ไฟไหม้โรงแรมหรูบนเกาะกูด มูลค่าเสียหาย 200-300 ล้านบาท

ตราด 8 มี.ค. – เหตุไฟไหม้โรงแรมหรูบนเกาะกูด จ.ตราด เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา พบมูลค่าความเสียหาย 200-300 ล้านบาท และมีทรัพย์สินนักท่องเที่ยว เสียหายอีกประมาณ 20 ล้านบาท ขณะที่โรงแรมออกแถลงการณ์ชี้แจง ยืนยันวิลล่าทุกหลังติดตั้งเครื่องตรวจจับควันไฟในห้องนอน


พล.ต.ต.ปกรณ์ มณีปกรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด พร้อมคณะ องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะกูด และผู้เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ เพื่อตรวจดูความคืบหน้าเหตุไฟไหม้โรงแรมหรูบนเกาะกูด พบว่ามีอาคาร 4 อาคาร อาคาร 3 อาคาร รวมทั้งอาคารใหญ่ที่สุดถูกไฟไหม้ทั้งหมด ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายอยู่ที่ 200-300 ล้านบาท โดยภายในพื้นที่ของโรงแรมมีพื้นที่ก่อสร้าง 3 ไร่ ส่วนใหญ่เป็นห้องพักที่มีราคาแพงที่สุดของโรงแรม อาคารที่ถูกไฟไหม้นั้นได้ถูกระงับการใช้งานไปแล้ว ส่วนความเสียหายทางเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่ามีทรัพย์สินของโรงแรมเครือข่ายโรงแรมห้องพัก 3 หลัง และมีทรัพย์สินของผู้เข้ามาพักในโรงแรมคืนที่เกิดเหตุ โดยมีการประเมินความเสียหายทั้งหมดประมาณ 20 ล้านบาท เนื่องจากมีนาฬิกา rolex 2 เรือน แหวนเพชร 1 วง ถือว่ามีมูลค่าความเสียหายที่สูงมาก

ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ยังอยู่ระหว่างการหาสาเหตุจากเจ้าหน้าที่ สำหรับโรงแรมหรูบนเกาะกูดยังคงเปิดให้บริการอยู่เหมือนปกติ รวมทั้งร้านอาหารทั้งหมดและกิจกรรมต่างๆภายในโรงแรมไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด โรงแรมหรูบนเกาะกูดยังมั่นใจในมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงสุด โดยการป้องกันภัยของโรงแรมได้ปรับให้เข้ากับสถานที่ซึ่งเป็นป่าและได้อบรมพนักงานในด้านการป้องกันเพลิง โดยได้พยายามร่วมกันปฏิบัติอย่างเข้มแข็ง ทำให้จัดการเพลิงได้อย่างรวดเร็ว ไม่ให้แพร่กระจายไปยังพื้นที่อื่น


ด้าน “โซเนวา” วิลล่าหรูบนเกาะกูด ออกแถลงการณ์ชี้แจงเหตุไฟไหม้ว่า ในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม 2565 ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นในวิลล่า 63 ที่โซเนวา คีรี ผู้เข้าพักทุกท่านที่อยู่ในวิลล่าดังกล่าว ได้รับการอพยพอย่างปลอดภัย โซเนวารู้สึกเสียใจและห่วงใยแขกทุกท่าน ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้เป็นอย่างยิ่ง เราสามารถควบคุมเพลิงได้ ทำให้ไม่ลามไปยังวิลล่า และส่วนอื่น ๆ ของเกาะ หรือของรีสอร์ต ขณะนี้สาเหตุของเพลิงไหม้ ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดและอยู่ในระหว่างการตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โซเนวา คีรี ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ รวมถึงร้านอาหาร และกิจกรรมทั้งหมดไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว

ที่โซเนวา เรามีมาตรการ และปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด ทั้งที่โซเนวา คีรี และรีสอร์ทในเครือโซเนวาทั้งหมด วิลล่าทุกหลังของเราติดตั้งเครื่องตรวจจับควันไฟในห้องนอนทุกห้อง ระเบียบการจัดการด้านอัคคีภัย และความปลอดภัยของเราได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เพื่อให้เหมาะสมกับพื้นที่ป่า เรามีทีมดับเพลิงที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี รวมทั้งมีทีมพร้อมปฏิบัติการเต็มรูปแบบ ซึ่งได้รับการฝึกซ้อมเกี่ยวกับความปลอดภัยจากอัคคีภัยเป็นประจำ จากความพยายามของเจ้าหน้าที่ควบคู่ไปกับระบบปฏิบัติการที่แข็งแกร่ง เราสามารถควบคุมไฟได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ลุกลามไปยังวิลล่าและพื้นที่อื่น ๆ ในรีสอร์ต เราขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุนของทุกคนที่เกี่ยวข้อง และเราจะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกัน

เหตุการณ์ไฟไหม้โรงแรมหรู “โซเนวาคีรี” เกาะกูด ครั้งนี้ มี “แยม ธมลพรรณ์” อดีตนางเอกละครพื้นบ้านแนวจักรๆ วงศ์ๆ และครอบครัว เป็นหนึ่งในผู้ที่เอาตัวรอดนาทีเพลิงไหม้ โดยเธอกำลังตั้งครรภ์ได้ 5 เดือน ต้องวิ่งหนีตายออกมาอย่างหวุดหวิด สูญเสียทรัพย์สิน สภาพร่างกายที่บอบช้ำกระดูกซี่โครงหลังหัก มือบวมและบาดแผลอื่นๆ รวมถึงสภาพจิตใจที่ย่ำแย่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย


โดยได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ไว้ในไอจีส่วนตัว เป็นคลิปที่เพื่อนที่พักอีกวิลลาถ่ายไว้ตอนจะช่วยแต่ไม่สามารถเข้าไปได้ พร้อมระบุว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2565 เวลา 07.09 น. ตัวเธอและครอบครัวพักอยู่ใน Villa 63 เป็นวิลล่าที่ดีสุดและใหญ่ที่สุดของที่นี่ ค่าใช้จ่าย 4 วัน 3 คืน เกือบล้าน แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น โดยเช้าวันเกิดเหตุ แยมระบุว่า ตอนที่นอนอยู่ ได้ยินเสียงเหมือนมีคนวิ่งผ่านห้องไปมา ตอนแรกเป็นเสียงเบาๆ นึกว่าแม่บ้านมาทำความสะอาด สักพักเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ จึงเริ่มรู้สึกแปลก หันไปดูเวลาในมือถือ คือ 06.09 น. ก่อนตัดสินใจปลุกสามีให้ออกไปดู สิ่งที่เห็นคือเปลวไฟไหวไป-มา จึงรีบออกไปเรียกลูกคนโตกับพี่เลี้ยงที่อยู่ห้องติดกันข้างๆ ตอนนั้นมองไปที่เพลิงคือไม่สามารถวิ่งไปห้องพักของคนอื่นในครอบครัวได้เลย เพราะเปลวเพลิงสูงมาก มองไม่เห็นอะไรเลย รู้สึกใจเสียและขาสั่นมาก คิดว่าลูกคนเล็ก พ่อ แม่ แม่สามีและพี่น้องในครอบครัว จะออกมาได้ไหมหรือจะถูกไฟคลอก

