หญิงเมาขับเบนซ์ชนดะ

กรุงเทพฯ 12 ส.ค.-เมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุหญิงคนหนึ่ง เมาแล้วขับรถชนดะ จนผู้ใช้รถใช้ถนนต้องช่วยกันสกัด ขับติดตามให้หยุดรถ แต่เธอใช้เวลาขับชน ขับหนี ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ มูลนิธิเมาไม่ขับ เสนอให้แก้กฎหมาย เมาขับชนคนตายให้มีโทษหนักขึ้นอีก ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าระทึก! สาวซิ่งรถหรู ชนดะข้ามจังหวัด

เมื่อคืนนี้มีเหตุการณ์ตำรวจและประชาชนตามสกัดจับเบนซ์ป้ายแดง ขับรถพุ่งชนดะข้ามจังหวัด ตั้งแต่แยกแครายไปถึงเตาปูน ระทึกเหมือนภาพยนตร์ เมื่อจับกุมได้ พบว่าคนขับเป็นผู้หญิง และเมาถึงขั้นตรวจวัดแอลกอฮอล์สูงถึง 257 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

BIG STORY : ไทม์ไลน์สาวใหญ่เมาแล้วขับ ซิ่งเบนซ์ชนแหลก

ย้อนเหตุการณ์สาวใหญ่ขับเบนซ์ป้ายแดงเมา เฉี่ยวชนรถแล้วหนี ขอโทษก่อเหตุเพราะเครียดธุรกิจถูกอายัดทรัพย์ ล่าสุดถูกดำเนินคดี 4 ข้อหา

BIG STORY : โอกาสสั่งฟ้องคดี “บอส อยู่วิทยา”

กทม. 27 ก.ค. – ทนายความชื่อดังวิเคราะห์โอกาสความเป็นไปได้ในการเพิกถอนคำสั่งเดิม กลับมาสั่งฟ้องคดี “บอส อยู่วิทยา” กรณีเมาขับรถชนตำรวจ สน.ทองหล่อเสียชีวิตแล้วหนี แทบไม่มีทางเป็นไปได้ แนวทางเดียวที่จะพิสูจน์ความจริงได้คือ ครอบครัวผู้ตายต้องลุกขึ้นมาฟ้องคดีเอง กรณีอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องทุกข้อหา “บอส อยู่วิทยา” เมาขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจจราจร สน.ทองหล่อ เสียชีวิต แล้วหนี เมื่อปี 2555 ล่าสุดนายกรัฐมนตรีสั่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งตรวจสอบคดีนี้ตั้งแต่ต้นจนถึงชั้นอัยการ ลั่นไม่ช่วยคนทำผิดกฎหมาย ส่วนอัยการสูงสุดก็ตั้งคณะทำงานตรวจสอบการพิจารณาสั่งไม่ฟ้องคดีดังกล่าวเช่นกัน ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช มองว่าทั้งของคำสั่งนายกรัฐมนตรี และอัยการสูงสูง ทำเพียงการทำเพื่อลดกระแสความไม่พอใจจากสังคมที่รับไม่ได้กับคำสั่งไม่ฟ้อง “บอส อยู่วิทยา” แต่ในทางกฎหมายไม่สามารถจะนำไปสู่การทบทวน ปรับแก้ หรือเพิกถอนกลับคำสั่งเดิมได้โดยเด็ดขาด ทนายอนันต์ชัย บอกอีกว่า มีแนวทางเดียวที่จะพิสูจน์ความจริงในคดีนี้ได้ ผู้เสียหายที่แท้จริง คือครอบครัวของ ด.ต.วิเชียร ต้องฟ้องเป็นคดีขึ้นมาเอง ซึ่งตนพร้อมที่จะเป็นทนายว่าความให้ เพราะว่าคดีนี้เป็นคดีอาญาแผ่นดิน แม้จะมีการชดใช้ค่าเสียหายไปแล้ว 3 ล้านบาท และบันทึกข้อตกลงว่าจะไม่ดำเนินคดีอาญา ก็ไม่มีผล ครอบครัวผู้ตายไม่ควรยอม โดยเฉพาะประเด็นที่โยนให้ ด.ต.วิเชียร […]

จับตา 2 วันอันตราย ตายทะลุก่อนเข้าพรรษา?

