เมียนมา

กลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติในวันนี้ ซึ่งมีสมาชิกรัฐสภาที่ถูกยุบไป

ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการก่อรัฐประหารในเมียนมาร่วมกัน “ประท้วงด้วยความเงียบ” ในวันนี้ โดยหลายคนอยู่แต่ภายในบ้านเพื่อรำลึกถึงผู้ประชาชนกว่า 700 คนที่เสียชีวิตในระหว่างการประท้วงต่อต้านรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในขณะที่คนอื่น ๆ สวมชุดดำและจัดการเดินขบวนขนาดเล็ก ๆ ในหลายเมืองทั่วเมียนมา

กลุ่มต่อต้านรัฐประหารเมียนมาเผยว่า ตำรวจจับกุมแกนนำคนหนึ่งด้วยการขับรถชนรถจักรยานยนต์ที่เขากำลังนำการชุมนุมอยู่ในเมืองโมนยวา ทางตอนกลางของประเทศในวันนี้

ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษชนสหประชาชาติ เตือนเมียนมา เสี่ยงเกิดสงครามกลางเมืองเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในซีเรีย เรียกร้องนานาชาติช่วยยุติการเข่นฆ่าประชาชน

ผู้ต่อต้านรัฐประหารในเมียนมางดฉลองเทศกาลปีใหม่ตามธรรมเนียมเมียนมา แต่แสดงความท้าทายอย่างเงียบ ๆ และจัดการชุมนุมเล็ก ๆ ทั่วประเทศ

ย่างกุ้ง 12 เม.ย.- ทนายความของนางออง ซาน ซู จี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนเมียนมาที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในขณะนี้เผยว่า ลูกความถูกตั้งข้อหาอาญาเพิ่มในวันนี้ รวมทั้งหมด 6 ข้อหาแล้ว นายมิน มิน โซ เผยกับเอเอฟพีหลังจากนางซู จี ในการต่อศาลในกรุงเนปิดอว์ผ่านระบบวิดีโอในวันนี้ว่า ข้อหาล่าสุดเป็นความผิดตามมาตรา 25 ในกฎหมายจัดการภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เธอเคยถูกตั้งข้อหามาแล้ว ทำให้เธอถูกตั้งข้อหารวมแล้ว 6 ข้อหา เป็นข้อหาในกรุงเนปิดอว์ 5 ข้อหา และในนครย่างกุ้ง 1 ข้อหา นายมิน มิน โซเผยด้วยว่า ซู จี วัย 75 ปี ดูมีสุขภาพแข็งแรงดี นับตั้งแต่ถูกควบคุมตัวในที่พักในกรุงเนปิดอว์ แต่ไม่แน่ใจว่าเธอทราบถึงสถานการณ์ความวุ่นวายในประเทศที่เกิดขึ้นตั้งแต่กองทัพรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์หรือไม่ ก่อนหน้านี้ซู จี ถูกตั้งข้อหานำเข้าวิทยุสื่อสารโดยผิดกฎหมาย ข้อหาละเมิดกฎหมายจัดการภัยพิบัติแห่งชาติจากการฝ่าฝืนระเบียบจำกัดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ข้อหาละเมิดกฎหมายโทรคมนาคม ข้อหาละเมิดประมวลกฎหมายอาญาสมัยอาณานิคมจากการเผยแพร่ข้อความที่ทำให้สาธารณชนหวาดกลัวตกใจ และข้อหารับสินบนเงินสด 600,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว […]

ย่างกุ้ง 11 เม.ย.- คนหนุ่มสาวชาวเมียนมาใช้การส่งจดหมายข่าวใต้ดิน ลอบสื่อสารระหว่างกลุ่มต่าง ๆ รับมือกับการที่ถูกทางการตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและกวาดล้างการรับส่งข้อมูล กลุ่มเน็ตบล็อกส์เผยว่า เมียนมาตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมา 56 วันติดต่อกันแล้ว หลังจากประชาชนแสดงพลังชุมนุมต่อต้านการรัฐประหารที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ และมีคนถูกสังหารแล้วกว่า 700 คน ชายวัย 30 ปีที่ใช้ชื่อปลอมว่าลินน์ ธัน เผยว่า เริ่มส่งจดหมายข่าวใต้ดินโดยตั้งชื่อว่า โมโลตอฟ หวังดึงดูดคนหนุ่มสาวที่เป็นนักเคลื่อนไหวเจนเนอเรชันซี (Gen Z) พวกเขาดาวน์โหลดหรือพิมพ์ออกมาเพื่อส่งต่อไปให้คนในพื้นที่อื่น ๆ จนถึงขณะนี้มีคนอ่านผ่านเฟซบุ๊กแล้วกว่า 30,000 คน นอกจากใช้ชื่อปลอมแล้วเขายังปกปิดใบหน้าด้วยหน้ากากกายฟอกส์เพราะรู้ดีว่า เสี่ยงตกอยู่ในอันตราย สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองเผยว่า มีคนถูกตำรวจและทหารจับกุมไปกว่า 3,000 คน ในจำนวนนี้ 180 คนเป็นคนมีชื่อเสียงที่ถูกออกหมายจับและมีโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี โทษฐานแพร่กระจายการต่อต้านกองทัพ หากเขาเขียนวรรณกรรมปฏิวัติแล้วเผยแพร่แบบนี้จะถูกจำคุกหลายปี แต่การทำหนังสือข่าวหากถูกจับหรือถูกฆ่าก็จะยังมีคนสานต่องานไปเรื่อย ๆ จนกว่าการปฏิวัติจะสำเร็จ ด้านกลุ่มรีพอร์ติงอาเซียนเผยว่า นับตั้งแต่รัฐประหาร เมียนมาจับกุมผู้สื่อข่าวแล้ว 64 คน ในจำนวนนี้ 33 […]

นิวยอร์ก 10 เม.ย.- เอกอัครราชทูตเมียนมาประจำสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) วอนนานาชาติเร่งดำเนินการอย่างจริงจังกับรัฐบาลทหาร ด้านสื่อเมียนมารายงานว่า กลุ่มชาติพันธุ์บุกสังหารตำรวจทางตะวันออกของประเทศ นายจ่อ โม ตุน เอกอัครราชทูตเมียนมาประจำยูเอ็นเรียกร้องต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นหรือยูเอ็นเอสซี (UNSC) เมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า การดำเนินการร่วมกันอย่างจริงจังคือสิ่งที่จำเป็นเร่งด่วนในขณะนี้ เวลามีความสำคัญมากสำหรับชาวเมียนมา ขอได้โปรดดำเนินการทันที เขาขอให้ยูเอ็นดำเนินมาตรการที่เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น เช่น ประกาศเขตห้ามบิน ออกมาตรการคว่ำบาตรอาวุธ ออกมาตรการลงโทษอย่างเจาะจงกับสมาชิกกองทัพและครอบครัว ด้านนายริชาร์ด ฮอร์ซีย์ นักวิเคราะห์อิสระของอินเตอร์เนชันแนลไครซิสกรุ๊ปเตือนยูเอ็นเอสซีว่า เมียนมาใกล้จะเป็นรัฐล้มเหลวแล้ว ชาวเมียนมาส่วนใหญ่ไม่ต้องการการปกครองระบอบทหาร และจะทำทุกทางเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น แต่กองทัพก็ยังคงมุ่งมั่นจะทำตามความต้องการ การกระทำของกองทัพอาจทำให้เมียนมากลายเป็นประเทศที่ไม่สามารถควบคุมได้ เป็นเรื่องน่ากังวลใหญ่หลวงของภูมิภาคและประชาคมโลก ขณะเดียวกันสื่อเมียนมารายงานว่า กลุ่มชาติพันธุ์ที่จับมือกันหลายกลุ่มได้บุกสถานีตำรวจแห่งหนึ่งในรัฐฉาน ทางตะวันออกของประเทศในเช้าวันนี้ มีตำรวจเสียชีวิต 10-14 นาย.-สำนักข่าวไทย

พะโค 10 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวอิรวดีอ้างคนในพื้นที่ว่า กองทัพเมียนมายิงปืน ค. ถล่มผู้ชุมนุมต่อต้านการรัฐประหารในเมืองพะโค เขตพะโค ทางตอนใต้ของประเทศช่วงเช้าตรู่วันศุกร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 20 คน ชาวบ้านในพื้นที่เผยว่า นอกจากปืน ค.แล้ว กองทัพยังยิงกระสุนจริงด้วย มีคนเสียชีวิตกว่า 20 คน บาดเจ็บหลายคน และถูกจับกุมจำนวนหนึ่ง การโจมตีเกิดขึ้นเมื่อเวลา 04:00 น.วันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น กองทัพเปิดฉากยิงปืนอัตโนมัติใส่สิ่งกีดขวางบนถนนที่ผู้ชุมนุมนำกระสอบทรายมาตั้งขวางไว้ เวลานั้นมีแต่ทีมการ์ดเท่านั้น จากนั้นได้บุกค้นตึกพักอาศัย 3 ตึก คลิปบันทึกเหตุการณ์ได้ยินทั้งเสียงปืนและเสียงปืนอัตโนมัติ มีคลิปหนึ่งเห็นทหารสิบกว่านายวิ่งไล่ยิงชายคนหนึ่งที่หลบหนีการจับกุม ชาวบ้านเผยด้วยว่า ได้ยินเสียงอาวุธหนักดังสนั่น 5 ครั้ง มีคนถ่ายภาพส่วนปลายของกระสุนปืน ค.ที่ตกในบริเวณนั้น ด้านกลุ่มภาคประชาสังคมเผยว่า กลุ่มบรรเทาทุกข์ต่าง ๆ ไม่กล้าเข้าไปในพื้นที่เพื่อเก็บศพหรือช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ เพราะทางการขู่จะจับกุม ส่วนที่เมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับสองของเมียนมา กองทัพได้เข้าไปรื้อสิ่งกีดขวางตามถนนหลายจุดในเช้าวันศุกร์เช่นเดียวกัน อิรวดีอ้างสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองว่า นับจนถึงวันพฤหัสบดีมีคนถูกกองทัพสังหารระหว่างกวาดล้างผู้ชุมนุมต่อต้านการรัฐประหารแล้ว 614 คน ในจำนวนนี้รวมถึงชาวบ้านและเด็กที่พลอยถูกกระสุนลูกหลงของทหารด้วย มีคนถูกควบคุมตัวรวมกว่า 2,400 คน ทั้งแกนนำที่มาจากการเลือกตั้ง สมาชิกพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยหรือเอ็นแอลดีของนางออง […]

รัฐบาลทหารเมียนมากล่าววันนี้ว่า การรณรงค์ประท้วงต่อต้านรัฐประหารในเมียนมากำลังลดน้อยลงเรื่อย ๆ เนื่องจากประชาชนต้องการให้เกิดสันติภาพในประเทศ

สหรัฐ 8 เม.ย. – ทวิตเตอร์ ผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียรายใหญ่ของโลก เปิดตัวอีโมจิรูปชานมสำหรับแฮชแท็กมิลค์ทีอัลลิแอนซ์ (#MilkTeaAlliance) หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ พันธมิตรชานม ซึ่งเป็นขบวนการสนับสนุนประชาธิปไตยในโลกออนไลน์ที่แรกเริ่มประกอบด้วยชาวเน็ตของฮ่องกงและไต้หวันที่ใช้ชานมเป็นสัญลักษณ์ในการต่อต้านจีน ก่อนที่จะมีชาวเน็ตของไทยและเมียนมาเข้าร่วมในเวลาต่อมา ทวิตเตอร์ระบุในคำประกาศเปิดตัวอีโมจิรูปชานมสำหรับกลุ่มพันธมิตรชานมที่ได้รับความนิยมในไทย ฮ่องกง และไต้หวันว่า มีผู้ใช้แฮชแท็กพันธมิตรชานมกว่า 11 ล้านครั้งตลอดปีที่ผ่านมา ขณะที่กลุ่มนักเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์ต่างรู้สึกยินดีกับการประกาศใช้อีโมจิแฮชแท็กพันธมิตรชานมที่เป็นรูปแก้วชานมสีขาวบนพื้นหลังสามสี ซึ่งแสดงถึงสีชานมที่แตกต่างกันในไทย ฮ่องกง และไต้หวันในวันครบรอบ 1 ปีของการเคลื่อนไหวดังกล่าว กลุ่มพันธมิตรชานมมีจุดเริ่มต้นจากประเด็นร้อนแรงในทวิตเตอร์ หลังจากที่มีชาวจีนรักชาติกล่าวหานักแสดงวัยรุ่นชาวไทยและแฟนสาวว่า สนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกงและการประกาศอิสรภาพของไต้หวัน ทำให้ชาวเน็ตของทั้งสามฝ่ายตัดสินใจตั้งพันธมิตรชานม เพราะเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมในดินแดนของตน ทั้งนี้ แฮชแท็กพันธมิตรชานมกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ หลังกองทัพเมียนมาก่อเหตุรัฐประหารในเมียนมา จนทำให้ผู้ประท้วงใช้แฮชแท็กดังกล่าวในทวิตเตอร์เพื่อกระตุ้นการสนับสนุนในภูมิภาค ก่อนหน้านี้ ทวิตเตอร์เคยเปิดตัวอีโมจิสำหรับแฮชแท็กมีทู (#MeToo) เพื่อประณามการคุกคามทางเพศ และแฮชแท็กแบล็คไลฟ์สแมตเทอร์ (#BlackLivesMatter) เพื่อต่อต้านการใช้ความรุนแรงต่อคนผิวดำ.-สำนักข่าวไทย