Legal status of immigrants in US in 2023

เปิดข้อมูลผู้อพยพในสหรัฐที่มีมากที่สุดในโลก

วอชิงตัน 11 มิ.ย. – สหรัฐเป็นประเทศที่มีผู้อพยพมากที่สุดในโลก โดยเมื่อปี 2567 สหรัฐมีประชากรคิดเป็นร้อยละ 4 ของประชากรโลก แต่เป็นที่อยู่อาศัยของผู้อพยพคิดเป็นร้อยละ 17 ของผู้อพยพทั้งโลก เว็บไซต์สถาบันนโยบายการอพยพหรือเอ็มพีไอ (Migration Policy Institute: MPI) ซึ่งเป็นหน่วยงานไม่ฝักใฝ่พรรคการเมืองใด ตั้งขึ้นในปี 2544 สำนักงานใหญ๋ในกรุงวอชิงตันของสหรัฐ ได้แจกแจงข้อมูลเกี่ยวกับผู้อพยพในสหรัฐว่า การสำรวจชุมชนอเมริกันล่าสุดของสำนักสำมะโนประชากรสหรัฐพบว่า ปี 2566 สหรัฐมีผู้อพยพอาศัยอยู่ทั้งหมด 47.8 ล้านคน ในจำนวนนี้ราว 3 ใน 4 อาศัยอยู่อย่างถูกกฎหมายในฐานะพลเรือนที่ได้รับการแปลงสัญชาติ ผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรโดยชอบด้วยกฎหมายหรือที่เรียกว่าผู้ถือกรีนการ์ด และผู้ถือวีซ่าชั่วคราว จำนวนผู้อพยพดังกล่าวถือว่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 14.3 ของประชากรสหรัฐทั้งหมด 331.9 ล้านคน เมื่อเทียบกับปี 2393 ที่เริ่มทำการสำมะโนประชากรครั้งแรก ครั้งนั้นสหรัฐมีผู้อพยพ 2.2 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 10 ของประชากรในขณะนั้น จำนวนผู้อพยพในสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปี 2513 ส่วนใหญ่มาจากลาตินอเมริกาและเอเชีย หลังจากสหรัฐแก้ไขกฎหมายการอพยพ […]

ผู้แทนการค้าจีนเผยจีน-สหรัฐเจรจาอย่างตรงไปตรงมา

ลอนดอน 11 มิ.ย. — หลี่ เฉิงกัง ผู้แทนการค้าระหว่างประเทศของจีนจากกระทรวงพาณิชย์และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงฯ เปิดเผยว่าจีนและสหรัฐ จัดการเจรจาอย่างมืออาชีพ มีเหตุผล ลึกซึ้ง และตรงไปตรงมาตลอดในช่วงสองวันที่ผ่านมา สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า นายหลี่ กล่าวข้อความข้างต้นระหว่างการแถลงข่าวหลังการประชุมกลไกหารือด้านเศรษฐกิจและการค้าจีน-สหรัฐ ครั้งที่ 1 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงลอนดอนของสหราชอาณาจักร โดยหลี่ระบุว่าทั้งสองฝ่ายได้ตกลงในหลักการเกี่ยวกับกรอบการดำเนินการตามฉันทามติที่ผู้นำสองประเทศบรรลุร่วมกันในการสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน รวมถึงฉันทามติที่บรรลุในการเจรจาที่นครเจนีวา นายหลี่เปิดเผยว่าจีนหวังว่าความคืบหน้าที่เกิดขึ้นในการประชุมที่ลอนดอนจะช่วยส่งเสริมความไว้วางใจระหว่างจีนและสหรัฐฯ และผลักดันให้ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองประเทศพัฒนาไปอย่างมั่นคงและแข็งแรงยิ่งขึ้น พร้อมเสริมว่าการประชุมครั้งนี้ยังช่วยส่งพลังบวกต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกอีกด้วย.-813.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐและจีนบรรลุข้อตกลงเพื่อผ่อนคลายข้อจำกัดการส่งออก