ขณะที่ต้องหาทางออก มีทางเดียวคือด้านหลังห้องน้ำที่เป็นป่า ต้องปีนขึ้นไปเดินในป่าเพื่อหาทางรอดโดยทิ้งทรัพย์สิน ของมีค่าเอาไว้ แทบหยิบอะไรออกมาไม่ได้เลยนอกจากมือถือ โชคดีที่เดินไปเรื่อยๆ จนเจอถนน ช่วงนั้นก็พยายามติดต่อคนในครอบครัวว่าออกมาครบไหม สรุปว่าทุกคนออกมาครบ แต่คนในครอบครัวที่พักชั้น 2 ไม่สามารถลงมาได้ เพราะไฟไหม้จนถึงบันไดแล้ว จึงต้องตัดสินใจปีนลงมา แต่ไม้รับน้ำหนักไม่ได้ จึงตกลงมา กระดูกซี่โครงหลังยุบ หัวแตก ตอนนั้นทุกคนหวาดกลัวมาก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันเร็ว และไม่มีใครได้ตั้งตัว เพราะไฟไหม้ตอนเช้าตรู่ แจ้งเตือนก็ไม่ดัง รวมถึงที่พักก็ทำจากไม้ ใบจาก ไฟลุกลามเร็วมาก ประมาณ 10 นาที วิลล่าหายไปกับตา เป็นอะไรที่แย่มากๆในชีวิต ทุกคนที่รอดมาได้เพราะโชคชะตา ไม่ใช่เพราะระบบรักษาความปลอดภัยแต่อย่างใด ถ้าตนนอนแบบหลับลึกคิดว่าคงถูกไฟคลอกตายทั้งครอบครัว

ปัจจุบัน แยม ธมลพรรณ์ อายุ 40 ปี เป็นอดีตนักแสดงลูกหม้อของช่อง 7 ที่หลายคนคุ้นหน้ากันดีโดยเฉพาะในละครพื้นบ้านแนวจักรๆวงศ์ๆ ไม่ว่าจะเป็น สังข์ทอง , สี่ยอดกุมาร , เกราะกายสิทธิ์ , เทพศิลป์ อินทรจักร , เทพสังวาลย์ , เทพสามฤดู

และอีกคนหนึ่ง คือ “หมอโอ๋” ผศ.พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร กุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น รพ.รามาธิบดี เจ้าของเพจ “เลี้ยงลูกนอกบ้าน” ต้องเอาชีวิตรอดหนีตายจากเหตุไฟไหม้ เพราะไม่มีสัญญาณเตือนภัย ไม่มีสปริงเกอร์พ่นน้ำ ทำให้ได้รับอุบัติเหตุกับร่างกายจากการปีนหลังคาหนีไฟ หมอเขียนเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นจริงว่าตลอดเวลาของการเกิดไฟไหม้ ไม่มีใครได้ยินเสียงสัญญาณเตือนใดๆ ไม่มี springer ไม่มี smoke detector ทำงาน มีแต่เสียงเรียกโวยวายของพวกเรากันเองเท่านั้น

พนักงานมาถึงตอนที่พวกเราหนีตายกัน “ออกมาเอง” หมดแล้ว โดยการที่เราได้โทรตามบัทเลอร์ประจำห้องทางมือถือ ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่รู้เรื่องอะไร แต่ต้องขอบคุณพนักงานของโรงแรมมากๆ ที่ได้ช่วยเหลือ ทำแผล และเคลื่อนย้ายหมอไปโรงพยาบาลแบบปลอดภัยเป็นอย่างดี หมอได้อ่านแถลงการณ์ของโรงแรมแล้วที่บอกว่าโรงแรมมีระบบ smoke detector “ที่ห้องนอน” ทุกห้อง เป็นไปได้ว่าห้องที่เกิดไฟไหม้ “ไม่ใช่ห้องนอน” แต่เป็นห้องส่วนกลางของวิลล่า เพราะเราทุกคนที่อยู่ในห้องนอน ยังไม่เจอไฟ เลยหนีตายออกมาได้ทัน

วันที่หมอต้องมาโรงพยาบาลในจังหวัดตราด ครอบครัวที่เหลือตัดสินใจที่จะอยู่ต่อเพื่อรอดูอาการหมอว่าหนักไหม และอยากเดินทางกลับพร้อมกัน ครอบครัวได้ไปนอนที่ห้องพักขนาด 5 ห้องนอน ซึ่งคล้ายกับ 6 ห้องนอนที่เราเคยพัก

