กรุงเทพฯ 26 เม.ย. – สกนช. แจ้งข่าวดีน้ำมันดีเซลมีโอกาสปรับลดราคาจากลิตรละ 32.94 บาท ชี้หากราคาน้ำมันดีเซลในตลาดโลกปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ระบุต้องรอหลังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ในวันที่ 2-3 พ.ค.นี้ก่อน
นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สกนช. กำลังติดตามราคาน้ำมันดีเซลในตลาดโลกอย่างใกล้ชิด เพื่อทบทวนราคาขายปลีกดีเซลที่ปัจจุบันอยู่ที่ 32.94 บาทต่อลิตร หากราคาดีเซลในตลาดโลกปรับตัวลดลงต่อเนื่องมีโอกาสที่จะลดราคาขายปลีกลงได้อีกครั้ง โดยต้องรอหลังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระหว่างวันที่ 2-3 พ.ค.นี้ ซึ่งหลายฝ่ายประเมินว่าจะขยับดอกเบี้ยนโยบายราว 0.25% ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจภาพรวมชะลอตัว และทำให้ความต้องการใช้น้ำมันโลกภาพรวมลดลง ขณะเดียวกันยังมีปัจจัยโอเปกพลัส (Opec+) ลดกำลังการผลิตในเดือน พ.ค.นี้ และจีนมีเศรษฐกิจเติบโตเพิ่มขึ้นจากการเปิดประเทศ และความขัดแย้งในกลุ่มประเทศที่สนับสนุนของฝ่ายรัสเซีย-ยูเครน ที่ล้วนมีผลต่อระดับราคาน้ำมัน
“ณ วันที่ 26 เม.ย. มีการเก็บเงินจากน้ำมันดีเซลเข้ากองทุนน้ำมันฯ 5.74 บาทต่อลิตร หากถามว่าลดราคาดีเซลลงได้ไหมก็ลดลงได้ แต่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาราคามีความผันผวนสูง ทำให้เรายังคงต้องรอดูก่อน โดยเฉพาะปัจจัยสำคัญในช่วงการประชุมเฟด ว่าราคาจะไปในทิศทางใด เพื่อความชัดเจนถึงทิศทาง ซึ่งเราเฝ้าติดตามใกล้ชิดเพื่อบริหาร เพราะกองทุนฯ เองยังคงมีภาระหนี้อยู่ ขณะเดียวกันเราต้องดูแลค่าครองชีพประชาชนด้วย”นายวิศักดิ์กล่าว
นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สกนช. กล่าวถึงกรณีที่พรรคการเมืองเสนอปรับลดราคาดีเซล โดยเฉพาะบางพรรคการเมืองที่จะลดราคาน้ำมันดีเซลลงเหลือ 28 บาทต่อลิตร ว่ายังไม่ทราบรายละเอียดว่าดำเนินการด้วยวิธีใด เบื้องต้นอาจเป็นการถอดภาษีฯ และเว้นเก็บเงินเข้ากองทุนฯ หรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นจะกระทบต่อรายได้กองทุนฯ ที่ยังคงมีภาระหนี้ ดังนั้น สกนช. ได้เตรียมทำแบบจำลองแนวทาง (scenario) การปรับลดราคาดีเซลที่เกี่ยวข้องกับการลดภาษีสรรพสามิตรดีเซลเป็นองค์ประกอบสำคัญ 3 แนวทาง คือ 1.กรณีเก็บภาษีฯ ดีเซลกลับมาเป็นเหมือนเดิม 2.การปรับขึ้นภาษีฯ ดีเซลแบบขั้นบันได และ 3.ลดภาษีฯ ดีเซลเช่นปัจจุบัน โดยจะทำให้การเก็บเงินเข้ากองทุนฯ เป็นอย่างไร และกองทุนฯ จะมีฐานะอย่างไร เพื่อที่จะเสนอให้กับรัฐบาลใหม่พิจารณาแนวทาง
“เตรียมพร้อมข้อมูลทำไว้ให้ซึ่งยึดหลักการ พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันฯ และแผนบริหารวิกฤติน้ำมัน ส่วนภาษีดีเซลฯ ที่ลดลง 5 บาทต่อลิตร จะสิ้นสุดวันที่ 20 ก.ค.นี้ อาจจะไม่ทันรัฐบาลใหม่ คงต้องมาดูว่ารัฐบาลรักษาการจะดำเนินการได้หรือไม่อย่างไร นี่จึงเห็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เราต้องบริหารการเก็บเงินเข้าดีเซลฯ ไว้” นายพรชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย