กำชับท้องถิ่นเฝ้าระวังไฟไหม้บ่อขยะ

กรุงเทพฯ 12 มี.ค. – นายกรัฐมนตรี มอบมหาดไทย กำชับท้องถิ่นเฝ้าระวังไฟไหม้บ่อขยะเข้มงวด โดยเฉพาะแหล่งกองขยะสะสมขนาดใหญ่ที่มักเกิดเหตุซ้ำ ป้องกันปัญหามลพิษกระทบชุมชน

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่ได้เกิดกรณีไฟไหม้บ่อขยะที่ ต.แพรกษาใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ แม้ขณะนี้จะสามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวังเนื่องจากเป็นบ่อขยะขนาดใหญ่และเคยเกิดเหตุไฟไหม้รุนแรงเมื่อปี 2557 ที่สร้างผลกระทบด้านมลพิษต่อชุมชนโดยรอบเป็นวงกว้าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มอบหมายกระทรวงมหาดไทย ให้กำชับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศให้เฝ้าระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนี้ขึ้น เพื่อป้องกันผลกระทบด้านมลพิษต่อชุมชนโดยรอบพื้นที่บ่อขยะ หรืออาจเกิดกรณีการลุกลามจนสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของของประชาชนได้


น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีข้อห่วงใยเนื่องจากไฟไหม้บ่อขยะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดซ้ำบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่อากาศแห้งแล้งและเอื้อต่อการเกิดเหตุไฟไหม้ในในสถานที่กำจัดขยะมูลฝอย โดยเฉพาะสถานที่ที่ดำเนินการอย่างไม่ถูกต้อง มีการลักลอบเผากำจัดขยะ การเผาเพื่อคัดแยกขยะมูลฝอยบางประเภท หรือเผาพื้นที่เกษตรกรรมในบริเวณใกล้เคียงจนลุกลามเข้าไปยังสถานที่กำจัดขยะ

ทั้งนี้ จากข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษ ระบุว่า ในช่วงฤดูร้อน เดือนก.พ.-พ.ค. 2565 มีสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยหรือบ่อขยะที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องเฝ้าระวังโดยเฉพาะ อยู่ 3 กลุ่ม ได้แก่


  • 1) กลุ่มเฝ้าระวังเข้มงวด คือ มีขยะกองสะสมมากกว่า 50,000 ตันขึ้นไป จำนวน 20 แห่ง ซึ่งในจำนวนนี้เป็นบ่อขยะที่มีเหตุไฟไหม้บ่อยครั้งใน 5 ปีที่ผ่านมาจำนวน 7 แห่ง โดยกลุ่มนี้ต้องมีการเฝ้าระวังทุกวัน ตรวจตราโดยรอบพื้นที่อย่างละเอียด สังเกตสิ่งผิดปกติในพื้นที่และบริเวณโดยรอบ
  • 2) กลุ่มเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด มีขยะกองสะสม 10,000-50,000 ตัน จำนวน 48 แห่ง เป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังทุกวันเช่นเดียวกัน
  • 3)กลุ่มเฝ้าระวังสม่ำเสมอ มีขยะกองสะสมตั้งแต่ 5,000-10,000 ตัน จำนวน 31 แห่ง เป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังทุก 2-3 วัน

อย่างไรก็ตาม นอกจากหน่วยงานต้องเฝ้าระวังแล้ว หากประชาชนพบเห็นสิ่งผิดปกติ เช่น มีควัน ลอยขึ้นจากบ่อขยะ พบการเผาในพื้นที่ใกล้เคียง ขอให้แจ้งองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่นั้นๆ หรืองานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดทันทีเพื่อเข้าระงับเหตุป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในวงกว้างต่อไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่