Netanyahu says Trump's decision to strike Iran will 'change history'

อิสราเอลยกย่อง “ทรัมป์” ประวัติศาสตร์จะจารึก

เยรูซาเลม 22 มิ.ย.- นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลกล่าวยกย่องประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐที่สั่งโจมตีที่ตั้งนิวเคลียร์อิหร่านว่า จะได้รับการจารึกในประวัติศาสตร์ สำนักสารนิเทศ สำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอลเผยแพร่คลิปนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูแถลงความยาว 1 นาที 25 วินาทีในวันนี้ว่า ขอแสดงความยินดีกับประธานาธิบดีทรัมป์ การตัดสินใจอย่างกล้าหาญด้วยการใช้อำนาจอันยอดเยี่ยมและชอบธรรมของสหรัฐโจมตีที่ตั้งนิวเคลียร์ของอิหร่านจะเป็นการเปลี่ยนประวัติศาสตร์ ที่ผ่านมาปฏิบัติการสิงโตผงาด (Operation Rising Lion) ของอิสราเอลได้ทำในสิ่งที่น่าอัศจรรย์อย่างแท้จริง แต่การโจมตีของสหรัฐเมื่อคืนวันเสาร์ได้ทำให้สหรัฐเป็นประเทศที่ไม่มีประเทศใดในโลกสามารถเทียบได้อย่างแท้จริง ประวัติศาสตร์จะจารึกไว้ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ทำในสิ่งที่เป็นการไม่ยอมรับรัฐบาลและอาวุธที่ร้ายแรงที่สุดในโลก และได้สร้างหมุดหมายสำคัญในประวัติศาสตร์ที่จะช่วยนำพาภูมิภาคตะวันออกกลางและนอกภูมิภาคไปสู่อนาคตที่รุ่งเรืองและสันติ นายกรัฐมนตรีอิสราเอลกล่าวด้วยว่า ประธานาธิบดีทรัมป์และเขาพูดอยู่เสมอเรื่องการสร้างสันติภาพด้วยความแข็งแกร่ง ความแข็งแกร่งต้องมาก่อนเป็นอันดับแรก แล้วจึงจะมีสันติภาพได้.-814.-สำนักข่าวไทย

Trump addresses the nation after US strikes on Iran

“ทรัมป์” แถลงเรื่องโจมตีที่ตั้งนิวเคลียร์อิหร่าน

วอชิงตัน 22 มิ.ย.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐแถลงเรื่องสหรัฐโจมตีที่ตั้งนิวเคลียร์ 3 แห่งของอิหร่านเมื่อวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐว่า ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่งและสามารถทำลายได้อย่างสิ้นซาก ประธานาธิบดีทรัมป์แถลงที่ทำเนียบขาวก่อนเวลา 22.00 น.วันเสาร์ตามเวลากรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งช้ากว่าไทย 11 ชั่วโมง โดยมีรองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ และนายปีเตอร์เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมยืนอยู่ด้านหลัง นายทรัมป์ใช้เวลาในการแถลงนานเพียง 4 นาทีและไม่เปิดให้มีการซักถามว่า กองทัพสหรัฐได้โจมตีด้วยความแม่นยำครั้งใหญ่ต่อที่ตั้งนิวเคลียร์ 3 แห่งของอิหร่านประกอบด้วยฟอร์โดว์ อิสฟาฮาน และนาทันซ์ที่ทุกคนได้ยินชื่อมานานหลายปีว่ามีความสามารถทำลายล้างอย่างน่ากลัว วัตถุประสงค์ของสหรัฐ คือ การทำลายศักยภาพในการเสริมสมรรถนะนิวเคลียร์ของอิหร่าน และหยุดยั้งภัยคุกคามนิวเคลียร์ของประเทศที่สนับสุนนการก่อการร้ายอันดับหนึ่งของโลก เขาสามารถแจ้งต่อโลกได้ว่า กองทัพสหรัฐประสบความสำเร็จอย่างดียิ่งในการโจมตีสถานที่เสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมสำคัญของอิหร่าน ด้วยการทำลายอย่างราบคาบและสิ้นซาก ผู้นำสหรัฐยื่นคำขาดว่า อิหร่านจะต้องสร้างสันติภาพในเวลานี้ ไม่เช่นนั้นจะถูกโจมตีหนักหน่วงยิ่งกว่าเดิม  เขากล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลที่ทำงานเป็นทีมกับสหรัฐอย่างดียิ่ง ขอบคุณกองทัพอิสราเอลและทหารสหรัฐที่เข้าร่วมในภารกิจนี้ พร้อมกับย้ำว่ายังมีเป้าหมายในอิหร่านอีกหลายแห่งที่ยังเหลืออยู่ ซึ่งจะถูกจัดการอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่นาทีหากไม่เกิดสันติภาพโดยเร็ว.-814.-สำนักข่าวไทย

