ไฟป่า

บัวโนสไอเรส 25 ก.ย.- สถานการณ์ไฟป่าในรัฐกอร์โดบาทางภาคกลางของอาร์เจนตินาสร้างความเสียหายอย่างหนักให้แก่ฟาร์มปศุสัตว์และสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยว หนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักสุด คือ เมืองกาปิญญา เดล มอนเต ซึ่งมีพื้นที่ถูกไฟป่าเผาผลาญเป็นบริเวณกว้างและมีซากปศุสัตว์ล้มตายเป็นจำนวนมาก ขณะที่บางตัวถูกไฟลวกได้รับบาดเจ็บ สิ่งปลูกสร้างด้านการท่องเที่ยวถูกไฟไหม้จนเหลือแต่โครงเหล็ก ไฟป่าดังกล่าวเริ่มปะทุขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วและลุกลามไปอย่างรวดเร็วเนื่องจากอากาศร้อนจัด ภาวะแห้งแล้ง และกระแสลมแรง เจ้าหน้าที่ดับไฟป่า 150 คน พร้อมรถดับเพลิงและเฮลิคอปเตอร์ได้ระดมกำลังช่วยกันสกัดกั้นไม่ให้ไฟป่าลุกลามเข้ามาในเขตเมือง.-816(814).-สำนักข่าวไทย

เซาเปาลู 13 ก.ย.- สถานการณ์ไฟป่าในภูมิภาคอเมริกาใต้ปีนี้ถือว่าเป็นครั้งรุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้คุณภาพอากาศในเมืองใหญ่ย่ำแย่ที่สุดในโลก ไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ป่าฝนแอมะซอนในบราซิลไปจนถึงพื้นที่ชุ่มน้ำใหญ่ที่สุดในโลกและพื้นที่ป่าแห้งแล้งในโบลิเวียได้ทำลายสถิติจำนวนไฟป่ามากที่สุดของภูมิภาคไปแล้ว  จากการวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมของสถาบันวิจัยด้านอวกาศแห่งชาติของบราซิลพบว่า นับจนถึงวันที่ 11 กันยายนที่ผ่ามา มีไฟป่าเกิดขึ้นในอเมริกาใต้แล้วมากถึง 346,112 จุด  ทำลายสถิติเดิมเมื่อปี 2550 ที่มีไฟป่าเกิดขึ้นทั้งหมด 345,322 จุด นับตั้งแต่เริ่มการบันทึกข้อมูลในปี 2531 นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า ไฟป่าส่วนใหญ่มีต้นเพลิงมาจากการกระทำของคน ขณะที่สภาพอากาศร้อนและแห้งแล้งซึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลก มีส่วนเร่งให้ไฟป่าไหม้ลามรวดเร็วยิ่งขึ้น อเมริกาใต้เกิดคลื่นความร้อนหลายระลอกมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และแม้ว่าขณะนี้ยังอยู่ในช่วงฤดูหนาว แต่อุณหภูมิในนครเซาเปาลู ยังสูงกว่า 32 องศาเซลเซียสมาตั้งแต่วันเสาร์ ข้อมูลของสถาบันวิจัยด้านอวกาศแห่งชาติของบราซิลระบุว่า ประเทศที่เผชิญไฟป่ามากสุดในเดือนนี้ ได้แก่บราซิลและโบลิเวีย ตามด้วยเปรู อาร์เจนตินาและปารากวัย  ข้อมูลจากเว็บไซต์ IQAir.com ระบุว่า นครเซาเปาลูซึ่งมีประชากรมากที่สุดของซีกโลกตะวันตกและซีกโลกใต้ ต้องเผชิญกับคุณภาพย่ำแย่ที่สุดในโลกเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ซึ่งแย่กว่าที่จีนและอินเดีย ขณะที่กรุงลาปาซของโบลิเวียก็ถูกปกคลุมไปด้วยควันไฟจากไฟป่าคุณภาพอากาศย่ำแย่แทบไม่ต่างกัน.-816(814).-สำนักข่าวไทย

