จีนนำไวรัสกลายพันธุ์คล้ายโคโรนาทดลองในห้องแล็บ

ทีมนักวิจัยชาวจีนทดลองไวรัสที่คล้ายโคโรนา-2019 แต่ร้ายแรงกว่า อัตราการเสียชีวิตในหนูทดลอง 100 เปอร์เซ็นต์ ท่ามกลางเสียงท้วงติงว่า ไม่ควรนำไวรัสร้ายมาทดลองเพราะเสี่ยงหลุดรอดจากห้องแล็บ

ข่าวกรองสหรัฐเผยไม่มีหลักฐานโควิดเพาะจากห้องแล็บจีน

วอชิงตัน 24 มิ.ย.- หน่วยข่าวกรองสหรัฐเผยว่า ไม่มีหลักฐานว่าเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ถูกสร้างขึ้นจากห้องทดลองปฏิบัติการหรือห้องแล็บของรัฐบาลจีนในเมืองอู่ฮั่น สำนักงานผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐระบุในรายงานที่ถูกปลดจากชั้นความลับและเผยแพร่ได้เมื่อวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐว่า ไม่มีข้อมูลสนับสนุนข้ออ้างเมื่อไม่นานมานี้เรื่องนักวิจัย 3 คนของห้องแล็บเมืองอู่ฮั่นติดโควิด-19 เป็นกลุ่มแรก ๆ และอาจเป็นผู้สร้างไวรัสขึ้นมา แต่มีข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองหลายแห่งที่อยู่ในชุมชนข่าวกรองสหรัฐว่า นักวิจัยบางรายได้ทำพันธุวิศวกรรมกับเชื้อไวรัสที่คล้ายกับเชื้อไวรัสโควิด-19 ห้องแล็บแห่งนี้วิจัยโรคและผลิตวัคซีนโดยร่วมมือกับกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนเพื่อใช้ด้านสาธารณสุข แต่เชื้อไวรัสโคโรนาที่ใช้ในการวิจัยมีความเกี่ยวข้องน้อยมากกับการทำให้เกิดไวรัสโรคโควิด-19 ที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่าซาร์ส คอฟ ทู (SARS-CoV-2) รายงานฉบับนี้ถูกปลดจากชั้นความลับเพื่อนำเสนอต่อรัฐสภาสหรัฐ ตามที่สมาชิกรัฐสภาขอให้ส่งคำชี้แจงที่มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น หลังจากสำนักงานฯ นำเสนอรายงานสรุปในเดือนมีนาคมว่า หน่วยงานข่าวกรองเกือบทั้งหมดประเมินว่า เชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ไม่ได้เกิดจากพันธุวิศวกรรม และไม่ได้ถูกปรับแต่งในห้องแล็บ แต่ไม่ได้ปฏิเสธความเป็นไปได้ว่า ห้องแล็บเมืองอู่ฮั่นอาจกำลังวิจัยเชื้อนี้ในช่วงเวลาดังกล่าว และเชื้ออาจหลุดรอดออกมา.-สำนักข่าวไทย

