การเจรจาแก้ปัญหาในซูดานยังไม่คืบหน้า
การเจรจาเพื่อให้หยุดยิงในซูดานที่จัดขึ้นที่ซาอุดีอาระเบียระหว่างนายพลสองฝ่ายที่สู้รบกันขนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ เป็นการดับความหวังที่จะให้มีการหยุดยิงโดยเร็ว
การเจรจาเพื่อให้หยุดยิงในซูดานที่จัดขึ้นที่ซาอุดีอาระเบียระหว่างนายพลสองฝ่ายที่สู้รบกันขนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ เป็นการดับความหวังที่จะให้มีการหยุดยิงโดยเร็ว
คาร์ทูม 30 เม.ย.- มีการสู้รบกันอย่างหนักหน่วงในกรุงคาร์ทูมของซูดานอีกครั้งในวันนี้ ทั้งที่ยังอยู่ในช่วงเวลาของการหยุดยิง ขณะที่อดีตนายกรัฐมนตรีซูดานเตือนว่าสถานการณ์อาจลุกลามจนกลายเป็นสงครามกลางเมืองเต็มรูปแบบ กองทัพบกและกองหนุนเคลื่อนที่เร็วหรืออาร์เอสเอฟ (RSF) เปิดฉากปะทะกันมาตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน และยังคงสู้รบกันอยู่แม้ว่าข้อตกลงหยุดยิงล่าสุดจะสิ้นสุดอย่างเป็นทางการหลังเที่ยงคืนนี้ ผู้ที่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ของกรุงคาร์ทูมเผยว่า มีการต่อสู้กันอย่างหนักหน่วง ได้ยินเสียงปืนดังทุกนาทีมาตั้งแต่เช้า ขณะเดียวกันมีรายงานการปะทะรอบกองบัญชาการกองทัพบกใจกลางกรุงคาร์ทูม นอกจากนี้กองทัพยังใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในเมืองออมดูร์มานที่เป็นเมืองคู่แฝดของกรุงคาร์ทูมด้วย นายอับดัลลา ฮัมด็อค อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวในที่กรุงไนโรบีของเคนยาว่า สถานการณ์ในซูดานอาจกลายเป็นสงครามกลางเมืองเลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งของโลก หากไม่สามารถหยุดยั้งได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และจะกลายเป็นฝันร้ายของโลก นายฮัมด็อคลาออกเมื่อเดือนมกราคม 2565 หลังจากถูกประชาชนประท้วงเพราะไม่พอใจที่เขาทำข้อตกลงแบ่งปันอำนาจกับกองทัพที่รัฐประหารเมื่อเดือนตุลาคม 2564 กระทรวงสาธารณสุขซูดานแจ้งเมื่อวันเสาร์ว่า มีคนล้มตายแล้ว 528 คน บาดเจ็บราว 4,600 คน มีการสู้รบใน 12 รัฐจากทั้งหมด 18 รัฐ รวมถึงภูมิภาคดาร์ฟูร์ สหประชาชาติหรือยูเอ็นเตือนว่า การสู้รบอาจทำให้คนในซูดานอดอยากอีกหลายล้านคน จากปัจจุบันที่อดอยากอยู่แล้ว 15 ล้านคน และมีคนพลัดถิ่นแล้ว 75,000 คน โดยอพยพไปชาด 20,000 คน เซาท์ซูดาน 4,000 คน […]
เครื่องบินรบที่กำลังปฎิบัติการทิ้งระเบิดถูกระดมยิงจากปืนใหญ่ต่อต้านอากาศยานในกรุงคาร์ทูม ของซูดานในวันนี้ ในขณะที่การปะทะอย่างดุเดือดระหว่างทหาร 2 ฝ่ายเข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 แล้ว แม้ว่าจะมีการขยายระยะเวลาข้อตกลงหยุดยิง
