‘ทรัมป์’ เผยการเจรจากับจีนเป็นไปด้วยดี

วอชิงตัน 6 มิ.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐเปิดเผยวานนี้ว่า การเจรจาการค้ากับจีนยังคงเดินหน้าต่อไปตามปกติและถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี นอกจากนี้ยังบอกด้วยว่าเขาอาจจะเดินทางไปเยือนจีนในอนาคต ประธานาธิบดีทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวภายหลังจากการสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนนานกว่า 1 ชั่วโมงว่าการเจรจาปัญหาการค้ากับจีนถือว่าเป็นไปด้วยดี และจะเดินหน้าเจรจากันต่อไปโดยหลังจากนี้จะมีการเจรจาเพิ่มเติมระหว่างผู้แทนการค้ารัฐมนตรีคลัง รวมทั้งรัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน นอกจากนี้นายทรัมป์ยังประกาศผ่าน “ทรูธ โซเชียล” สื่อสังคมออนไลน์ของเขาด้วยว่าจะมีการหารือกันเพิ่มเติมของเจ้าหน้าที่ระดับล่างด้วย ซึ่งทรัมป์หวังว่าจะมีความคืบหน้าเรื่องการส่งออกแร่หายากของจีน หลังจากที่ทั้งสองประเทศบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นกันไปเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมในการลดภาษีศุลกากรของแต่ละฝ่ายลงจากที่เคยประกาศจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสูงถึงระดับเกินกว่า 100% ก่อนหน้านี้ ด้านโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีนรายงานข่าวนี้เช่นกัน ว่าประธานาธิบดีสีได้แจ้งต่อผู้นำสหรัฐว่าความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อขจัดการแทรกแซง แม้กระทั่งการก่อวินาศกรรมทุกรูปแบบ พร้อมกันนี้ผู้นำจีนยังกล่าวชื่นชมการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่นครเจนีวาเมื่อเดือนที่แล้วว่าเป็นก้าวสำคัญที่นำไปสู่การแก้ปัญหาเศรษฐกิจและการค้าระหว่างกันและในการสนทนาครั้งนี้ผู้นำทั้งสองต่างก็เชื้อเชิญให้แต่ละฝ่ายเดินทางมาเยือนด้วย.-816.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ ขู่จะยกเลิกสัญญากับสเปซเอ็กซ์

วอชิงตัน 6 มิ.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐขู่จะยกเลิกสัญญามูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์กับบริษัทสเปซเอ็กซ์ หลังเกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงกับนายอีลอน มัสก์ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและซีอีโอของบริษัทสเปซเอ็กซ์ ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์กับนายมัสก์ ยังลุกลามบานปลายไม่หยุด ล่าสุดผู้นำสหรัฐขู่ว่าจะยกเลิกสัญญาระหว่างรัฐบาลกับบริษัทสเปซเอ็กซ์ซึ่งมีมูลค่ามหาศาลถึง 22,000 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 7 แสนล้านบาท ซึ่งอาจทำให้โครงการด้านอวกาศของสหรัฐต้องตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ความขัดแย้งที่มีชนวนเหตุมาจากการที่นายมัสก์วิจารณ์กฎหมายลดหย่อนภาษีและการใช้จ่ายงบประมาณของทรัมป์ที่เริ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วกำลังลุกลามบานปลายไปอย่างรวดเร็ว โดยทั้งสองฝ่ายมีการโพสต์ตอบโต้กันหลายครั้ง แต่การยกเลิกสัญญาระหว่างสเปซเอ็กซ์กับองค์การบริหารการบินและอวกาศหรือนาซ่า รวมทั้งกระทรวงกลาโหมอาจทำให้ความก้าวหน้าด้านอวกาศของสหรัฐต้องเผชิญกับความล่าช้าโดยเฉพาะการปลดระวางยานดราก้อนของสเปซเอ็กซ์จากการทำภารกิจรับส่งนักบินไปยังสถานีอวกาศนานาชาติหรือ ไอเอสเอส ซึ่งเป็นโครงการที่เกี่ยวข้องหลายประเทศต้องอาจสะดุดลง เนื่องจากยานดราก้อนเป็นกำลังหลักในการขนส่งนักบินของนาซ่า โดยมียานโซยูซของรัสเซียเป็นยานรอง นอกจากนี้ยังมีโครงการที่สเปซเอ็กซ์เสนอจะยกระดับจากการส่งยานไปสำรวจดวงจันทร์ให้เป็นโครงการขึ้นไปสำรวจดาวอังคาร ตลอดจนการสร้างเกราะป้องกันขีปนาวุธในอวกาศ แต่ล่าสุดนายมัสก์ได้โพสต์ข้อความลงในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ สื่อสังคมออนไลน์ที่เขาเป็นเจ้าของระบุว่า สเปซเอ็กซ์จะไม่ปลดระวางยานดราก้อนจากโครงการ ไอเอสเอสหลังจากที่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้นเขาเพิ่งประกาศว่าจะเริ่มปลดประจำการยานดราก้อนที่นาซ่าใช้งานอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งกับผู้นำสหรัฐ.-816.-สำนักข่าวไทย

