ทบ.ยกระดับแก้ปัญหาไฟป่า และฝุ่น PM 2.5
ทบ.ยกระดับการแก้ปัญหาไฟป่า และฝุ่นละออง PM 2.5 ระดมหน่วยทหารจัดชุดดับไฟป่าพร้อมรับมือกับสถานการณ์ ควบคู่เข้มงวดมาตรการในหน่วยทหาร
ทบ.ยกระดับการแก้ปัญหาไฟป่า และฝุ่นละออง PM 2.5 ระดมหน่วยทหารจัดชุดดับไฟป่าพร้อมรับมือกับสถานการณ์ ควบคู่เข้มงวดมาตรการในหน่วยทหาร
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ลงพื้นที่ภัยพิบัติเมื่อวานนี้ เพื่อตรวจเยี่ยมเขตที่ได้รับความเสียหายจากพายุและไฟป่าในรัฐนอร์ทแคโลไรนาและแคลิฟอร์เนียตามลำดับ
รมว.ทส.ย้ำกรมอุทยานฯ ป้องกันไฟป่าอย่างเต็มที่ ลดจุดความร้อนในพื้นที่ป่า เพื่อบรรเทาวิกฤติฝุ่น PM2.5 ขณะที่อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งให้อุทยานแห่งชาติทับลาน ยุติการชิงเผาป่า แม้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างหญ้าระบัดให้ช้าง แต่ต้องดำเนินการในช่วงที่สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ไม่วิกฤติ ระบุได้ตำหนิไปแล้ว พร้อมแนะนำให้ทำตามหลักวิชาการ โดยการชิงเผาเพื่อจัดการเชื้อเพลิงในป่าต้องทำในหย่อมป่าเล็กๆ ไม่ใช่เผาเป็นแปลงใหญ่
หลายพื้นที่ของ จ.ลำปาง ยังคงเกิดไฟไหม้ป่าอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ระดมกำลังสกัดเพลิง คาดมีบุคคลไม่หวังดีเข้ามาลักลอบจุดไฟ
ไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐยังลุกลามอย่างต่อเนื่อง ขณะที่พื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ยังคงเผชิญกับอากาศหนาวจัดจนน้ำในแม่น้ำกลายเป็นน้ำแข็ง
24 มกราคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีข้อมูลสร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเหตุไฟป่าทางตอนใต้ของแคลิฟอร์เนียเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในสหรัฐอเมริกา เมื่อมีการค้นหาหลักฐานให้เชื่อว่ามีการจงใจก่อเหตุไฟป่าด้วยอาวุธแสงเลเซอร์ชนิด Directed Energy Weapons หรือ DEW ทั้งหลักฐานการบันทึกภาพแสงปริศนาในรายการข่าวโทรทัศน์ ภาพถ่ายรถยนต์ถูกไฟป่าเผาทำลายทั้ง ๆ ที่ต้นไม้บริเวณรอบ ๆ ไม่ได้รับความเสียหาย รวมถึงการอ้างถึงวัตถุสีฟ้าในเขตไฟป่าที่ไม่ได้รับความเสียหาย เนื่องจากสีฟ้ามีคลื่นความถี่เดียวกับสเปกตรัมแสงของอาวุธแสงเลเซอร์ DEW บทสรุป : 1.ไม่มีหลักฐานการใช้ Directed Energy Weapons จุดไฟป่า2.สีของวัตถุไม่สามารถป้องกันการถูกโจมตีโดย Directed Energy Weapons ได้3.ต้นไม้ติดไฟได้ยากกว่าบ้านและรถยนต์ เนื่องจากมีความชื้นในลำต้น FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : Directed Energy Weapons คืออาวุธระยะไกลที่ทำลายเป้าหมายโดยไม่ใช้กระสุน แต่เป็นการทำลายเป้าหมายด้วยการยิงด้วยแสงเลเซอร์ คลื่นไมโครเวฟ ลำแสงอนุภาค หรือคลื่นเสียง ปัจจุบันมีการศึกษาวิจัยอาวุธ DEW ในหลายประเทศ […]