คาร์ทูม 28 เม.ย.- กองกำลัง 2 ฝ่ายที่กำลังสู้รบกันในซูดานเผยเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า จะขยายเวลาหยุดยิงที่กำหนดไว้ 72 ชั่วโมงออกไปอีก แต่ยังคงมีการสู้รบกันในกรุงคาร์ทูมและภูมิภาคดาร์ฟูร์ที่อยู่ทางตะวันตกของซูดาน กองทัพซูดานย้ำว่า จะขยายข้อตกลงหยุดยิงโดยจะยึดถือคำพูดนี้แต่เพียงฝ่ายเดียวโดยไม่รอว่าฝ่ายตรงข้ามจะตกลงด้วยหรือไม่ หลังจากประกาศเมื่อวันพุธว่าจะหยุดยิงเป็นเวลา 72 ชั่วโมงตั้งแต่วันศุกร์จนถึงวันอาทิตย์ โดยจะมีผลเมื่อข้อตกลงหยุดยิง 72 ชั่วโมงก่อนหน้านี้สิ้นสุดในคืนวันพฤหัสบดี ด้านกองหนุนเคลื่อนที่เร็วหรืออาร์เอสเอฟ (RSF) ซึ่งเป็นกองกำลังกึ่งทหารที่กำลังสู้รบกับกองทัพตอบรับเป็นครั้งแรกด้วยการประกาศในวันเดียวกันว่า เห็นชอบให้มีการหยุดยิงอีก 72 ชั่วโมงเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ ทำให้สหประชาชาติ สหภาพแอฟริกา กลุ่มการค้าในแอฟริกา และกลุ่มประเทศที่ประกอบด้วยสหรัฐ อังกฤษ ซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ออกแถลงการณ์ร่วมยินดีที่ทั้ง 2 ฝ่ายพร้อมที่จะเจรจาเพื่อยุติความเป็นปรปักษ์อย่างถาวรมากขึ้น และรับรองว่าภารกิจด้านมนุษยธรรมจะไม่ถูกขัดขวาง กองทัพซูดานเผยว่า ยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ และกำลังปราบปรามกองกำลังอาร์เอสเอฟที่ปักหลักอยู่ในกรุงคาร์ทูม อย่างไรก็ดี มีรายงานข่าวว่า ยังคงได้ยินเสียงโจมตีทางอากาศและยิงต่อต้านอากาศยานในกรุงคาร์ทูมและเมืองใกล้เคียงในวันพฤหัสบดี ขณะที่ทำเนียบขาวของสหรัฐแถลงว่า มีความกังวลอย่างยิ่งที่มีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ขอให้ชาวอเมริกันรีบเดินทางออกจากซูดานภายใน 24-48 ชั่วโมง การสู้รบยังได้ลุกลามไปยังภูมิภาคดาร์ฟูร์ ที่ซึ่งเคยเกิดสงครามกลางเมืองเมื่อ 2 ทศวรรษก่อน ข้อมูลล่าสุดระบุว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 512 คน บาดเจ็บร่วม 4,200 คน […]
กองกำลังทั้งสองฝ่ายที่สู้รบกันในซูดาน เห็นพ้องขยายข้อตกลงหยุดยิงออกไปอีก 72 ชั่วโมง ขณะที่ยังมีการปะทะต่อเนื่อง
สหประชาชาติ 26 เม.ย.- หัวหน้าคณะทำงานของสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) ในซูดานประณามการสู้รบในซูดานที่ไม่เคารพกฎหมายและบรรทัดฐานของการทำสงคราม จากการที่มีพลเรือนและโรงพยาบาลตกเป็นเป้าโจมตี นายโฟลเกอร์ แพธีส ผู้แทนพิเศษยูเอ็นด้านซูดานแถลงต่อคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น (UNSC) จากเมืองพอร์ตซูดานในซูดานว่า ทั้ง 2 ฝ่ายที่สู้รบกันไม่เคารพกฎหมายและบรรทัดฐานของการทำสงคราม จากการโจมตีพื้นที่ที่มีประชาชนอาศัยอยู่หนาแน่นโดยไม่คำนึงถึงพลเรือน โรงพยาบาล หรือแม้แต่ยวดยานที่กำลังลำเลียงผู้บาดเจ็บและผู้ป่วย ขณะนี้ยังคงมีการสู้รบกันตามสถานที่ทางยุทธศาสตร์ในกรุงคาร์ทูม รวมถึงท่าอากาศยานนานาชาติคาร์ทูม บางพื้นที่มีการสู้รบรุนแรงขึ้นด้วย ทั้งที่สหรัฐประกาศหยุดยิงนาน 72 ชั่วโมงเมื่อวันจันทร์ระหว่างกองทัพและกองหนุนเคลื่อนที่เร็วหรืออาร์เอสเอฟ (RSF) ซึ่งเป็นกองกำลังกึ่งทหารที่สู้รบกันมาตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน นายแพธีสกล่าวด้วยว่า ยังไม่มีสัญญาณชัดเจนจากฝ่ายใดว่าพร้อมเจรจาอย่างจริงจัง บ่งชี้ว่าทั้ง 2 ฝ่ายอาจคิดว่าจะสามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้ ด้านนายอันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็นย้ำว่า การสู้รบในซูดาน ซึ่งเป็นประเทศในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกาที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของทวีปอาจลุกลามไปยังประเทศอื่น ๆ เนื่องจากซูดานมีพรมแดนติดกับ 7 ประเทศที่มีการสู้รบหรือมีความไม่สงบอยู่แล้ว.-สำนักข่าวไทย
ซูดานประกาศหยุดยิงครั้งใหม่ 72 ชั่วโมง นับเป็นข้อตกลงหยุดยิงครั้งที่ 3 แล้ว ตั้งแต่ความรุนแรงปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 15 เมษายน แต่หลายฝ่ายยังสงสัยว่า จะรักษาข้อตกลงหยุดยิงไว้ได้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาล้มเหลวทั้งหมด
ทหารสองฝ่ายในซูดานยังคงยิงปะทะกันอย่างรุนแรงต่อเนื่องและมีเสียงระเบิดเกิดขึ้นหลายครั้งในกรุงคาร์ทูม นครหลวงของซูดาน และเมืองอื่น ๆ ในประเทศ ในขณะที่กองกำลังของทั้งสองฝ่ายไม่สนใจคำวิงวอนของมหาอำนาจต่าง ๆ ที่ขอให้หยุดยิง เนื่องในวาระวันฮารีรายอ อีดิลฟิตรี ที่เป็นการเฉลิมฉลองการสิ้นสุดการถือศีลอดในเดือนรอมฎอนของชาวมุสลิม
คาร์ทูม 19 เม.ย.- ผู้คนจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในกรุงคาร์ทูมของซูดานพากันหนีออกจากบ้านเรือน เนื่องจากการสู้รบระหว่างกองกำลังของ 2 นายพลที่แย่งชิงอำนาจกันได้ยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ 5 แล้วในวันนี้ หลังจากมีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงนาน 24 ชั่วโมง ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นและเสียงยิงปืนหนักหน่วงในเมืองหลวง ช่วงเช้าวันนี้ เห็นกลุ่มควันดำหนาลอยขึ้นมาจากอาคารรอบกองบัญชาการกองทัพที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง กองหนุนเคลื่อนที่เร็วหรืออาร์เอสเอฟ (RSF) ซึ่งเป็นกองกำลังกึ่งทหารได้เคลื่อนยานยนต์หุ้มเกราะและรถบรรทุกที่เต็มไปด้วยอาวุธหนักและเครื่องกระสุนไปตามท้องถนนในกรุงคาร์ทูม ขณะที่ฝูงบินขับไล่ของกองทัพบกบินว่อนเหนือน่านฟ้าและเล็งยิงลงมายังอาร์เอสเอฟ ชาวบ้านที่หลบอยู่แต่ในบ้านด้วยความหวังว่าจะปลอดภัยจากการปะทะเริ่มหมดหวัง เนื่องจากอาหารร่อยหรอ ไฟฟ้าดับ และน้ำประปาไม่ไหล ประกอบกับข้อตกลงหยุดยิงนาน 24 ชั่วโมงเพื่อเปิดทางให้แก่การจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมถูกละเมิด ทั้งที่เริ่มมีผลตั้งแต่เวลา 16:00 น.วันอังคารตามเวลาสากลได้เพียงไม่กี่นาที เช้าวันนี้ชาวบ้านจึงพากันอพยพออกจากบ้านเรือน บางคนขับรถ บางคนเดินเท้า โดยต้องผ่านถนนที่มีศพกระจัดกระจาย ขณะที่รัฐบาลหลายประเทศเริ่มวางแผนอพยพพลเมืองของตนเองออกจากซูดานแล้ว สหประชาชาติระบุว่า มีคนเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 185 คน บาดเจ็บอีกมากกว่า 1,800 คน ขณะที่โรงพยาบาลถูกยิงถล่มเสียหายหนักจนไม่สามารถให้บริการได้ กองกำลังของนายพลอับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์ฮาน ผู้บัญชาการกองทัพบก และกองกำลังอาร์เอสเอฟของนายพลมูฮัมหมัด ฮัมดาน ดักโกล รองผู้บัญชาการกองทัพบก ปะทะกันมาตั้งแต่วันเสาร์ นายพลทั้ง 2 นายร่วมกันรัฐประหารในปี […]
