India Foreign Minister

อินเดียยังเจรจากับสหรัฐเรื่องภาษีที่จะมีผล 27 ส.ค.นี้

มุมไบ 23 ส.ค.- รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดียเปิดเผยว่า การเจรจาการค้ากับสหรัฐยังคงดำเนินอยู่ในขณะนี้ แต่มีสิ่งที่อินเดียต้องปกป้อง ก่อนที่อินเดียจะถูกสหรัฐเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มเติมอีกร้อยละ 25 ในวันที่ 27 สิงหาคมนี้ นายสุพรหมณยัม ชัยศังกระ รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดียกล่าวระหว่างเข้าร่วมงานเสวนาทางเศรษฐกิจของหนังสือพิมพ์อิโคโนมิกไทมส์ที่กรุงนิวเดลีในวันนี้ว่า การเจรจาการค้าสหรัฐยังคงดำเนินอยู่ แต่อินเดียต้องมีความชัดเจนเรื่องสิ่งที่อินเดียต้องปกป้องรักษาไว้ ไม่สามารถยอมให้ได้ หลัก ๆ คือ ผลประโยชน์ของเกษตรกรและผู้ผลิตรายย่อย ส่วนเรื่องที่สหรัฐประกาศเก็บภาษีอินเดียอีกร้อยละ 25 ตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม เพิ่มเติมจากที่เรียกเก็บอยู่แล้วร้อยละ 25 ตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม ด้วยการอ้างเรื่องอินเดียนำเข้าน้ำมันรัสเซียนั้น เขามองว่า เรื่องนี้ถูกทำให้เป็นประเด็นมาใช้เล่นงานอินเดีย เพราะไม่ถูกนำไปใช้กับจีนที่เป็นผู้นำเข้าน้ำมันรัสเซียรายใหญ่ที่สุด หรือกับสหภาพยุโรปหรืออียูที่เป็นผู้นำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลวหรือแอเอ็นจีรัสเซียรายใหญ่ที่สุด รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดียกล่าวด้วยว่า ช่วงปี 2565 โลกตกอยู่ในความตื่นตระหนกเรื่องราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น หลายคนในรัฐบาลสหรัฐขณะนั้นเห็นด้วยหากอินเดียต้องการซื้อน้ำมันรัสเซีย เพราะจะช่วยให้ราคาน้ำมันโลกมีเสถียรภาพ แต่หลังจากเดือนมกราคมปีนี้ รัฐบาลสหรัฐชุดปัจจุบันไม่ได้แจ้งกับอินเดียว่าไม่ให้ซื้อน้ำมันรัสเซีย การเจรจาการค้าอินเดีย-สหรัฐที่ผ่านมาประสบความล้มเหลว เนื่องจากอินเดียไม่ยินยอมเปิดตลาดภาคการเกษตรและผลิตภัณฑ์จากนม ล่าสุดคณะเจรจาของสหรัฐได้ยกเลิกกำหนดการมาเจรจาที่อินเดียวันที่ 25-29 สิงหาคม ทำลายความหวังที่อินเดียจะสามารถต่อรองเพื่อลดหรือเลื่อนการขึ้นภาษีดังกล่าว การค้าทวิภาคีระหว่างสหรัฐที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกกับอินเดียที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 5 ของโลก มีมูลค่ากว่า 190,000 […]

