ประท้วงต้านปืนหน้าที่ประชุมกลุ่มล็อบบี้ปืนในสหรัฐ

ฮิวสตัน 28 พ.ค.- กลุ่มผู้ไม่พอใจเหตุคนร้ายสังหารหมู่ในโรงเรียนประถมในรัฐเทกซัสของสหรัฐ รวมตัวชุมนุมต่อต้านปืนหน้าที่ประชุมประจำปีของสมาคมปืนไรเฟิลแห่งชาติหรือเอ็นอาร์เอ (NRA) ซึ่งเป็นกลุ่มวิ่งเต้นหรือล็อบบี้อุตสาหกรรมปืนรายใหญ่ที่สุดในประเทศ กลุ่มผู้ประท้วงถือรูปนักเรียนและครูที่เสียชีวิตเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นในเหตุสังหารหมู่ 21 ศพที่โรงเรียนประถมร็อบบ์ เมืองยูแวลดี รัฐเทกซัส ตะโกนขับไล่เอ็นอาร์เอที่เปิดการประชุมประจำปีครั้งแรกในรอบ 3 ปีที่เมืองฮิวสตันในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น ผู้ประท้วงคนหนึ่งขอให้เอ็นอาร์เอจัดพิธีไว้อาลัยผู้เสียชีวิตแทนจัดการประชุม ขณะที่ชาวฮิวสตันคนหนึ่งที่เป็นสมาชิกเอ็นอาร์เอตั้งแต่อายุ 20 ปี คาดว่า จะมีคนมาร่วมงานน้อยกว่าปกติเพราะเหตุสังหารหมู่ที่เพิ่งเกิดขึ้น เอ็นอาร์เอมีสมาชิกมากถึง 5 ล้านคน และต้องการเดินหน้าจัดการประชุมเพื่อต้านทานกระแสกดดันให้มีการควบคุมปืนที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่เกิดเหตุสังหารหมู่ที่โรงเรียนมัธยมโคลัมไบน์ รัฐโคโลราโดในปี 2542 ครั้งนั้นนักเรียนชายชั้น ม. 6 สองคนยิงเพื่อนนักเรียน 12 คน และครู 1 คนเสียชีวิต แล้วยิงตัวตาย อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และ สว.เท็ด ครูซ ของรัฐเทกซัสมีกำหนดขึ้นกล่าวต่อที่ประชุมในช่วงบ่ายวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่นายเกร็ก แอบบอตต์ ผู้ว่าการรัฐเทกซัสและนายแดน แพทริก รองผู้ว่าการรัฐขอถอนตัว นายแอบบอตต์จะกล่าวผ่านการบันทึกเทปเพราะจะเดินทางไปเมืองยูแวลดี ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองฮิวสตันไปทางตะวันตก 450 กิโลเมตร ส่วนนายแพทริกให้เหตุผลว่า ไม่ต้องการซ้ำเติมความเจ็บปวดของผู้ประสบเหตุและครอบครัว.-สำนักข่าวไทย

ตำรวจถูกตั้งคำถามเรื่องการรับมือเหตุสังหารหมู่ในเท็กซัส

ตำรวจเปิดเผยว่า มือปืนที่ก่อเหตุสังหารหมู่นักเรียนและครูที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ สามารถเดินผ่านประตูโรงเรียนที่ไม่มีการล็อกกุญแจได้อย่างง่ายดายและใช้ปืนยิงสังหารนักเรียน 19 รายและครูอีก 2 ราย ก่อนจะซ่อนตัวในห้องเรียนเป็นเวลานับชั่วโมงก่อนที่เจ้าหน้าที่จะบุกเข้าไปและสังหารคนร้ายได้

“คูเลบา” ระบุการสังหารหมู่น่าจะเกิดขึ้นหลายเมือง

รมต.ต่างประเทศยูเครน เชื่อเหตุการณ์สังหารหมู่ประชาชน ยังเกิดขึ้นในอีกหลายเมืองของยูเครนที่รัสเซียเข้าไปยึดครอง วอนนานาชาติเพิ่มความเข้มข้นคว่ำบาตรและยุติการค้าขายกับรัสเซีย