President Lai's address on 1st anniversary of taking office

ผู้นำไต้หวันยื่นไมตรีจีนวันดำรงตำแหน่งครบปี

ไทเป 20 พ.ค.- ประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อของไต้หวัน ซึ่งดำรงตำแหน่งครบ 1 ปีในวันนี้ กล่าวว่า ต้องการสันติภาพและการเจรจากับจีน แต่ก็ต้องเสริมสร้างการป้องกันไต้หวันต่อไป

U.S. President Donald Trump and Russian President Vladimir Putin met in person for the first time on July 7, 2017, on the sidelines of the G20 summit in Hamburg

ทรัมป์จะคุยปูตินวันนี้เรื่องยุติสงครามยูเครน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐจะพูดคุยประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียในวันนี้ เรื่องสันติภาพในยูเครน ด้านผู้นำในยุโรปเรียกร้องให้รัสเซียยอมรับข้อเสนอหยุดยิงโดยทันที

ยูเครนเรียกร้องพันธมิตรให้กดดันรัสเซียต่อไป

อิสตันบูล 17 พ.ค. – ยูเครนเรียกร้องขอการสนับสนุนจากพันธมิตรชาติตะวันตกเมื่อวานนี้ หลังจากที่รัฐบาลเคียฟและมอสโก ไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องการหยุดยิงในระหว่างการเจรจาโดยตรงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี ที่นครอิสตันบูลของตุรกี การเจรจาดังกล่าวจัดขึ้นที่พระราชวังในนครอิสตันบูล ซึ่งคณะผู้แทนของยูเครนและรัสเซียใช้เวลาพูดคุยกันไม่ถึง 2 ชั่วโมง รัสเซียแสดงความพึงพอใจในการพบกันครั้งนี้ และกล่าวว่าพร้อมที่จะติดต่อกับทางฝ่ายยูเครนต่อไป ทั้งสองประเทศกล่าวว่า เห็นพ้องต้องกันในการแลกเปลี่ยนตัวเชลยศึกฝ่ายละ 1,000  คน ในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะเป็นการแลกเปลี่ยนตัวครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยมีมา อย่างไรก็ตาม ยูเครน ซึ่งต้องการให้ชาติตะวันตกใช้มาตรการลงโทษรัสเซียให้รุนแรงมากยิ่งขึ้น หากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ไม่ยอมรับข้อเสนอของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ที่ต้องการให้มีการหยุดยิงเป็นเวลา 30 วัน และได้เริ่มการเรียกร้องชาติพันธมิตรให้ดำเนินการกับรัสเซียรุนแรงขึ้น.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ เผยจะกลับกรุงวอชิงตัน หลังเสร็จการเยือนตะวันออกกลาง

ดูไบ 16 พ.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าววันนี้ว่า เขาจะเดินทางกลับไปยังกรุงวอชิงตัน หลังเสร็จสิ้นการเยือน 3 ประเทศในอ่าวอาหรับแล้ว นายทรัมป์กล่าวถึงการเจรจาระหว่างรัสเซียกับยูเครน ที่กำลังจะมีขึ้นในวันนี้ที่นครอิสตันบูลของตุรกีว่า ให้รอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นในการเจรจาเพื่อยุติสงครามในยูเครน นายทรัมป์ กล่าวด้วยว่า เขาจะพบหารือกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ในทันทีที่สามารถจะจัดการพบกันได้ คณะผู้แทนเจรจาของรัสเซียและยูเครน มีกำหนดจะพบกันที่นครอิสตันบูลในวันนี้ ซึ่งเป็นการเจรจาสันติภาพเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายกำลังถูกกดดันจากนายทรัมป์ให้ยุติความขัดแย้งที่รุนแรงและมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในยุโรป นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 นี้   ในขณะเดียวกันแหล่งข่าวจากกระทรวงต่างประเทศตุรกี กล่าวว่า การประชุมระหว่างเจ้าหน้าที่ตุรกี สหรัฐและยูเครน ที่นครอิสตันบูลเริ่มต้นขึ้นแล้ว แต่ความคาดหวังสำหรับความคืบหน้าครั้งสำคัญ ซึ่งเดิมทีก็ต่ำอยู่แล้ว ยิ่งน้อยลงไปอีกในวันพฤหัสบดี เมื่อนายทรัมป์กล่าวว่า จะไม่มีความก้าวหน้าใดๆ หากไม่มีการพบปะพูดคุยระหว่างตัวเขากับนายปูติน.-813.-สำนักข่าวไทย