น้องชายหมอก็ถามผู้บริหารว่าหลังนี้พื้นที่ส่วนกลางที่ไม่ใช่ห้องนอน มีเครื่องตรวจจับควันหรือไม่ ผู้บริหารยอมรับเองว่า “ไม่มี” และยังพูดว่าจะติดตั้งเพิ่มเติมให้โรงแรมสามารถออกมาบอกได้นะคะว่าเราได้พบปัญหาที่จุดนี้ และเราจะพยายามแก้ไขให้ดีขึ้น ดีกว่าการออกมาบอกในแถลงการณ์ ที่ทำให้คนเข้าใจว่าเรากล่าวหาโรงแรมจากประโยคที่เขียนว่าคนเสียหายที่สุด คือ “โรงแรม”

หมออยากให้เข้าใจว่าความสูญเสียบางอย่างตีเป็นมูลค่าไม่ได้คุณแม่หมอสูญเสียโทรศัพท์ 2 เครื่อง ที่เป็นของคุณพ่อและคุณแม่ ภาพความทรงจำถึงคนที่จากไปทั้งหมดอยู่ในนั้น แบบที่มันเรียกคืนมาไม่ได้ ยังไม่รวมถึงแหวน นาฬิกา แทนใจที่คุณพ่อให้คุณแม่ไว้ตอนมีชีวิตอยู่ หมอและสามี ที่เป็นอาจารย์โรงเรียนแพทย์ เสียข้อมูลที่เราต้องใช้สอน ทำวิจัย ไปกับคอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง ซึ่งเรื่องนี้สำหรับเรา มันเป็นเรื่องใหญ่มากๆ ที่นึกถึงทีไรก็อยากร้องไห้ทุกที

สามีที่เป็นหมอผ่าตัด อาจใช้งานมือข้างขวาที่บาดเจ็บไม่ได้ไปอีกพักใหญ่ ลูกสาวหมอ สูญเสียของเล่น ตุ๊กตา สมุดบันทึกที่เค้ารักมาก ตอนนี้หมอกระดูกสันหลังยุบ ต้องใส่เสื้อเกราะ ขับรถไม่ได้ไปอีกหลายเดือน ยังไม่รู้ว่าจะมีปัญหาการปวดหลังเรื้อรังระยะยาวไหม ที่สำคัญ ไม่อยากนึกเลยว่าที่หมอและสามีต้องตกลงมา เพราะรั้วระเบียงที่เป็นไม้ไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดี แล้วถ้ากระดูกหลังหักจนพิการ มันจะเจ็บปวดขนาดไหน หรือถ้าเราตกมาสลบทั้งคู่ ลูกที่ติดอยู่บนนั้น จะทำอย่างไร?

สิ่งเหล่านี้ตีค่าเป็นมูลค่าไม่ได้จริงๆ ที่สำคัญคือเราเสียเงินมารีสอร์ทเพราะต้องการมามีความสุข ไม่ใช่มาหนีตายกันแบบแทบเอาชีวิตไม่รอด จนหลายคนตอนนี้ยังนอนไม่ได้ เพราะมีภาพไฟหลอนอยู่ตลอด พร้อมขอบคุณที่โรงแรมช่วยเหลือเรื่องค่ารักษาพยาบาลของหมอแบบไม่มีข้อต่อรองใดๆ เราก็ได้แต่หวังว่า โรงแรมจะช่วยรับผิดชอบกับทรัพย์สินที่เราสูญเสียไปแบบตรงไปตรงมา เอาจริงๆ กรณีแบบนี้ ถ้าเป็นฝรั่งคงฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกันแบบบานตะไทแน่ๆ เราก็ไม่ได้อยากไปให้ถึงจุดนั้น เพราะไม่ว่าเท่าไหร่ มันก็ไม่คุ้มกับชีวิตที่ต้องเป็นอันตรายของพวกเราจริงๆ (แต่การตอบสนองแบบนี้ นี่เริ่มคิดนิดๆละ เผื่อจะได้เลิกทำงานงกๆ กะเค้ามั่ง)