ไบเดนลงนามร่างกฎหมายให้เปิดเผยข่าวกรองต้นตอโควิด

วอชิงตัน 21 มี.ค.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐลงนามร่างกฎหมายที่กำหนดให้ต้องเปิดเผยข้อมูลข่าวกรองของสหรัฐเรื่องโรคโควิด-19 ระบาดอาจมีความเกี่ยวข้องกับห้องทดลองปฏิบัติการหรือห้องแล็บในเมืองอูฮั่นของจีน ประธานาธิบดีไบเดนแถลงว่า จำเป็นต้องค้นหาลึกลงไปถึงต้นตอของโควิด-19 รวมถึงความเชื่อมโยงกับสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น รัฐบาลจะปฏิบัติตามร่างกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาด้วยการเปิดเผยและแบ่งปันข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่สามารถทำได้เกี่ยวกับต้นตอโควิด ประธานาธิบดีไบเดนเคยกล่าวในปี 2564 หลังจากรับตำแหน่งได้ไม่นานว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานด้านข่าวกรองใช้ทุกวิถีทางสอบสวนเรื่องต้นตอโควิด และจะเปิดเผยให้มากที่สุดโดยไม่เป็นอันตรายต่อความมั่นคงแห่งชาติ เอเอฟพีมองว่า ร่างกฎหมายนี้เป็นความเสี่ยงทางการเมืองต่อไบเดนที่กำลังเจรจากับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนในขณะที่ความสัมพันธ์ร้าวฉาน เพราะจีนยืนกรานปฏิเสธว่าโควิดระบาดทั่วโลกไม่ได้เกิดจากเชื้อไวรัสเล็ดลอดขณะมีการวิจัยที่ห้องแล็บในอู่ฮั่น แต่สมาชิกสภาสหรัฐส่วนใหญ่โดยเฉพาะพรรครีพับลิกันต้องการเดินหน้ากดดันจีน และได้ผ่านร่างกฎหมายในเดือนนี้กำหนดให้ต้องเปิดเผยข้อมูลข่าวกรองของสหรัฐเกี่ยวกับต้นตอโควิด.-สำนักข่าวไทย

จีนโต้สหรัฐเสียความน่าเชื่อที่กล่าวหาว่าโควิดหลุดจากแล็บจีน

ปักกิ่ง 1 มี.ค.- จีนระบุว่า สหรัฐกำลังสร้างความเสียหายให้แก่ความน่าเชื่อถือของสหรัฐเอง หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐชี้ว่า มีความเป็นไปได้มากที่สุดว่าเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 มีต้นตอจากอุบัติเหตุในห้องทดลองปฏิบัติการหรือห้องแล็บในเมืองอู่ฮั่นของจีน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนกล่าวในการแถลงข่าวตามปกติในวันนี้ว่า สหรัฐปลุกปั่นทฤษฎีเรื่องเชื้อไวรัสหลุดรอดจากห้องแล็บขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งจะไม่ทำให้จีนเสียความน่าเชื่อถือ แต่จะทำให้ความน่าเชื่อถือของสหรัฐลดต่ำลงอีก โฆษกย้ำเรื่องที่จีนอ้างมานานและยังไม่มีหลักฐานสนับสนุนว่า เชื้อไวรัสโรคโควิด-19 อาจหลุดรอดออกมาจากห้องแล็บกองทัพของสหรัฐที่ฟอร์ต เดทริก รัฐแมริแลนด์ สหรัฐควรเคารพหลักวิทยาศาสตร์และข้อเท็จจริง ให้ความร่วมมือกับองค์การอนามัยโลกโดยเร็วที่สุด เชิญผู้เชี่ยวชาญสากลไปทำการวิจัยตรวจสอบย้อนกลับในสหรัฐ แล้วแบ่งปันผลการวิจัยนี้กับประชาคมโลก โฆษกจีนตอบโต้ดังกล่าวหลังจากนายคริสโตเฟอร์ เรย์ ผู้อำนวยการสำนักสอบสวนกลางสหรัฐหรือเอฟบีไอ (FBI) ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ว่า เอฟบีไอประเมินมาระยะหนึ่งแล้วว่า มีความเป็นไปได้มากที่สุดว่า ต้นตอของการระบาดเกิดจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นในห้องแล็บของเมืองอู่ฮั่น เขายังได้กล่าวหารัฐบาลจีนว่าพยายามขัดขวางรัฐบาลสหรัฐและประเทศหุ้นส่วนใกล้ชิดที่กำลังหาทางสอบสวนหาสาเหตุของการระบาด.-สำนักข่าวไทย

ผอ.เอฟบีไอ ชี้เป็นไปได้สูงมากที่โควิดหลุดจากห้องแล็บอู่ฮั่น

วอชิงตัน 1 มี.ค.- ผู้อำนวยการสำนักสอบสวนกลางสหรัฐหรือเอฟบีไอ (FBI) เผยว่าเอฟบีไอเชื่อว่ามีความเป็นไปได้มากที่สุดว่า การระบาดของโรคโควิด-19 เกิดจากอุบัติเหตุที่ห้องทดลองปฏิบัติการหรือห้องแล็บในเมืองอู่ฮั่นของจีน นายคริสโตเฟอร์ เรย์ ผอ. เอฟบีไอ ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ว่า เอฟบีไอประเมินมาระยะหนึ่งแล้วว่า มีความเป็นไปได้มากที่สุดว่า ต้นตอของการระบาดเกิดจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นในห้องแล็บของเมืองอู่ฮั่น เขายังได้กล่าวหารัฐบาลจีนว่าพยายามขัดขวางรัฐบาลสหรัฐและประเทศหุ้นส่วนใกล้ชิดที่กำลังหาทางสอบสวนหาสาเหตุของการระบาด ผอ. เอฟบีไอแสดงความเห็นดังกล่าวหลังจากมีรายงานเมื่อไม่กี่วันก่อนว่า กระทรวงพลังงานสหรัฐได้ข้อสรุปว่า การรั่วไหลที่ห้องแล็บจีนน่าจะเป็นสาเหตุที่เป็นไปได้มากที่สุดของโรคโควิด-19 ระบาด แต่หน่วยงานด้านข่าวกรองของสหรัฐหลายหน่วยงานเชื่อว่า เชื้อไวรัสเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ด้านจีนปฏิเสธข้อกล่าวอ้างของสหรัฐว่า เป็นการเคลื่อนไหวเพื่อให้ร้ายจีน ขณะที่แวดวงวิทยาศาสตร์มองว่า การหาต้นตอการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นเรื่องสำคัญ เพื่อป้องกันการระบาดครั้งใหม่ในอนาคต.-สำนักข่าวไทย

“เครื่องจักรสร้างตึกสูง” สร้างเสร็จ 1 ชั้น ในเวลา 4 วัน

อู่ฮั่น, 19 ก.พ. (ซินหัว) — พาชมหนึ่งในเครื่องจักรสร้างตึกระฟ้าของจีนที่สถานที่ก่อสร้างในนครอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยทางตอนกลางของจีน ซึ่งสามารถสร้างโครงสร้าง 1 ชั้นได้ในเวลาประมาณ 4 วัน ปัจจุบันจีนจำเป็นต้องสร้างตึกสูงเพิ่มขึ้นควบคู่กับการขยายตัวของความเป็นเมือง จึงนำไปสู่การคิดค้นเครื่องจักรเทคโนโลยีขั้นสูงหลายรูปแบบ เช่น เครื่องสร้างตึกระฟ้า ซึ่งประยุกต์ใช้สารพัดเทคโนโลยีชั้นนำของโลก เปาเจ๋อติ่ง เจ้าหน้าที่บริษัท ไชน่า สเตต คอนสตรักชัน เอ็นจิเนียริง คอร์เปอเรชัน จำกัด หรือซีเอสซีอีซี กรุ๊ป (CSCEC Group) เผยว่าเครื่องจักรดังกล่าวเป็นแพลตฟอร์มแบบบูรณาการที่มีน้ำหนักเบา ซึ่งทำให้คนงานสามารถทำงานที่โครงสร้างเหล็กด้านบน โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกบางส่วนติดตั้งอยู่บนแพลตฟอร์ม เช่น ห้องน้ำ เครื่องเกลี่ยคอนกรีต ลิฟต์ และอุปกรณ์ดับเพลิง เปาระบุว่าเครื่องจักรสร้างตึกระฟ้าทำให้คนงานมีสถานที่ทำงานที่ปลอดภัยและมั่นคงบนที่สูง โดยสามารถต้านทานพายุไต้ฝุ่นรุนแรงระดับ 10 ขณะความเร็วของงานก่อสร้างที่สนับสนุนโดยเครื่องจักรขนาดยักษ์นี้อาจเพิ่มได้มากกว่าร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับโครงการทั่วไป นอกจากนั้นเปากล่าวว่าเครื่องจักรข้างต้นมีเสาสีแดง 12 ต้นคอยรองรับ ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถการรับน้ำหนักในแนวดิ่ง พร้อมเสริมว่าการสร้างอาคารสูงระฟ้าด้วยเครื่องจักรนี้ค่อนข้างประหยัดค่าใช้จ่าย โดยหลังจากจบงานนี้เราจะส่งมอบให้โครงการถัดไป – สำนักข่าวซินหัว คลิกเพื่ออ่านข่าวภาษาอังกฤษ https://english.news.cn/20230217/14f54f71334342328e3654a25f352f39/c.htmlอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง https://www.xinhuathai.com/vdo/340110_20230219ขอบคุณภาพจาก Xinhua