ลอนดอน 11 มิ.ย. – เจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนเปิดเผยเมื่อวันอังคารว่า ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงเรื่องกรอบการทำงานเพื่อนำข้อตกลงสงบศึกทางการค้าให้กลับมาเดินหน้าต่อไป และขจัดข้อจำกัดการส่งออกสินแร่หายากของจีน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ฮาวเวิร์ด ลุตนิค กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังจากเสร็จสิ้นการเจรจาอันเข้มข้นเป็นเวลาสองวันที่กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษเมื่อวานนี้ว่า ข้อตกลงกรอบการทำงานนี้มีเนื้อหาเพิ่มเติมจากข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันเมื่อเดือนที่แล้วระหว่างการหารือที่นครเจนีวา ของสวิตเซอร์แลนด์เพื่อผ่อนคลายมาตรการภาษีตอบโต้ระหว่างสองประเทศที่พุ่งสูงถึงระดับตัวเลขสามหลัก ลุตนิคกล่าวว่าข้อตกลงล่าสุดที่กรุงลอนดอนจะยกเลิกข้อจำกัดการส่งออกบางส่วนของสหรัฐที่บังคับใช้เมื่อเร็วๆ นี้ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดหลังจากที่การเจรจาสิ้นสุดลงประมาณเที่ยงคืนตามเวลากรุงลอนดอน หรือตรงกับราว 6.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย นายลุตนิค กล่าวว่า หลังจากนี้จะนำรายละเอียดไปแจ้งให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับทราบและให้ความเห็นชอบ ในชณะที่ฝ่ายจีนก็จะไปแจ้งให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้รับทราบเพื่อให้ความเห็นชอบ และหากทั้งสองฝ่ายให้ไฟเขียว ก็จะริเรี่มดำเนินการตามกรอบที่ได้ตกลงกันไว้ ข้อตกลงเบื้องต้นที่นครเจนีวาได้สะดุดลงเนื่องจากการที่จีนยังคงจำกัดการส่งออกแร่ธาตุสำคัญ ทำให้รัฐบาลสหรัฐตอบโต้ด้วยการควบคุมการส่งออกของตนเอง โดยการสกัดกั้นการส่งออกซอฟต์แวร์ออกแบบเซมิคอนดักเตอร์ สารเคมี และสินค้าเทคโนโลยีอื่นๆ ไปยังจีน.-813.-สำนักข่าวไทย

ไทย-สหรัฐ เตรียมเจรจาภาษี ยึดหลักการ “ไทยเป็นพันธมิตรที่สร้างสรรค์”

10 มิ.ย. – ไทยเตรียมพร้อมเจรจาภาษีการค้ากับสหรัฐ บนหลักการได้ประโยชน์ร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย โดยไทยเสนอ 5 ข้อหลัก ซึ่งจะต้องเร่งเจรจาให้จบก่อนภาษีตอบโต้ Reciprocal Tariffs มีผลบังคับใช้ 8 กรกฎาคมนี้ โดยไทยหวังว่าสหรัฐ จะลดอัตราภาษีให้ต่ำที่สุด.-สำนักข่าวไทย