อีกอย่าง ตอนนี้คนพูดกันใหญ่ว่าหมอโอ๋รวยมาก นอนพักวิลล่าคืนละ 5 แสน พอดีคุณแม่หมอรู้จักกับเพื่อนของผู้บริหาร เลยได้ส่วนลดมากพอสมควร และราคาตอนนี้จริงๆ ก็ไม่ถึงแล้ว และเราไม่ได้รับสปอนเซอร์ ไม่ได้รับรีวิวใดๆ เราจ่ายเงินทั้งหมดเต็มจำนวน ส่วนใหญ่น้องชายของหมอ ที่เป็นนักธุรกิจ ชื่อคุณอ้ำ สามีน้องแยม ธมลพรรณ์ อดีตดาราช่อง 7 ก็เป็นคนช่วยจ่ายหลักค่ะ ส่วนหมอก็มาอาศัยใบบุญน้องชายไปเที่ยว เราทั้งคู่ยังต้องทำงานหาเงินงกๆ ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ กันอยู่ค่ะ

สำหรับสถานที่ตั้งของโซเนวาคีรี เกาะกูด นั้น สภาพพื้นที่แทบทั้งหมดที่เป็นที่ตั้งบ้านเรือนและโรงแรม มีเอกสารสิทธิ์โดยชอบด้วยกฎหมาย พื้นที่ที่เหลือเป็นพื้นที่ของธนารักษ์ จะมีการเช่ากับธนารักษ์ ส่วนที่ตั้งโซเนวา คีรี จากการตรวจสอบของศูนย์บริหารจัดการทรัพยากรป่าชายเลน จ.ตราด พบว่าพื้นที่ตั้งโรงแรมโซเนวาเป็นพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องและตรวจไม่พบการกระทำผิดใดๆ ที่เป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

และมีรายงานว่า เบื้องต้นทางรีสอร์ตโซเนวาคีรี ได้ทำประกันอัคคีภัยในวงเงินเอาประกันภัยรวมประมาณ 952 ล้านบาท มีบริษัทประกันวินาศภัยทั้งหมดที่ร่วมรับประกันจำนวน 5 บริษัท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

ผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งเร่งออกโฉนดให้ชาวบ้านหนองจาน

สรแก้ว 25 ส.ค. – ผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งที่ดินจังหวัดเร่งดำเนินการออกเอกสารสิทธิให้ชาวบ้านหนองจานโดยเร็ว พร้อมส่งทีมสำรวจ เร่งแก้ไขปัญหาที่ดินตามแนวชายแดนให้แล้วเสร็จ นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ที่ดินจังหวัด ป่าไม้ ส.ป.ก. ชี้แจงกรณีปัญหาของที่ดินบ้านหนองจาน พร้อมให้ประชาชนแสดงการยื่นเอกสารสิทธิการถือครองที่ดิน เพื่อคัดกรองเตรียมออกโฉนดให้กับชาวบ้านในพื้นที่บ้านหนองจาน และบ้านกุดผือ ที่มีที่ดินอยู่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณหลักเขตแดนที่ 46-47 เพื่อดำเนินการออกโฉนดที่ดินให้โดยเร็ว โดยมีชาวบ้านนำเอกสารสิทธิ น.ส.2 สค.1 น.ส.3 มายื่นให้เจ้าหน้าที่เข้าสู่ระบบการคัดกรองเพื่อออกโฉนดที่ดินตามนโยบายเร่งด่วน ซึ่งจังหวัดจะแบ่งทีมสำรวจลงพื้นที่เป็น 3 ชุด เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาที่ดินตามแนวชายแดน ตั้งแต่พื้นที่อำเภออรัญประเทศ อำเภอโคกสูง และอำเภอตาพระยา ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว สร้างความดีใจให้กับประชาชนเป็นอันมาก.- สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

