ขับรถขวางรถพยาบาล

อีกแล้ว! รถยนต์ขับขวางรถพยาบาล ตีไฟขอทางก็แล้ว ไม่ว่าจะขับชิดซ้ายหรือขวา ก็ขับขวางหน้า ตามคลิปคนขับดูเมาและไม่ขอโทษ หรือรู้สึกผิด

จำคุกดาราหนุ่มเมาขับ 3 เดือน ปรับ 1 หมื่น

เหตุวุ่นวายดาราเมาสุราขับรถชนรถคู่กรณี ไม่ยอมให้ตรวจแอลกอฮอล์ แต่ส่งโทรศัพท์ให้ตำรวจคุยกับชายอ้างเป็นพ่อยศ “พลเอก” ขู่ย้ายทั้งโรงพัก สุดท้ายคุมตัวส่งฟ้องศาล ถูกสั่งจำคุก 3 เดือน ปรับ 10,000 บาท

ดาราหนุ่มเมา อ้างลูกนายพล ชนแล้วไม่เป่า

ดาราหนุ่มเมา ขับรถชนคู่กรณี โทรศัพท์หาพ่ออ้างเป็นพลเอก ขู่จะย้ายตำรวจทั้งโรงพัก แม่ขับรถตามมาสมทบข่มขู่นักข่าว ขัดขวางตำรวจไม่ให้จับ สุดท้ายลูกยอมเป่าแอลกอฮอล์ ได้ 196 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

นพ.แท้จริง ยื่นข้อมูลใหม่อาการเมาแล้วขับ คดี “บอส”

เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เข้ายื่นข้อมูลใหม่เกี่ยวกับอาการ “เมาแล้วขับ” ในคดี “วรยุทธ อยู่วิทยา” ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต

หญิงเมาขับเบนซ์ชนดะ

กรุงเทพฯ 12 ส.ค.-เมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุหญิงคนหนึ่ง เมาแล้วขับรถชนดะ จนผู้ใช้รถใช้ถนนต้องช่วยกันสกัด ขับติดตามให้หยุดรถ แต่เธอใช้เวลาขับชน ขับหนี ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ มูลนิธิเมาไม่ขับ เสนอให้แก้กฎหมาย เมาขับชนคนตายให้มีโทษหนักขึ้นอีก ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าระทึก! สาวซิ่งรถหรู ชนดะข้ามจังหวัด

เมื่อคืนนี้มีเหตุการณ์ตำรวจและประชาชนตามสกัดจับเบนซ์ป้ายแดง ขับรถพุ่งชนดะข้ามจังหวัด ตั้งแต่แยกแครายไปถึงเตาปูน ระทึกเหมือนภาพยนตร์ เมื่อจับกุมได้ พบว่าคนขับเป็นผู้หญิง และเมาถึงขั้นตรวจวัดแอลกอฮอล์สูงถึง 257 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

BIG STORY : ไทม์ไลน์สาวใหญ่เมาแล้วขับ ซิ่งเบนซ์ชนแหลก

ย้อนเหตุการณ์สาวใหญ่ขับเบนซ์ป้ายแดงเมา เฉี่ยวชนรถแล้วหนี ขอโทษก่อเหตุเพราะเครียดธุรกิจถูกอายัดทรัพย์ ล่าสุดถูกดำเนินคดี 4 ข้อหา

BIG STORY : โอกาสสั่งฟ้องคดี “บอส อยู่วิทยา”

กทม. 27 ก.ค. – ทนายความชื่อดังวิเคราะห์โอกาสความเป็นไปได้ในการเพิกถอนคำสั่งเดิม กลับมาสั่งฟ้องคดี “บอส อยู่วิทยา” กรณีเมาขับรถชนตำรวจ สน.ทองหล่อเสียชีวิตแล้วหนี แทบไม่มีทางเป็นไปได้ แนวทางเดียวที่จะพิสูจน์ความจริงได้คือ ครอบครัวผู้ตายต้องลุกขึ้นมาฟ้องคดีเอง กรณีอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องทุกข้อหา “บอส อยู่วิทยา” เมาขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจจราจร สน.ทองหล่อ เสียชีวิต แล้วหนี เมื่อปี 2555 ล่าสุดนายกรัฐมนตรีสั่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งตรวจสอบคดีนี้ตั้งแต่ต้นจนถึงชั้นอัยการ ลั่นไม่ช่วยคนทำผิดกฎหมาย ส่วนอัยการสูงสุดก็ตั้งคณะทำงานตรวจสอบการพิจารณาสั่งไม่ฟ้องคดีดังกล่าวเช่นกัน ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช มองว่าทั้งของคำสั่งนายกรัฐมนตรี และอัยการสูงสูง ทำเพียงการทำเพื่อลดกระแสความไม่พอใจจากสังคมที่รับไม่ได้กับคำสั่งไม่ฟ้อง “บอส อยู่วิทยา” แต่ในทางกฎหมายไม่สามารถจะนำไปสู่การทบทวน ปรับแก้ หรือเพิกถอนกลับคำสั่งเดิมได้โดยเด็ดขาด ทนายอนันต์ชัย บอกอีกว่า มีแนวทางเดียวที่จะพิสูจน์ความจริงในคดีนี้ได้ ผู้เสียหายที่แท้จริง คือครอบครัวของ ด.ต.วิเชียร ต้องฟ้องเป็นคดีขึ้นมาเอง ซึ่งตนพร้อมที่จะเป็นทนายว่าความให้ เพราะว่าคดีนี้เป็นคดีอาญาแผ่นดิน แม้จะมีการชดใช้ค่าเสียหายไปแล้ว 3 ล้านบาท และบันทึกข้อตกลงว่าจะไม่ดำเนินคดีอาญา ก็ไม่มีผล ครอบครัวผู้ตายไม่ควรยอม โดยเฉพาะประเด็นที่โยนให้ ด.ต.วิเชียร […]