9 ทันโลก : “ทรัมป์” ออกคำประกาศห้าม 12 ประเทศเข้าสหรัฐ

สหรัฐ 10 มิ.ย. – ขณะนี้สหรัฐกำลังปั่นป่วนจากนโยบายเด็ดขาดด้านผู้อพยพของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งส่งผลกระทบหลายประเทศ สามีภรรยาชาวนครย่างกุ้ง กำลังกลัดกลุ้มอย่างหนักกับชีวิต ภาพอนาคตที่ทั้งสองวาดหวังที่สร้างร่วมกันกำลังเลือนหายไป สถานการณ์ของพวกเขาผิดกันราวฟ้ากับเหวกับเมื่อปีที่แล้ว ที่ทั้งสองได้รับแจ้งว่าถูกลอตเตอรี่วีซ่าของสหรัฐ หรือโครงการวีซ่าผู้อพยพหลากหลายประเภท ของกระทรวงต่างประเทศ สองสามีภรรยาฝันว่าจะหลบหนีปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจในบ้านเกิด แล้วไปสร้างครอบครัวและมีลูกด้วยกันในแดนเสรีในปีหน้า ตามที่โชคได้อำนวย จนถูกลอตเตอรี่วีซ่า บุญมีแต่ถูกบัง เมื่อวานนี้ความฝันทลายลงไป ประกาศของนายโดนัลด์ ทรัมป์ มีผลบังคับใช้สั่งห้ามพลเมือง 12 ประเทศเข้าสหรัฐ ซึ่งรวมถึงเมียนมาด้วย เพราะเหตุผลของคำสั่งห้ามคือ การป้องกันผู้ก่อการร้ายต่างชาติ ร่วมกับประเทศอย่างอัฟกานิสถาน โซมาเลีย และเยเมน เพราะพวกเขาไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย เป็นเพียงผู้เสาะหาที่พักพิงหลบหนีจากวิกฤติการเมืองในบ้านเกิดเท่านั้น คำสั่งห้ามพลเมืองจาก 12 ประเทศเดินทางเข้าสหรัฐ ยังพ่วงด้วยการจำกัดการเดินทางบางส่วนจากอีก 7 ประเทศด้วย โดยใช้เกณฑ์ที่ว่าเป็นประเทศที่มีระบบตรวจสอบวีซาที่ไม่รัดกุม มีอัตราการพำนักเกินอายุของวีซ่าสูง และมีกลุ่มการก่อการร้าย คำสั่งนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของจุดยืนเด็ดขาดด้านผู้อพยพของนายทรัมป์ ตั้งแต่ครองทำเนียบขาววาระแรก บนหลักคิด “อเมริกาต้องมาก่อน” จึงให้ความสำคัญกับความมั่นคงและผลประโยชน์เบื้องหน้า ในวาระที่ 2 นี้ รัฐบาลทรัมป์ 2.0 ได้เร่งรัดงานด้านนี้อย่างเข้มข้น ตั้งแต่การปิดกั้นพรมแดน ยกเลิกโครงการผู้อพยพ […]

สหรัฐส่งนาวิกโยธินไปแอลเอขณะตำรวจเผชิญการประท้วง

ลอสแอนเจลิส 10 มิ.ย. – กองทัพสหรัฐจะส่งกำลังนาวิกโยธินประมาณ 700 นายไปยังนครลอสแอนเจลิสเป็นการชั่วคราว จนกว่ากองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ (National Guard) ชุดใหม่จะเดินทางมาถึง ซึ่งถือเป็นการยกระดับมาตรการรับมือการประท้วงบนท้องถนนต่อต้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ใช้นโยบายตรวจคนเข้าเมืองที่แข็งกร้าว การประกาศส่งกำลังนาวิกโยธินไปยังนครลอสแอนเจลิสเกิดขึ้นในวันที่สี่ของการประท้วงที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงค่ำวันจันทร์ ตำรวจได้เริ่มสลายผู้ประท้วงหลายร้อยคนที่รวมตัวกันอยู่ด้านนอกศูนย์กักกันกลางในย่านกลางเมืองของนครลอสแอนเจลิส ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้อพยพถูกควบคุมตัวอยู่ นาวิกโยธินสหรัฐออกปฎิบัติหน้าที่ภายในประเทศเพื่อรับมือกับภัยพิบัติครั้งใหญ่ เช่น พายุเฮอริเคนแคทรีนา และเหตุการณ์ 11 กันยายน 2001 แต่การที่กองกำลังทหารสหรัฐถูกนำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการบังคับใช้กฎหมายภายในประเทศนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากอย่างยิ่ง   กระทรวงกลาโหมสหรัฐยืนยันเมื่อวันจันทร์ว่า จำนวนกำลังพลของกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า จาก 2,000 นาย เป็น 4,000 นาย ซึ่งเป็นการตอบรับคำสั่งของนายทรัมป์ ในการรับมือการประท้วงบนท้องถนนที่เกิดจากนโยบายตรวจคนเข้าเมืองที่รุนแรงของเขา นายทรัมป์กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่าเขารู้สึกว่าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเพิ่มระดับกำลังพลเพื่อป้องกันไม่ให้ความรุนแรงบานปลายจนควบคุมไม่ได้ ความตึงเครียดได้ทวีความรุนแรงขึ้นนับตั้งแต่นายทรัมป์สั่งการให้กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ เข้าปฏิบัติการเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากเกิดการประท้วงบนท้องถนนเพื่อตอบโต้การกวาดล้างผู้อพยพในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ เหตุการณ์นี้ถือเป็นจุดระเบิดครั้งสำคัญที่สุดในความพยายามที่แข็งกร้าวของรัฐบาลทรัมป์ในการเนรเทศผู้อพยพที่อาศัยอยู่ในประเทศอย่างผิดกฎหมาย.-813.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีใต้และสหรัฐคาดเร่งการเจรจาภาษี