ศาลระงับคำสั่ง ‘ทรัมป์’ ห้ามนักศึกษาต่างชาติเข้าเรียนฮาร์วาร์ด

บอสตัน 6 มิ.ย. – ผู้พิพากษาศาลกลางในเมืองบอสตันของสหรัฐสั่งในวันพฤหัสบดีให้ระงับคำสั่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นการชั่วคราว ที่ห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าสหรัฐเพื่อศึกษาหรือเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ผู้พิพากษาอัลลิสัน บอร์โรวส์ แห่งศาลแขวงสหรัฐ ได้สั่งระงับประกาศของนายทรัมป์ไม่ให้มีผลบังคับใช้ เพื่อรอการพิจารณา ท่ามกลางข้อพิพาทที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำของสหรัฐกับนายทรัมป์ ผู้พิพากษาลงความเห็นว่าคำสั่งของนายทรัมป์ที่ห้ามนักศึกษาต่างชาติเดินทางมาสหรัฐเพื่อศึกษาที่ฮาร์วาร์ดในช่วงเวลาหกเดือนข้างหน้า จะก่อให้เกิด ‘ความเสียหายที่เกิดขึ้นในทันทีและไม่อาจแก้ไขได้’ ก่อนที่ศาลจะมีโอกาสทบทวนเรื่องนี้ นายทรัมป์ ได้ออกประกาศห้ามนักศึกษาต่างชาติที่จะเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดไม่ให้เข้าประเทศ โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ และกล่าวหาว่าฮาร์วาร์ดว่า ไม่จัดการปัญหาพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักศึกษาต่างชาติอย่างเหมาะสม.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์-มัสก์’ ขัดแย้งเดือด-ขู่ยกเลิกสัญญา-หนุนถอดถอน