ลอสแอนเจลิส 9 ก.ย.- ไฟป่าครั้งใหญ่ใกล้นครลอสแอนเจลิสหรือแอลเอของสหรัฐ ทำให้ต้องอพยพประชาชนหลายหมื่นคน และเสี่ยงสร้างความเสียหายกับอาคารสิ่งปลูกสร้างกว่า 35,000 หลัง ไฟป่าครั้งนี้ปะทุขึ้นในแถบชานเมืองซานเบอร์นาดิโน ทางตะวันออกของแอลเอเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว จากสภาพอากาศที่ร้อนจัดเกือบ 40 องศาเซลเซียสนานต่อเนื่องหลายวัน จากการประเมินล่าสุดเมื่อเช้าวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ไฟได้เผาผลาญพื้นที่ป่าไปแล้ว 70 ตารางกิโลเมตร และยังลุกโหมในแถบอุทยานแห่งชาติที่ห่างจากแอลเอไปเพียง 100 กิโลเมตร ทางการของบางเขตจึงต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และสั่งอพยพประชาชนในหลายพื้นที่จำนวนหลายหมื่นคนออกจากพื้นที่เสี่ยง เจ้าหน้าดับเพลิงเผยว่า มีการพยากรณ์อากาศว่า จะเกิดฝนฟ้าคะนองในช่วงหลายวันข้างหน้า ซึ่งหากเกิดลมแรงมาประกอบกับคลื่นความร้อนที่เกิดขึ้นในเวลานี้ จะยิ่งทำให้ไฟโหมไหม้รวดเร็วขึ้นและขัดขวางการควบคุมเพลิง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กำลังจัดสรรกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าไปเพิ่มขึ้น สมทบกับเจ้าหน้าที่กว่า 600 คนที่พยายามต่อสู้กับไฟป่า โดยมีเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินคอยให้การสนับสนุน มีรายงานเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บขณะปฏิบัติหน้าที่ 3 นาย ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ไฟป่าที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งขึ้นและรุนแรงมากขึ้นเช่นนี้เป็นผลโดยตรงจากสภาวะโลกร้อน   สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของสหรัฐรายงานว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาอุณหภูมิใจกลางแอลเอเพิ่มสูงถึง 44 องศาเซลเซียส ซึ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 เท่านั้น นับจากปี 2420 หรือเมื่อ 147 ปีก่อน.-812(814).-สำนักข่าวไทย

ลาปาซ 8 ก.ย.- ทางการโบลิเวีย ในทวีปอเมริกาใต้ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติ เพื่อรับมือกับเหตุไฟป่าที่ลุกไหม้ในหลายพื้นที่ กระทรวงกลาโหมโบลิเวียประกาศเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า แคว้นเบนิและแคว้นซานตากรุซ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตามการตัดสินใจของรัฐบาลกลาง ขณะที่กระทรวงสิ่งแวดล้อมและน้ำประกาศให้เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ เนื่องจากขณะนี้มีพื้นที่ที่เป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์และพื้นที่ป่าไม้ได้รับผลกระทบจากไฟป่ารวมกันแล้วราว 23.75 ล้านไร่ ไฟป่ายังลุกไหม้ขยายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากโบลิเวียอยู่ในช่วงพีคสูงสุดของฤดูไฟป่า ระหว่างเดือนสิงหาคม-กันยายน โดยปีนี้ฤดูไฟป่าในโบลิเวียได้เริ่มขึ้นเร็วกว่าปกติ โดยเริ่มมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม หลังจากเกิดภาวะแล้งจัด.-820(814).-สำนักข่าวไทย     

สถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นในกรุงโรมของอิตาลีส่งผลให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รับบาดเจ็บไป 4 คน

ลิสบอน 19 ส.ค.- หลายประเทศในยุโรปกำลังเผชิญกับไฟป่าท่ามกลางอากาศที่กำลังร้อนจัด แห้งแล้ง แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ เกาะมาเด-รา ที่อยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติก และเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของโปรตุเกส เกิดไฟป่ามาตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคมในพื้นที่ชนบท ก่อนไหม้ลามขยายวงกว้างเข้ามาในเขตเทศบาล ทางการระบุว่า ขณะนี้กำลังเกิดไฟป่าขึ้นถึง 3 ด้าน เจ้าหน้าที่ดับไฟป่าเกือบ 200 คน พร้อมด้วยรถดับเพลิง 38 คัน กำลังระดมกำลังดับไฟป่าอย่างเต็มที่ แต่อากาศที่ร้อนจัดและแห้งแล้ง รวมทั้งกระแสลมแรงล้วนเป็นอุปสรรคต่อการดับไฟ มีการอพยพประชาชนราว 160 คน แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต  ส่วนที่สเปนเกิดไฟป่าขึ้นในพื้นที่ใกล้กับชายแดนโปรตุเกส จุดที่เกิดไฟป่าอยู่ในเขตตราบาซอส ในจังหวัดซาโมรา มีพื้นที่ถูกไฟป่าเผาไหม้ไปแล้วกว่า 1,250 ไร่  ทำให้ต้องอพยพประชาชนในเมืองที่อยู่ใกล้เคียงและปิดการใช้งานทางหลวงสายหนึ่งเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หน่วยงานฉุกเฉินของกองทัพได้ร่วมปฏิบัติการดับไฟป่าตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา และจนถึงขณะนี้ยังคงเดินหน้าปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ทูร์เคีย หรือตุรกีกำลังประสบปัญหาไฟป่าเช่นเดียวกัน เจ้าหน้าที่ดับไฟป่าและอาสาสมัครกำลังเร่งสกัดไฟป่าที่ปะทุขึ้นในพื้นที่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้เมื่อวานนี้  รัฐมนตรีป่าไม้เปิดเผยว่า นับแต่เช้าวันที่ 15 สิงหาคมเป็นต้นมามีไฟป่าเกิดขึ้นแล้วทั้งหมด 247 จุดทั้งในพื้นที่ป่าและในเขตชนบท โดยสามารถควบคุมได้แล้ว 241 จุด แต่ยังมีความเสี่ยงในพื้นที่ทางตะวันตกและทางเหนือในช่วง 2-3 วันข้างหน้านี้เนื่องจากอากาศจะร้อนขึ้นและมีกระแสลมแรง.-816(814).-สำนักข่าวไทย

