ไฟไหม้โรงแรมหรูบนเกาะกูด มูลค่าเสียหาย 200-300 ล้านบาท

ตราด 8 มี.ค. – เหตุไฟไหม้โรงแรมหรูบนเกาะกูด จ.ตราด เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา พบมูลค่าความเสียหาย 200-300 ล้านบาท และมีทรัพย์สินนักท่องเที่ยว เสียหายอีกประมาณ 20 ล้านบาท ขณะที่โรงแรมออกแถลงการณ์ชี้แจง ยืนยันวิลล่าทุกหลังติดตั้งเครื่องตรวจจับควันไฟในห้องนอน


พล.ต.ต.ปกรณ์ มณีปกรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด พร้อมคณะ องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะกูด และผู้เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ เพื่อตรวจดูความคืบหน้าเหตุไฟไหม้โรงแรมหรูบนเกาะกูด พบว่ามีอาคาร 4 อาคาร อาคาร 3 อาคาร รวมทั้งอาคารใหญ่ที่สุดถูกไฟไหม้ทั้งหมด ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายอยู่ที่ 200-300 ล้านบาท โดยภายในพื้นที่ของโรงแรมมีพื้นที่ก่อสร้าง 3 ไร่ ส่วนใหญ่เป็นห้องพักที่มีราคาแพงที่สุดของโรงแรม อาคารที่ถูกไฟไหม้นั้นได้ถูกระงับการใช้งานไปแล้ว ส่วนความเสียหายทางเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่ามีทรัพย์สินของโรงแรมเครือข่ายโรงแรมห้องพัก 3 หลัง และมีทรัพย์สินของผู้เข้ามาพักในโรงแรมคืนที่เกิดเหตุ โดยมีการประเมินความเสียหายทั้งหมดประมาณ 20 ล้านบาท เนื่องจากมีนาฬิกา rolex 2 เรือน แหวนเพชร 1 วง ถือว่ามีมูลค่าความเสียหายที่สูงมาก

ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ยังอยู่ระหว่างการหาสาเหตุจากเจ้าหน้าที่ สำหรับโรงแรมหรูบนเกาะกูดยังคงเปิดให้บริการอยู่เหมือนปกติ รวมทั้งร้านอาหารทั้งหมดและกิจกรรมต่างๆภายในโรงแรมไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด โรงแรมหรูบนเกาะกูดยังมั่นใจในมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงสุด โดยการป้องกันภัยของโรงแรมได้ปรับให้เข้ากับสถานที่ซึ่งเป็นป่าและได้อบรมพนักงานในด้านการป้องกันเพลิง โดยได้พยายามร่วมกันปฏิบัติอย่างเข้มแข็ง ทำให้จัดการเพลิงได้อย่างรวดเร็ว ไม่ให้แพร่กระจายไปยังพื้นที่อื่น


ด้าน “โซเนวา” วิลล่าหรูบนเกาะกูด ออกแถลงการณ์ชี้แจงเหตุไฟไหม้ว่า ในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม 2565 ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นในวิลล่า 63 ที่โซเนวา คีรี ผู้เข้าพักทุกท่านที่อยู่ในวิลล่าดังกล่าว ได้รับการอพยพอย่างปลอดภัย โซเนวารู้สึกเสียใจและห่วงใยแขกทุกท่าน ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้เป็นอย่างยิ่ง เราสามารถควบคุมเพลิงได้ ทำให้ไม่ลามไปยังวิลล่า และส่วนอื่น ๆ ของเกาะ หรือของรีสอร์ต ขณะนี้สาเหตุของเพลิงไหม้ ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดและอยู่ในระหว่างการตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โซเนวา คีรี ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ รวมถึงร้านอาหาร และกิจกรรมทั้งหมดไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว

ที่โซเนวา เรามีมาตรการ และปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด ทั้งที่โซเนวา คีรี และรีสอร์ทในเครือโซเนวาทั้งหมด วิลล่าทุกหลังของเราติดตั้งเครื่องตรวจจับควันไฟในห้องนอนทุกห้อง ระเบียบการจัดการด้านอัคคีภัย และความปลอดภัยของเราได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เพื่อให้เหมาะสมกับพื้นที่ป่า เรามีทีมดับเพลิงที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี รวมทั้งมีทีมพร้อมปฏิบัติการเต็มรูปแบบ ซึ่งได้รับการฝึกซ้อมเกี่ยวกับความปลอดภัยจากอัคคีภัยเป็นประจำ จากความพยายามของเจ้าหน้าที่ควบคู่ไปกับระบบปฏิบัติการที่แข็งแกร่ง เราสามารถควบคุมไฟได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ลุกลามไปยังวิลล่าและพื้นที่อื่น ๆ ในรีสอร์ต เราขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุนของทุกคนที่เกี่ยวข้อง และเราจะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกัน

เหตุการณ์ไฟไหม้โรงแรมหรู “โซเนวาคีรี” เกาะกูด ครั้งนี้ มี “แยม ธมลพรรณ์” อดีตนางเอกละครพื้นบ้านแนวจักรๆ วงศ์ๆ และครอบครัว เป็นหนึ่งในผู้ที่เอาตัวรอดนาทีเพลิงไหม้ โดยเธอกำลังตั้งครรภ์ได้ 5 เดือน ต้องวิ่งหนีตายออกมาอย่างหวุดหวิด สูญเสียทรัพย์สิน สภาพร่างกายที่บอบช้ำกระดูกซี่โครงหลังหัก มือบวมและบาดแผลอื่นๆ รวมถึงสภาพจิตใจที่ย่ำแย่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย


โดยได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ไว้ในไอจีส่วนตัว เป็นคลิปที่เพื่อนที่พักอีกวิลลาถ่ายไว้ตอนจะช่วยแต่ไม่สามารถเข้าไปได้ พร้อมระบุว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2565 เวลา 07.09 น. ตัวเธอและครอบครัวพักอยู่ใน Villa 63 เป็นวิลล่าที่ดีสุดและใหญ่ที่สุดของที่นี่ ค่าใช้จ่าย 4 วัน 3 คืน เกือบล้าน แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น โดยเช้าวันเกิดเหตุ แยมระบุว่า ตอนที่นอนอยู่ ได้ยินเสียงเหมือนมีคนวิ่งผ่านห้องไปมา ตอนแรกเป็นเสียงเบาๆ นึกว่าแม่บ้านมาทำความสะอาด สักพักเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ จึงเริ่มรู้สึกแปลก หันไปดูเวลาในมือถือ คือ 06.09 น. ก่อนตัดสินใจปลุกสามีให้ออกไปดู สิ่งที่เห็นคือเปลวไฟไหวไป-มา จึงรีบออกไปเรียกลูกคนโตกับพี่เลี้ยงที่อยู่ห้องติดกันข้างๆ ตอนนั้นมองไปที่เพลิงคือไม่สามารถวิ่งไปห้องพักของคนอื่นในครอบครัวได้เลย เพราะเปลวเพลิงสูงมาก มองไม่เห็นอะไรเลย รู้สึกใจเสียและขาสั่นมาก คิดว่าลูกคนเล็ก พ่อ แม่ แม่สามีและพี่น้องในครอบครัว จะออกมาได้ไหมหรือจะถูกไฟคลอก

ขณะที่ต้องหาทางออก มีทางเดียวคือด้านหลังห้องน้ำที่เป็นป่า ต้องปีนขึ้นไปเดินในป่าเพื่อหาทางรอดโดยทิ้งทรัพย์สิน ของมีค่าเอาไว้ แทบหยิบอะไรออกมาไม่ได้เลยนอกจากมือถือ โชคดีที่เดินไปเรื่อยๆ จนเจอถนน ช่วงนั้นก็พยายามติดต่อคนในครอบครัวว่าออกมาครบไหม สรุปว่าทุกคนออกมาครบ แต่คนในครอบครัวที่พักชั้น 2 ไม่สามารถลงมาได้ เพราะไฟไหม้จนถึงบันไดแล้ว จึงต้องตัดสินใจปีนลงมา แต่ไม้รับน้ำหนักไม่ได้ จึงตกลงมา กระดูกซี่โครงหลังยุบ หัวแตก ตอนนั้นทุกคนหวาดกลัวมาก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันเร็ว และไม่มีใครได้ตั้งตัว เพราะไฟไหม้ตอนเช้าตรู่ แจ้งเตือนก็ไม่ดัง รวมถึงที่พักก็ทำจากไม้ ใบจาก ไฟลุกลามเร็วมาก ประมาณ 10 นาที วิลล่าหายไปกับตา เป็นอะไรที่แย่มากๆในชีวิต ทุกคนที่รอดมาได้เพราะโชคชะตา ไม่ใช่เพราะระบบรักษาความปลอดภัยแต่อย่างใด ถ้าตนนอนแบบหลับลึกคิดว่าคงถูกไฟคลอกตายทั้งครอบครัว