การเจรจายูเครน-รัสเซียยังไร้ความชัดเจน

อิสตันบูล 15 พ.ค. – การเจรจาโดยตรงระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ที่ตุรกีในวันนี้ ยังไม่มีความชัดเจนใดๆ ที่จะบอกได้ว่าการเจรจาจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ หลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ไม่ได้เดินทางมาเข้าร่วมเจรจา การเจรจาโดยตรงครั้งแรกระหว่างรัสเซียกับยูเครน ที่กำหนดจะมีขึ้นที่นครอิสตันบูลของตุรกี ในวันนี้ยังคงไร้ความชัดเจนว่าจะเริ่มขึ้นเมื่อไร และจะมีใครเข้าร่วมเจรจาบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้สำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียรายงานว่าการเจรจาจะเริ่มต้นขึ้นในเวลา 14.00 น. วันนี้ตามเวลาในไทย แต่ทางยูเครนปฏิเสธว่าไม่เคยมีการตกลงกันว่าจะเริ่มเจรจากันเวลาใด ส่วนเรื่องที่มีความชัดเจนแล้วก็คือประธานาธิบดีปูติน ไม่มาเข้าร่วมการเจรจาแน่นอนแล้ว โดยส่งคณะผู้แทนซึ่งมีทั้งผู้ช่วยประธานาธิบดี รัฐมนตรีช่วยกลาโหมซึ่งเคยเข้าร่วมการเจรจากับยูเครนมาแล้ว มาเป็นตัวแทนในการเจรจาครั้งนี้ ซึ่งคณะผู้แทนของรัสเซียได้เดินทางมาถึงตุรกีแล้ว ด้านกระทรวงต่างประเทศรัสเซียวันนี้ก็แถลงว่าคณะผู้แทนของรัสเซียมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการเจรจาอย่างเอาจริงเอาจัง ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ก็เดินทางมาถึงนครอิสตันบูลแล้ว แต่เจ้าตัวยืนกรานมาตลอดว่าเขาจะเข้าร่วมการเจรจาก็ต่อเมื่อนายปูตินต้องมาเจรจาด้วยตนเองเท่านั้น และขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนด้วยว่ายูเครนมีการเตรียมเจ้าหน้าที่สำหรับเข้าร่วมการเจรจาแทนนายเซเลนสกีด้วยหรือไม่ นายเซเลนสกีบอกว่าจะให้คำตอบหลังพบกับประธานาธิบดีเรเจป ทายยิป แอร์โดอัน ของตุรกี แล้วว่าเขาจะตัดสินใจอย่างไร เขากล่าวว่า คณะผู้แทนของรัสเซียในครั้งนี้เป็นเสมือนไม้ประดับ เพราะเป็นระดับล่างๆ เท่านั้น ส่วนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ล่าสุดกล่าวระหว่างการเยือนการ์ตาในวันนี้เขาอาจจะมาเข้าร่วมการเจรจาในวันพรุ่งนี้หากพิจารณาแล้วเห็นว่ามีความเหมาะสม และหวังว่ายูเครนกับรัสเซียจะมีความคืบหน้าในการแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างกัน หลังจากก่อนนี้เจ้าหน้าที่สหรัฐระบุว่าทรัมป์จะไม่มาร่วมการเจรจาหลังรู้ว่าปูตินจะไม่มาเข้าร่วม.-816.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’-‘ปูติน’ ไม่ร่วมการเจรจาสันติภาพยูเครนที่ตุรกี

