เกาหลีใต้

เปียงยาง 30 ก.ค.- ประธานสภาเปรซิเดียม ซึ่งเป็นสภาบริหารสูงสุดของสภาประชาชนสูงสุดเกาหลีเหนือตรวจเยี่ยมเมืองแคซองที่ถูกปิด หลังจากผู้แปรพักตร์ต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสโคโรนาหนีกลับมาจากเกาหลีใต้ สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ (KCNA) ของทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า นายเช รยองแฮ วัย 70 ปี ประธานสภาเปรซิเดียมตรวจเยี่ยมเมืองแคซองและพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อตรวจตรามาตรการป้องกันเชื้อไวรัสที่ทำให้เป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดยได้ย้ำเรื่องการฉีดพ่นฆ่าเชื้อและกักโรคอย่างเคร่งครัด ควบคู่ไปกับการจัดหาอาหารและยาให้แก่ชาวเมืองแคซองอย่างเพียงพอ ด้านหนังสือพิมพ์โรดองซินมุนของพรรคแรงงานเรียกร้องให้ใช้มาตรการป้องกันไวรัสอย่างเคร่งครัด แม้เกาหลีเหนือยังไม่มีผู้ติดเชื้อแม้แต่รายเดียว แต่การไม่ใส่ใจและเฉื่อยชาอาจก่อให้เกิดวิกฤติร้ายแรงเกินที่จะคาดคิดหรือแก้ไขได้ เกาหลีเหนือยังไม่ยืนยันว่า ผู้แปรพักตร์ที่กลับหนีมาจากเกาหลีใต้มีผลตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นบวก แต่เผยว่าเขามีอาการป่วย ขณะที่เกาหลีใต้เผยว่า ชายวัย 24 ปี รายนี้หนีจากเมืองแคซองมาเกาหลีใต้เมื่อปี 2560 และกลับไปเกาหลีเหนือในเดือนนี้ เพราะถูกสอบสวนเรื่องประทุษร้ายทางเพศในเกาหลีใต้ เขาปีนไปตามท่อระบายน้ำแล้วว่ายข้ามแม่น้ำเข้าเมืองแคซอง อย่างไรก็ดี ไม่มีสัญญาณว่าเขาติดเชื้อก่อนหนีกลับ และคนที่ใกล้ชิดกับเขาก็มีผลตรวจเป็นลบ.-สำนักข่าวไทย

โซล 27 ก.ค.- นักวิเคราะห์เชื่อว่า เกาหลีเหนือฉวยโอกาสอ้างเรื่องผู้แปรพักตร์กลับจากเกาหลีใต้โทษว่า โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เข้าประเทศเพราะเกาหลีใต้ หลังจากยืนกรานปฏิเสธมาหลายเดือนว่าไม่พบผู้ติดเชื้อแม้แต่รายเดียว ราเชล ลี อดีตนักวิเคราะห์เรื่องเกาหลีเหนือของรัฐบาลสหรัฐเผยกับเอเอฟพีว่า เกาหลีเหนืออาจพยายามใช้เรื่องผู้แปรพักตร์กลับประเทศมาเบี่ยงเบนการถูกกล่าวโทษเรื่องโรคโควิด -19 ที่ระบาดอยู่แล้วหรือความล้มเหลวในการกักโรคที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยโทษว่าเป็นเพราะเกาหลีใต้หละหลวมเรื่องการตรวจตราพรมแดนหรือจงใจส่งผู้แปรพักตร์ติดเชื้อกลับเข้าไปแพร่เชื้อในเกาหลีเหนือ ขณะที่คิม ดูยอน ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีของอินเตอร์เนชันนัลไครซิสกรุ๊ปมองว่า การโทษว่าเชื้อมาจากเกาหลีใต้ เปิดทางให้เกาหลีเหนือสามารถรับความช่วยเหลือจากเกาหลีใต้ได้อย่างชอบธรรมและเปิดเผย สื่อทางการเกาหลีเหนือรายงานเมื่อวันอาทิตย์ว่า ทางการประกาศปิดเมืองแคซองที่ติดกับเกาหลีใต้ เนื่องจากต้องสงสัยว่าผู้แปรพักตร์ที่ข้ามพรมแดนเขตปลอดทหารมาจากเกาหลีใต้ติดโรคโควิด-19 ขณะที่เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้แจ้งวันนี้ว่า ชายคนดังกล่าวไม่เคยได้รับการยืนยันว่าเป็นผู้ป่วยโรคโควิด-19 หรือใกล้ชิดกับผู้ป่วยในเกาหลีใต้ เอเอฟพีตั้งข้อสังเกตว่า ที่ผ่านมามีผู้แปรพักตร์เกาหลีเหนือหนีกลับประเทศน้อยมาก เพราะจะถูกลงโทษสถานหนัก กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้เผยว่า เท่าที่ทราบมีเพียง 11 คนในช่วง 5 ปีมานี้ เอเอฟพีระบุด้วยว่า การข้ามพรมแดนในเขตปลอดทหารทำได้ยากมากเพราะเต็มไปด้วยทุ่นระเบิดและป้อมยาม กองทัพเกาหลีใต้สันนิษฐานว่า ผู้แปรพักตร์ข้ามไปจากเกาะคังฮวา ปากแม่น้ำฮัน ทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงโซลและใกล้เมืองแคซองในเกาหลีเหนือ สื่อหลายกระแสและกลุ่มผู้แปรพักตร์เผยว่า เขาเป็นชายวัย 24 ปี แปรพักตร์มาเกาหลีใต้ในปี 2560 กำลังต้องคดีข่มขืนในเกาหลีใต้ เชื่อว่าใช้วิธีว่ายน้ำข้ามไปเกาหลีเหนือ.-สำนักข่าวไทย