Trump imposes additional 25% tariff on Indian goods

เผยเจรจาการค้าสหรัฐ-อินเดีย ปลายเดือนนี้ถูกยกเลิก

นิวเดลี 17 ส.ค. – แหล่งข่าวเปิดเผยว่า คณะเจรจาการค้าของสหรัฐได้ยกเลิกแผนการเดินทางไปอินเดียช่วงปลายเดือนนี้ ทำให้การเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงการค้าที่อินเดียหวังว่าสหรัฐจะลดอัตราภาษีศุลกากรใหม่ถูกเลื่อนออกไปด้วย เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ดิอินเดียนเอ็กซ์เพรสส์รายงานอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดการเจรจาการค้าสหรัฐ-อินเดียว่า การเจรจาที่เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ หลังจากนายกรัฐมนตรีเนเรนทรา โมดีของอินเดียไปเยือนสหรัฐ ได้ถูกระงับในขณะนี้ เนื่องจากสหรัฐได้ยกเลิกกำหนดการที่คณะเจ้าหน้าที่จะเดินทางจากกรุงวอชิงตัน ดีซี ไปกรุงนิวเดลีในช่วงครึ่งหลังของเดือนสิงหาคมนี้ ก่อนหน้านี้หนังสือพิมพ์แห่งนี้รายงานเมื่อวันที่ 8 สิงหาคมว่า การเดินทางดังกล่าวยังเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน เนื่องจากฝ่ายสหรัฐยังไม่ได้แจ้งอย่างเป็นทางการ ขณะที่รอยเตอร์รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า คณะเจรจาสหรัฐมีกำหนดเยือนอินเดียวันที่ 25-29 สิงหาคม ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ขึ้นภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากอินเดียอีกร้อยละ 25 เพื่อลงโทษที่นำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย จากเดิมที่อินเดียถูกเรียกเก็บอยู่แล้วร้อยละ 25 ทำให้อินเดียถูกขึ้นภาษีรวมร้อยละ 50 มีผลตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม เป็นอัตราเดียวกับที่บราซิลที่ถูกสหรัฐเรียกเก็บ และถือเป็นอัตราสูงที่สุดในโลก การเจรจาการค้าสหรัฐ-อินเดียดำเนินมาแล้ว 5 ครั้ง ทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถตกลงกันได้เรื่องสหรัฐต้องการให้อินเดียเปิดตลาดสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์นม และยุติการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย รอยเตอร์รายงานว่า กระทรวงต่างประเทศอินเดียระบุว่า อินเดียถูกเจาะจงอย่างไม่เป็นธรรมเรื่องซื้อน้ำมันรัสเซีย ทั้งที่สหรัฐและสหภาพยุโรปยังคงซื้อสินค้าจากรัสเซีย นายสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีการคลังสหรัฐเคยเตือนว่า อัตราภาษีศุลกากรทุติยภูมิ (secondary tariff) […]

News of Trump's tariff on India

อินเดียจะซื้อน้ำมันรัสเซียต่อไปไม่หวั่น “ทรัมป์” ขู่

นิวเดลี 3 ส.ค.- แหล่งข่าวในรัฐบาลอินเดียเปิดเผยว่า อินเดียจะเดินหน้าซื้อน้ำมันจากรัสเซียต่อไป แม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐขู่ใช้มาตรการลงโทษ และจะเดินหน้าเจรจาการค้ากับสหรัฐหลังจากถูกสหรัฐเรียกเก็บภาษีร้อยละ 25 ประธานาธิบดีทรัมป์ขู่เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมว่า จะลงโทษอินเดียเพิ่มเติมหากยังซื้อน้ำมันจากรัสเซีย จากนั้นได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมกำหนดใช้อัตราภาษีศุลกากรใหม่กับหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงอินเดียที่จะต้องเสียในอัตราร้อยละ 25 ต่อมาผู้นำสหรัฐกล่าวกับสื่อในวันรุ่งขึ้นว่า ทราบมาว่าอินเดียจะไม่ซื้อน้ำมันจากรัสเซียอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ในสหรัฐรายงานอ้างเจ้าหน้าที่อาวุโสอินเดีย 2 คนเมื่อวันเสาร์ว่า รัฐบาลอินเดียไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายใด ๆ เช่นเดียวกับรอยเตอร์ที่อ้างแหล่งข่าวในรัฐบาลอินเดีย 2 คนว่า ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ อย่างฉับพลัน สัญญาซื้อขายน้ำมันเป็นสัญญาระยะยาว ไม่สามารถหยุดซื้อได้ง่าย ๆ ในชั่วข้ามคืน นอกจากนี้การที่อินเดียซื้อน้ำมันจากรัสเซียยังช่วยคงราคาน้ำมันโลกไม่ให้แพงขึ้นอย่างกะทันหันด้วย ปัจจุบันอินเดียซื้อน้ำมันดิบรัสเซียในราคาต่ำกว่าเพดานราคาที่สหภาพยุโรปหรืออียูกำหนดไว้ตามมาตรการลงโทษรัสเซียเรื่องรุกรานยูเครน อินเดียเป็นประเทศที่นำเข้าและใช้น้ำมันมากเป็นอันดับ 3 ของโลก โดยนำเข้าจากรัสเซียราว 1 ใน 3 ของการใช้งานทั้งหมด เฉพาะช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายนของปีนี้นำเข้าจากรัสเซีย 1.75 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม […]