วอชิงตัน 6 มิ.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐขู่ในวันพฤหัสบดีว่าจะยกเลิกสัญญาของรัฐบาลกับบริษัทของอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีที่เคยให้การสนับสนุนเขา ขณะที่นายมัสก์เสนอว่านายทรัมป์ควรถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง ซึ่งแสดงให้เห็นความเปลี่ยนแปลงจากความสัมพันธ์ที่เคยใกล้ชิดสนิทสนมให้กลายเป็นศึกโซเชียลมีเดียเต็มรูปแบบ ความเป็นปรปักษ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อนายทรัมป์วิจารณ์นายมัสก์ ซีอีโอของเทสลา (Tesla) บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ในห้องทำงานรูปไข่ ที่ทำเนียบขาว ซึ่งเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากน้ัน ความสัมพันธ์ที่เคยใกล้ชิดกันมากก็เสื่อมสลายลงอย่างเต็มที่ต่อหน้าสาธารณชน เมื่อทั้งสองต่างเริ่มโจมตีกันและกันอย่างดุเดือดบนแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ “ทรูธ โซเชียล”  (Truth Social) ของทรัมป์ และ เอ็กซ์ หรือทวิตเตอร์เดิม ที่นายมัสก์เป็นเจ้าของ นายทรัมป์โพสต์ข้อความบน “ทรูธ โซเชียล” ว่า วิธีที่ง่ายที่สุดในการประหยัดเงินในงบประมาณจำนวนหลายพันล้านดอลลาร์ คือการยกเลิกเงินอุดหนุนของรัฐบาลและสัญญาของรัฐบาลกับบริษัทของมัสก์  ความเห็นของนายทรัมป์ทำให้บรรดานักลงทุนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเทขายหุ้นของเทสลาและหุ้นเทสลาปิดตลาดลดลงร้อยละ 14.3 สูญเสียมูลค่าตลาดไปประมาณ 150,000 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นมูลค่าลดลงมากที่สุดในวันเดียวในประวัติศาสตร์ของเทสลา  ไม่กี่นาทีหลังจากปิดตลาด นายมัสก์ได้ตอบโพสต์ข้อความบนเอ็กซ์ระบุว่า นายทรัมป์ควรถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง แต่พรรครีพับลิกันของนายทรัมป์ครองเสียงข้างมากทั้งสองสภาในรัฐสภาและไม่น่าจะถอดถอนเขาได้ ความขัดแย้งระหว่างทั้งสองเริ่มก่อตัวขึ้นเมื่อหลายวันก่อน เมื่อนายมัสก์ได้ประณามร่างกฎหมายลดภาษีและการใช้จ่ายครั้งใหญ่ของนายทรัมป์ ทางด้านนายทรัมป์นิ่งเงียบมาตลอดจนเมื่อวานนี้เขาบอกกับนักข่าวว่า เขา “ผิดหวังมาก” ในตัวนายมัสก์ โดยระบุว่า เขากับนายมัสก์มีความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยม แต่เขาไม่รู้ว่าจะยังเป็นเช่นนั้นอีกต่อไปหรือไม่ ในขณะที่นายมัสก์ […]

‘ทรัมป์’ ห้ามพลเมือง 12 ประเทศเข้าสหรัฐ-อ้างความมั่นคง

วอชิงตัน 5 มิ.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐลงนามในคำประกาศในวันพุธ ห้ามพลเมืองจาก 12 ประเทศเดินทางเข้าสหรัฐ โดยกล่าวว่า การดำเนินการเรื่องนี้มีความจำเป็นเพื่อป้องกัน “ผู้ก่อการร้าย” ต่างชาติและภัยคุกคามด้านความมั่นคงอื่น ๆ ประเทศที่ถูกสั่งห้ามเข้าเด็ดขาด 12 ประเทศได้แก่ อัฟกานิสถาน, เมียนมา, ชาด, คองโก, อิเควทอเรียลกินี, เอริเทรีย, เฮติ, อิหร่าน, ลิเบีย, โซมาเลีย, ซูดาน และเยเมน ส่วนอีก 7 ประเทศจะอยู่ภายใต้ข้อจำกัดบางส่วน ได้แก่ บุรุนดี, คิวบา, ลาว, เซียร์รา ลีโอน, โตโก, เติร์กเมนิสถานและเวเนซูเอลา นายทรัมป์กล่าวในแถลงการณ์ทางวิดีโอจากทำเนียบขาวว่า รายชื่อประเทศเหล่านี้อาจมีการทบทวนเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับว่ามีการปรับปรุงที่สำคัญหรือไม่ และในทำนองเดียวกัน ประเทศใหม่ๆ ก็สามารถถูกเพิ่มเข้ามาได้ หากมีภัยคุกคามเกิดขึ้นทั่วโลก ประกาศนี้จะมีผลบังคับใช้ในวันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน เวลา 00:01 น. ตามเวลาในสหรัฐ […]

