โรงงาน

นิวเดลี 3 ส.ค. – เกิดเหตุก๊าซรั่วที่โรงงานผลิตเครื่องนุ่งห่มในอินเดีย ทำให้มีแรงงานหญิงอย่างน้อย 112 คนต้องเข้าโรงพยาบาล เนื่องจากมีอาการคลื่นไส้และอาเจียน แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต ตำรวจอินเดียเผยวันนี้ว่า เกิดเหตุก๊าซรั่วที่โรงงานผลิตเครื่องนุ่งห่มในรัฐอานธรประเทศ (Andhra Pradesh) ทางตอนใต้ของอินเดียเมื่อช่วงค่ำวันอังคาร ทำให้แรงงานหญิงอย่างน้อย 112 คนมีอาการคลื่นไส้และอาเจียน จนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ทั้งยังระบุว่า แรงงานหญิงทั้งหมดมีอาการคงที่ และไม่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุก๊าซรั่วในโรงงานดังกล่าว ขณะนี้ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสืบสวนหาสาเหตุที่ทำให้เกิดก๊าซรั่ว สถานีโทรทัศน์เอ็นดีทีวีของอินเดียรายงานว่า เหตุก๊าซรั่วที่โรงงานแห่งนี้มีขึ้นหลังจากที่เพิ่งเกิดเหตุลักษณะนี้ในพื้นที่เดียวกันที่ทำให้แรงงานหญิงราว 200 คนมีอาการหมดสติจนต้องเข้าโรงพยาบาลในเดือนมิถุนายน ก่อนหน้านี้ เคยเกิดเหตุก๊าซรั่วที่โรงงานเคมีในเมืองวิศาขาปัฏฏนัม ซึ่งเป็นเมืองท่าเรืออุตสาหกรรมของรัฐอานธรประเทศ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน และมีแรงงานหลายร้อยคนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเมื่อปี 2563.-สำนักข่าวไทย

เซียเวียโรโดเนตสก์ 15 มิ.ย.- กลุ่มแยกดินแดนทางตะวันออกของยูเครนเผยว่า อาจมีพลเรือนมากถึง 1,200 คน ติดอยู่ในโรงงานเคมีในเมืองเซียเวียโรโดเนตสก์ และอ้างว่ากองกำลังยูเครนพยายามขัดขวางการเปิดเส้นทางมนุษยธรรมออกจากโรงงานแห่งนี้ กลุ่มแยกดินแดนในแคว้นลูฮันสก์ที่ประกาศแยกตัวจากยูเครนเป็นสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสก์โพสต์ผ่านแอปพลิเคชันเทเลแกรมว่า อาจมีชาวเมืองเซียเวียโรโดเนตสก์ 1,000-1,200 คน  ติดอยู่ในโรงงานอาซอตที่ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังยูเครน แต่หากรวมจำนวนนักรบยูเครนและนักรบต่างชาติด้วยก็มีอาจคนอยู่ในโรงงานมากถึง 2,000 คน ข้อมูลดังกล่าวขัดแย้งกับที่ยูเครนอ้างก่อนหน้านี้ว่า มีพลเรือนติดอยู่เกือบ 500 คน กลุ่มแยกดินแดนอ้างด้วยว่า กองกำลังยูเครนหาทางขัดขวางการเปิดเส้นทางมนุษยธรรมเพื่ออพยพคนออกจากโรงงานแห่งนี้ กระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยเมื่อวันอังคารว่า ได้ปฏิเสธคำขอของยูเครนที่ขอเปิดเส้นทางมนุษยธรรมเพื่ออพยพคนไปยังดินแดนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของยูเครน โดยยูเครนอ้างว่า รัสเซียทำลายสะพานข้ามแม่น้ำแห่งสุดท้ายของเมืองเซียเวียโรโดเนตสก์ ทำให้ทางออกด้านตะวันออกของเมืองถูกปิดล้อม กระทรวงฯ ระบุด้วยว่า นักรบยูเครนจงใจพาพลเรือนเข้าไปในโรงงานอาซอตแล้วใช้เป็นโล่มนุษย์.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียแจ้งนักรบยูเครนที่หลบภัยอยู่ในโรงงานเคมีของเมืองเซียเวียโรโดเนตสก์ แคว้นลูฮันสก์ ทางตะวันออกของยูเครน ให้ยอมวางอาวุธภายในเช้าวันพุธ ตามเวลาท้องถิ่น

เคียฟ 12 มิ.ย.- ยูเครนยืนยันว่า ยังคงสามารถควบคุมพื้นที่อุตสาหกรรมและโรงงานเคมีในเมืองเซียเวียโรโดเนตสก์ ทางตะวันออกของประเทศที่มีพลเรือนหลายร้อยคนหลบภัยสงครามไว้ได้อยู่ หลังจากยอมรับก่อนหน้านี้ว่ากองกำลังรัสเซียยึดเมืองนี้ได้เกือบหมดแล้ว นายเซอร์ฮี ไฮได ผู้ว่าการแคว้นลูฮันสก์แจ้งผ่านแอปพลิเคชันเทเลแกรมว่า ข้อมูลเรื่องโรงงานอาซอต (Azot) ถูกปิดล้อมเป็นเรื่องโกหก กองกำลังยูเครนยังคงยึดฐานที่มั่นในเขตอุตสาหกรรมของเมืองเซียเวียโรโดเนตสก์ และทำลายกองกำลังรัสเซียในเมืองนี้ หลังจากก่อนหน้าเขายอมรับว่า กองกำลังรัสเซียยึดเมืองนี้ได้เกือบหมดแล้ว อีกทั้งยังยิงปืนใหญ่ถล่มโรงงานดังกล่าวจนน้ำมันรั่วไหลและเกิดไฟไหม้ใหญ่ ยูเครนอ้างว่า มีพลเรือนประมาณ 800 คนหลบภัยอยู่ในที่หลบระเบิดใต้ดินของโรงงานอาซอต โดยมีคนงานของโรงงานและชาวเมืองเซียเวียโรโดเนตสก์รวมอยู่ด้วย ขณะที่ตัวแทนแคว้นลูฮันสก์ที่ประกาศแยกตัวจากยูเครนเป็นสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสก์กล่าวว่า ยูเครนอาจใช้พลเรือนเหล่านี้เป็นตัวประกัน ส่วนเมื่อวานนี้กลุ่มแยกดินแดนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียอ้างว่า มีนักรบยูเครนติดอยู่ในโรงงานนี้ประมาณ 300-400 คน เมืองเซียเวียโรโดเนตสก์ในแคว้นลูฮันสก์กลายเป็นศูนย์กลางการสู้รบทางภาคตะวันออกของยูเครน เนื่องจากรัสเซียต้องการยึดภูมิภาคดอนบาสที่เป็นพื้นที่อุตสาหกรรม ภูมิภาคนี้มีแคว้นลูฮันสก์และแคว้นโดเนตสก์เป็น 2 แคว้นใหญ่ที่กลุ่มแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซียยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่มาตั้งแต่ปี 2557 หลังจากรัสเซียผนวกคาบสมุทรไครเมีย ทางตอนใต้ของยูเครน.-สำนักข่าวไทย

โซล 10 มิ.ย.- คนขับรถบรรทุกเกาหลีใต้จะหยุดขนส่งวัตถุดิบสำหรับผลิตชิป เช่นเดียวกับคนขับรถบรรทุกที่จะผละงานประท้วงหน้าโรงงานใหญ่ที่สุดของฮุนได มอเตอร์ เป็นส่วนหนึ่งของการประท้วงน้ำมันแพงที่ดำเนินมาตั้งแต่วันอังคาร ด้านผู้นำเกาหลีใต้ขอให้ใช้กฎหมายแก้ไขความขัดแย้ง สหภาพแรงงานคนขับรถบรรทุกขนส่งสินค้าของเกาหลีใต้เผยว่า คนขับรถบรรทุกจะหยุดการขนส่งวัตถุดิบสำหรับผลิตชิปที่ผลิตในเมืองอุลซาน ทางตอนใต้ของประเทศ สหภาพจะขอให้คนขับที่ไม่ใช่สมาชิกสหภาพหยุดขนส่งสินค้าที่โรงผลิตปิโตรเคมีในเมืองเดียวกันด้วย ขณะเดียวกันคนขับรถบรรทุก 1,000 คนจะเริ่มผละงานประท้วงหน้าโรงงานใหญ่ที่สุดของฮุนได มอเตอร์ ผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ของประเทศ หลังจากโรงงานแห่งนี้ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองอุลซานเช่นเดียวกันมีกำลังผลิตลดลงเหลือร้อยละ 50-60 เมื่อวันพฤหัสบดี เพราะขาดแคลนชิ้นส่วนเนื่องจากคนขับรถบรรทุกประท้วงหยุดขนส่งสินค้า สมาชิกของสหภาพแรงงานคนขับรถบรรทุกขนส่งสินค้าของเกาหลีใต้ราว 8,100 คน คิดเป็นร้อยละ 36 ของสมาชิกทั้งหมด เริ่มผละงานตั้งแต่วันอังคารประท้วงราคาน้ำมันแพง ทำให้กระทบต่อการผลิต การขนส่งสินค้า และเสี่ยงทำให้ห่วงโซ่อุปทานโลกตึงตัวมากยิ่งขึ้นไปอีก หลังจากได้รับผลกระทบอยู่แล้วจากการที่จีนใช้มาตรการจำกัดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และสงครามยูเครน เนื่องจากเกาหลีใต้เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ด้านเซมิคอนดักเตอร์หรือชิป ยานยนต์ แบตเตอรี และเครื่องใช้ไฟฟ้า คนขับรถบรรทุกซึ่งรับจ้างขนส่งสินค้า ไม่ใช่พนักงานบริษัท เรียกร้องขอเพิ่มค่าจ้างขนส่ง และขอให้ขยายมาตรการฉุกเฉินรับประกันค่าระวางสินค้าที่จะหมดอายุในเดือนธันวาคมนี้ รวมทั้งขยายให้ครอบคลุมถึงรถบรรทุกหลากหลายประเภท ไม่ใช่เฉพาะรถบรรทุกตู้สินค้าและรถบรรทุกซีเมนต์เท่านั้น ด้านประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ที่รับตำแหน่งมาได้เพียง 1 เดือนกล่าวในวันนี้ว่า ควรใช้กฎหมายและระเบียบแก้ไขความขัดแย้งด้านแรงงาน รัฐบาลจะวางตัวเป็นกลางในเรื่องนี้ เพราะไม่สมควรที่จะเข้าไปพัวพันกับความขัดแย้งดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