โซล 7 มิ.ย. – เกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาคาดว่าจะเร่งการเจรจาภาษีในระดับคณะทำงาน หลังจากที่ประธานาธิบดีอี แจ-มยอง และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ตกลงที่ให้ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงที่เป็นที่พอใจร่วมกันโดยเร็วที่สุด ในระหว่างที่ทั้งสองได้สนทนาทางโทรศัพท์ครั้งแรกนับตั้งแต่นายอีเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี สำนักข่าวยอนฮับ รายงานว่า ในระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์เป็นเวลา 20 นาทีในช่วงค่ำวันศุกร์ นายอีและนายทรัมป์ได้หารือกันเรื่องภาษี โดยได้อยากให้คณะผู้เจรจาได้บรรลุผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมก่อนเส้นตายวันที่ 8 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันหมดอายุการยกเว้นภาษีตอบโต้ของสหรัฐ ต่อเกาหลีใต้และประเทศคู่ค้าสำคัญอื่นๆ   เจ้าหน้าที่ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ กล่าวด้วยว่า ผู้นำทั้งสองได้ยืนยันถึงความใกล้ชิดของพวกเขา ในขณะเดียวกันก็สร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรต่อกัน การพูดคุยทางโทรศัพท์ครั้งนี้ถือเป็นการกลับมาดำเนินแนวทางของการทูตระดับสูงสุดกับสหรัฐ หลังจากที่เกาหลีใต้เผชิญกับภาวะผู้นำสุญญากาศมานานหกเดือน ซึ่งเกิดจากการที่อดีตประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ประกาศใช้กฎอัยการศึกในเดือนธันวาคม.-813.-สำนักข่าวไทย

ผู้เจรจาการค้าญี่ปุ่นระบุมีความคืบหน้าในการหารือภาษีกับสหรัฐ

โตเกียว 7 มิ.ย. – นายเรียวเซอิ อากาซาวะ หัวหน้าคณะผู้เจรจาด้านภาษีของญี่ปุ่น กล่าวญี่ปุ่นมีความคืบหน้าในการเจรจาการค้ารอบที่ห้ากับเจ้าหน้าที่สหรัฐ โดยมีเป้าหมายที่จะยุติมาตรการภาษีที่กำลังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของญี่ปุ่น นายอาคาซาวะ กล่าวที่กรุงวอชิงตันเมื่อวันศุกร์ หลังจากการหารือกับเจ้าหน้าที่หลายท่าน รวมถึงนายสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐและรัฐมนตรีพาณิชย์ ฮาวเวิร์ด ลุตนิค รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐว่า มีการเก็บภาษีรถยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ เหล็กและอะลูมิเนียมไปแล้ว และบางส่วนเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเป็นร้อยละ 50 ควบคู่ไปกับภาษีทั่วไปร้อยละ 10 สิ่งเหล่านี้กำลังทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นเสียหายในแต่ละวัน แต่นายอาคาซาวะ ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของความคืบหน้าในการเจรจาที่เขากล่าวถึงแต่อย่างใด การเจรจารอบล่าสุดนี้อาจเป็นการพบปะด้วยตนเองครั้งสุดท้ายระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของญี่ปุ่นและสหรัฐ ก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม 7 ชาติอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก หรือ จี 7 ที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 15 มิถุนายน ที่ประเทศแคนาดา ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ คาดว่าจะได้พบกับนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่น ญี่ปุ่นจะต้องเผชิญกับอัตราภาษีร้อยละ 24 ที่จะเริ่มในเดือนกรกฎาคม หากไม่สามารถเจรจาข้อตกลงกับสหรัฐได้.-813.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลทรัมป์คว่ำบาตรตุลาการไอซีซี 4 คน