อิสตันบูล 15 พ.ค. – ผู้นำสหรัฐและผู้นำรัสเซียจะไม่เข้าร่วมการเจรจาหย่าศึกสงครามยูเครนซึ่งจะมีขึ้นที่ตุรกีในวันนี้ ขณะที่ผู้นำยูเครนออกเดินทางมายังตุรกีแล้ว การเจรจาโดยตรงระหว่างรัสเซียกับยูเครน ซึ่งกำลังจะมีขึ้นที่นครอิสตันบูลของตุรกีในวันนี้ เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียจะไม่มาเข้าร่วม โดยเมื่อคืนนี้ทางการรัสเซียได้ประกาศรายชื่อคณะผู้แทนการเจรจาซึ่งจะมีทั้งนายวลาดิมีร์ เมดินสกี ที่ปรึกษาประธานาธิบดี และนายอเล็กซานเดอร์ โฟนิน รัฐมนตรีช่วยกลาโหม ร่วมคณะด้วย ซึ่งทั้งคู่มีประสบการณ์ในการเจรจากับยูเครนมาแล้ว หลังจากที่มีการประกาศรายชื่อคณะเจรจาของรัสเซีย เจ้าหน้าที่ของสหรัฐก็เปิดเผยว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะไม่มาร่วมการเจรจาดังกล่าวแล้ว หลังจากที่นายทรัมป์เคยเปรยระหว่างการเยือนซาอุดีอาระเบียเมื่อสองวันก่อนว่าเขากำลังพิจารณาเรื่องเข้าร่วมการเจรจาครั้งนี้ ส่วนผู้แทนของสหรัฐที่จะเข้าร่วมวงเจรจาได้แก่นายสตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษของสหรัฐประจำตะวันออกกลาง และนายคีธ เคลล็อก ซึ่งทั้งคู่เป็นผู้แทนอาวุโสของนายทรัมป์ แม้ว่าประธานาธิบดีปูตินเป็นผู้เสนอการเจรจานี้ขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาโดยระบุว่าเป็นการเจรจาโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ แต่นายปูตินก็ไม่เคยยืนยันมาตั้งแต่แรกแล้วว่าจะมาเข้าร่วมการเจรจาด้วยตัวเอง และการที่ทั้งผู้นำสหรัฐและรัสเซียไม่ได้มาร่วมการเจรจาก็ทำให้ความคาดหวังถึงผลการเจรจาที่จะออกมาลดน้อยลงไปด้วย ด้านประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนเคยท้าทายให้ปูตินมาร่วมวงเจรจาถ้ามีความกล้าพอเพื่อจะพิสูจน์ให้นายทรัมป์ได้เห็นว่าใครมีความต้องการสันติภาพมากกว่ากัน และวันนี้นายเซเลนสกีได้ออกเดินทางมายังตุรกีแล้ว แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะเข้าร่วมเจรจาด้วยหรือไม่เพราะก่อนหน้านี้เขายืนยันมาตลอดว่าจะร่วมวงเจรจาก็ต่อเมื่อนายปูตินต้องมาร่วมเจรจาด้วยเท่านั้น.-816.-สำนักข่าวไทย