ออตตาวา 18 ส.ค.- ผู้ประสบภัยไฟป่าชาวแคนาดา เริ่มเดินทางกลับเข้าไปตรวจสอบบ้านและทรัพย์สิน ในเมืองแจสเปอร์ รัฐแอลเบอร์ตาที่ถูกไฟป่าเผาไหม้ มีสิ่งปลูกสร้างได้รับความเสียหายร้อยละ 30 เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน บรรษัทแพร่ภาพและกระจายเสียงแห่งแคนาดา หรือซีบีซี (CBC) รายงานว่า เจ้าหน้าท้องถิ่นแนะนำผู้มีปัญหาสุขภาพ หรือตั้งครรภ์ ให้หลีกเลี่ยงการกลับเข้าไปอยู่อาศัยในเมืองนี้ จนกว่าระบบสาธารณสุขท้องถิ่นจะพร้อมทำการอย่างสมบูรณ์ ส่วนผู้ที่เลือกจะกลับเข้าไปอาศัยหลังเข้าไปดูพื้นที่แล้ว แนะนำให้เตรียมข้าวของจำเป็น เช่น อาหาร น้ำดื่มและเวชภัณฑ์ เพื่ออยู่ได้อย่างน้อย 3 วัน  ส่วนเรื่องการท่องเที่ยวซึ่งเป็นแหล่งรายได้สำคัญของเมืองแจสเปอร์ เจ้าหน้าที่ยังไม่แจ้งว่า จะเปิดรับนักท่องเที่ยวได้เมื่อใด.-810(814).-สำนักข่าวไทย

อิสตันบูล 18 ส.ค.- เฮลิคอปเตอร์และเครื่องบิน บินวนผ่านกลุ่มควันไฟ เพื่อเร่งดับไฟป่าที่ลุกไหม้ในพื้นที่จังหวัดอิซเมียร์ แถบชายฝั่งตะวันตกของทูร์เคีย หรือตุรกี เนื่องจากไฟป่ายังคงลุกไหม้ขยายพื้นที่ต่อเนื่องมาเกือบ 2 วันนับจนถึงวันเสาร์ กระแสลมพัดกระโชกแรงและความชื้นอากาศอยู่ในระดับต่ำ ทำให้ทีมนักผจญเพลิงเผชิญอุปสรรคในการควบคุมไฟป่า นายอิบราฮิม ยูมักลี รัฐมนตรีกระทรวงป่าไม้ระบุว่า ต้นเพลิงเกิดจากฝีมือคน 3 คนที่มาเที่ยวปิกนิกกัน แต่ไม่ได้แจกแจงในรายละเอียด ไฟป่าดังกล่าวไหม้ลามเข้าเขตชุมชนเมื่อวันศุกร์ มีบ้านและร้านค้าถูกไฟไหม้เสียหายหลายหลังคา และมีการอพยพประชาชนบางส่วน รัฐมนตรีทูร์เคียเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังพยายามดับไฟป่าที่ลุกไหม้อยู่ทั้งหมด 5 จุดทั่วประเทศ ทางการเตือนว่า มีความเสี่ยงสูงที่จะมีเกิดไฟป่าในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เนื่องจากอุณหภูมิสูงขึ้น ความชื้นในอากาศต่ำ และกระแสลมแรง ช่วงหลายปีมานี้พื้นที่ริมชายฝั่งของทูร์เคียเกิดไฟป่าหลายครั้ง เนื่องจากฤดูร้อนร้อนขึ้นและแล้งขึ้นตามที่นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ.-810(814).-สำนักข่าวไทย

