เกาหลีใต้จะหาทางลดกระทบจากเหตุปิดธนาคารใหญ่ในสหรัฐ

โซล 12 มี.ค.- กระทรวงคลังเกาหลีใต้จะเพิ่มการเฝ้าติดตามและออกมาตรการรับมืออย่างทันการเพื่อลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นเศรษฐกิจเกาหลีใต้ จากกรณีที่ทางการสหรัฐสั่งปิดธนาคารซิลิคอนวัลลีย์แบงก์หรือเอสวีบี (SVB) เมื่อวันศุกร์ กรณีของเอสวีบีเป็นประเด็นหลักในการประชุมรัฐมนตรีคลังกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านเศรษฐกิจเกาหลีใต้ในวันนี้ กระทรวงคลังออกแถลงการณ์หลังการประชุมว่า ไม่สามารถมองข้ามความเป็นไปได้ที่ตลาดการเงินจะผันผวนและไม่แน่นอนมากยิ่งขึ้น อันเกิดจากวิกฤตสภาพคล่องและการปิดกิจการของเอสวีบี ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เชื่อว่า กรณีนี้จะไม่ลุกลามและจะไม่สร้างความเสียหายให้แก่ระบบการธนาคารและการเงินของสหรัฐ แต่อาจมีผลกระทบต่อตลาดการเงินโลกและท้องถิ่น รวมถึงภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงในยามที่ตลาดโลกยังมีความผันผวนสูง เนื่องจากเศรษฐกิจขนาดใหญ่ใช้มาตรการเข้มงวดทางการเงินอย่างรุนแรง รัฐบาลเกาหลีใต้และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง และดำเนินมาตรการรับมืออย่างทันการหากจำเป็น เพื่อสกัดไม่ให้กระทบต่อเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ กลุ่มการเงินเอสวีบีที่เป็นบริษัทแม่ของธนาคารเอสวีบีก่อตั้งขึ้นในปี 2526 เชี่ยวชาญเรื่องการธนาคารสำหรับสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยี ถือเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดที่ต้องปิดตัวนับจากวิกฤตการเงินโลกปี 2551 แหล่งข่าวเผยว่า สถาบันคุ้มครองเงินฝากรัฐบาลกลางสหรัฐหรือเอฟดีไอซี (FDIC) ที่เข้ายึดเงินฝากทั้งหมดเมื่อวันศุกร์ พยายามหาธนาคารที่พร้อมควบรวมกิจการเอสวีบี แต่ค่อนข้างยาก เนื่องจากเอสวีบีเป็นธนาคารใหญ่อันดับที่ 16 ของสหรัฐ มีสินทรัพย์ทั้งหมด 209,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7.27 ล้านล้านบาท) การปิดกิจการของเอสวีบีเป็นผลจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย จนทำให้พันธบัตรระยะยาวที่เอสวีบีถืออยู่ในช่วงที่ดอกเบี้ยต่ำเกือบศูนย์มีผลตอบแทนต่ำกว่าพันธบัตรระยาวในปัจจุบัน ประกอบกับผู้ฝากเงินที่ส่วนใหญ่เป็นสตาร์ทอัพแห่ถอนเงินเนื่องจากขาดแคลนเงินสนับสนุนจากธุรกิจเงินร่วมลงทุนหรือวีซี (VC) เอสวีบีประกาศเมื่อวันพุธว่า ได้ขายพันธบัตรในราคาขาดทุนและจะออกหุ้นใหม่เพื่อเสริมสภาพคล่อง ทำให้ราคาหุ้นเริ่มดิ่งในวันพฤหัสบดีและถูกระงับการซื้อขายในวันศุกร์ ทางการสหรัฐจึงต้องเข้ามาแทรกแซงและสั่งปิดกิจการให้ไปอยู่ภายใต้การดูแลของเอฟดีไอซี.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐว่างงานน้อยที่สุดในรอบกว่า 53 ปี

วอชิงตัน 4 ก.พ.- อัตราว่างงานในสหรัฐประจำเดือนมกราคมลดลงแตะระดับต่ำที่สุดนับจากปี 2512 สะท้อนถึงตลาดแรงงานที่อยู่ในภาวะตึงตัวอย่างยิ่ง และอาจมีผลต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐที่พยายามต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ กระทรวงแรงงานสหรัฐเผยแพร่รายงานเมื่อวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐว่า เดือนมกราคม 2566 อัตราว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 3.4 ต่ำที่สุดในรอบ 53 ปี 6 เดือน เพราะมีการจ้างงานใหม่นอกภาคการเกษตรถึง 517,000 ตำแหน่ง สูงที่สุดในรอบ 6 เดือน และสูงกว่าอัตราเฉลี่ยรายเดือนในปี 2565 ที่มีการจ้างงานใหม่ 410,000 ตำแหน่ง ขณะที่ปี 2565 ทั้งปีมีการจ้างงานใหม่ 4 ล้าน 8 แสนตำแหน่ง แข็งแกร่งกว่าที่คาดว่าจะมี 4 ล้าน 5 แสนตำแหน่ง และมีค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คิด รอยเตอร์ตั้งข้อสังเกตว่า ตัวเลขเหล่านี้บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐน่าจะไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย สหรัฐมีการจ้างงานแข็งแกร่ง โดยเฉพาะในภาคบริการ แม้ว่ามีการเลิกจ้างจำนวนมากในธุรกิจเทคโนโลยี อสังหาริมทรัพย์ และการเงิน สิ่งนี้อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด (Fed) พิจารณาชะลอการเข้มงวดนโยบายการเงิน และยกเลิกเป้าหมายการขึ้นดอกเบี้ยให้สูงกว่าที่คาดกันว่าจะสูงสุดที่ร้อยละ 5.1 เฟดเพิ่งขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีกร้อยละ 0.25 […]

แบงก์ชาติอังกฤษเตรียมขึ้นดอกเบี้ยสูงสุดในรอบ 14 ปี

ลอนดอน 2 ก.พ.- ธนาคารกลางอังกฤษหรือบีโออี (BoE) เตรียมจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 10 ติดต่อกันในวันนี้ และจะเป็นอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุดในรอบ 14 ปี เพื่อเดินหน้ารับมือกับภาวะเงินเฟ้อสูง นายแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการบีโออีและคณะกรรมการบริหารจะต้องตัดสินใจว่า การขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 จะส่งผลอย่างไรต่อเศรษฐกิจอังกฤษที่ถูกคาดหมายว่า ปีนี้จะเข้าสู่ภาวะถดถอยและย่ำแย่กว่าประเทศอื่น อัตราว่างงานในขณะนี้ใกล้แตะระดับต่ำสุดนับจากปี 2517 แต่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวลงอย่างรวดเร็ว ความเชื่อมั่นผู้บริโภคและธุรกิจอ่อนแอ นอกจากนี้ยังมีการนัดหยุดงานทั่วประเทศซ้ำเติมเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวจากการออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปหรือเบร็กซิต และโรคโควิด-19 ระบาด ดัชนีราคาผู้บริโภคที่เป็นตัวชี้วัดภาวะเงินเฟ้อของอังกฤษทำสถิติสูงที่สุดในรอบ 41 ปีร้อยละ 11.1 ในเดือนตุลาคม 2565 ก่อนลดลงเล็กน้อยเหลือร้อยละ 10.5 ในเดือนธันวาคม 2565 นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่า ในการแถลงข่าวเวลา 12:00 น.วันนี้ตามเวลามาตรฐานสากล ตรงกับเวลา 19:00 น.วันนี้ตามเวลาไทย บีโออีจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกร้อยละ 0.5 เป็นร้อยละ 4 สูงที่สุดนับจากปี 2551 หลังจากธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด (Fed) ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกร้อยละ 0.25 หลังเสร็จสิ้นการประชุมเมื่อวันพุธตามเวลาสหรัฐ ขณะที่ธนาคารกลางยุโรปหรืออีซีบี […]

“สี” ขอประเทศรวยในจี 20 ลดผลกระทบจากขึ้นดอกเบี้ย

นูซา ดัว 15 พ.ย.- ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนขอให้ประเทศร่ำรวยในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่หรือจี 20 (G20) จำกัดผลกระทบจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด (Fed) เตรียมขึ้นดอกเบี้ยอีกเพื่อควบคุมภาวะเงินเฟ้อ ประธานาธิบดีสีกล่าวต่อที่ประชุมสุดยอดจี 20 ซึ่งเปิดการประชุมที่บาหลีของอินโดนีเซียในวันนี้ว่า จี 20 จะต้องจำกัดภาวะเงินเฟ้อโลกและแก้ไขความเสี่ยงทั้งระบบในภาคเศรษฐกิจและภาคการเงิน ประเทศพัฒนาแล้วควรลดผลกระทบภายนอกที่เกิดจากการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน และรักษาเสถียรภาพหนี้ให้อยู่ในระดับที่ยั่งยืน ผู้นำจีนกล่าวเรื่องนี้หลังจากเฟดขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่องจนไปแตะระดับสูงสุดนับจากช่วงก่อนเกิดวิกฤตการเงินโลกปี 2551 ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าที่สุดในรอบ 2 ทศวรรษ สร้างปัญหาให้แก่เศรษฐกิจกำลังพัฒนาที่พึ่งพาการส่งออกเป็นหลักและเศรษฐกิจกำลังพัฒนาที่มีอัตราเงินเฟ้อสูงเช่นเดียวกัน ประธานาธิบดีสียังได้ขอให้จี 20 แสดงความคัดค้านอย่างจริงจังต่อการนำปัญหาอาหารและพลังงานมาเป็นเรื่องทางการเมือง เป็นเครื่องมือ และเป็นอาวุธ พร้อมกับย้ำเรื่องที่เขาคัดค้านมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก รวมทั้งเตือนว่าการขีดเส้นอุดมการณ์และปลุกปั่นความเป็นปรปักษ์กันระหว่างกลุ่มการเมืองมีแต่จะทำให้โลกแตกแยกและเป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้าของมนุษยชาติ.-สำนักข่าวไทย

