โซล 15 พ.ย.- เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเกาหลีใต้กำลังพิจารณายกระดับมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม หลังจากยอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นเกินวันละ 200 คนมาสองวันติดกันแล้วในวันนี้ เนื่องจากมีการติดเชื้อแบบเป็นกลุ่มก้อน
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเกาหลีใต้กำลังพิจารณายกระดับการรักษาระยะห่างทางสังคมอีก 1 ระดับ ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 1 ทั่วประเทศจากทั้งหมด 5 ระดับ แต่ทางการท้องถิ่นหลายแห่งได้เพิ่มเป็นระดับ 1.5 แล้วตั้งแต่สัปดาห์ก่อน และใช้มาตรการเข้มงวดขึ้น มาตรการระดับ 1 ให้ประชาชนปฏิบัติตามแนวทางแนะนำ เช่น สวมหน้ากากอนามัย ไม่ควรรวมตัวกันเกิน 500 คน ส่วนมาตรการระดับ 1.5 แนะนำว่าไม่ควรรวมตัวกันเกิน 100 คน แต่ไม่ได้ห้ามอย่างเด็ดขาด
สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีหรือเคดีซีเอ (KDCA) แจ้งว่า วันนี้พบผู้ป่วยใหม่ 208 คน แยกเป็น 176 คนติดเชื้อในประเทศ และ 32 คนเดินทางมาจากเอเชีย สหรัฐ และยุโรป ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมที่ 28,546 คน ยอดผู้ป่วยใหม่เกิน 200 คนต่อเนื่องจากวันเสาร์ที่มีผู้ป่วยใหม่ 205 คน และเกินตัวเลขสามหลักเป็นวันที่แปดติดต่อกัน นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1 คน รวมเป็น 493 คน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระบุว่า ยอดผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นเพราะการติดเชื้อแบบเป็นกลุ่มก้อนจากงานเลี้ยงส่วนตัวและสถานที่สาธารณะ ซึ่งยากต่อการระบุเส้นทางการแพร่เชื้อได้อย่างชัดเจน ส่วนการตรวจหาเชื้อคนในประเทศทำไปแล้วทั้งหมด 2.78 ล้านคน
เกาหลีใต้เกิดการระบาดระลอกแรกปลายเดือนกุมภาพันธ์ ต้นตอมาจากการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนในนิกายแห่งหนึ่งในเมืองแดกู จากนั้นเกิดการระบาดระลอกสองต้นเดือนพฤษภาคมจากย่านสถานบันเทิงในกรุงโซล ตามด้วยการระบาดระลอกสามในเดือนสิงหาคม ต้นตอมาจากนิกายแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของกรุงโซลและการประท้วงต่อต้านรัฐบาลในเวลาเดียวกัน.-สำนักข่าวไทย