ศาลสหรัฐระงับมาตรการภาษีส่วนใหญ่ของ ‘ทรัมป์’

นิวยอร์ค 29 พ.ค. – ศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐมีคำสั่งในวันพุธ ห้ามมิให้มาตรการภาษีตอบโต้ประเทศต่าง ๆ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีผลบังคับใช้ โดยระบุว่า ประธานาธิบดีใช้อำนาจเกินขอบเขตด้วยการกำหนดภาษีนำเข้าแบบครอบคลุมหรือเหมารวมกับประเทศคู่ค้าของสหรัฐ ศาลการค้าระหว่างประเทศระบุว่า รัฐธรรมนูญสหรัฐ ให้อำนาจพิเศษเฉพาะแก่รัฐสภาในการควบคุมการค้ากับต่างประเทศ ซึ่งไม่สามารถถูกยกเลิกได้ด้วยอำนาจฉุกเฉินของประธานาธิบดีในการปกป้องเศรษฐกิจสหรัฐ คณะผู้พิพากษาสามคนระบุในการตัดสินใจออกคำสั่งห้ามถาวรสำหรับคำสั่งภาษีแบบเหมารวมที่นายทรัมป์ประกาศใช้ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมาว่า ศาลไม่ได้ตัดสินถึงความเหมาะสมหรือประสิทธิภาพที่อาจเกิดขึ้นจากการที่ประธานาธิบดีใช้มาตรการภาษีเป็นเครื่องต่อรอง แต่การใช้อำนาจนั้นไม่ได้รับอนุญาต ไม่ใช่เพราะเป็นคำสั่งที่ไม่ฉลาดหรือไม่มีประสิทธิภาพ แต่เป็นเพราะกฎหมาย ไม่อนุญาตให้ประธานาธิบดีใช้อำนาจทำเช่นนั้น คณะผู้พิพากษาได้สั่งให้ฝ่ายบริหารของรัฐบาลนายทรัมป์ออกคำสั่งใหม่ภายใน 10 วัน แต่ในอีกไม่กี่นาทีต่อมา ฝ่ายบริหารของนายทรัมป์ได้ยื่นคำร้องขออุทธรณ์และตั้งคำถามถึงอำนาจของศาล.-813.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ยันศาลเบรกภาษี “ทรัมป์” ไม่กระทบแผนเจรจาไทย

กรุงเทพฯ 29 พ.ค. – นายกฯ ยันศาลการค้ารัฐบาลกลางเบรกภาษี “ทรัมป์” ไม่ส่งผลกระทบแผนเจรจาไทย ทีมงานยังเดินหน้าต่อ จนถึงวันนี้ยังไม่ได้วันนัดชัดเจน รู้สึกสบายใจหลายประเทศอาเซียนก็อยู่ระดับเดียวกับไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ มีคำวินิจฉัยว่า ทรัมป์ ไม่สามารถใช้อำนาจฉุกเฉินในการกำหนดภาษีศุลกากรทั่วโลกได้ เรื่องนี้จะส่งผลกับประเทศไทยที่กำลังรอเจรจาเรื่องภาษีสหรัฐอเมริกาอยู่หรือไม่ ว่า ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการไปตกลงจะมีผลอย่างไร ซึ่งตนเองก็ไม่แน่ใจแต่เราก็ต้องทำต่อ เตรียมความพร้อมต่อไป จะหยุดชะงักเลยก็คงไม่ได้และไม่แน่ใจว่ารับฟังหรือยัง เพราะระหว่างที่ไปประชุมที่มาเลเซียได้มีโอกาสได้คุยกับทุกประเทศ ได้คุยกันเรื่องของภาษีสหรัฐอเมริกา ทุกคนพูดเหมือนกันว่าหลายประเทศอยู่ในระดับเดียวกับประเทศไทย คือส่งรายงานเข้าไปและรอวันที่จะตอบกลับมาว่าจะได้ไปคุยวันไหน ยืนยันว่าเราไม่ได้ช้าและอยู่ในขั้นตอนของการรอวันที่จะไปคุยเช่นกันตามกรอบ 90 วัน จึงขอให้สบายใจได้ และจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้วันชัดเจนว่าจะได้คุยวันไหนต้องรอให้ทางสหรัฐอเมริกานัดมา แต่ในทีมทำงานไม่เป็นทางการยังติดต่อกันได้ ยังได้คุยและอัพเดทสถานการณ์กันอยู่ และก็เป็นสัญญาณบวก และย้ำอีกครั้งว่า ตนเองไม่ได้ถูกแบนวีซ่าสหรัฐอเมริกาขอให้สบายใจได้. -420-สำนักข่าวไทย