อู่ฮั่นย้ายงานสร้างอุโมงค์สายไฟ รักษา “ต้นการบูร” อายุ 100 ปี

อู่ฮั่น, 19 ก.พ. (ซินหัว) — นครอู่ฮั่น เมืองเอกของมณฑลหูเป่ยทางตอนกลางของจีน เปลี่ยนเส้นทางการก่อสร้างอุโมงค์ใต้ดินสำหรับวางสายไฟฟ้าใกล้ศูนย์กลางการขนส่งแห่งหนึ่ง เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวมีต้นการบูรเก่าแก่กว่า 100 ปีตั้งตระหง่านกีดขวางอยู่ เดิมทีโครงการนี้มีแผนเคลื่อนย้ายต้นการบูรออกจากพื้นที่ ทว่าอวี๋เทา หัวหน้าโครงการของบริษัท ซีซีซีซี เซกกัน ฮาร์เบอร์ เอ็นจิเนียริง คอมพานี จำกัด (CCCC Second Harbour Engineering Company) ผู้ดำเนินงานสร้างอุโมงค์ ระบุว่าแผนการเดิมอาจทำให้ต้นไม้ตายได้ พวกเขาจึงตัดสินใจปรับเปลี่ยนแผนโดยย้ายอุโมงค์ออกห่างจากต้นไม้กว่า 10 เมตร หวังเหลย บุคลากรด้านเทคนิคของบริษัทฯ เผยว่าแม้การออกแบบใหม่จะเพิ่มต้นทุนโครงการและทำให้อุโมงค์ใต้ดินอยู่ใกล้สะพานลอยกว่าเดิมมาก ซึ่งสร้างความยากลำบากมากขึ้นแก่กระบวนการก่อสร้าง แต่เหล่าคนงานได้ทุ่มเทความพยายามเพื่อเอาชนะความท้าทายต่างๆ และรับประกันว่าต้นไม้โบราณต้นนี้จะไม่ได้รับผลกระทบ ขณะนี้ต้นการบูรดังกล่าวได้รับการยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์ของความตระหนักรู้ที่เพิ่มขึ้นและความสำคัญของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในจีน หลังจากโครงการพลังงานไฟฟ้าสร้างเสร็จสิ้นแล้ว สถานที่ก่อสร้างจะถูกปรับเปลี่ยนเป็นสวนสาธารณะขนาดเล็กที่มีพื้นที่เกือบ 5,000 ตารางเมตร และจะกลายเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของผู้พักอาศัยย่านใกล้เคียง – สำนักข่าวซินหัว คลิกเพื่ออ่านข่าวภาษาอังกฤษ https://english.news.cn/20230216/6e44d1d8e8f74d0890780831b81e83b0/c.htmlอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง https://www.xinhuathai.com/china/339992_20230219ขอบคุณภาพจาก Xinhua