ยูเครนกล่าวหารัสเซียสังหารหมู่ในหลายเมืองรอบกรุงเคียฟ

เคียฟ 4 เม.ย. – ยูเครนกล่าวหากองทัพรัสเซียว่าก่อเหตุสังหารหมู่พลเรือนในเมืองบูจา ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 300 ราย ขณะที่ชาติตะวันตกได้ออกมาแสดงท่าทีต่อเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยการเรียกร้องให้ใช้มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซีย อัยการสูงสุดของยูเครนเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า พบผู้เสียชีวิต 410 รายในหลายเมืองที่ตั้งอยู่ใกล้กรุงเคียฟ ในขณะที่ทางการยูเครนกำลังสืบสวนเกี่ยวกับอาชญากรรมสงครามที่อาจเกิดขึ้นโดยรัสเซีย และมีพยานหลายคนที่เผชิญกับภาวะบอบช้ำทางจิตใจจากเหตุดังกล่าวจนไม่สามารถให้การได้ ส่วนนายกเทศมนตรีเมืองบูจา ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงเคียฟไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 37 กิโลเมตร ระบุว่า กองทัพรัสเซียได้สังหารพลเรือน 300 รายในระหว่างที่กองกำลังเชชเนียได้ควบคุมพื้นที่ของเมืองนี้ อย่างไรก็ดี กระทรวงกลาโหมของรัสเซียได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยระบุว่า คลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นศพจำนวนมากในเมืองบูจาเป็นแผนยั่วยุครั้งใหม่ของรัฐบาลยูเครนและเป็นการจัดฉากขึ้นทั้งหมด ทั้งนี้ ภาพถ่ายเหล่านี้ได้รับการเผยแพร่หลังจากที่ยูเครนเผยเมื่อวันเสาร์ว่า กองกำลังยูเครนสามารถยึดพื้นที่ทั้งหมดของแคว้นเคียฟคืนจากรัสเซีย และปลดแอกเมืองได้หลายแห่ง นายดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของยูเครน ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า เหตุสังหารหมู่ในเมืองบูจาเกิดขึ้นโดยเจตนา ขณะที่โฆษกประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เผยกับบรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม ยูเครนพบหลุมศพหมู่ พบผู้เสียชีวิตในสภาพถูกมัดแขนขา และถูกจ่อยิงจากทางด้านหลังศีรษะ นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ ระบุว่า เขารู้สึกตกใจมากเมื่อได้เห็นภาพถ่ายดังกล่าว ส่วนนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ […]

เผย จนท. “เซฟ เดอะ ชิลเดรน” ตายในเหตุสังหารหมู่เมียนมา

ย่างกุ้ง 29 ธ.ค. – “เซฟ เดอะ ชิลเดรน” (Save the Children) องค์กรการกุศลระหว่างประเทศ ยืนยันเมื่อวันอังคารว่า เจ้าหน้าที่มูลนิธิ 2 คนที่หายตัวไป เป็นผู้เสียชีวิตส่วนหนึ่งในเหตุสังหารหมู่ในวันคริสต์มาส อีฟ ที่รัฐกะยา ทางตะวันออกของเมียนมา ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 35 ราย ซึ่งมีสตรีและเด็กรวมอยู่ด้วย ขณะที่สหรัฐกดดันให้ทั่วโลกใช้มาตรการห้ามขายอาวุธให้รัฐบาลทหารเมียนมา “เซฟ เดอะ ชิลเดรน” ยืนยันในแถลงการณ์ที่ระบุว่า เจ้าหน้าที่มูลนิธิ 2 คนที่หายตัวไปก่อนหน้านี้เป็นผู้เสียชีวิตในกลุ่มผู้ที่ถูกสังหารอย่างน้อย 35 รายจากเหตุสังหารหมู่ในวันที่ 24 ธันวาคม หรือตรงกับวันคริสต์มาสอีฟ กองทัพเมียนมาได้บังคับให้ทุกคนลงจากรถโดยสาร จับกุมคนจำนวนหนึ่ง สังหารผู้คนจำนวนมาก และจุดไฟเผาศพ ทั้งยังระบุว่า เจ้าหน้าที่มูลนิธิที่เสียชีวิตคนหนึ่งเป็นครูฝึกสอน ส่วนอีกคนทำงานกับมูลนิธิมาเป็นเวลา 6 ปี นอกจากนี้ “เซฟ เดอะ ชิลเดรน” ยังเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี จัดประชุมและเร่งดำเนินการหาตัวผู้ก่อเหตุรุนแรงในครั้งนี้ ในขณะเดียวกัน สหรัฐ ซึ่งเป็นแกนนำในการคว่ำบาตรรัฐประหาร […]

ยูเอ็นเรียกร้องรัฐบาลทหารเมียนมาสอบเหตุสังหารหมู่

นิวยอร์ก 27 ธ.ค. – เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ระบุเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นว่า รู้สึกตกใจกับรายงานข่าวพบพลเรือนเมียนมากว่า 35 ศพถูกเผาเกรียมในเมียนมา และเรียกร้องให้รัฐบาลทหารเมียนมาสืบสวนเรื่องดังกล่าว นายมาร์ติน กริฟฟิทส์ รองเลขาธิการยูเอ็นด้านมนุษยธรรม ระบุในแถลงการณ์ว่า เขาขอประณามผู้ก่อเหตุการณ์อันเลวร้ายในครั้งนี้และการโจมตีพลเรือนเมียนมาทั้งหมด พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลทหารเมียนมาเร่งสืบสวนเรื่องดังกล่าวอย่างละเอียดถี่ถ้วนและโปร่งใส ขณะที่เจ้าหน้าที่ 2 คนของเซฟเดอะชิลเดรน (Save the Children) ซึ่งเป็นมูลนิธิช่วยเหลือเด็ก ยังคงหายตัวไร้ร่องรอย หลังจากรถโดยสารของพวกเขาเป็นหนึ่งในยานพาหนะที่อยู่ในที่เกิดเหตุสังหารหมู่และเผาคนในวันคริสต์มาสอีฟที่รัฐกะยาทางตะวันออกของเมียนมา โดยที่กลุ่มเฝ้าระวังและสื่อท้องถิ่นของเมียนมากล่าวหาว่ารัฐบาลทหารเมียนมาเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงในครั้งนี้ เมียนมา วิตเนสส์ (Mynmar Witness) องค์กรเฝ้าระวังไม่แสวงหาผลกำไรที่ตรวจสอบเรื่องปัญหาละเมิดสิทธิมนุษยชนในเมียนมา ได้ยืนยันกับสื่อท้องถิ่นและผู้เห็นเหตุการณ์ที่เป็นนักสู้ท้องถิ่นว่า พบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 35 ราย ในจำนวนนี้ มีเด็กและผู้หญิงที่ถูกเผาเกรียมจนเสียชีวิตโดยกองทัพเมียนมาในวันที่ 24 ธันวาคม ซึ่งตรงกับวันคริสต์มาสอีฟ ที่เมืองพะยูโซในรัฐกะยา ส่วนข้อมูลจากดาวเทียมแสดงให้เห็นว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่จุดเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ของวันศุกร์. -สำนักข่าวไทย