วอชิงตัน 6 มิ.ย. – รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐประกาศวานนี้ กำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อตุลาการศาลอาญาระหว่างประเทศ (International Criminal Court) หรีอ ไอซีซี 4 คน ซึ่งเป็นการตอบโต้ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจากการที่ศาลแห่งนี้ออกหมายจับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลและการตัดสินใจก่อนหน้านี้ที่จะเปิดคดีสอบสวนข้อกล่าวหาที่ว่า ทหารสหรัฐก่ออาชญากรรมสงครามในอัฟกานิสถาน นายมาร์โก ริบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวในแถลงการณ์ ผู้พิพากษาทั้ง 4 คน มาจาก ยูกันดา เปรู เบนิน และสโลวีเนีย บุคคลทั้ง 4 ได้เข้าร่วมอย่างแข็งขันในการกระทำที่ผิดกฎหมายและไร้เหตุผลของไอซีซี ซึ่งมุ่งเป้าไปที่อเมริกาหรืออิสราเอล ที่เป็นพันธมิตรใกล้ชิดของสหรัฐ ไอซีซีถูกทำให้เป็นเรื่องการเมืองและอ้างสิทธิ์ในการสอบสวน ตั้งข้อหา และดำเนินคดีกับพลเมืองของสหรัฐและพันธมิตรของสหรัฐอย่างไม่มีข้อจำกัดโดยไม่ถูกต้อง ทางด้านไอซีซี ประณามการกระทำของสหรัฐดังกล่าว โดยระบุว่าเป็นการพยายามบ่อนทำลายความเป็นอิสระของสถาบันตุลาการระหว่างประเทศที่มอบความหวังและความยุติธรรมให้กับผู้ตกเป็นเหยื่อ ‘การทารุณกรรมที่ไม่อาจจินตนาการได้’ นับล้านคน.-813.-สำนักข่าวไทย

เวียดนามเกินดุลสหรัฐเพิ่มมากขึ้น

ฮานอย 6 มิ.ย. – รัฐบาลเวียดนามเปิดเผยตัวเลขการค้ากับสหรัฐในวันนี้พบว่า เมื่อเดือนที่แล้วเวียดนามเกินดุลสหรัฐเพิ่มขึ้นอีก เวียดนามได้เปรียบดุลการค้ากับสหรัฐคิดเป็นมูลค่า 12,200 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึงร้อยละ 42 และเพิ่มจากเดือนเมษายนร้อยละ 17 ขณะที่ข้อมูลของทางสหรัฐระบุว่าการเกินดุลของเวียดนามเมื่อเดือนเมษายนมีมูลค่าสูงกว่าเม็กซิโก และเป็นรองเฉพาะจีนกับสหภาพยุโรปเท่านั้น คาดว่าเป็นผลจากการที่ผู้ส่งออกของเวียดนามพยายามเร่งส่งออกให้ได้มากที่สุดก่อนที่มาตรการกำแพงภาษีของทรัมป์จะเริ่มมีผลในต้นเดือนกรกฏาคม ซึ่งสินค้าจากเวียดนามจะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าสูงถึงร้อยละ 46.-816.-สำนักข่าวไทย