มอสโก 8 ม.ค.- รัสเซียประกาศเดินหน้าการสู้รบในยูเครนจนกว่าจะได้รับชัยชนะ หลังจากผ่านพ้นช่วงเวลาหยุดยิง 36 ชั่วโมงที่รัสเซียประกาศใช้แต่ฝ่ายเดียว และได้โจมตีหลายพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครนในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา สำนักข่าวทาสส์ของทางการรัสเซียอ้างคำกล่าวของนายเซอร์เก คิริเยนโก รองหัวหน้าคณะทำงานประธานาธิบดีรัสเซียคนแรกว่า ภารกิจที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินมอบหมายให้แก่ปฏิบัติการทางทหารพิเศษจะสำเร็จลุล่วง และประสบชัยชนะอย่างแน่นอน ซึ่งหมายถึงการบุกยูเครนที่ดำเนินมาตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ปีก่อน ผู้ว่าการแคว้นคาร์คิฟ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครนแจ้งผ่านแอปพลิเคชันเทเลแกรมหลังเวลาเที่ยงคืนในรัสเซีย ซึ่งเป็นเวลาสิ้นสุดการหยุดยิงเนื่องในวันคริสต์มาสว่า ชายวัย 50 ปีเสียชีวิตเพราะการโจมตีของรัสเซีย ขณะที่ผู้ว่าการแคว้นโดเนตสก์ ทางตะวันออกของยูเครนแจ้งว่า รัสเซียได้ยิงจรวดเข้ามา 9 ครั้งในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ด้านแคว้นซาปอริชเชีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครนแจ้งว่า ได้ยินเสียงระเบิดในเมืองซาปอริชเชีย ปกติแล้วคริสตศาสนาจักรออร์โธด็อกซ์ยูเครนจะฉลองคริสต์มาสในวันที่ 7 มกราคมเช่นเดียวกันคริสตศาสนาจักรออร์โธด็อกซ์รัสเซีย แต่ปีนี้อนุญาตให้ฉลองในวันที่ 25 ธันวาคมด้วย อย่างไรก็ดี ยังคงมีคริสตชนชาวยูเครนหลายคนที่ไปประกอบศาสนกิจเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย
เคียฟ 7 ม.ค.- ยูเครนและรัสเซียยังคงยิงปืนใหญ่ถล่มกันในเมืองทางฝั่งตะวันออกของยูเครนเมื่อวันศุกร์ แม้ว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียสั่งหยุดยิงเป็นเวลา 36 ชั่วโมง เนื่องในวันคริสต์มาสของคริสตศาสนจักรออร์โธด็อกซ์ ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ได้ยินเสียงยิงปืนใหญ่ทั้งออกจากและเข้ามาในเมืองบัคห์มุต เมืองหน้าด่านทางตะวันออกของยูเครน หลังเวลา 09:00 น.