ผู้นำมาเลเซียว่าอัตราภาษีของสหรัฐจะประกาศในวันศุกร์

กัวลาลัมเปอร์ 31 ก.ค. นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซียกล่าววันนี้หลังจากได้พูดคุยกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐว่า อัตราภาษีของสหรัฐสำหรับสินค้ามาเลเซียจะประกาศในวันศุกร์ มาเลเซียจะต้องเผชิญกับอัตราภาษี 25% สำหรับสินค้าส่งออกไปยังสหรัฐ หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐได้ภายในวันศุกร์นี้ โดยทั้งสองประเทศได้จัดการเจรจาการค้าด้วยกันหลายรอบ และรัฐมนตรีการค้าของมาเลเซียระบุว่ายังมีประเด็นที่ยังตกลงกันไม่ได้อีกหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี นายอันวาร์กล่าวต่อรัฐสภามาเลเซียในวันนี้ว่าเขาได้หารือเรื่องภาษีด้วยสิ่งที่เขาเรียกว่า “จิตวิญญาณและหลักการของการค้าเสรี” ในระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์กับนายทรัมป์ในช่วงเช้าวันพฤหัสบดี ผู้นำมาเลเซียกล่าวว่า หลังจากที่นายทรัมป์ได้รับฟังสิ่งที่เขาอธิบาย นายทรัมป์ก็ตัดสินใจที่จะทบทวนอัตราภาษีที่เรียกเก็บจากมาเลเซีย โดยคาดว่าจะมีการประกาศในวันพรุ่งนี้ แต่เขาก็ยังไม่ได้ให้รายละเอียดใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องอัตราภาษี นายอันวาร์ยังกล่าวด้วยว่านายทรัมป์ยืนยันว่าจะเข้าร่วมการประชุมสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน ที่มาเลเซียในเดือนตุลาคม.-813.-สำนักข่าวไทย

Trump's post on Thai-Cambodia agree on ceasefire

“ทรัมป์” ไฟเขียวเจรจาการค้าไทย -กัมพูชา

เอดินบะระ 29 ก.ค.- ผู้นำสหรัฐแสดงความยินดีที่ไทยและกัมพูชาบรรลุข้อตกลงหยุดยิงทันที และได้สั่งการให้คณะเจรจาการค้าของสหรัฐเริ่มดำเนินการเจรจากับไทยและกัมพูชาอีกครั้ง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ลงในทรูธโซเชียลขณะที่ยังอยู่ในสกอตแลนด์เมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า เขาได้สั่งการให้คณะเจรจาการค้าของสหรัฐกลับมาเจรจากับไทยและกัมพูชาได้อีกครั้ง  หลังจากที่ไทยและกัมพูชาบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกันได้เมื่อวานนี้ จากการเจรจากันที่มาเลเซียซึ่งมีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีที่ขณะนี้ดำรงตำแหน่งประธานหมุนเวียนของอาเซียนเป็นเจ้าภาพและทำหน้าที่เป็นคนกลางในการเจรจา โดยมีทูตสหรัฐและจีนเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย นายทรัมป์ระบุว่า ได้พูดคุยโทรศัพท์กับนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย และนายฮุน มาเน็ต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ขอแจ้งว่าเขาได้สั่งการให้คณะเจรจาสหรัฐเริ่มการเจรจากับไทยและกัมพูชาอีกครั้ง ก่อนหน้านี้นายทรัมป์เคยขู่ไทยและกัมพูชาว่า จะไม่มีการเจรจาการค้าหากยังไม่หยุดยิง ขณะที่ไทยและกัมพูชาถูกสหรัฐตั้งกำแพงภาษีร้อยละ 36 เท่ากัน และสหรัฐยังเป็นตลาดส่งออกอันดับหนึ่งของทั้งไทยและกัมพูชาด้วย นายทรัมป์ได้แสดงความยินดีกับทุกฝ่ายที่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้  นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า การยุติสงครามครั้งนี้สามารถช่วยชีวิตผู้คนได้หลายพันคน ขณะนี้เขาได้ยุติสงครามไปแล้วหลายสงครามในเวลาเพียง 6 เดือน ซึ่งทำให้เขาภาคภูมิใจมากที่ได้เป็นประธานาธิบดีแห่งสันติภาพ ด้านสื่อของกัมพูชารายงานว่า ในการพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างทรัมป์กับฮุน มาเน็ตเมื่อคืนนี้  ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องกันถึงความจำเป็นที่จะต้องมีกลไกติดตามและตรวจสอบที่ชัดเจนเพื่อให้แน่ใจว่ามีการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างครบถ้วนและยั่งยืน ซึ่งในประเด็นนี้ทรัมป์ยืนยันว่าสหรัฐจะเข้าร่วมในการติดตามการหยุดยิงและจะเดินหน้าทำงานต่อไปโดยใช้กลไกที่มาเลเซียจัดตั้งขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าการหยุดยิงจะประสบความสำเร็จ พร้อมกับแสดงความหวังว่าจะมีสันติภาพที่ยั่งยืนระหว่างไทยกับกัมพูชา.-816(814).-สำนักข่าวไทย