เอเธนส์ 14 ส.ค. – พื้นที่รอบกรุงเอเธนส์ของกรีซ ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากไฟป่า แม้ว่าเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว พื้นที่บริเวณชานเมืองของกรุงเอเธนส์เผชิญกับไฟป่าครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบปี ไฟป่าที่เกิดขึ้นหลายสิบจุดตั้งแต่วันอาทิตย์ได้เผาทำลายพื้นที่ราว 62,500 ไร่  บ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนถูกไฟเผาวอดไปเป็นจำนวนมาก และมีผู้เสียชีวิต 1 คน นอกจากจากสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินแล้วไฟป่าครั้งนี้ยังทำลายระบบนิเวศและทัศนียภาพที่เคยเป็นป่าสวยงามสุดลูกหูลูกตา แต่ขณะนี้ถูกไฟป่าเผาราบเป็นหน้ากลองเหลือเพียงเถ้าถ่าน  รัฐบาลกรีซประกาศจะจ่ายเงินชดเชยให้แก่ผู้ประสบภัยรวมทั้งจะมีมาตรการต่าง ๆ ออกมาช่วยเหลือ สำหรับสถานการณ์ล่าสุดของไฟป่าเวลานี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้แล้ว แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ต่อไปเนื่องจากคาดว่าในช่วงสองวันนี้อาจจะมีกระสมแรงจัดเกิดขึ้นประกอบกับสภาพอากาศร้อนจัดซึ่งอาจทำให้ไฟกลับมาปะทุขึ้นได้อีก.-816(815).-สำนักข่าวไทย

เอเธนส์ 13 ส.ค.- ไฟป่าครั้งเลวร้ายที่สุดในปีนี้ที่เกิดขึ้นรอบกรุงเอเธนส์ของกรีซยังคงไหม้ลามอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตจากไฟป่าแล้ว 1 คน ไฟป่าดังกล่าวเริ่มปะทุขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ และยังคงไหม้ลามอย่างต่อเนื่องในพื้นที่โดยรอบกรุงเอเธนส์ แม้ว่ากระแสลมที่เบาลง และความพยายามของเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าสามารถทำให้ไฟป่าลดความรุนแรงลงไปได้บ้างในภาพรวม แต่ยังคงมีไฟป่าที่ไหม้ลามอยู่ในหลายพื้นที่ โดยเมื่อวานนี้ไฟป่าได้ลุกโหมอย่างหนักเข้ามายังพื้นที่ชานกรุงเอเธนส์ สร้างความแตกตื่นให้กับประชาชนจำนวนมาก เพราะไม่เคยประสบไฟป่าที่ลุกลามเข้ามาใกล้เช่นนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่ดับไฟป่าเปิดเผยว่า ที่เมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ห่างจากย่านใจกลางกรุงเอเธนส์เพียง 14 กิโลเมตรพบผู้เสียชีวิตจากไฟป่า 1 คน บ้านเรือนและรถยนต์ถูกไฟเผาวอดจำนวนมาก  ทางการยังคงเตรียมพร้อมในระดับสูงต่อไปจนถึงวันพฤหัสบดีนี้ เนื่องจากยังมีกระแสลมแรงและคาดว่าอุณหภูมิจะสูงถึง 40 องศาเซลเซียส กรีซได้อพยพประชาชนในกว่า 30 พื้นที่ รวมทั้งโรงพยาบาลอย่างน้อย 3 แห่ง ขณะที่หลายพื้นที่รอบกรุงเอเธนส์ต้องเผชิญกับปัญหากระแสไฟฟ้าดับ เจ้าหน้าที่ดับไฟป่ากว่า 700 คนพร้อมด้วยอาสาสมัคร รถดับเพลิง 199 คัน และเฮลิคอปเตอร์ทิ้งน้ำ 35 ลำกำลังระดมกำลังดับไฟป่าที่เกิดขึ้น ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุของต้นเพลิง.-816(814).-สำนักข่าวไทย

ทางการกรีซสั่งอพยพประชาชนจากหมู่บ้านวาร์นาวาที่อยู่ห่างกรุงเอเธนส์ขึ้นไปทางเหนือ 35 กิโลเมตร หลังเกิดไฟป่าโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง