เอเชีย

โซล 30 มี.ค.- สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างการนับของตนเองว่า ทวีปเอเชียมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เกิน 100 ล้านคนแล้ว และมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากเป็นประวัติการณ์ ส่วนใหญ่เป็นเชื้อไวรัสโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 รอยเตอร์รายงานว่า เอเชียซึ่งมีประชากรครึ่งหนึ่งของทั้งโลก มีผู้ติดเชื้อร้อยละ 21 ของที่มีการรายงานทั่วโลก โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคนในทุก 2 วัน เชื้อไวรัสโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 ที่แพร่ได้ง่ายแต่มีความรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตไม่มากทำให้หลายประเทศในเอเชียมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์มานี้ เช่น เกาหลีใต้ จีน เวียดนาม ข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ผู้ติดเชื้อราวร้อยละ 86 ติดเชื้อสายพันธุ์นี้ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวเนื่องกับโควิดในเอเชียเกิน 1 ล้านคนเมื่อต้นเดือนมีนาคมมาเป็น 1,027,586 คนแล้วจนถึงขณะนี้ ขณะที่วัคซีนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมีประสิทธิภาพต้านทานเชื้อไวรัสสายพันธุ์ย่อย BA.2 ได้น้อยลงเมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่น ๆ ก่อนหน้านี้ และมีผลการศึกษาพบว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโร 2019 สายพันธุ์อื่นสามารถติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนซ้ำได้.-สำนักข่าวไทย

องค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เรียกร้องให้ประเทศในภูมิภาคนี้เพิ่มการใช้มาตรการสาธารณสุขและรักษาระยะห่างทางสังคมต่อไป ควบคู่ไปกับการเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพื่อป้องกันการระบาดระลอกใหม่ เนื่องจากหลายประเทศแจ้งว่า พบเชื้อไวรัสปรับปรุงสายพันธุ์

ฮ่องกง 29 ธ.ค.- เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ในฮ่องกงรวบรวมตารางการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของประเทศต่าง ๆ ในเอเชียว่ามีตั้งแต่ในอีกไม่กี่สัปดาห์ไปจนถึงครึ่งหลังของปีหน้า รายงานระบุว่า ทางการในเอเชียแปซิฟิกกำลังเตรียมการเรื่องฉีดวัคซีนโควิดอย่างระมัดระวัง แม้มีวัคซีนบางขนานพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการทดลองระยะสามและเริ่มฉีดให้ประชาชนแล้วในอังกฤษ สหรัฐ และแคนาดา สำนักงานยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ของญี่ปุ่นย้ำว่า จะต้องรวบรวมข้อมูลชาวญี่ปุ่นด้วย ไม่ใช่พึ่งแต่ผลการทดลองในต่างประเทศเท่านั้น คาดว่าญี่ปุ่นจะยังไม่เริ่มฉีดก่อนปลายเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่นายกรัฐมนตรีสกอต์ มอร์ริสันของออสเตรเลียยืนยันว่า จะไม่รีบเร่งฉีดวัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทค และต้องการดูผลในอังกฤษและสหรัฐก่อน เพราะการฉีดวัคซีนใด ๆ จะต้องมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม ด้านเวียดนามซึ่งมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เพียง 35 คน ประกาศจะให้ความสำคัญกับการควบคุมการระบาดเป็นหลัก แต่ก็ได้ลงทะเบียนซื้อวัคซีนจากรัสเซียและอังกฤษแล้ว สิงคโปร์ ประเทศที่อนุมัติให้ใช้วัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทคเป็นประเทศแรกในเอเชียเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม เพราะผลการทดลองระยะสุดท้ายพบว่าสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ร้อยละ 95 จะเริ่มฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ของศูนย์โรคติดต่อแห่งชาติเป็นกลุ่มแรกในวันที่ 30 ธันวาคม ส่วนไทยประกาศตัวเป็นผู้นำการฉีดวัคซีนในภูมิภาคแม่น้ำโขง เพราะมีใบอนุญาตใช้เทคโนโลยีของออกซ์ฟอร์ด/เอสตราเซนเนกาผลิตวัคซีนจำนวนมากให้แก่ประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่เมียนมา สปป.ลาว และกัมพูชาหวังพึ่งโคแวกซ์ โครงการขององค์การอนามัยโลกในการจัดหาวัคซีนให้ประชากรร้อยละ 20 ในราคาที่ได้รับการอุดหนุนอย่างเต็มที่ รวมไปถึงวัคซีนจากรัสเซียและจีนที่ประเทศพัฒนาแล้วส่วนใหญ่ไม่สั่งซื้อเพราะมองว่าไม่โปร่งใส.-สำนักข่าวไทย

สิงคโปร์ 21 ธ.ค.- รอยเตอร์ระบุว่า หลายประเทศในเอเชียที่เคยควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ได้ดีในช่วงต้นของการระบาดกลับมามีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีกครั้งในขณะนี้ รอยเตอร์ตั้งข้อสังเกตว่า ในขณะที่อังกฤษพบเชื้อไวรัสที่แพร่ได้รวดเร็วขึ้น หลายประเทศในเอเชียที่เคยประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดกลับมามีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ทำให้ต้องการมีล็อกดาวน์ภายใน และเร่งตรวจหาเชื้อขนานใหญ่ รอยเตอร์ยกตัวอย่างประเทศไทยว่า เป็นประเทศแรกนอกจีนที่แจ้งพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตเพียง 60 คน จากประชากรทั้งหมด 70 ล้านคน แต่ในวันนี้แจ้งยืนยันว่า พบผู้ป่วยใหม่ 382 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าว และกำลังเร่งตรวจหาเชื้อขนานใหญ่ ขยายมาตรการจำกัดการเดินทางในประเทศ เป็นการระบาดครั้งเลวร้ายที่สุดจนถึงขณะนี้ โดยมีจุดเริ่มต้นจากตลาดค้ากุ้งในจังหวัดที่เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมอาหารทะเลของประเทศและเป็นถิ่นที่อยู่ของแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก รอยเตอร์เสริมว่า แรงงานต่างด้าวจำนวนมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างสิงคโปร์และมาเลเซียติดเชื้อในหอพักและโรงงาน สะท้อนถึงสภาพความเป็นอยู่และการทำงานไม่ถูกสุขอนามัย แม้ว่าในภาพรวมแล้วสามารถควบคุมการระบาดได้แล้วก็ตาม.-สำนักข่าวไทย

สิงคโปร์ 21 ธ.ค.- หลายประเทศในเอเชียกำลังติดตามอย่างใกล้ชิดเรื่องเชื้อไวรัสที่ทำให้เป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 กลายพันธุ์ในอังกฤษ แต่ยังไม่มีมาตรการยกเลิกเที่ยวบินจากอังกฤษในขณะนี้ สหราชอาณาจักรหรือยูเค (UK) ซึ่งประกอบด้วยอังกฤษ สกอตแลนด์ เวลส์และไอร์แลนด์เหนือแจ้งว่ าไวรัสสายพันธุ์ใหม่แพร่ได้เร็วกว่าสายพันธุ์เดิมร้อยละ 70 ทำให้หลายประเทศในยุโรปและนอกภูมิภาคงดรับผู้เดินทางมาจากยูเค แม้ยังไม่มีข้อมูลมากนักเกี่ยวกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เชื่อว่า วัคซีนที่มีอยู่ในขณะนี้ยังคงมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งพบนอกยูเคแล้วหลายประเทศ แต่ยังไม่มีรายงานพบในเอเชีย เกาหลีใต้แถลงวันนี้ว่า กำลังทบทวนมาตรการใหม่สำหรับเที่ยวบินมาจากยูเค และจะตรวจหาเชื้อซ้ำสองครั้งกับผู้เดินทางมาจากยูเคก่อนปล่อยตัวจากศูนย์กักโรค ปัจจุบันเกาหลีใต้กำหนดให้ผู้เดินทางมาจากทุกประเทศต้องกักตัว 14 วัน ขณะที่เมื่อสัปดาห์ก่อนยอดผู้ป่วยใหม่ในเกาหลีใต้ทะลุวันละ 1,000 คนมาหลายวัน ด้านไต้หวันซึ่งมีมาตรการกักโรค 14 วันกับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศเช่นกันแถลงวานนี้ว่า ยังไม่มีนโยบายระงับเที่ยวบินจากอังกฤษ สื่ออินเดียรายงานว่า คณะกรรมการติดตามสถานการณ์โรคโควิด-19 แพร่ระบาดของรัฐบาลจะประชุมวันนี้เรื่องไวรัสกลายพันธุ์ในอังกฤษ ยูเคเป็นหนึ่งใน 23 ประเทศที่อินเดียจับคู่การเดินทางทางเครื่องบิน อินเดียไม่บังคับกักโรคกับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ หากมีใบรับรองผลตรวจหาเชื้อเป็นลบภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเข้าประเทศ ด้านญี่ปุ่นซึ่งห้ามคนมาจากอังกฤษจะประสานงานกับองค์การอนามัยโลกและนานาชาติเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่.-สำนักข่าวไทย