Japanese Prime Minister Shigeru Ishiba

นายกฯ ญี่ปุ่นจะเยือนมาเลเซีย-อินโดนีเซีย

โตเกียว 27 ธ.ค.- นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะของญี่ปุ่นจะเยือนมาเลเซียและอินโดนีเซียระหว่างวันที่ 9-12 มกราคม เพื่อกระชับความร่วมมือกับทั้ง 2 ประเทศในการทำให้อินโด-แปซิฟิกเป็นภูมิภาคที่ตั้งอยู่บนกฎเกณฑ์ เสรี และเปิดกว้าง โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นแถลงวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีอิชิบะจะพบหารือกับนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซียและประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโตของอินโดนีเซีย โฆษกกล่าวว่า ญี่ปุ่นจำเป็นต้องกระชับความสัมพันธ์กับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ตั้งอยู่ใกล้กับเส้นทางเดินเรือสำคัญและได้รับการจับตามองในฐานะเครื่องยนต์ขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ ญี่ปุ่นหวังว่า การพบหารือจะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในระดับผู้นำ ควบคู่ไปกับการเป็นโอกาสในการเพิ่มพูนความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและความมั่นคงทวิภาคี และตอกย้ำเรื่องความร่วมมือในประเด็นความท้าทายระดับโลกหลากหลายประเด็น นายอิชิบะเดินทางไปร่วมการประชุมระดับพหุภาคีในหลายประเทศ นับตั้งแต่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนตุลาคม แต่ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่ไปเยือนต่างประเทศเพื่อหารือระดับทวิภาคี.-814-สำนักข่าวไทย

กลุ่มควอดรับปากเพิ่มความมั่นคงทางทะเลในอินโด-แปซิฟิก

โตเกียว 29 ก.ค.- รัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่มควอด (Quad) ที่ประกอบด้วยออสเตรเลีย อินเดีย ญี่ปุ่น และสหรัฐให้คำมั่นในวันนี้ว่า จะเสริมสร้างความมั่นคงทางทะเลในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก รัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่มควอดประชุมที่กรุงโตเกียวของญี่ปุ่น โดยได้หารือความริเริ่มหลายประการที่จะคงไว้ซึ่งระเบียบการเดินเรือที่เสรีและเปิดกว้าง รวมถึงการช่วยเหลือประเทศหุ้นส่วนปรับปรุงการตระหนักรู้สถานการณ์ทางทะเลผ่านข้อมูลดาวเทียม การฝึกอบรม และการเสริมสร้างศักยภาพ ที่ประชุมยังได้แสดงความกังวลเรื่องที่ข้อพิพาททางทะเลถูกทำให้เป็นเรื่องทางการทหาร และเรื่องที่มีการเดินเรืออย่างข่มขู่และคุกคามทะเลจีนใต้ กลุ่มควอดแสดงความกังวลดังกล่าว หลังจากหลายเดือนมานี้เรือจีนมีการเผชิญหน้าหลายครั้งกับเรือฟิลิปปินส์ที่ไปส่งเสบียงให้แก่กำลังพลบริเวณแนวหินโสโครกเซคันด์ โทมัส โชล (Second Thomas Shoal) อย่างไรก็ดี ทั้ง 2 ประเทศได้บรรลุข้อตกลงชั่วคราวในเดือนนี้ว่า จะหาทางคลี่คลายความตึงเครียดระหว่างกัน.-814.-สำนักข่าวไทย