‘อีลอน มัสก์’ พ้นจากตำแหน่งในรัฐบาล ‘ทรัมป์’

วอชิงตัน 29 พ.ค. – เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวของสหรัฐเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สในคืนวันพุธ ยืนยันว่า นายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีและผู้บริหารบริษัทเทสลา ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า จะพ้นจากตำแหน่งในรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตั้งแต่คืนวันพุธ ตามเวลาท้องถิ่นเป็นต้นไป นายทรัมป์โพสต์ข้อความผ่านทางแอปพลิเคชันเอ็กซ์ ของเขาก่อนหน้านี้ ขอบคุณนายทรัมป์ และระบุว่า เวลาของเขาในฐานะลูกจ้างพิเศษของรัฐบาลสหรัฐที่ทำงานกับกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาลกำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว แหล่งข่าววงในระบุว่า การพ้นจากตำแหน่งของเขาเป็นไปอย่างรวดเร็วและไม่มีพิธีอำลาใด ๆ เขาไม่ได้สนทนาอย่างเป็นทางการกับนายทรัมป์ ก่อนที่จะประกาศพ้นจากหน้าที่ มัสก์มีวาระอยู่ในตำแหน่งนาน 130 วันโดยจะครบวาระในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ แต่งานปรับโครงสร้างและลดขนาดหน่วยงานรัฐบาลจะยังคงเดินหน้าต่อไป.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ ระบุแคนาดาต้องจ่ายเงินเพื่อใช้ ‘โกลเดน โดม’

วอชิงตัน 29 พ.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐระบุว่า แคนาดาต้องจ่ายเงินให้สหรัฐเพื่อร่วมใช้ ‘โกลเดน โดม’ ในการป้องกันประเทศ นายทรัมป์กล่าวว่า เขาได้แจ้งกับแคนาดาแล้วว่า หากสนใจเข้าร่วมใช้ระบบป้องกันภัยสุดทันสมัยของสหรัฐ หรือ ‘โกลเด้น โดม’ แคนาดาจะต้องจ่ายเงิน 61,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 2 ล้านล้านบาท แต่หากไม่อยากเสียเงิน แคนาดาก็ต้องตัดสินใจเข้าร่วมเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐ พร้อมกับอ้างว่า ขณะนี้แคนาดากำลังพิจารณาข้อเสนอนี้อยู่ ด้านนายกรัฐมนตรีมาร์ค คาร์นีย์ ของแคนาดา เผยก่อนหน้านี้ คาดหวังว่าแคนาดาจะได้เข้าร่วมโครงการแผนการติดอาวุธยุโรปใหม่ หรือ ‘รีอาร์ม ยุโรป’ (ReArm Europe) ภายในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ เพื่อลดการพึ่งพาด้านการทหารจากสหรัฐ.-815.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป’ สนับสนุน ‘นิปปอน สตีล’ ซื้อกิจการ ‘ยูเอส สตีล’

วอชิงตัน 24 พ.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าววานนี้แสดงท่าทีสนับสนุนนิปปอน สตีล จากประเทศญี่ปุ่นที่เสนอซื้อกิจการของยูเอส สตีล ของสหรัฐเป็นเงิน 14,900 ล้านดอลลาร์ โดยนายทรัมป์กล่าวว่า การเป็นหุ้นส่วนตามที่ได้วางแผนไว้ระหว่างบริษัททั้ง 2 จะช่วยสร้างงานและช่วยเศรษฐกิจของสหรัฐ นายทรัมป์โพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ “ทรูธ โซเชียล” (Truth Social) ที่เขาเป็นเจ้าของว่า สิ่งนี้จะเป็นความร่วมมือที่วางแผนไว้ระหว่างยูเอส สตีล และ นิปปอน สตีล ซึ่งจะสร้างงานอย่างน้อย 70,000 ตำแหน่ง และเพิ่มเงิน 14,000 ล้านดอลลาร์เข้าสู่เศรษฐกิจสหรัฐ นายทรัมป์กล่าวเสริมว่า การลงทุนก้อนใหญ่จะเกิดขึ้นภายใน 14 เดือนข้างหน้า และเขามีการชุมนุมที่บริษัทยูเอสสตีลในเมืองพิตต์สเบิร์กในวันศุกร์หน้า หุ้นของยูเอส สตีลทะยานขึ้นร้อยละ 21 เนื่องจากนักลงทุนตีความข้อความที่นายทรัมป์โพสต์บน “ทรูธ โซเชียล” ว่า มีหมายความว่า นิปปอน สตีล ได้รับการอนุมัติการเข้าซื้อกิจการตามแผนการที่วางไว้ยาวนานมาแล้ว ซึ่งถือเป็นอุปสรรคสำคัญด่านสุดท้ายสำหรับข้อตกลงนี้   ทางด้านยูเอส สตีล […]