‘ทรัมป์’ บอก ‘ปูติน’ จะตอบโต้การโจมตีของยูเครน

วอชิงตัน 5 มิ.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าวว่ารัสเซียจะตอบโต้ยูเครน กรณีการส่งโดรนโจมตีฐานทัพอากาศในรัสเซีย จนทำให้เครื่องบินรบหลายลำของรัสเซียถูกทำลายเสียหาย นายทรัมป์เผยวานนี้ว่า เขาได้หารือทางโทรศัทพ์กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมงเกี่ยวกับกรณียูเครนส่งโดรนโจมตีรัสเซียเมื่อไม่กี่วันมานี้ และพัฒนาการที่เกี่ยวกับอิหร่าน ซึ่งระหว่างการสนทนากัน นายปูตินบอกกับเขาว่า รัสเซียจะตอบโตยูเครนกรณีส่งโดรนโจมตี นายทรัมป์โพสต์ข้อความผ่านแอปพลิเคชั่น “ทรูธ โซเชียล” (Truth Social) ที่เป็นแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ของเขาว่า การพูดคุยกับนายปูตินเป็นการสนทนาที่ดี แต่ไม่ใช่การสนทนาที่จะนำไปสู่สันติภาพทันที นายทรัมป์กล่าวว่า เขาได้บอกกับนายปูตินว่า อิหร่านไม่สามารถมีอาวุธนิวเคลียร์ได้ ซึ่งในประเด็นนี้ เขาเชื่อว่า ทั้งสองฝ่ายมีความเห็นพ้องต้องกัน และนายปูตินแนะนำว่า เขาสามารถช่วยในการเจรจานิวเคลียร์กับอิหร่านได้ ด้าน ยูริ อูชาคอฟ ผู้ช่วยด้านนโยบายต่างประเทศทำเนียบเครมลิน แถลงวานนี้ว่า นายปูตินได้หารือเรื่องความขัดแย้งในยูเครน ระหว่างโทรศัพท์พูดคุยกับทรัมป์ ซึ่งการสนทนามุ่งเน้นไปที่เหตุการณ์ที่ยูเครนโจมตีพลเรือนรัสเซีย และการเจรจาสันติภาพรอบสองระหว่างรัสเซียและยูเครน ขณะเดียวกัน ภาพถ่ายดาวเทียมที่เผยแพร่เมื่อวานนี้ แสดงให้เห็นเครื่องบินหลายลำที่ถูกทำลายบนลานจอดเครื่องบินของฐานทัพอากาศรัสเซีย 2 แห่ง หลังจากถูกกองทัพยูเครนโจมตีเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า ยูเครนส่งโดรน 117 ลำ โจมตีเป้าหมายสนามบินของกองทัพในภูมิภาคมูร์มันสก์, […]

‘ทรัมป์’ ชี้ ‘สี จิ้นผิง’ เป็นคนแข็งและเจรจายาก

วอชิงตัน 4 มิ.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าววันนี้ว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เป็นคนแข็งและเป็นเรื่องยากที่จะทำข้อตกลงด้วย นายทรัมป์ โพสต์ข้อความผ่านทาง “ทรูธ โซเชียล” แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ที่เขาเป็นเจ้าของว่า เขาชอบประธานาธิบดีสี ของจีน ชอบมาตลอดและจะชอบตลอดไป แต่เขาเป็นคนที่แข็งมาก และยากอย่างยิ่งที่จะทำข้อตกลงด้วย แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกประจำทำเนียบขาว กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า นายทรัมป์อาจจะได้พูดคุยกับนายสี ในสัปดาห์นี้ ในขณะที่ผู้นำทั้งสองพยายามปรับแก้ความเห็นที่แตกต่างเกี่ยวกับข้อตกลงภาษีที่คุยกันเมื่อเดือนที่แล้วที่นครเจนีวา รวมถึงประเด็นทางการค้าที่สำคัญอื่น ๆ ด้วย.-813.-สำนักข่าวไทย