4 ชาติจะฝึกซ้อมทางทหารในทะเลจีนใต้

มะนิลา 6 เม.ย.- กองกำลังของสหรัฐ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และฟิลิปปินส์แถลงร่วมกันว่า จะดำเนินกิจกรรมความร่วมมือทางทะเลในวันที่ 7 เมษายน เพื่อสนับสนุนภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้างในช่วงที่จีนเพิ่มการอ้างสิทธิในทะเลจีนใต้ แถลงการณ์ร่วมระบุว่า กิจกรรมนี้จะเสริมสร้างความสามารถในการปฏิบัติการร่วมกันของกองกำลังประเทศที่เข้าร่วมทั้งเรื่องหลักนิยม เทคนิค ยุทธวิธี และระเบียบปฏิบัติ ด้านโฆษกกระทรวงกลาโหมฟิลิปปินส์เผยกับสื่อว่า การฝึกซ้อมทางทะเลเป็นเวลา 1 วัน จะมีกิจกรรมด้านการสื่อสารและการฝึกซ้อมนายยามเดินเรือในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของฟิลิปปินส์ในทะเลจีนใต้ โดยจะมีเรือโจมตีชายฝั่งยูเอสเอสโมบิล (USS Mobile) ของสหรัฐ เรือฟริเกตเอชเอ็มเอเอส วาร์รามุงกา (HMAS Warramunga) ของออสเตรเลีย เรือพิฆาตเจเอส อาเคะโบะโนะ (JS Akebono) ของญี่ปุ่น และเรือรบ 2 ลำของฟิลิปปินส์เข้าร่วมฝึกซ้อม ด้วยการแล่นขึ้นเหนือ โอบล้อมเขตแดนการบัญชาการทางตะวันตกและทางเหนือ สหรัฐ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และฟิลิปปินส์ย้ำจุดยืนเรื่องคำชี้ขาดของศาลอนุญาโตตุลาการเรื่องทะเลจีนใต้ในปี 2559 ถือเป็นที่สิ้นสุดและมีผลผูกพันทางกฎหมาย ศาลอนุญาโตตุลาการระบุว่า จะไม่ชี้ขาดปัญหาว่าด้วยอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนทางบกใด ๆ และจะไม่ปักปันเขตแดนทางทะเลในทะเลจีนใต้ แต่ชี้ขาดว่าการอ้างสิทธิสมัยประวัติศาสตร์ของจีนเหนือพื้นที่ทางทะเลที่อยู่ภายในเส้นประ 9 เส้นของจีน ไม่มีผลทางกฎหมายหากการอ้างนั้นเกินกว่าข้อจำกัดที่นิยามไว้ในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (UNCLOS).-814.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียชี้อาเซียน-อินโดแปซิฟิกเผชิญการคุกคาม

เมลเบิร์น 4 มี.ค.- ออสเตรเลียระบุว่า ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกและอาเซียนกำลังเผชิญกับภัยคุกคามด้านกลาโหมร้ายแรง และเพิ่มเงินสนับสนุนโครงการความมั่นคงทางทะเลกับสมาชิกอาเซียน นางเพนนี หว่อง รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลียกล่าวในวันแรกของการประชุมสุดยอดออสเตรเลีย-อาเซียน สมัยพิเศษที่นครเมลเบิร์นในวันนี้ว่า ทุกคนกำลังเผชิญกับการกระทำที่สั่นคลอนเสถียรภาพ ยั่วยุ และคุกคาม ซึ่งครอบคลุมถึงพฤติกรรมที่ไม่ปลอดภัยทางทะเลและทางอากาศ สิ่งที่เกิดขึ้นในทะเลจีนใต้ ช่องแคบไต้หวัน อนุภูมิภาคแม่น้ำโขง และทั่วอินโด-แปซิฟิกล้วนมีผลกระทบต่อทุกคน นางหว่องซึ่งไม่ได้ระบุชื่อจีนอย่างชัดเจนประกาศว่า ออสเตรเลียได้จัดสรรเงิน 286.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 6,690 ล้านบาท) สนับสนุนโครงการของอาเซียนในหลายด้าน รวมถึงความมั่นคงทางทะเล ในช่วงที่จีนแสดงท่าทีแข็งกร้าวมากขึ้นเรื่องการอ้างสิทธิในทะเลจีนใต้ทับซ้อนกับหลายประเทศในอาเซียน ด้านนายเอ็นรีเก มานาโล รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์กล่าวในการประชุมเดียวกันว่า ทะเลจีนใต้มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ และมีอนาคตที่มีความหวัง ตราบใดที่ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคยืนหยัดว่าจะใช้ความร่วมมือมากกว่าการเผชิญหน้า ฟิลิปปินส์และออสเตรเลียได้ลาดตระเวนทางทะเลและทางอากาศร่วมกันในทะเลจีนใต้เป็นครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ หารือประธานคณะมนตรียุโรป