U.S. Secretary of State Marco Rubio

สหรัฐจะเลิกเป็นคนกลางรัสเซีย-ยูเครน ถ้าแผนสันติภาพไม่คืบ

ปารีส 18 เม.ย.- นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยวันนี้ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะยุติความพยายามเป็นคนกลางให้เกิดข้อตกลงสันติภาพรัสเซีย-ยูเครน ในอีกไม่กี่วัน หากไม่มีสัญญาณชัดเจนว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงสันติภาพ นายรูบิโอกล่าวขณะเตรียมเดินทางออกจากกรุงปารีสของฝรั่งเศส หลังจากเสร็จสิ้นการพบหารือกับผู้นำยุโรปและยูเครนว่า สหรัฐจะไม่สานต่อความพยายามนี้ต่อไปอีกเป็นสัปดาห์และเป็นเดือน ดังนั้นจึงต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วันว่า ข้อตกลงสันติภาพจะเกิดขึ้นได้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ได้หรือไม่ เนื่องจากสหรัฐมีเรื่องสำคัญอื่น ๆ ที่ต้องให้ความสนใจด้วยเช่นกัน นายรูบิโอกล่าวด้วยว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ยังคงต้องการให้เกิดข้อตกลง แต่ก็พร้อมจะเดินออกจากเรื่องนี้ หากไม่มีสัญญาณความคืบหน้าในเร็ววัน นายทรัมป์รับปากระหว่างหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2567 ว่า จะยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครนได้ในช่วง 24 ชั่วโมงแรกที่เข้ารับตำแหน่ง แต่ได้ปรับเปลี่ยนเป้าหมายเมื่อเข้ารับตำแหน่งจริงว่า น่าจะมีข้อตกลงสันติภาพได้ในเดือนเมษายนหรือพฤษภาคม ส่วนเมื่อวานนี้ผู้นำสหรัฐได้แสดงความคาดหวังว่า จะสามารถลงนามข้อตกลงกับยูเครนได้ในสัปดาห์หน้า เพื่อเปิดทางให้สหรัฐเข้าถึงแหล่งแร่ของยูเครน หลังจากความพยายามลงนามข้อตกลงนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ เป็นอันต้องล้มเหลว เนื่องจากประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนปะทะคารมกับนายทรัมป์และรองประธานาธิบดีเจ ดี แวนซ์ ที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาว.-814.-สำนักข่าวไทย 

Deputy Foreign Minister Alexander Grushko interviews with the Russian media outlet Izvestia

รัสเซียต้องการหลักประกันความมั่นคงในข้อตกลงสันติภาพยูเครน

มอสโก 17 มี.ค.- รัสเซียต้องการให้มีหลักประกันความมั่นคง “ที่แข็งแกร่ง” ในการทำข้อตกลงสันติภาพกับยูเครนว่า นาโตจะไม่รับยูเครนเข้าเป็นสมาชิก และยูเครนจะคงความเป็นกลางต่อไป นายอเล็กซานเดอร์ กรุชโก รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศของรัสเซียให้สัมภาษณ์อิซเวสเตีย ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์แห่งชาติของรัสเซียในหลากหลายประเด็นและมีการเผยแพร่ในวันนี้ หนึ่งในนั้น คือ การทำข้อตกลงสันติภาพกับยูเครน นายกรุชโกกล่าวว่า รัสเซียต้องการให้ข้อตกลงนี้มีหลักประกันด้านความมั่นคงที่แข็งแกร่ง ไม่สามารถถูกทำลายได้ หนึ่งในหลักประกันเหล่านี้ได้แก่ การคงสถานภาพความเป็นกลางของยูเครน และการที่ประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโตไม่ยอมรับยูเครนเข้าร่วมนาโต รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศรัสเซียย้ำด้วยว่า รัสเซียไม่เห็นด้วยกับการที่นาโตจะส่งคณะผู้สังเกตการณ์เข้าไปในยูเครน ไม่ว่าจะส่งไปในนามนาโต สหภาพยุโรปหรืออียู หรือในนามประเทศ เพราะการเข้าไปในพื้นที่ขัดแย้งจะเท่ากับว่าเป็นฝ่ายที่มีส่วนร่วมในความขัดแย้งด้วย รัสเซียจะหารือเรื่องการส่งคณะสังเกตการณ์พลเรือนเข้าไปติดตามการปฏิบัติตามข้อตกลงสันติภาพ หลังจากที่มีข้อตกลงแล้วเท่านั้น ก่อนหน้านี้อังกฤษ ฝรั่งเศสและออสเตรเลียประกาศว่า พร้อมส่งกองกำลังรักษาสันติภาพเข้าไปสังเกตการณ์การหยุดยิงในยูเครน ขณะที่เมื่อวานนี้มีรายงานข่าวอ้างคำกล่าวของประธานาธิบดีเอมานูว์แอล มาครงของฝรั่งเศสว่า การประจำการกองกำลังรักษาสันติภาพเป็นอำนาจการตัดสินใจของยูเครน ไม่ใช่รัสเซีย.-814.-สำนักข่าวไทย

มกุฎราชกุมารซาอุฯ พบปะผู้นำยูเครน

สื่อซาอุดีอาระเบียรายงานว่าเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย พบปะโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ที่พระราชวังอัล-ซาลาม เมืองเจดดาห์ของซาอุดีอาระเบีย

1 2 3 13
...