‘ทรัมป์’ ขู่จะเรียกเก็บภาษีใหม่กับอียูและแอปเปิล

วอชิงตัน 24 พ.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ ขู่ว่ายกระดับสงครามการค้าของเขาอีกครั้ง โดยผลักดันให้เก็บภาษีร้อยละ 50 สำหรับสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรปตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนนี้ และเตือนบริษัทแอปเปิลว่า เขาอาจจะเรียกเก็บภาษีร้อยละ 25 สำหรับไอโฟนทั้งหมดที่ผู้บริโภคในสหรัฐซื้อ นายทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายในห้องทำงานรูปไข่ ที่ทำเนียบขาวว่าภาษีที่เขาเสนอเรียกเก็บจากแอปเปิลนั้นจะใช้บังคับกับ “ซัมซุง” ของเกาหลีใต้และบริษัทใดก็ตามที่ผลิตสินค้าประเภทสมาร์ทโฟนเหมือนกัน นายทรัมป์ย้ำข้อร้องเรียนของเขาว่า สหภาพยุโรปปฏิบัติต่อสหรัฐอย่างย่ำแย่ และจำกัดไม่ให้สหรัฐขายรถยนต์เข้าสู่สหภาพยุโรปได้ ท่าทีแข็งกร้าวของนายทรัมป์ต่ออียูนั้นมีสาเหตุมาจากความเชื่อของทำเนียบขาวที่ว่า การเจรจากับกลุ่มประเทศอียูไม่คืบหน้ารวดเร็วเพียงพอ แต่คำขู่ของเขาก็ถือเป็นการกลับมาสู่สงครามการค้าแบบหยุด ๆ เริ่ม ๆ ของสหรัฐ ซึ่งได้สร้างความสั่นสะเทือนตลาด ธุรกิจ และผู้บริโภค และก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลกในขณะเดียวกัน การพุ่งเป้าโจมตีไปที่แอปเปิลของนายทรัมป์เป็นความพยายามล่าสุดของเขาที่จะกดดันบริษัทใดบริษัทหนึ่งให้ย้ายฐานการผลิตมายังสหรัฐ ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยทำกับผู้ผลิตรถยนต์ บริษัทยา และผู้ผลิตชิป อย่างไรก็ตาม สหรัฐไม่ได้ผลิตสมาร์ทโฟนจำนวนมากแม้ว่าผู้บริโภคในสหรัฐจะซื้อโทรศัพท์ใช้งานมากกว่า 60 ล้านเครื่องต่อปี และการย้ายฐานการผลิตอาจจะเพิ่มต้นทุนของไอโฟนขึ้นอีกหลายร้อยดอลลาร์.-813.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาล ‘ทรัมป์’ ขวาง ‘ฮาร์วาร์ด’ รับนักศึกษาต่างชาติ

บอสตัน 23 พ.ค. – รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันพฤหัสบดีให้เพิกถอนอำนาจของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ในการรับนักศึกษาต่างชาติ พร้อมกับบังคับให้นักศึกษาต่างชาติโอนย้ายไปยังสถานศึกษาแห่งอื่น ๆ มิฉะนั้นแล้วจะสูญเสียสถานะรองรับทางกฎหมายในการพำนักอยู่ในสหรัฐ ซึ่งคำสั่งนี้จะส่งผลกระทบกับนักศึกษาต่างชาติจำนวนมาก กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิกล่าวในแถลงการณ์ว่า คริสตี้ โนเอ็ม รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ สั่งการให้กระทรวงยกเลิกการรับรองโครงการนักศึกษาและผู้รับเชิญเพื่อการแลกเปลี่ยนของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งจะมีผลบังคับใช้สำหรับปีการศึกษา 2025-2026 โนเอ็ม กล่าวหามหาวิทยาลัยว่า ส่งเสริมความรุนแรง ต่อต้านชาวยิวและร่วมมือกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน ทางด้านมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งเป็นสถานบันการศึกษาชั้นนำของสหรัฐ กล่าวว่าการดำเนินการของรัฐบาลทรัมป์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อนักศึกษาหลายพันคนนั้น ผิดกฎหมายและเปรียบเสมือนเป็นการตอบโต้เอาคืนมหาวิทยาลัย จากสถิติของมหาวิทยาลัยนั้น ในปีการศึกษา 2024-2025 มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดมีนักศึกษาต่างชาติเกือบ 6,800 คน ซึ่งคิดเป็น 27% ของจำนวนนักศึกษาทั้งหมด.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ ทุ่มเงินติดตั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศ ‘โกลเดน โดม’

วอชิงตัน 21 พ.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าววานนี้ว่า เขาได้คัดเลือกแบบสำหรับระบบป้องกันขีปนาวุธ “โกลเดน โดม” (Golden Dome) มูลค่า 175,000 ล้านดอลลาร์ และได้แต่งตั้งนายพลจากกองทัพอวกาศเป็นหัวหน้าโครงการนี้ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสกัดกั้นภัยคุกคามจากจีนและรัสเซีย นายทรัมป์กล่าววว่า “โกลเดน โดม” จะใช้งบประมาณประมาณ 175,000 ล้านดอลลาร์ และจะสามารถเริ่มใช้งานได้ภายในเดือนมกราคม 2026 แต่ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอาวุธไม่แน่ใจในเรื่องกรอบเวลาดังกล่าวว่าจะเป็นไปได้หรือไม่รวมถึงตัวเลขค่าใช้ในการติดตั้งระบบป้องกันภัยนี้ นายทรัมป์กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวว่า พลเอกไมเคิล เกตไลน์ จากกองทัพอวกาศจะเป็นผู้จัดการโครงการนี้ ซึ่งเป็นความพยายามที่ถูกมองอย่างกว้างขวางว่าเป็นหัวใจสำคัญของการวางแผนทางทหารของนายทรัมป์ นายทรัมป์กล่าวว่า “โกลเดน โดม” จะช่วยปกป้องมาตุภูมิและว่า แคนาดาแจ้งว่า ต้องการจะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ด้วย โครงการนี้ ซึ่งนายทรัมป์สั่งให้เรี่มดำเนินการเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีเป้าหมายที่จะสร้างเครือข่ายดาวเทียม ซึ่งอาจมีจำนวนหลายร้อยดวง เพื่อตรวจจับ ติดตาม และอาจสกัดกั้นขีปนาวุธที่กำลังจะเข้ามาในดินแดนสหรัฐ.-813.-สำนักข่าวไทย

ยูเครนเรียกร้องพันธมิตรให้กดดันรัสเซียต่อไป

อิสตันบูล 17 พ.ค. – ยูเครนเรียกร้องขอการสนับสนุนจากพันธมิตรชาติตะวันตกเมื่อวานนี้ หลังจากที่รัฐบาลเคียฟและมอสโก ไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องการหยุดยิงในระหว่างการเจรจาโดยตรงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี ที่นครอิสตันบูลของตุรกี การเจรจาดังกล่าวจัดขึ้นที่พระราชวังในนครอิสตันบูล ซึ่งคณะผู้แทนของยูเครนและรัสเซียใช้เวลาพูดคุยกันไม่ถึง 2 ชั่วโมง รัสเซียแสดงความพึงพอใจในการพบกันครั้งนี้ และกล่าวว่าพร้อมที่จะติดต่อกับทางฝ่ายยูเครนต่อไป ทั้งสองประเทศกล่าวว่า เห็นพ้องต้องกันในการแลกเปลี่ยนตัวเชลยศึกฝ่ายละ 1,000  คน ในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะเป็นการแลกเปลี่ยนตัวครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยมีมา อย่างไรก็ตาม ยูเครน ซึ่งต้องการให้ชาติตะวันตกใช้มาตรการลงโทษรัสเซียให้รุนแรงมากยิ่งขึ้น หากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ไม่ยอมรับข้อเสนอของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ที่ต้องการให้มีการหยุดยิงเป็นเวลา 30 วัน และได้เริ่มการเรียกร้องชาติพันธมิตรให้ดำเนินการกับรัสเซียรุนแรงขึ้น.-813.-สำนักข่าวไทย