นายกฯ หารือประธานคณะมนตรียุโรป ส่งเสริมความร่วมมือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน สิ่งแวดล้อม ความมั่นคง รวมทั้งความร่วมมือในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก

แคนาดาเปิดยุทธศาสตร์เอเชีย-แปซิฟิกมุ่งเป้าไปที่จีน

ออตตาวา 28 พ.ย.- แคนาดาเปิดตัวยุทธศาสตร์เศรษฐกิจและการทูตใหม่สำหรับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ด้วยการมุ่งเป้าหมายไปที่การบรรเทาความเสี่ยงที่เกิดจากการจีน นางเมลานี โจลี รัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดาแถลงเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นว่า รัฐบาลกำหนดยุทธศาสตร์โดยมีสาระสำคัญ 5 ประการคือ การส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพด้วยการส่งเรือรบไปเยือน, การส่งเสริมการค้าและการลงทุน, การส่งเสริมความช่วยเหลือด้านสิทธิสตรีสากล, การให้เงินสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน และการเพิ่มบทบาททางการทูต โดยจะจัดสรรเงิน 2,300 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 61,400 ล้านบาท) เป็นเวลา 5 ปีให้แก่แผนมุ่งบรรเทาความเสี่ยงที่เกิดจากจีน นางโจลีระบุว่า อนาคตของอินโด-แปซิฟิกคืออนาคตของแคนาดา แคนาดามีส่วนในการกำหนดอนาคตดังกล่าว จึงต้องการเป็นหุ้นส่วนที่แท้จริงและเชื่อถือได้ ยุทธศาสตร์ใหม่เป็นการส่งสารชัดเจนไปยังภูมิภาคนี้ว่า สามารถเชื่อใจแคนาดาได้ว่าจะอยู่เคียงข้าง รัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดายังได้ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ในประเทศว่า แคนาดาตั้งใจส่งสารไปถึงจีนเป็นการเฉพาะเจาะจง เพราะขณะนี้จีนไม่เคารพบรรทัดฐานสากล และพยายามเปลี่ยนแปลงหรือตีความบรรทัดฐานสากลให้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของจีน รัฐบาลแคนาดาจะไม่ไปไกลถึงขั้นแนะนำบริษัทแคนาดาว่าไม่ควรทำธุรกิจในจีน แต่จะอธิบายว่ามีความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่จะทำธุรกิจในจีน ความสัมพันธ์แคนาดากับจีนเสื่อมถอยลงอย่างหนัก ตั้งแต่แคนาดาควบคุมตัวผู้บริหารซึ่งเป็นบุตรสาวของหัวเว่ย เทคโนโลยี บริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนเมื่อปลายปี 2561 โดยอ้างว่าฝ่าฝืนมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐ ต่อมาจีนได้ควบคุมตัวพลเมืองแคนาดา 2 คนเป็นการตอบโต้ ทั้งสองฝ่ายเจรจากันอย่างยาวนานจนกระทั่งมีการปล่อยตัวแลกเปลี่ยนกัน ล่าสุดมีการเผยแพร่คลิปบันทึกภาพประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนตำหนินายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดของแคนาดาขณะร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่หรือ จี 20 ที่อินโดนีเซียเมื่อกลางเดือนนี้.-สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่นประกาศเพิ่มบทบาทในอินโด-แปซิฟิก

รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น ประกาศเพิ่มบทบาทของญี่ปุ่นในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ในฐานะพันธมิตรสำคัญของสหรัฐ หลังความร่วมมือทางทหารระหว่างรัสเซีย-จีน กำลังเป็นที่กังวลต่อภูมิภาคนี้

รมว.ต่างประเทศสหรัฐชมไทยช่วยสหรัฐกลับเข้ามาในภูมิภาค

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวชมไทยที่มีบทบาทช่วยให้สหรัฐกลับมาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นสถานที่แข่งขันสำคัญระหว่างสหรัฐกับจีน