‘หวัง อี้’ พบปะทูตสหรัฐประจำจีนคนใหม่

ปักกิ่ง 5 มิ.ย. — นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ต้อนรับนายเดวิด เพอร์ดิว ที่เข้าดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำจีนคนใหม่ และแสดงความหวังว่าเขาจะดำเนินบทบาทเชิงรุกในการส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีที่มีเสถียรภาพอันดีและยั่งยืน สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า นายหวังกล่าวว่าปัจจุบันความสัมพันธ์จีน-สหรัฐอยู่บนจุดตัดที่สำคัญ โดยหากมองย้อนเส้นทางตลอดระยะเวลาเกือบครึ่งศตวรรษนับตั้งแต่มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ข้อเท็จจริงอันสลักสำคัญที่สุดคือความเท่าเทียมและความเคารพเป็นข้อกำหนดเบื้องต้นของการแลกเปลี่ยนระหว่างสองฝ่าย ขณะการเจรจาและความร่วมมือเป็นตัวเลือกเดียวที่ถูกต้อง นายหวังเน้นย้ำว่าหลังจากการเจรจาทางเศรษฐกิจและการค้าทวิภาคีในนครเจนีวา จีนได้ดำเนินการตามฉันทามติที่ทั้งสองฝ่ายบรรลุร่วมกันอย่างจริงจังและเข้มงวด แต่เป็นเรื่องน่าเศร้าใจที่สหรัฐ กลับดำเนินมาตรการเชิงลบต่างๆ ด้วยเหตุผลที่ไร้มูลฐาน ละเมิดสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายของจีน ซึ่งจีนคัดค้านการกระทำเช่นนี้อย่างยิ่ง นายหวังกล่าวว่าฝ่ายสหรัฐ ควรพบกันครึ่งทางกับจีน ดำเนินการตามฉันทามติสำคัญที่สองผู้นำประเทศบรรลุร่วมกันระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อเดือนมกราคมปีนี้อย่างตั้งใจจริง และสร้างเงื่อนไขอันจำเป็นต่อการผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคีกลับสู่ทิศทางที่ถูกต้อง ด้านเพอร์ดิวกล่าวว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคารพนับถือประธานาธิบดีสี จิ้นผิง อย่างมาก และการที่สองผู้นำประเทศรักษาการแลกเปลี่ยนเชิงบวกและสร้างสรรค์เป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเขาในฐานะเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำจีน ยินดีจะรักษาการสื่อสารใกล้ชิดกับฝ่ายจีนด้วยเจตจำนงของความเคารพซึ่งกันและกันและการเจรจา.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์-มัสก์’ อำลาหลัง ‘มัสก์’ พ้นตำแหน่งในรัฐบาล

วอชิงตัน 31 พ.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าวในวันศุกร์ว่า อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐี ซีอีโอ ของบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเทสลา จะยังคงเป็นที่ปรึกษาใกล้ชิดของเขาต่อไป หลังจากที่ นายมัสก์ได้สิ้นสุดบทบาท 4 เดือนที่วุ่นวายในการเป็นผู้นำการรณรงค์ลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล ในระหว่างงานอำลาในห้องทำงานรูปไข่ ที่ทำเนียบขาว นายทรัมป์ได้กล่าวชื่นชมผลงานของนายมัสก์ในฐานะหัวหน้ากระทรวงประสิทธิภาพของรัฐบาล ซึ่งได้ยกเลิกตำแหน่งงานหลายพันตำแหน่งและลดการใช้จ่ายหลายพันล้านดอลลาร์ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือต่างประเทศส่วนใหญ่ของสหรัฐ นายทรัมป์กล่าวที่โต๊ะทำงานของเขาในขณะที่นายมัสก์ยืนอยู่ทางด้านขวาของเขาว่า นายมัสก์จะยังคงไม่ได้ไปไหน แต่จะไป ๆ มา ๆ ที่ทำเนียบขาว นายทรัมป์ยังได้มอบลูกกุญแจทองคำขนาดใหญ่ที่อยู่ในกล่องไม้ซึ่งมีลายเซ็นของเขาให้กับนายมัสก์ ซึ่งเป็นของขวัญที่เขากล่าวว่าสงวนไว้สำหรับ “บุคคลพิเศษมาก” เท่านั้น ทางด้านนายมัสก์กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาจะยังคงเป็นส่วนหนึ่งของคณะที่ปรึกษาของนายทรัมป์ นายมัสก์ระบุว่า เขาคาดว่าจะยังคงเป็นเพื่อนและที่ปรึกษา และแน่นอนที่สุด หากมีอะไรที่ประธานาธิบดีต้องการให้เขาทำ เขาก็พร้อมรับใช้ประธานาธิบดี นายมัสก์ประกาศเมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่า เขาจะยุติการทำงานเมื่อสิ้นสุดวาระ 130 วันที่กำหนดไว้ในฐานะลูกจ้างพิเศษของรัฐบาล ซึ่งกำหนดจะสิ้นสุดในวันที่ 30 พฤษภาคม.-813.-สำนักข่าวไทย

ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้มาตรการภาษี ‘ทรัมป์’ ยังบังคับใช้

วอชิงตัน 30 พ.ค. – ศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางมีคำสั่งในวันพฤหัสบดี ให้มาตรการภาษีตอบโต้ที่ครอบคลุมมากที่สุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กลับมามีผลบังคับใช้อีกครั้งเป็นการชั่วคราว เพียงหนึ่งวันหลังจากที่ศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐ ตัดสินว่านายทรัมป์ใช้อำนาจเกินขอบเขตในการเรียกเก็บภาษีเหล่านั้นและสั่งให้ระงับมาตรการภาษีดังกล่าวทันที ศาลอุทธรณ์กลางแห่งสหรัฐอเมริกา ประจำเขตวอชิงตัน ระบุว่ากำลังระงับคำตัดสินของศาลชั้นต้นไว้ชั่วคราว เพื่อพิจารณาคำอุทธรณ์ของรัฐบาล และมีคำสั่งให้ฝ่ายโจทก์ที่ยื่นฟ้องหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภาษีในคดีนี้ยื่นเอกสารตอบกลับภายในวันที่ 5 มิถุนายน และให้ฝ่ายรัฐบาล ซึ่งเป็นฝ่ายที่ถูกฟ้องร้องหรือเป็นผู้กำหนดภาษี ให้ส่งเอกสารตอบกลับภายในวันที่ 9 มิถุนายน นายทรัมป์เขียนแถลงการณ์ที่เผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ว่า เขาหวังว่าศาลฎีกาของสหรัฐจะ ‘กลับคำตัดสินอันเลวร้ายที่คุกคามประเทศ’ ของศาลการค้าระหว่างประเทศ พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์ฝ่ายตุลาการของรัฐบาลว่า ‘เป็นปฏิปักษ์ต่ออเมริกา’ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา คณะผู้พิพากษา 3 คนของศาลการค้าระหว่างประเทศ ตัดสินว่ารัฐธรรมนูญให้อำนาจแก่รัฐสภา ไม่ใช่ประธานาธิบดี ในการเรียกเก็บภาษีและอากรศุลกากร และประธานาธิบดีได้ใช้อำนาจเกินขอบเขตโดยการอ้างใช้กฎหมายว่าด้วยอำนาจทางเศรษฐกิจฉุกเฉินระหว่างประเทศ (International Emergency Economic Powers Act) ซึ่งเป็นกฎหมายที่มุ่งหมายเพื่อรับมือกับภัยคุกคามในสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติ.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ เสนอให้ฮาร์วาร์ดมีเพดาน นศ. ต่างชาติร้อยละ 15