วันศุกร์ตามเวลามาตรฐานสากล ซึ่งเป็นเวลาเริ่มต้นหยุดยิงตามคำสั่งของปูติน ด้านทำเนียบประธานาธิบดียูเครนแถลงว่า กองกำลังรัสเซียได้โจมตีเมืองครามาตอร์สก์และเมืองคูราคอฟ ทางตะวันออกของยูเครน ทำให้อาคารที่พักอาศัยและสถานพยาบาลเสียหาย ก่อนหน้านี้ยูเครนแจ้งว่า รัสเซียได้ยิงใส่สถานีดับเพลิงในเมืองเคอร์ซอน ทางตอนใต้ ทำให้มีคนบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนหนึ่ง และยิงใส่ฐานที่มั่นของยูเครนในแคว้นลูฮันสก์ถึง 14 ครั้ง ด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า รัสเซียเคารพการหยุดยิงฝ่ายเดียว มีแต่กองกำลังยูเครนที่ยังยิงปืนใหญ่ไม่หยุด กระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงว่า การที่รัสเซียยังคงโจมตียูเครนพิสูจน์แล้วว่า การหยุดยิงเป็นเพียงแผนการที่น่าเหยียดหยาม ขณะที่กระทรวงต่างประเทศฝรั่งเศสระบุว่า รัสเซียพยายามอย่างลวก ๆ หวังเบี่ยงเบนความสนใจเรื่องกระทำความผิดจากการก่อสงคราม ด้านนายโจเซฟ บอร์เรลล์ หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรปหรืออียูกล่าวว่า รัสเซียไร้ความน่าเชื่อถืออย่างสิ้นเชิง การประกาศหยุดยิงฝ่ายเดียวก็ไร้ความน่าเชื่อถือ.-สำนักข่าวไทย
เคียฟ 6 ม.ค.- ยูเครนและพันธมิตรไม่ให้ค่ากับเรื่องที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียสั่งหยุดยิงเป็นเวลา 36 ชั่วโมงในช่วงคริสต์มาสของคริสตศาสนาจักรออร์โธด็อกซ์ โดยมองว่าเป็นเพียงการเสแสร้ง นายมิไคโล โบโดลยัก ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครนทวีตผ่านทวิตเตอร์ว่า รัสเซียต้องออกจากดินแดนที่ยึดครองเท่านั้น จึงจะมีการพักรบชั่วคราวได้ ขอให้รัสเซียเก็บการเสแสร้งดังกล่าวไว้ในใจก็พอ ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐกล่าวว่า รู้สึกแปลกใจที่ประธานาธิบดีปูตินสั่งหยุดยิงทั้งที่พร้อมจะระเบิดโรงพยาบาลและโบสถ์ในวันคริสต์มาสที่ 25 ธันวาคมและวันปีใหม่ เขาคิดว่าผู้นำรัสเซียกำลังหาทางต่อลมหายใจอยู่ ส่วนนายเจมส์ เคลฟเวอร์ลี รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษทวีตว่า การหยุดโจมตีของรัสเซียนาน 36 ชั่วโมงไม่ช่วยให้มีความคืบหน้าเรื่องสันติภาพแต่อย่างใด ประธานาธิบดีปูตินมีคำสั่งเมื่อวานนี้ให้หยุดยิงในยูเครนเป็นเวลา 36 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่ 12:00 น.วันที่ 6 มกราคมตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 16:00 น.วันเดียวกันตามเวลาไทย จนถึงเวลา 24:00 น.วันที่ 7 มกราคมตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 04:00 น.วันรุ่งขึ้นตามเวลาไทย โดยระบุว่าตามที่ได้พิจารณาคำขอของอัครบิดรคีริลล์ สมเด็จพระสังฆราชแห่งคริสตศาสนจักรออร์โธด็อกซ์รัสเซีย เขาได้สั่งการให้รัฐมนตรีกลาโหมสั่งหยุดยิงตลอดแนวเขตของสองฝ่ายในยูเครน คริสตศาสนจักรออร์โธด็อกซ์รัสเซียและคริสตศาสนจักรออร์โธด็อกซ์ยูเครนฉลองคริสต์มาสราววันที่ 7 มกราคมของทุกปี ขณะเดียวกันทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียได้เผยแพร่สรุปการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างปูตินกับประธานาธิบดีเรเจพ ทายยิพ แอร์โดอานของตุรกีเมื่อวานนี้ว่า ประธานาธิบดีปูตินพร้อมเจรจากับยูเครน […]