Hun Manet speaks with Trump

กัมพูชาพร้อมหยุดยิงหลัง “ทรัมป์“ กดดัน

พนมเปญ 27 ก.ค.- นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ขานรับข้อเสนอผู้นำสหรัฐพร้อมหยุดยิงทันทีโดยไม่มีเงื่อนไขกับไทย ด้านนักวิเคราะห์ชี้สหรัฐอาจถูกมองไม่ดี หากทั้ง 2 ประเทศไม่ได้ข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Manet ว่า เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา เกี่ยวกับความขัดแย้งทางอาวุธในพื้นที่ชายแดนกัมพูชาและไทย นายทรัมป์ได้แสดงความประสงค์ที่จะไม่เห็นสงครามหรือการสู้รบที่จะส่งผลให้เกิดการเสียชีวิตและการบาดเจ็บจำนวนมากทั้งสองฝ่ายทั้งทางทหารและพลเรือน และต้องการให้มีการหยุดยิงและเกิดสันติภาพระหว่างสองประเทศโดยทันที นายกรัฐมนตรีกัมพูชาระบุว่า ได้แจ้งว่ากัมพูชาเห็นด้วยกับคำขอให้มีการหยุดยิงโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไขระหว่างกองทัพทั้งสอง และได้มอบหมายให้นายปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศ ดำเนินงานนี้ต่อไป เพื่อนำหลักการที่ตกลงกันไว้ไปปฏิบัติอย่างรวดเร็ว ซึ่งสามารถยุติการเสียชีวิตและการบาดเจ็บของทหารและพลเรือนทั้งสองฝ่าย ผู้นำกัมพูชาโพสต์ดังกล่าวหลังจากผู้นำสหรัฐโพสต์ผ่านสื่อออนไลน์ Truth Social ของตนเองว่า ได้โทรศัพท์สนทนากับผู้นำไทยและกัมพูชาเพื่อเรียกร้องให้ยุติการสู้รบ และบังเอิญว่าสหรัฐกำลังเจรจาการค้ากับทั้งสองประเทศนี้ ดังนั้นสหรัฐจะไม่ทำข้อตกลงกับประเทศใด หากทั้งสองฝ่ายกำลังสู้รบกันอยู่ จากนนั้นได้โพสต์เพิ่มเติมว่า ผู้นำของกัมพูชาและไทยได้ตกลงที่จะพบกันทันทีเพื่อหาข้อยุติการหยุดยิงโดยเร็ว ซึ่งเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น และสันติภาพอยู่ใกล้แค่เอื้อม เขาตั้งตารอที่จะสรุปข้อตกลงการค้ากับทั้งสองประเทศ อย่างไรก็ดี นายทรัมป์ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการเจรจาหยุดยิงที่เขาระบุว่าทั้งสองประเทศตกลงจะจัดขึ้น เช่นเดียวกับทำเนียบขาวยังไม่ออกมาตอบคำถามเกี่ยวกับกำหนดการและสถานที่สำหรับการเจรจา ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตไทยและสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาในกรุงวอชิงตัน ดีซี ยังไม่แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ นายทรัมป์เข้ามาแสดงบทบาทต่อสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทยกับกัมพูชา ก่อนที่มาตรการภาษีศุลกากรที่สหรัฐประกาศใช้กับทั้ง 2 ประเทศจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ […]