แคลิฟอร์เนีย 23 ม.ค. – ท้องฟ้าเหนือทางหลวงสายหนึ่งในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐกลายเป็นสีส้ม ทัศนวิสัยเลวร้าย จากควันไฟป่าที่ลุกไหม้ล่าสุดเมื่อวันพุธ คลิปที่ผู้ขับขี่รายหนึ่งบันทึกไว้ขณะขับรถบนทางหลวง เห็นป้ายบอกทางไปลอสแอนเจลิสและถนนอ็อกนาร์ด ทางหลวงและดวงอาทิตย์ถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นควัน ขณะที่ท้องฟ้าเป็นสีส้มไปตลอดเส้นทาง อันเป็นผลจากไฟป่าฮิวจ์ไฟร์ (Huges Fire) ที่กำลังโหมไหม้อยู่ทางตอนเหนือห่างจากตัวเมืองราว 80 กิโลเมตร เพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็วเนื่องจากอากาศอากาศที่แห้งแล้งและกระแสลมแรง เผาพื้นที่ไปแล้วราว 38 ตารางกิโลเมตร ทางการต้องสั่งอพยพประชาชนกว่า 31,000 คน แม้เข้าสู่เวลากลางคืนแล้ว ทางการยังคงระดมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงไฟป่าหลายพันคนไปควบคุมเพลิง ซึ่งยังลุกลามอย่างรวดเร็วในสภาพการทำงานที่ยากลำบาก พร้อมกันนั้นยังต้องบังคับใช้คำสั่งให้ประชาชนอพยพจากอันตรายร้ายแรง เจ้าหน้าที่หวังว่า กระแสลมจะเบาบางลงและความชื้นเพิ่มขึ้นบ้าง.-812(814).-สำนักข่าวไทย
“ภูมิธรรม” ยกฝุ่น PM 2.5 เป็นปัญหาระดับนานาชาติต้องหารือร่วมกัน กำชับกำลังพล-ยุทโธปกรณ์ช่วยแก้ไฟป่า ยกระดับซีลชายแดน สวนฝ่ายค้านอย่าเอาเรื่องเล็กน้อยมาโจมตีเป็นเกมการเมือง ขอช่วยแนะนำหากเป็นทางออก รัฐบาลพร้อมดำเนินการ
แอลเอ 23 ม.ค.- สถานการณ์ไฟป่ารอบเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอเคาน์ตี รัฐแคลิฟอร์เนียกลับมาวิกฤติอีกครั้งจากไฟป่าจุดใหม่ที่กำลังลุกลามไปอย่างรวดเร็ว และยังไม่สามารถควบคุมไฟได้เลย ไฟป่าจุดใหม่เรียกว่าไฟป่าฮิวจ์ส (Hughes Fire) เกิดขึ้นในย่านทะเลสาบแคสติก ห่างจากมหานครแอลเอขึ้นไปทางเหนือราว 80 กิโลเมตรเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่น สภาพอากาศอากาศที่แห้งแล้งและกระแสลมแรงทำให้เปลวไฟลุกลามไปอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง มีพื้นที่ถูกไฟป่าเผาไปแล้วกว่า 38 ตารางกิโลเมตร และขณะนี้ยังไม่สามารถควบคุมไฟได้เลย ทางการต้องสั่งอพยพประชาชนกว่า 31,000 คน และเตือนให้อพยพอีก 23,000 คน ขณะที่วนอุทยานแห่งชาติแอนเจลิส ซึ่งมีเนื้อที่ทั้งหมด 2,800 ตารางกิโลเมตรต้องปิดรับนักท่องเที่ยว การปะทุขึ้นของไฟป่าฮิวจ์สทำให้เจ้าหน้าที่ดับไฟป่าหลายพันคนต้องทำงานกันหนักขึ้นท่ามกลางสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย ขณะเดียวกันยังคงต้องเดินหน้าดับไฟป่าพาลิเซดส์ (Palisades Fire) ซึ่งเป็นไฟป่าใหญ่ที่สุดในเขตแคลิฟอร์เนียใต้ ล่าสุดสามารถดับไฟได้แล้วร้อยละ 70 ส่วนไฟป่าอีตัน (Eaton Fire) ที่ใหญ่ สามารถดับไฟได้แล้วร้อยละ 95 หลังจากที่ไฟป่าในสองจุดนี้เริ่มลุกไหม้มาตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม.-816(814).-สำนักข่าวไทย
แอลเอ 23 ม.ค.- ไฟป่าครั้งประวัติศาสตร์ในเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอเคาน์ตี รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐได้จุดกระแสความสนใจเรื่องการสร้างบ้านด้วยอิฐดินดิบ หลังจากพบว่าสิ่งปลูกสร้างจากวัสดุธรรมชาติชนิดนี้ได้รับความเสียหายน้อยมากจากไฟป่า ไฟป่าแอลเอที่เกิดขึ้นหลายจุดช่วงต้นเดือนมกราคมคร่าชีวิต 27 คน เผาทำลายบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างมากกว่า 15,000 หลัง ล่าสุดเกิดไฟป่าใหม่ขึ้นอีก ชาวเมืองที่ไม่คิดจะย้ายไปอยู่ที่อื่น เริ่มพิจารณาเรื่องการสร้างบ้านที่ทนไฟ ไม่ติดไฟง่าย และหากไฟไหม้ก็ไม่ก่อสารพิษต่อสภาพแวดล้อม หนึ่งในนั้นคือการสร้างบ้านด้วยอิฐดินดิบที่นำวัสดุธรรมชาติอย่างน้ำ ฟาง แกลบ และเส้นใยธรรมชาติอื่น ๆ ผสมลงไปในดิน แล้วทำเป็นก้อนอิฐตากแห้งที่ไม่ผ่านกระบวนการทางความร้อนหรือเผา สตรีชาวเมืองอัลทาเดนากล่าวขณะนั่งอยู่ท่ามกลางซากบ้านที่ถูกไฟป่าเผาทำลายว่า บ้านทรงสเปนของเธอหลังนี้จะมีอายุครบ 100 ปี เธอคิดว่า บ้านที่สร้างจากปูนจะทนไฟ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ เพราะสิ่งที่เสียหายน้อยมากกลับเป็นที่นั่งและครัวกลางแจ้งที่สร้างขึ้นจากอิฐดินดิบ ซึ่งเป็นเทคนิคการก่อสร้างแบบโบราณที่เธอกำลังจะนำมาใช้บูรณะฟื้นฟูบ้านและชุมชนของเธอในอนาคต.-814.-สำนักข่าวไทย
แซนดีเอโก 22 ม.ค.- รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเกิดไฟป่าใหม่ 2 จุด ทำให้ต้องอพยพประชาชนหลายพันคน สำนักงานไฟป่าแคลิฟอร์เนีย (Cal Fire) แจ้งว่า ไฟป่าครั้งใหม่เกิดขึ้นในเทศมณฑลแซนดีเอโก ไฟป่าจุดหนึ่งเริ่มปะทุขึ้นบริเวณเนินเขาใกล้กับห้างสรรพสินค้าแฟชั่นวัลลีย์ช่วงบ่ายวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ไฟลุกลามขยายวงออกไปอย่างรวดเร็วจนลามเข้าใกล้กับคอนโดมิเนียม เนื่องจากอิทธิพลของลมแซนตาแอนา (Santa Ana winds) ที่เป็นกระแสลมร้อนและแห้ง ประกอบกับสภาพอากาศที่แห้งแล้ง ตำรวจต้องปิดถนนบางส่วน และอพยพประชาชนออกจากอาคารใกล้เคียงกับจุดที่เกิดไฟป่า แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรืออาคารได้รับความเสียหาย ก่อนหน้านี้ในช่วงเช้ามืดวันเดียวกันได้เกิดไฟป่าไลแลค (Lilac Fire) ขึ้นทางตะวันตกเฉียงเหนือของเทศมณฑลแซนดีเอโก สร้างความเสียหายให้แก่อาคารบ้านเรือนจำนวนหนึ่ง สื่อท้องถิ่นรายงานว่าประชาชนเกือบ 3,000 คนได้รับคำสั่งอพยพ แต่ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน.-816(814).-สำนักข่าวไทย
22 มกราคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับเหตุไฟป่าทางตอนใต้ของแคลิฟอร์เนียเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในสหรัฐอเมริกา เมื่อมีการอ้างว่า เบื้องหลังไฟป่าคือส่วนหนึ่งของแผนการเปลี่ยนให้ลอสแอนเจลิสกลายเป็น Smart Cities ตามโครงการ Agenda 2030 ที่กำหนดโดยองค์การสหประชาชาติ หรือโครงการ SmartLA 2028 initiative ซึ่งเป็นการสร้างเมืองใหม่เพื่อต้อนรับการเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาโอลิมปิกของนครลอสแอนเจลิสในปี 2028 บทสรุป : 1.Agenda 2030 คือเป้าหมายการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ ไม่มีนโยบายทำลายทรัพยากรธรรมชาติอย่างการเผาป่า2.SmartLA 2028 initiative คือโครงการพัฒนาแอล.เอ.เพื่อเตรียมเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก 2028 และไม่มีความเกี่ยวข้องกับไปป่าเช่นกัน FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการเชื่อมโยงเหตุไฟป่า กับแผนการเปลี่ยนเมืองให้เป็น Smart Cities เพราะในเหตุไฟป่าครั้งใหญ่ของประเทศแคนาดาเมื่อปี 2023 และเหตุไฟป่าที่เมืองเมาวี ในรัฐฮาวาย เมื่อปี 2024 ก็มีการอ้างว่ามีความเกี่ยวข้องกับโครงการ Agenda 2030 […]