ไฟไหม้

มอสโก 4 มี.ค.- กระทรวงกลาโหมรัสเซียอ้างว่า เหตุไฟไหม้ใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใหญ่ที่สุดในยุโรปของยูเครน เป็นฝีมือของกลุ่มก่อวินาศกรรมชาวยูเครนที่จงใจยั่วยุอย่างชั่วร้าย โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงวันนี้ว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียกำลังทำงานตามปกติ พื้นที่บริเวณนี้อยู่ภายใต้การยึดครองกองกำลังรัสเซียตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ แต่เมื่อคืนที่ผ่านมา กลุ่มชาตินิยมยูเครนพยายามก่อเหตุยั่วยุในพื้นที่ติดกับโรงไฟฟ้า และทำร้ายหน่วยลาดตระเวนพิทักษ์แห่งชาติของรัสเซียในพื้นที่ดังกล่าว ถ้อยแถลงของรัสเซียเป็นการตอบโต้หลังจากยูเครนแจ้งว่า กองกำลังรัสเซียโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้ช่วงเช้าตรู่วันนี้ ทำให้อาคารฝึกอบรมสูง 5 ชั้นที่อยู่ติดกันเกิดไฟไหม้ ส่งผลให้นานาชาติพากันประณามรัสเซีย ด้านประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนกล่าวทางโทรทัศน์ ร้องขอให้ชาวรัสเซียออกมาชุมนุมประท้วงตามท้องถนนเพื่อแสดงเจตจำนงว่าต้องการมีชีวิตอยู่ในโลกที่ปราศจากการปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสี เพราะรังสีแผ่โดยไม่มีขีดจำกัดเรื่องพรมแดน ส่วนเรื่องที่นักวิเคราะห์ระบุว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียแตกต่างจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลที่ระเบิดใหญ่เมื่อปี 2529 และมีความปลอดภัยมากกว่านั้น ผู้นำยูเครนกล่าวว่า หากใครยังไม่ลืมภาพการระเบิดและเหยื่อในครั้งนั้น ก็ไม่ควรนิ่งเฉยต่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้.-สำนักข่าวไทย

เคียฟ 27 ก.พ.- ทางการกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนขอให้ประชาชนระวังควันพิษ หลังจากคลังน้ำมันในเมืองวาซิลคีฟ ชานเมืองหลวงเกิดไฟไหม้ หนังสือพิมพ์เคียฟอินดีเพนเดนต์ของยูเครนรายงานว่า ทางการได้แจ้งเตือนให้ชาวกรุงเคียฟปิดประตูหน้าต่างให้แน่นหนา เนื่องจากเกิดการยิงถล่มและระเบิดที่คลังน้ำมันในเมืองวาซิลคีฟ ห่างลงไปทางใต้ 40 กิโลเมตร กระแสลมอาจพัดพาควันและสารอันตรายมาถึงกรุงเคียฟได้ ขณะที่บรรษัทกระจายเสียงและแพร่ภาพอังกฤษหรือบีบีซี (BBC) รายงานอ้างนายกเทศมนตรีเมืองวาซิลคีฟว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มคลังน้ำมัน ทำให้เกิดความวิตกเรื่องกลุ่มควันพิษ ส่วนเว็บไซต์ยูครินฟอร์มของยูเครนอ้างข้อความที่ที่ปรึกษารัฐมนตรีมหาดไทยที่โพสต์ในเทเลแกรมว่า รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธถล่มเมืองนี้ ประกอบกับคลิปที่มีผู้เห็นเหตุการณ์บันทึกไว้.-สำนักข่าวไทย

เรือบรรทุกสินค้าที่บรรทุกรถยนต์ราว 4,000 คัน ซึ่งรถยนต์หรูอย่าง ปอร์เช อาวดี้ และเบนท์ลีย์ ที่เกิดไฟลุกใหม้ขณะอยู่บริเวณนอกชายฝั่งเขตปกครองตนเองอะซอเรส ของโปรตุเกส กำลังจะถูกลากไปยังประเทศหนึ่งในทวีปยุโรป หรือไปที่บาฮามาส

เอเธนส์ 18 ก.พ. –  เกิดเหตุเรือเฟอร์รี่ที่บรรทุกผู้โดยสาร 237 คน และลูกเรืออีกกว่า 50 คน ไฟลุกไหม้นอกชายฝั่งเกาะคอร์ฟูในทะเลไอโอเนียน ทางตะวันตกของกรีซ แต่ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากเจ้าหน้าที่อพยพผู้โดยสารออกจากเรือดังกล่าวได้ทันท่วงที เว็บไซต์ข่าวกรีก รีพอร์ทเตอร์ (Greek Reporter) รายงานว่า เรือ ‘ยูโรเฟอร์รี่ โอลิมเปีย’ (Euroferry Olympia) ของอิตาลีเกิดเหตุเพลิงไหม้ลุกลามที่บริเวณห้องบรรทุกยานยนต์ในขณะที่กำลังแล่นอยู่กลางทะเลจากเมืองอิโกเมนิตซาของกรีกไปยังเมืองบรินดิซีของอิตาลีเมื่อคืนวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น โดยคาดว่าสาเหตุของเพลิงไหม้ในครั้งนี้อาจเกิดขึ้นจากรถกระบะคันหนึ่งที่อยู่ในห้องบรรทุกยานยนต์ ส่วนกัปตันเรือดังกล่าวได้ประกาศอพยพผู้โดยสารเมื่อเวลาประมาณ 04.30 น. รัฐมนตรีช่วยกระทรวงคมนาคมของกรีซ เผยกับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยเหลือผู้โดยสารและลูกเรือออกจากเรือดังกล่าว และทั้งหมดปลอดภัยดี ขณะที่ผู้ว่าการหมู่เกาะไอโอเนียนระบุว่า เกาะคอร์ฟูกำลังเตรียมรับผู้โดยสารจากเรือดังกล่าวเข้าฝั่ง พร้อมทั้งยืนยันว่าขณะนี้ผู้โดยสารและลูกเรือทุกคนปลอดภัยดี ส่วนเจ้าหน้าที่การท่าเรือของกรีซเผยว่า กองเรือ 5 ลำของหน่วยยามชายฝั่งกรีซได้เร่งเดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้เรือลำดังกล่าวในทันที และยังมีเรือลำอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงเข้าร่วมปฏิบัติการช่วยชีวิตผู้โดยสารและลูกเรืออีกด้วย.-สำนักข่าวไทย