ปัจจุบัน แยม ธมลพรรณ์ อายุ 40 ปี เป็นอดีตนักแสดงลูกหม้อของช่อง 7 ที่หลายคนคุ้นหน้ากันดีโดยเฉพาะในละครพื้นบ้านแนวจักรๆวงศ์ๆ ไม่ว่าจะเป็น สังข์ทอง , สี่ยอดกุมาร , เกราะกายสิทธิ์ , เทพศิลป์ อินทรจักร , เทพสังวาลย์ , เทพสามฤดู

และอีกคนหนึ่ง คือ “หมอโอ๋” ผศ.พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร กุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น รพ.รามาธิบดี เจ้าของเพจ “เลี้ยงลูกนอกบ้าน” ต้องเอาชีวิตรอดหนีตายจากเหตุไฟไหม้ เพราะไม่มีสัญญาณเตือนภัย ไม่มีสปริงเกอร์พ่นน้ำ ทำให้ได้รับอุบัติเหตุกับร่างกายจากการปีนหลังคาหนีไฟ หมอเขียนเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นจริงว่าตลอดเวลาของการเกิดไฟไหม้ ไม่มีใครได้ยินเสียงสัญญาณเตือนใดๆ ไม่มี springer ไม่มี smoke detector ทำงาน มีแต่เสียงเรียกโวยวายของพวกเรากันเองเท่านั้น

พนักงานมาถึงตอนที่พวกเราหนีตายกัน “ออกมาเอง” หมดแล้ว โดยการที่เราได้โทรตามบัทเลอร์ประจำห้องทางมือถือ ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่รู้เรื่องอะไร แต่ต้องขอบคุณพนักงานของโรงแรมมากๆ ที่ได้ช่วยเหลือ ทำแผล และเคลื่อนย้ายหมอไปโรงพยาบาลแบบปลอดภัยเป็นอย่างดี หมอได้อ่านแถลงการณ์ของโรงแรมแล้วที่บอกว่าโรงแรมมีระบบ smoke detector “ที่ห้องนอน” ทุกห้อง เป็นไปได้ว่าห้องที่เกิดไฟไหม้ “ไม่ใช่ห้องนอน” แต่เป็นห้องส่วนกลางของวิลล่า เพราะเราทุกคนที่อยู่ในห้องนอน ยังไม่เจอไฟ เลยหนีตายออกมาได้ทัน

วันที่หมอต้องมาโรงพยาบาลในจังหวัดตราด ครอบครัวที่เหลือตัดสินใจที่จะอยู่ต่อเพื่อรอดูอาการหมอว่าหนักไหม และอยากเดินทางกลับพร้อมกัน ครอบครัวได้ไปนอนที่ห้องพักขนาด 5 ห้องนอน ซึ่งคล้ายกับ 6 ห้องนอนที่เราเคยพัก

น้องชายหมอก็ถามผู้บริหารว่าหลังนี้พื้นที่ส่วนกลางที่ไม่ใช่ห้องนอน มีเครื่องตรวจจับควันหรือไม่ ผู้บริหารยอมรับเองว่า “ไม่มี” และยังพูดว่าจะติดตั้งเพิ่มเติมให้โรงแรมสามารถออกมาบอกได้นะคะว่าเราได้พบปัญหาที่จุดนี้ และเราจะพยายามแก้ไขให้ดีขึ้น ดีกว่าการออกมาบอกในแถลงการณ์ ที่ทำให้คนเข้าใจว่าเรากล่าวหาโรงแรมจากประโยคที่เขียนว่าคนเสียหายที่สุด คือ “โรงแรม”