แจงยิบข้อดี MOU43 กรอบแนวทางสำรวจปักปันเขตแดน

กต. 25 ส.ค.- อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ แจงละเอียดยิบข้อดี MOU43 ใช้เป็นกรอบแนวทางการสำรวจปักปันเขตแดน เพื่อทำแผนที่ใหม่ร่วมกันตามหลักสากล เตือนยกเลิกหนีแผนที่ 1 : 200,000 ไม่พ้น และจะวนมาทำ MOU กันใหม่ นายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับนายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ อธิบายถึงที่มาของบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา หรือ MOU 43 ว่าเป็นเอกสารพื้นฐานของกรอบการเจรจา ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกปี 2543 หรือ MOU2543 หรือ MOU43 อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ มั่นใจว่า ประเทศไทยได้เปรียบจาก MOU43 เนื่องจาก MOU43 เป็นการกำหนดกรอบความตกลง และกลไกการปักปันเขตแดน เพื่อร่วมกันสำรวจ-จัดทำหลักเขตแดน เพื่อให้ได้แผนที่ที่นำมาใช้ได้จริง โดยใช้หนังสือสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1904 และ 1907 เป็นเอกสารประกอบ เนื่องจาก หนังสือสัญญาดังกล่าวได้พูดถึงคณะกรรมการปักปันเขตแดน เพื่อให้ไปทำแผนที่ตามหลักสันปันน้ำ แม่น้ำ และแนวเส้นตรง […]

“ภูมิธรรม” รับหนักใจ “กัมพูชา” ตกลงกันแล้วไปพูดอีกอย่าง

ทำเนียบ 25 ส.ค.- “ภูมิธรรม” บอกประชุม RBC กองทัพภาค 2 เป็นเรื่องเขตแดน ยอมรับหนักใจ “กัมพูชา” ตกลงกันแล้วไปพูดอีกอย่าง ย้ำไม่ยอมให้ใครรุกล้ำอธิปไตย มองเรื่องเขตแดนไม่เคยจบง่าย บางประเทศใช้เวลาเป็นร้อยปี อย่ากังวลใจ ถ้ายังยืนหยัดผลประโยชน์ชาติ พร้อมยกนาฬิกาข้อมือ ก่อนแซวตัวเอง “วันนี้วันที่เท่าไหร่ ดูเวลาทุกวัน จะพ้นตำแหน่งแล้ว” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค RBC ไทย-กัมพูชาในส่วนของกองทัพภาคที่2ในวันที่ (27 ส.ค.) จะมีการเสนอเงื่อนไขเหมือนกับการประชุม RBC ของกองทัพภาคที่ 1 หรือแตกต่างกันหรือไม่ว่า ก็ไม่มี เป็นการต่อเนื่อง จากการประชุม RBC ครั้งที่แล้ว แต่อาจจะแตกต่างกันบ้างของแต่ละสภาพพื้นที่และสภาพปัญหา และพื้นฐานจะเป็นการประชุมต่อเนื่องจากครั้งก่อน เป็นเรื่องระดับแม่ทัพไปคุยกัน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเส้นแดน ทำอย่างไรที่จะทำให้ได้ข้อสรุปที่ตรงกันมากที่สุด ส่วนแนวโน้มน่าจะมีสัญญาณที่ดีใช่หรือไม่ เพราะการประชุมครั้งก่อนฝ่ายกัมพูชารับเงื่อนไข แต่การประชุมที่กองทัพภาคที่2 มีเรื่องรั้วลวดหนาม ที่แตกต่างกับกองทัพภาคที่ 1 นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องรั้วลวดหนามอาจจะเป็นสิ่งที่ไม่ตรงกับที่พูดคุยกันมา […]