‘วอลมาร์ต’ จ่อขึ้นราคา หลังต้นทุนพุ่งจากสงครามการค้า

นิวยอร์ก 16 พ.ค. – วอลมาร์ต (Walmart) ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดในโลก กล่าวว่ามาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ “สูงเกินไป” และวอลมาร์ตจะปรับขึ้นราคาสินค้าบางรายการตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เพราะสงครามการค้าทั่วโลกของนายทรัมป์ สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดี (15 พ.ค.) ดัก แมคมิลลอน ซีอีโอของวอลมาร์ต ระบุว่าวอลมาร์ตพยายามเต็มที่ที่จะคงราคาสินค้าให้ต่ำเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ด้วยผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรที่แม้ถูกปรับลดอัตราลงในสัปดาห์นี้ วอลมาร์ตไม่สามารถแบกรับแรงกดดันทั้งหมดจากส่วนต่างกำไรที่น้อยลงได้ สำนักข่าวเอพี (AP) รายงานว่า วอลมาร์ตไม่ได้ออกตัวเลขคาดการณ์กำไรประจำไตรมาสเช่นเดียวกับบริษัทสหรัฐอีกหลายแห่ง เพราะความผันผวนจากนโยบายภาษีศุลกากรของสหรัฐ ที่เปลี่ยนแปลงต่อเนื่อง โดยวอลมาร์ตยังคงใช้ตัวเลขคาดการณ์ของทั้งปีที่ออกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ชาวอเมริกันจำนวนมากใช้จ่ายน้อยลงเพราะรู้สึกกังวลกับสภาพเศรษฐกิจ โดยข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐ เผยว่ายอดค้าปลีกเติบโตช้าลง ซึ่งวอลมาร์ตชี้ว่าผู้บริโภคไม่มั่นใจและช่างเลือกมากขึ้น ส่วนภาษีศุลกากรของนายทรัมป์ ที่จัดเก็บกับจีนและประเทศอื่นๆ ส่งผลกระทบต่อโมเดลตั้งราคาต่ำที่เป็นหัวใจสำคัญของวอลมาร์ต.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ เผยข้อตกลง 14,500 ล้านดอลลาร์ของเอทิฮัดกับโบอิ้ง

วอชิงตัน 16 พ.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ประกาศวานนี้เรื่องข้อตกลงมูลค่ารวมมากกว่า 200,000 ล้านดอลลาร์ระหว่างสหรัฐกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งรวมถึงพันธสัญญาระหว่างบริษัทโบอิ้ง จีอี แอรโรสเปซ และสายการบินเอทิฮัด แอร์เวย์ส ทำเนียบขาวของสหรัฐกล่าวว่า โบอิ้งและจีอี ซึ่งผลิตเครื่องยนต์ให้เครื่องบินของโบอิ้ง ได้รับพันธสัญญาจากเอทิฮัด แอร์เวย์ส ในการลงทุนเป็นเงิน 14,500 ล้านดอลลาร์ในการซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 787 และ 777เอ็กซ์ ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ของจีอี และผลิตในสหรัฐจำนวน 28 ลำ ทำเนียบขาวกล่าวด้วยว่า การลงทุนนี้จะกระชับความร่วมมือด้านการบินพาณิชย์อันยาวนานระหว่างสหรัฐอาหรับเอมิรตส์และสหรัฐ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการผลิตของอเมริกาและส่งเสริมการส่งออก สำหรับในขณะนี้ ฝูงบินของเอทิฮัดมีเครื่องบินโดยสารราว 100 ลำ อันโตโนอัลดู เนเวส ซีอีโอของเอทิฮัดกล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า เอทิฮัดวางแผนที่จะเพิ่มเครื่องบินใหม่ 20 ถึง 22 ลำในปีนี้ เนื่องจากมีเป้าหมายที่จะขยายฝูงบินให้มากกว่า 170 ลำภายในปี 2030 และส่งเสริมกลยุทธ์การกระจายความหลากหลายทางเศรษฐกิจของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ ระบุใกล้บรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน

โดฮา 16 พ.ค. – ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐแถลงวานนี้ระหว่างร่วมประชุมกับเหล่าผู้นำของคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ว่าสหรัฐ เข้าใกล้มากแล้วเพื่อบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน สหรัฐ อยู่ระหว่างการเจรจาที่จริงจังกับอิหร่านเรื่องอาวุธนิวเคลียร์เพื่อสันติภาพระยะยาว เขาต้องการเห็นอิหร่านเจริญรุดหน้าแต่เรื่องนี้ต้องพึ่งกาตาร์ช่วยปูทางให้ การแถลงของทรัมป์มีขึ้นขณะกระทรวงการคลังสหรัฐ สั่งคว่ำบาตรบุคคลและบริษัทจำนวน 6 รายและ 12 แห่งตามลำดับ ฐานมีส่วนช่วยรัฐบาลอิหร่านผลิตขีปนาวุธภายในประเทศ.-815.-สำนักข่าวไทย

1 9 10 11 12 13 152
...