปลอดภัยของอินเทอร์เน็ตยุค 5 จี และโครงการสร้างศูนย์รักษามะเร็งระดับโลกที่จังหวัดชลบุรีของไทย.-สำนักข่าวไทย
กรุงเทพฯ 19 พ.ย.- รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริสของสหรัฐสนทนาเป็นเวลาสั้น ๆ กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ย้ำเรื่องเปิดการติดต่อสื่อสารระหว่างกันตามที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐเรียกร้องกับผู้นำจีนเมื่อไม่กี่วันก่อน เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวที่ขอสงวนนามเผยว่า รองประธานาธิบดีแฮร์ริสพบสนทนากับประธานาธิบดีสีในวันนี้ ขณะกำลังจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกหรือเอเปค (APEC) ที่กรุงเทพฯ เธอย้ำสารของประธานาธิบดีไบเดนเรื่องสหรัฐและจีนต้องเปิดช่องทางการติดต่อสื่อสาร เพื่อให้สามารถดูแลการแข่งขันระหว่างกันอย่างมีความรับผิดชอบ ส่วนเมื่อวานนี้เธอกล่าวระหว่างหารือเร่งด่วนกับนายกรัฐมนตรี 5 ชาติพันธมิตรเรื่องเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธในวันเดียวกันว่า จีนควรแสดงบทบาทในเรื่องนี้ด้วยการใช้อิทธิพลโน้มน้าวเกาหลีเหนือไม่ให้ใช้แนวทางยั่วยุที่มีแต่จะทำให้โลกและภูมิภาคไร้เสถียรภาพ ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีไบเดนได้พบสนทนากับประธานาธิบดีสีเป็นเวลา 3 ชั่วโมงที่โรงแรมบนเกาะบาหลีของอินโดนีเซียเมื่อวันจันทร์ นอกรอบการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่หรือจี 20 (G20) เป็นการพบหน้ากันครั้งแรกตั้งแต่ไบเดนขึ้นเป็นประธานาธิบดี.-สำนักข่าวไทย
ผู้แทนเขตเศรษฐกิจและแขกพิเศษ ทยอยเดินทางเข้าร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค 2022 เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (17 พ.ย.)
วอชิงตัน 29 ก.ย.- รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริสของสหรัฐและประธานาธิบดียุน ซอก-ยอลของเกาหลีใต้ประณามเกาหลีเหนือที่ขู่เรื่องนิวเคลียร์และทดสอบอาวุธเพิ่มขึ้น หลังจากเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธครั้งล่าสุดเมื่อวันพุธ รองประธานาธิบดีแฮร์ริสพบกับประธานาธิบดียุนทันทีที่เดินทางถึงกรุงโซลในช่วงเช้าวันนี้ ทำเนียบขาวของสหรัฐแถลงว่า รองประธานาธิบดีสหรัฐและประธานาธิบดีเกาหลีใต้ได้ประณามเกาหลีเหนือที่ใช้ถ้อยคำยั่วยุเรื่องนิวเคลียร์และทดสอบขีปนาวุธร่อน พร้อมกับย้ำเป้าหมายร่วมกันเรื่องทำให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดนิวเคลียร์อย่างสิ้นเชิง และได้หารือเรื่องการรับมือกับการยั่วยุที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น ความร่วมมือไตรภาคีกับญี่ปุ่น รองประธานาธิบดีแฮร์ริสยังได้ย้ำเรื่องสหรัฐมีพันธกิจที่จะป้องปรามรัฐอื่นที่จะคุกคามพันธมิตรในเอเชียอย่างเกาหลีใต้ ด้วยการใช้ศักยภาพด้านกลาโหมที่มีอยู่อย่างเต็มพิกัด พร้อมกับใช้โอกาสนี้หารือหนทางแก้ไขความกังวลของเกาหลีใต้ที่เกรงว่า ผู้ผลิตยานยนต์ของเกาหลีใต้จะได้รับผลกระทบจากการที่สหรัฐผ่านร่างกฎหมายลดอัตราเงินเฟ้อที่มีการแก้ไขระเบียบการอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้า ด้านสำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้รายงานอ้างรองโฆษกทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ว่า รองประธานาธิบดีแฮร์ริสพบหารือกับประธานาธิบดียุนที่ทำเนียบประธานาธิบดีเป็นเวลา 85 นาที และเห็นพ้องกันเรื่องกำหนดการที่ประธานาธิบดียุนจะไปเยือนสหรัฐในปี 2566 เพื่อฉลองความเป็นพันธมิตรครบ 70 ปี ส่วนเรื่องที่เกิดประเด็นขึ้นหลังจากประธานาธิบดียุนพบกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐที่นครนิวยอร์กเมื่อสัปดาห์ก่อน รองประธานาธิบดีแฮร์ริสเผยว่า สหรัฐไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย โฆษกไม่ได้ระบุในรายละเอียด แต่ยอนฮับชี้ว่า น่าจะเป็นเรื่องที่ผู้นำเกาหลีใต้หลุดใช้คำหยาบโดยไม่รู้ตัวว่าไมโครโฟนเปิดอยู่ และมีข่าวในตอนแรกว่าเขาพูดถึงประธานาธิบดีและรัฐสภาสหรัฐ.-สำนักข่าวไทย