คาดการณ์ว่าในช่วงวันหยุดติดต่อกัน 4 วัน ในต้นเดือนนี้ จะเป็นวันปล่อยผีที่สิงห์นักดื่มจะออกมากินเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก หลังเพิ่งคลายล็อกเฟส 5 ให้สถานบันเทิงกลับมาเปิดอีกครั้ง ซึ่งมูลนิธิเมาไม่ขับ คาดมี 2 วันอันตรายทำให้คนเสียชีวิตจากการดื่มแล้วขับจำนวนมาก ขณะที่ผู้ประกอบการสถานบันเทิงยังไม่สามารถประเมินนักดื่มจะกลับมาเที่ยวหรือไม่ เหตุจากวันหยุดยาวส่วนใหญ่คนนิยมเดินทางเที่ยวต่างจังหวัด ติดตามจากรายงาน

ลดตรวจเมาขับช่วงโควิด-19 ระบาด

หลัง ครม. เห็นชอบให้ปิดชั่วคราวสถานที่ซึ่งผู้คนไม่ได้มาชุมนุมเป็นกิจวัตร อันรวมไปถึงสถานบันเทิง สถานบริการ ทางตำรวจเองก็จะลดการตรวจวัดแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ให้น้อยลง เพื่อความสบายใจทั้งผู้ปฏิบัติงานและผู้ขับขี่ เพราะเชื่อว่าสถานการณ์นี้ คงไม่ค่อยมีนักเที่ยวเมาแล้วขับบนท้องถนนมากนัก แต่หากเจอใครที่ออกอาการเมาแล้วขับ ก็ยังมีตำรวจตามด่านต่างๆ พร้อมตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์อยู่เหมือนเดิม ซึ่งในการตรวจวัด มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด 19 ไว้แล้ว ติดตามจากรายงาน

ตร.ปรับเปลี่ยนการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์

กทม.16 มี.ค.- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปรับเปลี่ยนกาตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ หลังหวั่นสุ่มเสี่ยงติดโควิด-19 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร.เปิดเผยกรณีสื่อมวลชนและสังคมโซเชียลมีเดีย ตั้งคำถามถึงมาตรการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดโดยวิธีเป่าลมหายใจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ช่วงเฝ้าระวังและป้องกันการติดเชื้อไวรัส COVID-19 ทำให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังและกังวลในเรื่องการติดเชื้อดังกล่าว จึงอาจทำให้เกิดปัญหาไม่กล้าเป่าลมหายใจผ่านเครื่องตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ตามจุดตรวจ จุดสกัด  ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงไปกำชับและกำกับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจทั่วประเทศ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้กำหนดมาตราการและแนวทางการปฏิบัติในการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดโดยวิธีเป่าลมหายใจ ตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ กำชับให้สวมถุงมือทุกครั้งและล้างมือบ่อย ๆ โดยให้ผู้ถูกตรวจฉีกซองของหลอดเป่าเอง เพื่อให้ผู้ถูกตรวจมั่นใจว่าเป็นหลอดใหม่ ไม่ได้ใช้ซ้ำ และตำรวจจะต้องทำความสะอาดภายนอกตัวเครื่องตรวจด้วยแอลกอฮอล์ 70% ทุกครั้งก่อนและหลังใช้ทุกราย โดยหลังจากตรวจวัดเสร็จแล้ว ให้ทิ้งหลอดเป่าที่ใช้แล้วในภาชนะที่ปิดมิดชิด  รองโฆษก ตร. กล่าวต่อว่า ในการปฎิบัติหน้าที่ตรวจวัดแอลกอฮอลล์ด้วยเครื่องเป่านั้น เจ้าหน้าที่จะสังเกตเฉพาะผู้ขับขี่ที่มีกลิ่นสุราหรือพูดจาลักษณะคล้ายคนเมาสุรา  เจ้าหน้าที่จึงจะขอทำการตรวจสอบโดยเครื่องเป่าแอลกอฮอล์ ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อประชาชนผู้สัญจรผ่านไปมา อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนมั่นใจการใช้เครื่องตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดโดยวิธีเป่าลมหายใจและขอให้ความร่วมมือและเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการปฎิบัติหน้าในการป้องกันความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินต่อผู้ใช้รถใช้ถนนให้เกิดความปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย

มูลนิธิเมาไม่ขับ ยื่น ม.ดัง ลงโทษวินัยอาจารย์เมาแล้วขับ

มูลนิธิเมาไม่ขับ ยื่นจดหมายถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยดัง ขอให้ลงโทษทางวินัย “อาจารย์เมาแล้วขับ” ทำให้ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่บาดเจ็บ เพื่อไม่เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป

น้องช่วยพี่เถียงตำรวจ อาจเจอข้อหาขัดขวางปฏิบัติหน้าที่

สมุทรปราการ 19 ก.พ.-น้องสาวอาจารย์มหาวิทยาลัย มาช่วยเถียงตำรวจกับพี่ ที่ขับรถชนคนเจ็บ 3 ส่อโดนข้อหาหนักฐานขัดขวางปฏิบัติหน้าที่ ส่วนคนพี่หลักฐานชัดเมาแล้วขับ

คุมประพฤติส่งเมาแล้วขับเข้าค่ายปรับพฤติกรรม

พร้อมส่งกลุ่มเมาแล้วขับเข้าค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 3วัน ส่วนกลุ่มเสี่ยง 117ราย ส่งเข้าบำบัดอาการติดสุราเรื้อรัง 4เดือน เตรียมปิดช่องโหว่รับมือสงกรานต์

1 7 8 9 10 11 19
...