คาดธนาคารกลางอังกฤษจะขึ้นดอกเบี้ยมากที่สุดในรอบ 33 ปี

ตลาดคาดการณ์อย่างเป็นเอกฉันท์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษหรือบีโออี (BoE) จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 ในการประชุมวันนี้ เป็นการขึ้นมากที่สุดนับจากปี 2532 เพื่อชะลออัตราเงินเฟ้อที่สูงที่สุดในรอบ 40 ปี

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าที่สุดในรอบ 20 ปี

ดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่น ๆ ทะยานขึ้นมาแข็งค่าที่สุดในรอบ 20 ปี ในวันนี้ หลังจากนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด (Fed) ส่งสัญญาณว่าจะคงนโยบายดอกเบี้ยสูงนานขึ้น หวังลดอัตราเงินเฟ้อที่สูงอยู่ในขณะนี้

“เฟด” ขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% หวังควบคุมเงินเฟ้อ

ธนาคารกลางสหรัฐ ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกร้อยละ 0.75 เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่กำลังกระทบการจับจ่ายของครัวเรือนชาวอเมริกัน

บิตคอยน์ร่วงต่ำสุดในรอบ 18 เดือนครั้งใหม่

ลอนดอน 15 มิ.ย.- บิตคอยน์ ซึ่งเป็นคริปโทเคอร์เรนซีใหญ่ที่สุดในโลก ราคาร่วงลงทำสถิติต่ำที่สุดในรอบ 18 เดือนครั้งใหม่ในวันนี้ และดึงราคาคริปโทฯ ที่เล็กกว่าร่วงตามไปด้วย ราคาบิตคอยน์ลดลงมากถึงร้อยละ 7.8 ลงไปทดสอบที่หน่วยละ 20,289 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 711,535 บาท) ในวันนี้ ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 โดยลดลงไปแล้วร้อยละ 28 นับตั้งแต่วันศุกร์ และลดลงกว่าครึ่งนับตั้งแต่ต้นปี แต่หากเทียบกับที่เคยทำสถิติสูงสุดที่หน่วยละ 69,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.42ล้านบาท) เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 ถือว่าลดลงไปแล้วถึงร้อยละ 70 ขณะที่คริปโทฯ ขนาดเล็กกว่าก็มีราคาลดลงตามบิตคอยน์เช่นเดียวกัน อีเธอร์ ซึ่งเป็นคริปโทฯ ใหญ่อันดับ 2 ราคาลดลงมากถึงร้อยละ 12 ลงไปทดสอบที่หน่วยละ 1,045 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 36,648 บาท) ต่ำที่สุดในรอบ 15 เดือนครั้งใหม่ ตลาดคริปโทฯ ถูกกระทบหนักในสัปดาห์นี้ หลังจากเซลเซียส ผู้ให้กู้ยืมคริปโทฯ […]

รมว.คลังสหรัฐยอมรับคิดผิดเรื่องเงินเฟ้อ

วอชิงตัน 1 มิ.ย.- นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐยอมรับว่า ที่ผ่านมาคิดผิดเรื่องทิศทางเงินเฟ้อ ขณะนี้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกเรื่องการควบคุมราคาสินค้าที่สูงขึ้น และสนับสนุนมาตรการของธนาคารกลางหรือเฟด (Fed) ที่จะบรรลุเป้าหมายนี้ นางเยลเลนตอบข้อถามซีเอ็นเอ็น (CNN) เรื่องคิดผิดหรือไม่ที่มองข้ามอันตรายของเงินเฟ้อในถ้อยแถลงที่กล่าวตลอดปีที่ผ่านมาว่า เธอคิดผิดในเวลานั้นเรื่องทิศทางของเงินเฟ้อ เกิดเหตุการณ์เหนือความคาดหมายและรุนแรงหลายอย่างที่ทำให้ราคาอาหารและพลังงานปรับตัวสูงขึ้น และทำให้อุปทานติดขัด ทั้งหมดส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อเศรษฐกิจสหรัฐแต่ในเวลานั้นเธอยังไม่เข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่ง เหตุการณ์เหล่านั้นมีตั้งแต่เรื่องรัสเซียรุกรานยูเครนไปจนถึงเรื่องที่จีนล็อกดาวน์เพื่อจำกัดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 อย่างไรก็ดี แม้อัตราเงินเฟ้อหลักในขณะนี้มีแนวโน้มลดลดลง แต่ราคาน้ำมันยังคงสูงอยู่และสหภาพยุโรปหรืออียู (EU) กำลังร่างแผนห้ามนำเข้าน้ำมันรัสเซีย จึงยังมีโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อไปในอนาคต รัฐมนตรีคลังสหรัฐย้ำว่า ประธานาธิบดีไบเดนให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกเรื่องปัญหาเงินเฟ้อ โดยให้ความเชื่อมั่นอย่างยิ่งและสนับสนุนความเป็นอิสระของเฟดในการดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อ รัฐบาลพยายามเสริมการทำงานของเฟดด้วยการลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับยาตามใบสั่งแพทย์และสาธารณสุข และผลักดันข้อเสนอในสภาเรื่องส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 4 5 22
...