วอชิงตัน 30 พ.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐเสนอให้มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สถาบันการศึกษาระดับแนวหน้าของสหรัฐกำหนดเพดานนักศึกษาต่างชาติไม่ให้เกินร้อยละ 15 ของนักศึกษาทั้งหมด นายทรัมป์ระบุวานนี้ว่า มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดต้องแสดงรายชื่อนักศึกษาต่างชาติที่ศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัย เนื่องจากรัฐบาลอยากรู้ว่ามาจากประเทศอะไรบ้าง พร้อมกับอ้างว่า นักศึกษาหลายคนในฮาร์วาร์ดเป็นพวกก่อปัญหา นายทรัมป์กล่าวด้วยว่า เขาคิดว่ามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดควรกำหนดเพดานจำนวนนักศึกษาต่างชาติไว้ไม่เกินร้อยละ 15 เพราะมีคนที่อยากเรียนในฮาร์วาร์ดและมหาวิทยาลัยอื่นๆ แต่ไม่สามารถเข้าเรียนได้เพราะมีนักศึกษาต่างชาติอยู่ ข้อมูลในปี 2023 พบว่า ฮาร์วาร์ดมีนักศึกษาต่างชาติอยู่มากกว่าร้อยละ 27 ของจำนวนนักศึกษาทั้งหมด หรือเกือบ 6,800 คน จากกว่า 140 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก.-815.-สำนักข่าวไทย

9 ทันโลก : ศาลสั่งเบรกภาษีทรัมป์-เหตุใช้อำนาจเกินขอบเขต

29 พ.ค. – สงครามการค้าจากมาตรการภาษีสหรัฐมาถึงจุดผกผัน เมื่อศาลสหรัฐมีคำตัดสินสกัดกั้นแล้ว เพราะขัดกับกฎหมาย ทั่วโลกขานรับด้วยความยินดีกับคำตัดสินของศาล เพราะมาตรการภาษีสร้างความปั่นป่วนแม้จะไม่ได้บังคับเต็มรูปแบบ แต่ยังมีความไม่แน่นอนตามมาอยู่เช่นเดิมว่ารัฐบาลนายโดนัลด์ ทรัมป์ จะงัดอะไรออกมาต่อสู้ ตลาดทุนตอบรับด้วยความยินดี ดัชนีหลักทรัพย์ขยับเพิ่มขึ้นสอดรับกับข่าวดี ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับเพิ่มทันที ฝ่ายการเมือง ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล ชื่นชมคำสั่งศาลที่สกัดกั้นการใช้อำนาจบริหารของประธานาธิบดี เรียกว่า “เป็นชัยชนะของครอบครัวแรงงาน” บ้างเตือนว่ายังต้องต่อสู้ต่อไปเพื่อกำจัดความวุ่นวายจากนายทรัมป์ หลายคนบอกสมควรแล้ว เป็นการปกป้องธุรกิจและครอบครัวจากภาษีที่โหดร้าย สอดคล้องกับคนแทบทุกมุมโลกที่ตกอยู่ในภาวะตื่นกลัวมานานกับสภาพซบเซา หาปัจจัยบวกไม่เจอ เศรษฐกิจซึมยาวตั้งแต่ยุคโควิด วันที่ 2 เมษายน นายทรัมป์ ประกาศใช้มาตรการภาษีที่เขาเรียกว่า ภาษีวันปลดแอก เพื่อยุติการเอารัดเอาเปรียบจากคู่ค้า หวังให้เป็นแหล่งรายได้ ตัดลดการขาดดุลงบการค้า สร้างงานภายในประเทศ ตามนโยบายหลักของเขา เพื่อสร้างอเมริกาให้ยิ่งใหญ่อีกครั้ง โดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายสภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจ ปี 1977 หรือ IEEPA อ้างว่าสหรัฐกำลังเผชิญภาวะฉุกเฉิน โดยที่ไม่ต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภา จนกระทั่งนาทีนี้ ภาษีทรัมป์ถูกขวางแล้วด้วยอำนาจตุลาการ ศาลการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งได้รับเรื่องฟ้องร้องจากกลุ่มธุรกิจผู้เสียหาย และรัฐต่างๆ กว่า 10 รัฐ ที่รวมตัวกันเป็นโจทก์ร่วมคณะผู้พิพากษา 3 คน […]

1 8 9 10 11 12 152
...