ผู้นำอังกฤษจะปรับปรุงตัวหลังรายงานชี้ขาดภาวะผู้นำ

ลอนดอน 1 ก.พ. – นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ กล่าวขอโทษและให้คำมั่นว่าจะปรับปรุงการทำงานที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรี หลังรายงานของนางซู เกรย์ ข้าราชการพลเรือนอาวุโสของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่เป็นหัวหน้าทีมสอบสวน ชี้ว่า ทำเนียบนายกรัฐมนตรีไม่ควรจัดงานเลี้ยงที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงที่อังกฤษใช้มาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งเป็นความล้มเหลวด้านภาวะผู้นำครั้งใหญ่ของรัฐบาล นายกรัฐมนตรีจอห์นสันได้ตอบคำถามเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวที่รัฐสภาอังกฤษเป็นเวลาเกือบ 2 ชั่วโมงเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นหลังมีการเปิดเผยรายงานของนางเกรย์ โดยผู้นำอังกฤษได้กล่าวคำขอโทษอีกครั้งและให้คำมั่นว่าจะปรับปรุงการทำงานที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรี เขายังสัญญาว่าจะปรับปรุงการมีส่วนร่วมเพื่อเอาชนะใจสมาชิกในพรรคบางคนที่มีความคิดขับไล่เขาออกจากตำแหน่งเช่นกัน ขณะที่โฆษกนายกรัฐมนตรีอังกฤษระบุก่อนหน้านี้ว่า นายกรัฐมนตรีจอห์นสันไม่เชื่อว่าการจัดงานเลี้ยงดังกล่าวเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายและยืนยันหนักแน่นว่าจะไม่ลาออกจากตำแหน่งตามเสียงเรียกร้อง ในขณะเดียวกัน รายงานของนางเกรย์เกี่ยวกับการที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรีอังกฤษจัดงานเลี้ยงในช่วงที่อังกฤษใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ระบุว่า การจัดงานดังกล่าวเป็นความล้มเหลวด้านภาวะผู้นำครั้งใหญ่ของรัฐบาลอังกฤษ นางเกรย์ยังกล่าวตำหนิว่าพฤติกรรมบางอย่างของเจ้าหน้าที่รัฐบาลอังกฤษว่าเป็นสิ่งที่ไร้เหตุผล และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากจนเกินไปถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมในสถานที่ทำงานไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนก็ตาม เธอกล่าวด้วยว่า งานบางงานไม่ควรได้รับอนุญาตให้จัดเลย และบางงานไม่ควรปล่อยให้เลยเถิดอย่างที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ดี นางเกรย์ระบุว่า เธอเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดงานเลี้ยงได้เพียง 4 งานจากทั้งหมด 16 งาน เนื่องจากมีข้อวิตกกังวลที่อาจส่งผลต่อการสืบสวนของตำรวจอังกฤษในขณะนี้. -สำนักข่าวไทย

“ไบเดน” ว่าจีน-รัสเซียขาดภาวะผู้นำที่งาน COP26

กลาสโกว์ 3 พ.ย. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ กล่าวหาจีนกับรัสเซียว่าล้มเหลวในการแสดงความเป็นผู้นำด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในขณะที่ผู้นำของทั้งสองประเทศตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลกหลังไม่เดินทางไปเข้าร่วมประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสมัยที่ 26 (COP26) ที่เมืองกลาสโกว์ของสกอตแลนด์ด้วยตัวเอง ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวก่อนเดินทางขึ้นเครื่องบินออกจากเมืองกลาสโกว์ว่า จีน ซึ่งเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนมากที่สุดในโลก กำลังพยายามที่จะเป็นผู้นำโลก แต่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน กลับไม่มาร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วยตัวเอง ทั้งที่ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นประเด็นใหญ่ระดับโลก แต่จีนกลับเพิกเฉย นอกจากนี้ ประธานาธิบดีไบเดนยังแสดงความรู้สึกไม่พอใจต่อประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนสูงเป็นอันดับสี่ของโลก โดยกล่าวว่า ป่าทุนดราของรัสเซียกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง และผู้นำรัสเซียกำลังเผชิญกับปัญหาสภาพอากาศ แต่เขากลับนิ่งเฉยต่อเรื่องนี้เช่นกัน ประธานาธิบดีไบเดนได้กล่าวในงานประชุมด้านสภาพอากาศของสหประชาชาติในครั้งนี้ โดยเรียกการปรากฏตัวและการให้คำมั่นของเขาที่งานดังกล่าวว่าเป็นเครื่องพิสูจน์นโยบาย ‘อเมริกากลับมาแล้ว’ (America is Back) ซึ่งแตกต่างจากแนวทางของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ยึดหลัก ‘อเมริกาต้องมาก่อน’ (America First).-สำนักข่าวไทย

...