“ไบเดน” เปิดตัวกรอบเศรษฐกิจ 13 ประเทศที่มีไทยรวมอยู่ด้วย

โตเกียว 23 พ.ค.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐเปิดตัวกรอบเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิกเพื่อความรุ่งเรือง (Indo-Pacific Economic Framework for Prosperity หรือ IPEF) โดยให้สมาชิก 13 ประเทศที่มีไทยรวมอยู่ด้วยเป็นผู้ตัดสินใจเรื่องแนวทางการปฏิบัติตามข้อตกลง และเรื่องจะให้จีนเข้าร่วมกลุ่มด้วยหรือไม่ ประธานาธิบดีไบเดนเปิดตัวเรื่องนี้ที่กรุงโตเกียวของญี่ปุ่นในวันนี้ ซึ่งเป็นการเยือนเอเชียครั้งแรกตั้งแต่รับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม 2564 ทำเนียบขาวสหรัฐแถลงว่า กรอบเศรษฐกิจนี้จะไม่มีเรื่องการช่วยเหลือด้านภาษีหรือการเข้าถึงตลาด แต่จะปูทางไปสู่ประเด็นสำคัญตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไปจนถึงความยืดหยุ่นด้านห่วงโซ่อุปทานและการค้าดิจิทัล นางจินา เรมอนโด รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐกล่าวว่า การเปิดตัวเรื่องนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของสหรัฐที่จะกลับมาเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และให้ประเทศในภูมิภาคนี้มีทางเลือกในประเด็นสำคัญเหล่านี้ นอกเหนือไปจากแนวทางแบบจีน คณะเจ้าหน้าที่สหรัฐเผยว่า ประธานาธิบดีไบเดนต้องการให้ข้อตกลงนี้ช่วยยกระดับมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม แรงงาน และอื่น ๆ ทั่วเอเชีย อย่างไรก็ดี เนื้อหาข้อตกลงจะต้องเป็นการเจรจาระหว่างประเทศที่เข้าร่วมในเบื้องต้นทั้งหมด 13 ประเทศประกอบด้วย ออสเตรเลีย บรูไน อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย เวียดนามและสหรัฐ ประเทศเหล่านี้ต้องเจรจากันเรื่องประเด็นที่ต้องการสร้างมาตรฐาน วิธีการปฏิบัติ การต้องขอสัตยาบันจากรัฐสภาในประเทศหรือไม่ และการพิจารณารับสมาชิกใหม่ในอนาคต […]

ผู้นำญี่ปุ่น-สหรัฐจะหารือเรื่องความมั่นคง

ผู้นำญี่ปุ่นและสหรัฐจะหยิบยกเรื่องความพยายามต้านทานการแผ่ขยายอิทธิพลของจีนที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ การพัฒนาขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ

รมต. ญี่ปุ่น-ฝรั่งเศสหารือกระชับความร่วมมืออินโด-แปซิฟิก

โตเกียว 20 ม.ค. – รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่นกับฝรั่งเศสจะหารือร่วมกันในประเด็นเกี่ยวกับความร่วมมือด้านความมั่นคงในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกในวันนี้ ในขณะที่ภูมิภาคดังกล่าวกำลังเผชิญกับการขยายอำนาจทางทหารที่เพิ่มขึ้นของจีนและการพัฒนาขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นเผยว่า นายโยชิมาสะ ฮายาชิ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่น และนายโนบุโอะ คิชิ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น จะจัดประชุมแบบเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ในวันนี้ร่วมกับนายฌอง อีฟว์ เลอ ดริยอง รัฐมนตรีกระทรวงกิจการยุโรปและการต่างประเทศฝรั่งเศส และนางฟลอเรนซ์ พาร์ลี รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมฝรั่งเศส ทั้งยังระบุว่า ญี่ปุ่นกับฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มีพรมแดนติดทะเลและมีดินแดนตั้งอยู่ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างฝรั่งเศสกับญี่ปุ่นจึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการตระหนักถึงความเปิดกว้างและเสรีภาพในภูมิภาคแห่งนี้ ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่นระบุว่า ญี่ปุ่นกับฝรั่งเศสต้องการบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศอย่างลึกซึ้ง และหวังว่าข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยกระชับความร่วมมือในขอบเขตใหม่ เช่น ความร่วมมือด้านอวกาศและไซเบอร์ ทั้งนี้ การหารือระดับทวิภาคีของทั้งสองประเทศมีขึ้นก่อนถึงการประชุมด้านความมั่นคงของบรรดาผู้นำในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกอีกหลายงาน เช่น การประชุมสุดยอดผู้นำแบบเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ กับนายกรัฐมนตรีฟูมิโอ คิชิดะ ของญี่ปุ่น และการหารือร่วมกันระหว่างคณะรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมของออสเตรเลียกับอังกฤษ โดยที่ทั้งสองงานมีกำหนดจัดขึ้นพร้อมกันในวันศุกร์.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐพาดพิงจีนระหว่างชูนโยบายอินโด-แปซิฟิก

จาการ์ตา 14 ธ.ค.- นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐพาดพิงจีนระหว่างชูยุทธศาสตร์ของสหรัฐที่จะกระชับความสัมพันธ์กับชาติพันธมิตรในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่กังวลเรื่องจีนแสดงความแข็งกร้าวมากยิ่งขึ้น นายบลิงเคนกล่าวปาฐกถาที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งขณะเยือนอินโดนีเซียว่า อินโด-แปซิฟิกเป็นภูมิภาคที่มีพลวัตรมากที่สุดในโลก และได้กล่าวพาดพิงถึงจีนอย่างชัดเจนว่า ทุกคนล้วนมีส่วนได้ส่วนเสียในการสร้างหลักประกันให้แก่สถานภาพปัจจุบัน โดยไม่มีการบีบบังคับหรือข่มขู่ เพราะสหรัฐและพันธมิตร รวมทั้งผู้อ้างสิทธิในทะเลจีนใต้จะผลักดันการกระทำผิดกฎหมายทุกอย่าง เพื่อปกป้องระเบียบที่ได้ร่วมกันสร้างมาหลายทศวรรษในการทำให้ภูมิภาคนี้ยังคงเปิดกว้างและเข้าถึงได้ สหรัฐจะกระชับความสัมพันธ์กับพันธมิตรที่มีสนธิสัญญาระหว่างกันอย่างญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไทย และฟิลิปปินส์ และสร้างเสริมศักยภาพด้านกลาโหมและข่าวกรองกับหุ้นส่วนในอินโด-แปซิฟิก แต่จะไม่ทำให้ภูมิภาคนี้เป็นที่ทดสอบว่าจะให้สหรัฐหรือจีนเป็นศูนย์กลาง รวมทั้งจะกดดันให้รัฐบาลเมียนมายุติการใช้ความรุนแรง ปล่อยผู้ถูกควบคุมตัว และนำประเทศกลับสู่ระบอบประชาธิปไตย รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐซึ่งมาเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่รับตำแหน่งในเดือนมกราคม จะเยือนมาเลเซียและไทยในสัปดาห์นี้ เขาเผยว่า สหรัฐจะสร้างกรอบเศรษฐกิจภูมิภาคแบบครอบคลุมที่จะทำให้มีการลงทุนโดยตรงจากสหรัฐและช่วยธุรกิจอเมริกันหาโอกาสใหม่ ๆ ในภูมิภาคนี้มากขึ้น จะเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทานและปิดช่องว่างการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมกับถือโอกาสนี้พาดพิงจีนอีกครั้งว่า สหรัฐทราบเรื่องที่อินโด-แปซิฟิกกำลังกังวลว่า บริษัทต่างชาติมีกระบวนการที่คลุมเครือและทุจริตในการนำเข้าแรงงานของตนเอง ล้างผลาญทรัพยากรธรรมชาติและก่อมลพิษให้แก่ประเทศที่เข้าไปลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน.-สำนักข่าวไทย

1 2
...