เคียฟ 4 เม.ย. – ยูเครนกล่าวหากองทัพรัสเซียว่าก่อเหตุสังหารหมู่พลเรือนในเมืองบูจา ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 300 ราย ขณะที่ชาติตะวันตกได้ออกมาแสดงท่าทีต่อเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยการเรียกร้องให้ใช้มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซีย
อัยการสูงสุดของยูเครนเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า พบผู้เสียชีวิต 410 รายในหลายเมืองที่ตั้งอยู่ใกล้กรุงเคียฟ ในขณะที่ทางการยูเครนกำลังสืบสวนเกี่ยวกับอาชญากรรมสงครามที่อาจเกิดขึ้นโดยรัสเซีย และมีพยานหลายคนที่เผชิญกับภาวะบอบช้ำทางจิตใจจากเหตุดังกล่าวจนไม่สามารถให้การได้ ส่วนนายกเทศมนตรีเมืองบูจา ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงเคียฟไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 37 กิโลเมตร ระบุว่า กองทัพรัสเซียได้สังหารพลเรือน 300 รายในระหว่างที่กองกำลังเชชเนียได้ควบคุมพื้นที่ของเมืองนี้ อย่างไรก็ดี กระทรวงกลาโหมของรัสเซียได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยระบุว่า คลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นศพจำนวนมากในเมืองบูจาเป็นแผนยั่วยุครั้งใหม่ของรัฐบาลยูเครนและเป็นการจัดฉากขึ้นทั้งหมด ทั้งนี้ ภาพถ่ายเหล่านี้ได้รับการเผยแพร่หลังจากที่ยูเครนเผยเมื่อวันเสาร์ว่า กองกำลังยูเครนสามารถยึดพื้นที่ทั้งหมดของแคว้นเคียฟคืนจากรัสเซีย และปลดแอกเมืองได้หลายแห่ง
นายดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของยูเครน ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า เหตุสังหารหมู่ในเมืองบูจาเกิดขึ้นโดยเจตนา ขณะที่โฆษกประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เผยกับบรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม ยูเครนพบหลุมศพหมู่ พบผู้เสียชีวิตในสภาพถูกมัดแขนขา และถูกจ่อยิงจากทางด้านหลังศีรษะ
นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ ระบุว่า เขารู้สึกตกใจมากเมื่อได้เห็นภาพถ่ายดังกล่าว ส่วนนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เรียกร้องให้เปิดการสอบสวนอิสระเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่นายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนี เผยว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย และผู้สนับสนุนจะต้องชดใช้ในสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งยังระบุว่า ชาติตะวันตกจะลงมติประกาศมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซียในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ด้านรัสเซียขอให้คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นเปิดการประชุมในวันจันทร์ เพื่อหารือสิ่งที่รัสเซียระบุว่าเป็นการยั่วยุของกลุ่มหัวรุนแรงชาวยูเครนในเมืองบูจา. -สำนักข่าวไทย