โตเกียว 27 ก.ย.- เจ้าหน้าที่สหรัฐและเกาหลีใต้เผยว่า รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ของสหรัฐจะเดินทางไปยังเขตปลอดทหารหรือดีเอ็มซี (DMZ) ที่แบ่งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อแสดงออกถึงพันธกรณีที่มีต่อความมั่นคงของเกาหลีใต้ ข่าวการเยือนของรองประธานาธิบดีแฮร์ริสได้รับการยืนยันต่อสาธารณะโดยนายกรัฐมนตรีฮัน ด็อก-ซู ของเกาหลีใต้ระหว่างที่ทั้งคู่พบกันที่กรุงโตเกียวของญี่ปุ่นเพื่อเข้าร่วมรัฐพิธีศพของอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ และต่อมาได้รับการยืนยันโดยเจ้าหน้าที่สหรัฐที่ขอสงวนนาม เจ้าหน้าที่รายนี้กล่าวว่า หลังจากมีความตกลงสงบศึกเกาหลีเมื่อเกือบ 70 ปีก่อน การเยือนของนางแฮร์ริสจะตอกย้ำความแข็งแกร่งของความเป็นพันธมิตรระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐท่ามกลางภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ รองประธานาธิบดีสหรัฐจะเยี่ยมชมดีเอ็มซี พบปะเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน รับฟังการบรรยายสรุปจากผู้บัญชาการสหรัฐ ขอบคุณความเสียสละร่วมกันของทหารอเมริกันและเกาหลีใต้ และย้ำถึงพันธกรณีที่แข็งแกร่งของสหรัฐต่อความมั่นคงของเกาหลีใต้ การประกาศข่าวการเยือนดีเอ็มซีของนางแฮร์ริสมีขึ้นหลังจากเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธร่อนพิสัยใกล้ลงทะเลฝั่งตะวันออกเมื่อวันอาทิตย์ และมีขึ้นท่ามกลางกระแสวิตกเรื่องเกาหลีเหนืออาจทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ เนื่องจากรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประสบความล้มเหลวในการสร้างสัมพันธ์กับนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ที่ผ่านมาแขกต่างประเทศหลายคนเคยเดินทางไปยังดีเอ็มซีมาแล้ว ประธานาธิบดีไบเดน เคยไปเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสมัยประธานาธิบดีบารัค โอบามา ในปี 2556 ขณะที่โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนแรกที่ไปดีเอ็มซีเพื่อพบผู้นำเกาหลีเหนือในเดือนมิถุนายน 2562 ซึ่งเป็นการพบกันครั้งที่ 3.-สำนักข่าวไทย
รองประธานาธิบดีสหรัฐและไต้หวันได้สนทนากันเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ในวันพฤหัสบดีในระหว่างที่ทั้งสองเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีคนใหม่ของฮอนดูรัส ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก แต่ถือเป็นสัญลักษณ์ที่มีความสำคัญยิ่งและน่าจะทำให้ความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐเพิ่มขึ้นอีก
นางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ ได้เข้าพบบรรดาผู้นำระดับสูงของเวียดนามในวันนี้ และประกาศให้การสนับสนุนในหลายด้านที่สำคัญ เช่น การยกระดับความมั่นคงทางทะเลเพื่อตอบโต้อิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของจีนในทะเลจีนใต้
เซี่ยงไฮ้/ฮานอย 25 ส.ค. – สื่อของทางการจีนกล่าวหานางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ ว่าพยายามผลักดันให้เกิดความแตกแยกระหว่างจีนกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการระบุว่ารัฐบาลจีนบีบบังคับและข่มขู่ให้ประเทศเหล่านั้นสนับสนุนการอ้างสิทธิเหนือพื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้ของจีน หนังสือพิมพ์ไชนา เดลี ของทางการจีนระบุในบทบรรณาธิการวันนี้ว่า ในขณะที่นางแฮร์ริสกล่าวหาจีนว่าบีบบังคับและข่มขู่ประเทศต่าง ๆ ให้สนับสนุนจีนในการอ้างสิทธิเหนือพื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้ เธอเองก็เพิกเฉยและเดินหน้าบีบบังคับและข่มขู่ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เข้าร่วมกับสหรัฐเพื่อควบคุมจีนเช่นกัน ทั้งยังระบุว่า คำปราศรัยของนางแฮร์ริสที่สิงคโปร์เป็นการกล่าวโจมตีจีนอย่างไร้เหตุผล และความมุ่งมั่นเพียงอย่างเดียวของสหรัฐต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็คือการทำให้เกิดความแตกแยกหว่างจีนกับประเทศในภูมิภาคดังกล่าว ในขณะเดียวกัน นางแฮร์ริสได้เดินทางถึงกรุงฮานอยของเวียดนามในวันนี้ โดยกล่าวว่า สหรัฐจำเป็นต้องเพิ่มแรงกดดันและท้าทายต่อการใช้กำลังบีบบังคับของจีนเหนือพื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้ ก่อนหน้านี้ นางแฮร์ริสได้เดินทางเยือนสิงคโปร์เป็นที่แรกในกำหนดการเยือนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นเวลา 7 วัน โดยมุ่งเป้าฟื้นฟูความสัมพันธ์ในทวีปเอเชียและต้านทานอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของจีน.-สำนักข่าวไทย