อู่ฮั่นไม่กลัวโควิดแล้ว หลังล็อกดาวน์เมื่อ 3 ปีก่อน

ชาวเมืองอู่ฮั่นของจีนมองอนาคตอย่างมีความหวังและไม่กลัวโรคโควิด-19 อีกต่อไป หลังจากต้องล็อกดาวน์ทั้งเมืองเมื่อ 3 ปีก่อน เมื่อมีเชื้อไวรัสระบาดอย่างปริศนา

ธุรกิจในอู่ฮั่นยังซบเซา แม้ผ่อนปรนนโยบายโควิด

เจ้าของธุรกิจรายเล็กๆ ในเมืองอู่ฮั่นของจีน ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า แม้ทางการผ่อนปรนมาตรการป้องกันโควิด-19 แต่สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ผู้คนยังคงออกมาจับจ่ายซื้อสินค้าน้อยมาก ไม่ว่าจะเป็นตามร้านค้าทั่วไปหรือภัตตาคาร

จีนติดโควิดรายใหม่มากที่สุดนับจากระลอกแรก

เซี่ยงไฮ้ 3 เม.ย.- จีนพบผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รายใหม่ 13,000 คนในวันนี้ มากที่สุดนับจากช่วงรุนแรงสูงสุดของการระบาดระลอกแรกที่เมืองอู่ฮั่นเมื่อกว่า 2 ปีก่อน โดยมีนครเซี่ยงไฮ้เป็นศูนย์กลางการระบาดในขณะนี้ คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนแถลงว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 13,146 คน และไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ถือเป็นยอดติดเชื้อสูงสุดนับจากกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ที่เป็นช่วงรุนแรงที่สุดของการระบาดระลอกแรก นครเซี่ยงไฮ้ที่มีประชากรมากกว่า 28 ล้านคนในปัจจุบันบรรยากาศเงียบเหงาเพราะยังอยู่ระหว่างการใช้มาตรการล็อกดาวน์ ยอดติดเชื้อรายใหม่เกือบร้อยละ 70 ของทั้งประเทศมาจากการตรวจหาเชื้อครั้งใหญ่ในมหานครแห่งนี้ สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า รองนายกรัฐมนตรีซุน ชุนหลานกล่าวหลังตรวจเยี่ยมพื้นที่ ขอให้เจ้าหน้าที่เซี่ยงไฮ้เร่งยับยั้งการแพร่ระบาดอย่างเด็ดขาดและทันที ชาวเซี่ยงไฮ้เริ่มไม่พอใจที่มาตรการล็อกดาวน์มีแนวโน้มจะยืดเยื้อไปอีกหลายวัน จากเดิมที่กำหนดไว้ 4 วัน เพราะทางการเริ่มตรวจหาเชื้อครั้งใหญ่รอบใหม่ หลายครอบครัวเกรงว่า ต้องถูกพรากจากลูกหลานหากตรวจพบเชื้อ ขณะที่อาหารสดเริ่มร่อยหรอ และมาตรการล็อกดาวน์กระทบต่อห่วงโซ่อุปทานที่ครอบคลุมตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการขนส่งสินค้าถึงมือผู้บริโภค.-สำนักข่าวไทย

เมืองอู่ฮั่นของจีนตั้งเป้าพัฒนาเป็นศูนย์กลางด้านอวกาศ

เมืองอู่ฮั่น ซึ่งอยู่ตอนกลางของประเทศจีน ประกาศจะสร้างอุตสาหกรรมด้านอวกาศ มูลค่า 100,000 ล้านหยวน หรือ ประมาณ 522,000 ล้านบาท ภายในปี 2025 และทำให้เมืองอู่ฮั่นเป็น ศูนย์กลางการสร้างดาวเทียมของจีน ดังเช่นหลายเมืองในโลกที่พัฒนาเทคโนโลยีในด้านนี้โดยเฉพาะ

1 2 3 25
...