Trump says he is seeking a ceasefire between Thailand, Cambodia

“ทรัมป์” โยงเรื่องการค้ากับหยุดยิงไทย-กัมพูชา

เอดินบะระ 27 ก.ค.-  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ พูดคุยกับผู้นำของทางการไทยและกัมพูชา โดยโยงเรื่องการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐกับเรื่องหยุดยิงของทั้ง 2 ประเทศ ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ในระหว่างการเยือนสกอตแลนด์เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ไทยและกัมพูชา 3 โพสต์ติดต่อกัน โพสต์แรกระบุว่า ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรี มาเนตกัมพูชาและนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษานายกรัฐมนตรีของไทย เรื่องการหยุดยิงและยุติสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ สหรัฐซึ่งกำลังหารือทางการค้ากับทั้ง 2 ประเทศอยู่ในขณะนี้ไม่ต้องการทำข้อตกลงกับประเทศใดประเทศหนึ่งหากยังมีการสู้รบกันอยู่ กัมพูชาจะแสดงท่าทีเรื่องหยุดยิงหลังจากที่เขาได้คำตอบจากไทยในเรื่องนี้ นายทรัมป์ระบุด้วยว่า สถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาทำให้เขานึกถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างปากีสถานกับอินเดียที่ได้รับการยับยั้งเป็นผลสำเร็จ หลังจากนั้นราว 1 ชั่วโมง ประธานาธิบดีทรัมได้โพสต์ข้อความใหม่ว่า ได้สนทนากับรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ฝ่ายไทยต้องการหยุดยิงและสันติภาพเช่นเดียวกับกัมพูชา และหลังจากนั้นไม่นานผู้นำสหรัฐโพสต์ข้อความที่ 3 ว่า เพิ่งเสร็จสิ้นการสนทนากับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและแจ้งเรื่องที่ได้หารือกับทางการไทย ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการหยุดยิงและสันติภาพ และต้องการกลับมาเจรจาทางการค้ากับสหรัฐ โดยตกลงจะพบหารือและหาทางหยุดยิงโดยทันที ด้านนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซีย เปิดเผยกับสื่อที่เมืองปุตราจายาเมื่อวานนี้ว่า จะเดินหน้าผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งยังคงมีการยิงปะทะกันอยู่ เขาได้ขอให้รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซียประสานงานกับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและกัมพูชา และหากเป็นไปได้ เขาจะเข้าไปประสานงานด้วยตัวเองเพื่อหยุดยั้งการสู้รบ รอยเตอร์รายงานว่า กัมพูชาสนับสนุนข้อเสนอของนายอันวาร์ ส่วนไทยระบุว่า เห็นชอบในหลักการ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

อินโดนีเซียเตรียมลดภาษีและอุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษีให้สหรัฐ

วอชิงตัน 23 ก.ค. – อินโดนีเซียตกลงที่จะยกเลิกภาษีสำหรับสินค้าสหรัฐมากกว่าร้อยละ 99 และยกเลิกอุปสรรคการค้าที่ไม่ใช่ภาษีทั้งหมดที่บริษัทอเมริกันต้องเผชิญ ในขณะที่สหรัฐจะลดภาษีที่ขู่จะเรียกเก็บจากสินค้าอินโดนีเซีย ลงเหลือร้อยละ 19 จาก ร้อยละ 32 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ยกย่องข้อตกลงของทั้งสองประเทศดังกล่าว ซึ่งเขาประกาศเรื่องนี้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม โดยโพสต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย “ทรูธ โซเชียล” (Truth Social) โดยเรียกข้อตกลงนี้ว่าเป็นชัยชนะครั้งใหญ่สำหรับผู้ผลิตรถยนต์ บริษัทเทคโนโลยี แรงงาน เกษตรกร ผู้เลี้ยงปศุสัตว์ และบริษัทผู้ผลิตของสหรัฐ รายละเอียดของกรอบข้อตกลงการค้าได้ถูกเปิดเผยในแถลงการณ์ร่วมของทั้งสองประเทศ และเอกสารข้อเท็จจริงที่ออกโดยทำเนียบขาว ทั้งสองฝ่ายระบุว่าผู้เจรจาของทั้งสองประเทศจะสรุปข้อตกลงตัวจริงในสัปดาห์หน้า ข้อตกลงกับอินโดนีเซียเป็นหนึ่งในข้อตกลงไม่กี่ฉบับที่รัฐบาลทรัมป์ได้บรรลุกับประเทศต่างๆ จนถึงขณะนี้ ก่อนถึงกำหนดเส้นตายวันที่ 1 สิงหาคม ที่ภาษีในอัตราสูงขึ้นจะเริ่มมีผลบังคับใช้.-813.-สำนักข่าวไทย

