กรุงเทพฯ 1 ก.ย. – ตำรวจยึดผลตรวจวัดแอลกอฮอล์ แจ้งข้อหาเมาแล้วขับแพทยศัลยกรรม โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ขับปอร์เช่พุ่งชนท้ายรถยนต์ฮอนด้า ดับ 2 ศพ
จากกรณีเมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา แพทยศัลยกรรม โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ขับรถยนต์ปอร์เช่ป้ายแดงชนท้ายรถยนต์ฮอนด้า บนถนนราชพฤกษ์ ใต้สถานีบีทีเอส บางหว้า ทำให้ผู้โดยสารในรถยนต์ฮอนด้าเสียชีวิต 2 ราย ต่อมาเกิดความสับสนในการรายงานผลการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์
ล่าสุด พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าหลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ในเวลา 06.00 น. ซึ่งใกล้เคียงกับเวลาเกิดเหตุมากที่สุด วัดค่าได้ 80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกว่าปริมาณที่กฎหมายกำหนดในการขับขี่ หลังจากนั้นเวลา 11.00 น. ผู้ขับขี่ได้ขอให้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์อีกครั้ง วัดได้ 44 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ ในการดำเนินคดีแจ้งข้อกล่าวหาจะต้องยึดค่าที่ตรวจวัดได้ครั้งแรก เพราะวัดในเวลาที่ใกล้เคียงกับเวลาเกิดเหตุมากที่สุด ส่วนค่าแอลกอฮอล์ที่ลดลงภายหลังจะถูกนำมาใช้ประกอบการสอบสวนเท่านั้น ดังนั้น ขณะนี้จึงแจ้งข้อกล่าวหาแพทย์คนดังกล่าว ในข้อหาเมาแล้วขับ ส่วนข้อหาอื่นๆ ยังอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบว่ามีความผิดเพิ่มเติมในการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และการขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือไม่
คดีนี้ได้มอบหมายให้รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 เข้ากำกับดูแลการสอบสวนด้วยตนเอง เพื่อให้เกิดความเที่ยงธรรม ปราศจากข้อกังขา.-สำนักข่าวไทย