ซูมี 21 มี.ค.- ผู้ว่าการแคว้นซูมี ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครนแจ้งเตือนเช้าวันนี้ว่า โรงงานแห่งหนึ่งที่ถูกรัสเซียยิงโจมตีกำลังมีแอมโมเนียรั่วไหล และปนเปื้อนพื้นที่ในรัศมี 2.5 กิโลเมตรรอบโรงงาน นายดมิโตร ชีวิตสกี ผู้ว่าการแคว้นซูมีโพสต์ในเฟซบุ๊กและเทเลแกรมว่า โรงงานดังกล่าวอยู่ชานเมืองซูมีทางฝั่งตะวันออก ตัวเมืองซูมีที่เป็นเมืองเอกของแคว้นและมีประชากรประมาณ 263,00 คน ไม่น่าจะได้รับผลกระทบเนื่องจากลมพัดลงใต้ ทำให้หมู่บ้านแห่งหนึ่งที่อยู่ใต้ลมกำลังเสี่ยงอันตราย เจ้าหน้าที่ดูแลเหตุฉุกเฉินของโรงงานและสำนักงานบริการเหตุฉุกเฉินของรัฐกำลังดูแลสถานการณ์อยู่ แคว้นซูมีของยูเครนอยู่ใกล้พรมแดนด้านติดกับรัสเซีย ถูกรัสเซียใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศอย่างหนักหน่วงทุกวัน ผู้ว่าการแคว้นเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า เด็กกำพร้า 71 คนได้รับการอพยพไปยังสถานที่ปลอดภัยแล้ว หลังจากต้องหนีการยิงโจมตีของรัสเซียไปหลบอยู่ในชั้นใต้ดินของสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าอยู่นาน 2 สัปดาห์.-สำนักข่าวไทย

ปักกิ่ง 4 ม.ค.- คุณภาพอากาศในกรุงปักกิ่งของจีนได้มาตรฐานของทางการจีนเป็นครั้งแรกในปี 2564 หลังจากทางการดำเนินความพยายามหลายอย่างร่วมกันเพื่อลดการใช้ถ่านหิน ลดการปล่อยก๊าซของยวดยาน และย้ายโรงงานอุตสาหกรรมหนักออกไปนอกเมือง จีนประกาศทำสงครามกับมลพิษทางอากาศตั้งแต่ปี 2557 หลังจากกลุ่มหมอกควันพิษสะสมตัวในกรุงปักกิ่งและหลายเมืองหลายครั้งจนสร้างความไม่พอใจให้แก่สาธารณชน เจ้าหน้าที่กรุงปักกิ่งแถลงวันนี้ว่า ฝุ่นละอองขนาดพีเอ็ม 2.5 ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ มีค่าเฉลี่ยในกรุงปักกิ่งตลอดปี 2564 ที่ 33 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ลดลงร้อยละ 13 จากปี 2563 และเป็นครั้งแรกที่ได้มาตรฐานของทางการจีนที่กำหนดไว้ไม่ให้เกิน 35 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อย่างไรก็ดี ค่าดังกล่าวยังคงสูงเกินเกณฑ์มาตรฐานขององค์การอนามัยโลกที่กำหนดไว้ไม่ให้เกิน 5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรเท่านั้น กรุงปักกิ่งรับปากในปี 2558 ว่า จะใช้โอกาสการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ช่วยขับเคลื่อนการปรับปรุงสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น ตามที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนประกาศจะให้เป็นโอลิมปิกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กรุงปักกิ่งและมณฑลเหอเป่ยที่อยู่รอบกรุงเปลี่ยนการใช้เชื้อเพลิงให้ความร้อนจากถ่านหินมาเป็นก๊าซธรรมชาติที่สะอาดกว่า เพิ่มการปลูกต้นไม้ บังคับใช้มาตรฐานเชื้อเพลิงใหม่กับยานยนต์ บังคับโรงถลุงเหล็กและโรงงานอุตสาหกรรมอื่น ๆ ติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมการปล่อยก๊าซ รวมทั้งย้ายโรงงานออกไปอยู่นอกเมือง.-สำนักข่าวไทย