หมออยากให้เข้าใจว่าความสูญเสียบางอย่างตีเป็นมูลค่าไม่ได้คุณแม่หมอสูญเสียโทรศัพท์ 2 เครื่อง ที่เป็นของคุณพ่อและคุณแม่ ภาพความทรงจำถึงคนที่จากไปทั้งหมดอยู่ในนั้น แบบที่มันเรียกคืนมาไม่ได้ ยังไม่รวมถึงแหวน นาฬิกา แทนใจที่คุณพ่อให้คุณแม่ไว้ตอนมีชีวิตอยู่ หมอและสามี ที่เป็นอาจารย์โรงเรียนแพทย์ เสียข้อมูลที่เราต้องใช้สอน ทำวิจัย ไปกับคอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง ซึ่งเรื่องนี้สำหรับเรา มันเป็นเรื่องใหญ่มากๆ ที่นึกถึงทีไรก็อยากร้องไห้ทุกที

สามีที่เป็นหมอผ่าตัด อาจใช้งานมือข้างขวาที่บาดเจ็บไม่ได้ไปอีกพักใหญ่ ลูกสาวหมอ สูญเสียของเล่น ตุ๊กตา สมุดบันทึกที่เค้ารักมาก ตอนนี้หมอกระดูกสันหลังยุบ ต้องใส่เสื้อเกราะ ขับรถไม่ได้ไปอีกหลายเดือน ยังไม่รู้ว่าจะมีปัญหาการปวดหลังเรื้อรังระยะยาวไหม ที่สำคัญ ไม่อยากนึกเลยว่าที่หมอและสามีต้องตกลงมา เพราะรั้วระเบียงที่เป็นไม้ไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดี แล้วถ้ากระดูกหลังหักจนพิการ มันจะเจ็บปวดขนาดไหน หรือถ้าเราตกมาสลบทั้งคู่ ลูกที่ติดอยู่บนนั้น จะทำอย่างไร?

สิ่งเหล่านี้ตีค่าเป็นมูลค่าไม่ได้จริงๆ ที่สำคัญคือเราเสียเงินมารีสอร์ทเพราะต้องการมามีความสุข ไม่ใช่มาหนีตายกันแบบแทบเอาชีวิตไม่รอด จนหลายคนตอนนี้ยังนอนไม่ได้ เพราะมีภาพไฟหลอนอยู่ตลอด พร้อมขอบคุณที่โรงแรมช่วยเหลือเรื่องค่ารักษาพยาบาลของหมอแบบไม่มีข้อต่อรองใดๆ เราก็ได้แต่หวังว่า โรงแรมจะช่วยรับผิดชอบกับทรัพย์สินที่เราสูญเสียไปแบบตรงไปตรงมา เอาจริงๆ กรณีแบบนี้ ถ้าเป็นฝรั่งคงฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกันแบบบานตะไทแน่ๆ เราก็ไม่ได้อยากไปให้ถึงจุดนั้น เพราะไม่ว่าเท่าไหร่ มันก็ไม่คุ้มกับชีวิตที่ต้องเป็นอันตรายของพวกเราจริงๆ (แต่การตอบสนองแบบนี้ นี่เริ่มคิดนิดๆละ เผื่อจะได้เลิกทำงานงกๆ กะเค้ามั่ง)

อีกอย่าง ตอนนี้คนพูดกันใหญ่ว่าหมอโอ๋รวยมาก นอนพักวิลล่าคืนละ 5 แสน พอดีคุณแม่หมอรู้จักกับเพื่อนของผู้บริหาร เลยได้ส่วนลดมากพอสมควร และราคาตอนนี้จริงๆ ก็ไม่ถึงแล้ว และเราไม่ได้รับสปอนเซอร์ ไม่ได้รับรีวิวใดๆ เราจ่ายเงินทั้งหมดเต็มจำนวน ส่วนใหญ่น้องชายของหมอ ที่เป็นนักธุรกิจ ชื่อคุณอ้ำ สามีน้องแยม ธมลพรรณ์ อดีตดาราช่อง 7 ก็เป็นคนช่วยจ่ายหลักค่ะ ส่วนหมอก็มาอาศัยใบบุญน้องชายไปเที่ยว เราทั้งคู่ยังต้องทำงานหาเงินงกๆ ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ กันอยู่ค่ะ

สำหรับสถานที่ตั้งของโซเนวาคีรี เกาะกูด นั้น สภาพพื้นที่แทบทั้งหมดที่เป็นที่ตั้งบ้านเรือนและโรงแรม มีเอกสารสิทธิ์โดยชอบด้วยกฎหมาย พื้นที่ที่เหลือเป็นพื้นที่ของธนารักษ์ จะมีการเช่ากับธนารักษ์ ส่วนที่ตั้งโซเนวา คีรี จากการตรวจสอบของศูนย์บริหารจัดการทรัพยากรป่าชายเลน จ.ตราด พบว่าพื้นที่ตั้งโรงแรมโซเนวาเป็นพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องและตรวจไม่พบการกระทำผิดใดๆ ที่เป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

และมีรายงานว่า เบื้องต้นทางรีสอร์ตโซเนวาคีรี ได้ทำประกันอัคคีภัยในวงเงินเอาประกันภัยรวมประมาณ 952 ล้านบาท มีบริษัทประกันวินาศภัยทั้งหมดที่ร่วมรับประกันจำนวน 5 บริษัท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 หวัง GBC ได้ข้อสรุปที่ดี ลั่นไม่ถอยกำลังทหาร

กองทัพบก 4 ส.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่น ไม่ถอยกำลังทหาร หวังถก GBC ได้ข้อสรุปที่ดี แต่ยังคาดหวังอะไรไม่ได้หากสองประเทศยอมรับเงื่อนไขซึ่งกันและกันก็จบง่าย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปชายแดนไทย-กัมพูชา (GBC) ที่ประเทศมาเลเซีย ว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าคุยเรื่องอะไรกัน แต่ก็คาดหวังว่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดี หาข้อตกลงร่วมกันให้ดีที่สุด ส่วนที่หลายฝ่ายมีความกังวลสถานการณ์ชายแดน หลังวันที่ 7 สิงหาคม จะมีความตึงเครียดนั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของผู้นำทั้งสองประเทศ จะเจอกันตรงจุดไหน หากยอมรับเงื่อนไขซึ่งกันและกัน ก็จบง่าย ซึ่งตอนนี้ยังคาดเดาอะไรไม่ได้ ว่าผลจะออกมาอย่างไร เมื่อถามว่า ประเด็นเรื่องการถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน ยืนยันว่า “กองทัพไม่ถอย เพราะเรารุกในเขตพื้นที่อธิปไตยของเรา” สำหรับการดูแลชายแดนไทย-กัมพูชา กองทัพทั้งสองประเทศได้ปฏิบัติตามข้อตกลงการหยุดยิง ที่สองรัฐบาลได้พูดคุยกันไว้เพื่อความสงบสุขบริเวณชายแดน ซึ่งเราพยายามทำให้ดีที่สุด แต่ยอมรับว่า มีปัญหาเรื่องโดรนไม่ทราบฝ่าย ซึ่งกองทัพภาคที่ 2 ได้บูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วน เพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์ดีขึ้น รวมถึงการติดตามกลุ่มบุคคลที่ทำตัวเป็นสายลับ และไส้ศึก […]

สำนักโฆษก กห. พาย้อนเหตุการณ์ยุคเขมรแดงปี 1979-1980

4 ส.ค.- เตือนความจำเขมร! สำนักโฆษกกระทรวงกลาโหม โพสต์ย้อนเหตุการณ์ไทยช่วยเขมร ยุคเขมรแดง ปี 1979-1980 เปิดประตูรับคนเขมรเป็นที่พึ่งสุดท้าย-เปิดค่ายพักพิงแบบไม่ลังเล วันนี้(4 ส.ค.2568) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจสำนักโฆษกกระทรวงกลาโหม ได้เผยแพร่ข้อมูลการช่วยเหลือของฝ่ายไทยที่มีต่อชาวกัมพูชาในยุคเขมรแดง โดยข้อความระบุว่า จากคนที่หนีตายสู่คนที่หันปากกระบอกปืนกลับมา” เมื่อ ‘เขมร’ ลืมทุกอย่างที่ไทยเคยมอบให้ ปี 𝟏𝟗𝟕𝟗… ชาวกัมพูชานับแสน นับล้าน วิ่งหนีตายจากนรกบนดินที่ชื่อว่า “เขมรแดง” ข้ามพรมแดนมายังไทย ในสภาพหมดเรี่ยวแรง หิวโหย และเกือบสิ้นลมหายใจ คนไทยเปิดประตูให้เขาพักพิง ตอนนั้นประเทศไทยไม่ได้เป็นเพียง “เพื่อนบ้าน” แต่กลายเป็น “ที่พึ่งสุดท้าย” เราส่งอาหาร เราเปิดค่ายพักพิง เราช่วยเหลือทั้งในนามรัฐบาล องค์กรพัฒนาเอกชน และแม้แต่ชาวบ้านธรรมดา ๆ ที่ยอมแบ่งข้าวเพียงคำเดียวให้ผู้ลี้ภัยชาวกัมพูชา การอพยพที่ไม่มีแผนที่เริ่มตั้งแต่ต้นปี 𝟏𝟗𝟕𝟗 จนถึงต้นยุค 𝟏𝟗𝟖𝟎𝐬 มีชาวกัมพูชาจำนวนมหาศาล บางแหล่งบอกว่ารวมกันถึง 𝟔 แสนถึง 𝟖 แสนคน อพยพอย่างไร้ทิศทางบางคนเดินเท้าเป็นร้อยกิโลเมตรจากกลางประเทศกัมพูชา หลายคนไร้เอกสาร ไม่มีอาหาร ไม่มีเป้าหมาย […]

กต. จัดบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศ

ก.ต่างประเทศ 4 ส.ค.-กต. จัดบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา คาดแจงข้อมูลที่บิดเบือน หลังกัมพูชาปล่อยเฟคนิวส์ต่อเนื่อง ด้าน “มาริษ” ย้ำไทยไม่ได้เริ่มก่อน ยึดแก้ปัญหาผ่านกลไกทวิภาคี เรียกร้องกัมพูชายึดหลักสันติวิธี-จริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ร่วมกับ นายปิยภักดิ์ ศรีเจริญ อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก และ นางสาวพินทุ์สุดา ชัยนาม อธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ ณ ห้องนราธิป กระทรวงการต่างประเทศ โดยคาดว่าจะเป็นการชี้แจงข้อเท็จจริงภายหลังจากที่ฝ่ายกัมพูชามีการให้ข้อมูลที่บิดเบือนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ก่อนการบรรยาย นายมาริษ กล่าวเปิดโดยขอบคุณผู้ที่เข้าร่วมรับฟังการบรรยายในวันนี้ พร้อมชี้แจงถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และท่าทีของไทยต่อกรณีดังกล่าว โดยตนตั้งใจจะแบ่งการบรรยายเป็น 2 ประเด็นหลัก คือ 1. การเจรจาหยุดยิงที่มาเลเซียเมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งไทยขอประท้วงต่อฝ่ายกัมพูชากรณีที่ละเมิดกฎหมายมนุษยชนและใช้ความรุนแรง โดยมีเป้าหมายแบบไม่เลือกเป้าและโจมตีไปที่พลเรือน รวมถึงการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งขัดต่อหลักการของอนุสัญญาออตโตวา ในขณะที่ไทยปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัด จึงหวังเป็นอย่างยิ่งให้กัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างจริงใจด้วยเช่นกัน ภายใต้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ ส่วนประเด็นที่ 2 คือการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ระหว่างวันที่ 4-7 สิงหาคม […]

EOD ทำลายวัตถุระเบิด ใกล้ปั๊มน้ำมันบ้านผือ จ.ศรีสะเกษ 

ศรีสะเกษ 4 ส.ค. – เจ้าหน้าที่อีโอดีเก็บกู้จรวด BM 21 ที่กัมพูชายิงเข้ามาตกและฝังอยู่ในพื้นถนนกันทรลักษ์อีกจุด ใกล้กับปั๊มน้ำมันที่ถูกกัมพูชายิงใส่วันที่ 24 ก.ค. เช่นเดียวกัน บรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บวัตถุระเบิดหรือ EOD จากตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ตำรวจ ตชด.ที่22 อุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย หรือ TMAC เข้าเตรียมความพร้อมเพื่อเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิดแรงสูง ประเภท BM21 ที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่ แล้วตกลงไปฝังอยู่ในถนน กันทรลักษ์-เขาพระวิหาร ในพื้นที่ อำเภอกันทรลักษ์ เป็นจรวด BM 21 ที่ถูกยิงมาในวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ร้านสะดวกซื้อภายในปั๊ม ปตท. บ้านผือ ระเบิดจุดนี้ อยู่ห่างจากปั๊ม ปตท. บ้านผือ ประเมาณ 500 เมตร และห่างจากจุดที่มีการเก็บกู้ จรวดบีเอ็ม 21 บนถนนกันทรลักษ์ลูกแรก ในวันที่ 2 สิงหาคม […]