จนท. Save the Children หายไปในรัฐกะยาของเมียนมา

กรุงเทพฯ 26 ธ.ค.- เซฟเดอะชิลเดรน (Save the Children) ซึ่งเป็นมูลนิธิช่วยเหลือเด็กเผยว่า เจ้าหน้าที่ 2 คนของมูลนิธิหายไป หลังจากทหารเมียนมาจับคนในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในรัฐกะยา ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ถูกอ้างในภาพที่เผยแพร่ในโลกออนไลน์ว่า เกิดเหตุสังหารหมู่และเผาคนมากกว่า 30 ศพในรถ 3 คันในวันคริสต์มาสอีฟ เซฟเดอะชิลเดรนแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ 2 คนนั้นเดินทางกลับบ้านหลังจากปฏิบัติภารกิจด้านมนุษยธรรมในชุมชนใกล้เคียง แต่ไปติดอยู่ในเหตุการณ์ที่ทหารจับคนในหมู่บ้านและยังคงหายไปจนถึงขณะนี้ ทางมูลนิธิได้รับการยืนยันว่า รถของพวกเขาถูกเผา และได้รับรายงานว่าทหารเมียนมาไล่คนลงจากรถ ก่อนจับกุม สังหาร และเผา รัฐบาลเมียนมายังไม่แสดงความเห็นต่อข่าวดังกล่าว ขณะที่หนังสือพิมพ์ของทางการรายงานเมื่อวันเสาร์ว่า เกิดการสู้รบใกล้หมู่บ้านแห่งหนึ่งในรัฐกะยาเมื่อวันศุกร์ เมื่อกลุ่มกองโจรชื่อพรรคก้าวหน้าแห่งชาติกะเหรี่ยงและกลุ่มต่อต้านกองทัพไม่ยอมหยุดรถและทำร้ายเจ้าหน้าที่ คนเหล่านี้กำลังจะไปฝึกอาวุธเพื่อสู้กับกองทัพ ส่วนรถที่ขับมาทั้ง 7 คันถูกไฟไหม้เสียหาย แต่ไม่ได้รายงานเรื่องการสังหารแต่อย่างใด ด้านสื่ออิสระรายงานว่า คนในหมู่บ้าน 10 คน ซึ่งมีเด็กรวมอยู่ด้วยถูกทหารควบคุมตัว สมาชิกกองกำลังท้องถิ่น 4 คนไปเจรจาขอให้ปล่อยตัวแต่กลับถูกจับมัดและจ่อยิงที่ศีรษะ.-สำนักข่าวไทย

เม็กซิโกรำลึกเหตุสังหารหมู่นักศึกษา

ชาวเม็กซิกันร่วมชุมนุมวันครบรอบ 53 ปี เหตุสังหารหมู่กลุ่มนักศึกษา ที่จัตุรัสลาเตโลลโก ในกรุงเม็กซิโกซิตี เมื่อวันเดียวกันนี้ของปี 2511

อัฟกานิสถานไว้อาลัย 22 ศพเหยื่อสังหารหมู่ในมหาวิทยาลัย

นักศึกษาชาวอัฟกันชุมนุมหน้ามหาวิทยาลัยคาบูลในวันนี้ ขณะที่มีการไว้อาลัยทั่วประเทศให้แก่ผู้เสียชีวิต 22 คนจากเหตุสังหารหมู่ที่กลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส (IS) อ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุ

คดีสังหารหมู่ที่มัสยิดในนิวซีแลนด์

หลังศาลนิวซีแลนด์ตัดสินจำคุกตลอดชีวิตมือปืนชาวออสเตรเลียที่ก่อเหตุกราดยิงในมัสยิด 2 แห่งเมื่อปีที่แล้ว ผู้นำออสเตรเลีย เผยว่าพร้อมเจรจาเรื่องการส่งตัวเขามารับโทษในออสเตรเลีย

1 2 3 4
...