US Treasury Secretary Scott Bessent at World Expo 2025 Osaka

คลังสหรัฐยืนยันจะกระชับสัมพันธ์ญี่ปุ่นต่อไป

โตเกียว 19 ก.ค.- รัฐมนตรีคลังสหรัฐยืนยันประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐจะเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์กับพันธมิตรสำคัญอย่างญี่ปุ่น ด้านญี่ปุ่นซึ่งกำลังหาทางเจรจาการค้ากับสหรัฐอาจถูกกระทบจากสถานการณ์การเมืองในประเทศ นายสกอต เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐกล่าวสุนทรพจน์ฉลองวันชาติสหรัฐที่พาวิลเลียนสหรัฐในงานเวิลด์เอ็กซ์โป 2025 ที่นครโอซากาของญี่ปุ่นในวันนี้ว่า ในช่วงเวลาสำคัญแห่งประวัติศาสตร์นี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ยังคงเดินหน้ากระชับความเป็นพันธมิตรที่สำคัญนี้ เพื่อให้เกิดความรุ่งเรืองร่วมกันที่เป็นประโยชน์ทั้งต่อชาวอเมริกันและชาวญี่ปุ่น และว่าญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรที่สำคัญที่สุดของสหรัฐในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ส่วนเมื่อวานนี้นายเบสเซนต์ได้กล่าวระหว่างพบกับนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะของญี่ปุ่นเป็นเวลา 30 นาที ว่า เขาเชื่อว่าทั้ง 2 ประเทศจะสามารถบรรลุข้อตกลงที่ดีในการเจรจาเรื่องภาษีศุลกากรที่กำลังดำเนินอยู่ หลังจากผู้นำสหรัฐกล่าวเป็นนัยว่า ยากจะบรรลุข้อตกลงการค้ากับญี่ปุ่นได้ก่อนวันที่ 1 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่สหรัฐจะเริ่มเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 กับสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่น การเยือนของรัฐมนตรีคลังสหรัฐเกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลเสียงข้างน้อยของนายอิชิบะเสี่ยงจะเผชิญอุปสรรคครั้งใหม่ในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ เนื่องจากผลการเลือกตั้งอาจส่งผลกระทบต่อการเจรจาการค้ากับสหรัฐ หนังสือพิมพ์ไมนิจิของญี่ปุ่นรายงานเมื่อวานนี้ว่า นายเรียวเซ อาคาซาวะ หัวหน้าคณะเจรจาของญี่ปุ่นเตรียมตัวเดินทางไปสหรัฐในสัปดาห์หน้าเพื่อเจรจารอบล่าสุดกับนายเบสเซนต์และนายฮาวเวิร์ด ลัตนิก รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ญี่ปุ่นประกาศยืนหยัดปกป้องผลประโยชน์ของชาติ

โตเกียว 2 ก.ค. – นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่น กล่าววันนี้ว่า เขามุ่งมั่นที่จะปกป้องผลประโยชน์ของชาติอย่างเต็มที่ ในขณะที่การเจรจาการค้ากับสหรัฐยังคงเผชิญอุปสรรคและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐขู่ว่าจะปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าจาก ญี่ปุ่นให้สูงขึ้นไปอีก นายอิชิบะกล่าวว่า ญี่ปุ่นแตกต่างจากประเทศอื่น เพราะเป็นประเทศผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐและสร้างงานจำนวนมาก และด้วยจุดยืนหลักของญี่ปุ่นที่เน้นการลงทุนมากกว่าภาษี รัฐบาลจึงจะยังคงปกป้องผลประโยชน์ของชาติต่อไป ก่อนหน้านี้นายทรัมป์ได้แสดงความกังขาเมื่อวันอังคารเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะบรรลุข้อตกลงกับญี่ปุ่น โดยส่งสัญญาณว่าเขาอาจเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากญี่ปุ่นในอัตราร้อยละ 30 หรือ 35 ซึ่งสูงกว่าอัตราร้อยละ 24 ที่เขาประกาศเมื่อวันที่ 2 เมษายน และได้ชะลอการบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 9 กรกฎาคม ด้านสถานีโทรทัศน์ ทีวีอาซาฮี ของญี่ปุ่น รายงานวันนี้ว่า นายเรียวเซ อาคาซาวะ ผู้เจรจาภาษีของญี่ปุ่น กำลังเตรียมการเยือนสหรัฐเป็นครั้งที่แปดเพื่อเจรจาการค้า ซึ่งอาจเป็นในช่วงสุดสัปดาห์นี้เป็นอย่างเร็วที่สุด.-813.-สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่นยืนยันไม่ยอมเสียสละภาคเกษตรในข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ

โตเกียว 1 ก.ค. – นายโยชิมาสะ ฮายาชิ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น แถลงวันนี้ว่า ญี่ปุ่นจะไม่ยอมเสียสละภาคเกษตร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาภาษีกับสหรัฐ แม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐจะร้องเรียนว่าพันธมิตรอย่างญี่ปุ่นไม่ได้นำเข้าข้าวจากสหรัฐ นายทรัมป์เขียนข้อความบนโซเชียลมีเดียว่า การที่ญี่ปุ่นไม่เต็มใจที่จะนำเข้าข้าวที่ปลูกในอเมริกา เป็นสัญญาณว่านานาประเทศได้กลายเป็นประเทศที่ได้รับประโยชน์จากสหรัฐมากเกินไปจนเคยชิน นายฮายาชิปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นโดยตรงเกี่ยวกับโพสต์ดังกล่าวของนายทรัมป์ แต่กล่าวว่ารัฐบาลจะยังคงเดินหน้าเจรจาการค้ากับสหรัฐเพื่อบรรลุข้อตกลงที่จะทำให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดของประเทศญี่ปุ่น ญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ราคาข้าวเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสภาพอากาศที่ส่งผลให้การเก็บเกี่ยวในปี 2023 ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพต่ำ ทำให้เกิดการขาดแคลนข้าวเมื่อปีที่แล้ว และเพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาราคาข้าว รัฐบาลญี่ปุ่นได้ระบายข้าวสำรองฉุกเฉินเกือบทั้งหมดออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา

Canadian Prime Minister Mark Carney

แคนาดาล้มเลิก “ภาษีบริการดิจิทัล” แล้ว

ออตตาวา 30 มิ.ย.- แคนาดาล้มเลิกการเก็บภาษีบริการดิจิทัลแล้วเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะมีผลบังคับใช้ในวันนี้ หวังให้การเจรจาการค้ากับสหรัฐที่ชะงักงันสามารถเดินหน้าต่อได้ กระทรวงคลังแคนาดาออกแถลงการณ์ว่า นายกรัฐมนตรีมาร์ก คาร์นีย์ของแคนาดาและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐจะเปิดการเจรจากันอีกครั้ง เพื่อหาทางบรรลุข้อตกลงให้ได้ภายในวันที่ 21 กรกฎาคม ส่วนการเก็บภาษีบริการดิจิทัลที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายนจะถูกระงับไว้ นายฟรองซัวส์-ฟีลิป ชองเปญ รัฐมนตรีคลังแคนาดาจะเสนอร่างกฎหมายเพื่อเพิกถอนกฎหมายภาษีบริการดิจิทัลต่อไป แถลงการณ์ระบุด้วยว่า แคนาดาประกาศใช้กฎหมายภาษีบริการดิจิทัลในปี 2563 เนื่องจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่หลายแห่งที่ทำธุรกิจในแคนาดาอาจไม่ได้ชำระภาษีรายได้ที่ได้จากผู้ใช้งานในแคนาดา และขอยืนยันว่า แคนาดาต้องการให้มีข้อตกลงพหุภาคีเรื่องการเก็บภาษีบริการดิจิทัล เดิมแคนาดาจะเก็บภาษีดังกล่าวในอัตราร้อยละ 3 กับบริษัทที่มีรายได้จากผู้ใช้งานในแคนาดามากกว่า 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (มากกว่า 650 ล้านบาท) ต่อปีปฏิทิน โดยให้มีผลย้อนหลังไปจนถึงปี 2565 ซึ่งจะกระทบบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐ เช่น แอมะซอน, เมตา, กูเกิล และแอปเปิล ประธานาธิบดีทรัมป์ใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างในการประกาศยกเลิกการเจรจาการค้าทั้งหมดกับแคนาดาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-814.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 8
...