จับตา 2 วันอันตราย ตายทะลุก่อนเข้าพรรษา?

คาดการณ์ว่าในช่วงวันหยุดติดต่อกัน 4 วัน ในต้นเดือนนี้ จะเป็นวันปล่อยผีที่สิงห์นักดื่มจะออกมากินเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก หลังเพิ่งคลายล็อกเฟส 5 ให้สถานบันเทิงกลับมาเปิดอีกครั้ง ซึ่งมูลนิธิเมาไม่ขับ คาดมี 2 วันอันตรายทำให้คนเสียชีวิตจากการดื่มแล้วขับจำนวนมาก ขณะที่ผู้ประกอบการสถานบันเทิงยังไม่สามารถประเมินนักดื่มจะกลับมาเที่ยวหรือไม่ เหตุจากวันหยุดยาวส่วนใหญ่คนนิยมเดินทางเที่ยวต่างจังหวัด ติดตามจากรายงาน

ลดตรวจเมาขับช่วงโควิด-19 ระบาด

หลัง ครม. เห็นชอบให้ปิดชั่วคราวสถานที่ซึ่งผู้คนไม่ได้มาชุมนุมเป็นกิจวัตร อันรวมไปถึงสถานบันเทิง สถานบริการ ทางตำรวจเองก็จะลดการตรวจวัดแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ให้น้อยลง เพื่อความสบายใจทั้งผู้ปฏิบัติงานและผู้ขับขี่ เพราะเชื่อว่าสถานการณ์นี้ คงไม่ค่อยมีนักเที่ยวเมาแล้วขับบนท้องถนนมากนัก แต่หากเจอใครที่ออกอาการเมาแล้วขับ ก็ยังมีตำรวจตามด่านต่างๆ พร้อมตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์อยู่เหมือนเดิม ซึ่งในการตรวจวัด มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด 19 ไว้แล้ว ติดตามจากรายงาน

ตร.ปรับเปลี่ยนการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์

กทม.16 มี.ค.- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปรับเปลี่ยนกาตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ หลังหวั่นสุ่มเสี่ยงติดโควิด-19 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร.เปิดเผยกรณีสื่อมวลชนและสังคมโซเชียลมีเดีย ตั้งคำถามถึงมาตรการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดโดยวิธีเป่าลมหายใจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ช่วงเฝ้าระวังและป้องกันการติดเชื้อไวรัส COVID-19 ทำให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังและกังวลในเรื่องการติดเชื้อดังกล่าว จึงอาจทำให้เกิดปัญหาไม่กล้าเป่าลมหายใจผ่านเครื่องตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ตามจุดตรวจ จุดสกัด  ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงไปกำชับและกำกับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจทั่วประเทศ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้กำหนดมาตราการและแนวทางการปฏิบัติในการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดโดยวิธีเป่าลมหายใจ ตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ กำชับให้สวมถุงมือทุกครั้งและล้างมือบ่อย ๆ โดยให้ผู้ถูกตรวจฉีกซองของหลอดเป่าเอง เพื่อให้ผู้ถูกตรวจมั่นใจว่าเป็นหลอดใหม่ ไม่ได้ใช้ซ้ำ และตำรวจจะต้องทำความสะอาดภายนอกตัวเครื่องตรวจด้วยแอลกอฮอล์ 70% ทุกครั้งก่อนและหลังใช้ทุกราย โดยหลังจากตรวจวัดเสร็จแล้ว ให้ทิ้งหลอดเป่าที่ใช้แล้วในภาชนะที่ปิดมิดชิด  รองโฆษก ตร. กล่าวต่อว่า ในการปฎิบัติหน้าที่ตรวจวัดแอลกอฮอลล์ด้วยเครื่องเป่านั้น เจ้าหน้าที่จะสังเกตเฉพาะผู้ขับขี่ที่มีกลิ่นสุราหรือพูดจาลักษณะคล้ายคนเมาสุรา  เจ้าหน้าที่จึงจะขอทำการตรวจสอบโดยเครื่องเป่าแอลกอฮอล์ ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อประชาชนผู้สัญจรผ่านไปมา อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนมั่นใจการใช้เครื่องตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดโดยวิธีเป่าลมหายใจและขอให้ความร่วมมือและเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการปฎิบัติหน้าในการป้องกันความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินต่อผู้ใช้รถใช้ถนนให้เกิดความปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย

1 8 9 10 11 12 21
...