‘สี จิ้นผิง’ ต่อสายคุย ‘ทรัมป์’ ชี้การเจรจาเป็นทางเลือกถูกต้อง

ปักกิ่ง, 6 มิ.ย. — ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เปิดเผยว่าการเจรจาและความร่วมมือคือทางเลือกเดียวที่ถูกต้องสำหรับจีนและสหรัฐ สำนักข่าวซินหัว รายงานวันนี้ว่า นายสี กล่าวในการสนทนาทางโทรศัพท์ ซึ่งริเริ่มโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เมื่อวานนี้ว่าการปรับทิศทางความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐ เปรียบเสมือนการควบคุมเรือใหญ่ที่ต้องร่วมกันถือหางเสือ และมุ่งหน้าให้ถูกทาง พร้อมย้ำว่าสิ่งสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงสิ่งรบกวนหรือปัจจัยที่ทำให้ไขว้เขว นายสี ระบุว่าการประชุมทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน-สหรัฐ ที่นครเจนีวาเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งเกิดขึ้นตามข้อเสนอของฝ่ายสหรัฐ ถือเป็นก้าวสำคัญสู่การแก้ไขประเด็นปัญหาที่เกี่ยวข้องผ่านการเจรจาหารือ โดยการประชุมดังกล่าวได้รับการตอบรับเชิงบวกจากสังคมของทั้งสองประเทศ และประชาคมระหว่างประเทศ นายสี ระบุว่าทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องใช้กลไกการหารือทางเศรษฐกิจและการค้าที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ และแสวงหาผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันภายใต้หลักความเท่าเทียมและการเคารพต่อความกังวลของกันและกัน โดยจีนมีความจริงใจในเรื่องนี้ และยึดมั่นในหลักการของตนเช่นกัน ผู้นำจีนย้ำว่าฝ่ายจีนให้ความสำคัญกับคำมั่น และทำตามที่ให้สัญญาไว้เสมอมา โดยเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายปฏิบัติตามข้อตกลงที่บรรลุในการประชุมที่เจนีวา ซึ่งจีนได้ดำเนินการตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างจริงจังแล้ว พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐ ยอมรับความคืบหน้าที่เกิดขึ้น และยกเลิกมาตรการเชิงลบต่อจีน นอกจากนี้ นายสี ยังเสนอให้ทั้งสองฝ่ายยกระดับการสื่อสารในด้านต่างๆ อาทิ การต่างประเทศ เศรษฐกิจและการค้า การทหาร และการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อสร้างฉันทามติ แก้ความเข้าใจผิด และเสริมสร้างความร่วมมือ นายสีเน้นย้ำว่าสหรัฐ ต้องจัดการกับปัญหาไต้หวันอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้กลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ยึดมั่นใน “เอกราชไต้หวัน” ฉุดลากจีนและสหรัฐฯ ไปสู่เส้นทางอันตรายของการเผชิญหน้า […]

‘ทรัมป์’ เผยการเจรจากับจีนเป็นไปด้วยดี

วอชิงตัน 6 มิ.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐเปิดเผยวานนี้ว่า การเจรจาการค้ากับจีนยังคงเดินหน้าต่อไปตามปกติและถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี นอกจากนี้ยังบอกด้วยว่าเขาอาจจะเดินทางไปเยือนจีนในอนาคต ประธานาธิบดีทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวภายหลังจากการสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนนานกว่า 1 ชั่วโมงว่าการเจรจาปัญหาการค้ากับจีนถือว่าเป็นไปด้วยดี และจะเดินหน้าเจรจากันต่อไปโดยหลังจากนี้จะมีการเจรจาเพิ่มเติมระหว่างผู้แทนการค้ารัฐมนตรีคลัง รวมทั้งรัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน นอกจากนี้นายทรัมป์ยังประกาศผ่าน “ทรูธ โซเชียล” สื่อสังคมออนไลน์ของเขาด้วยว่าจะมีการหารือกันเพิ่มเติมของเจ้าหน้าที่ระดับล่างด้วย ซึ่งทรัมป์หวังว่าจะมีความคืบหน้าเรื่องการส่งออกแร่หายากของจีน หลังจากที่ทั้งสองประเทศบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นกันไปเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมในการลดภาษีศุลกากรของแต่ละฝ่ายลงจากที่เคยประกาศจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสูงถึงระดับเกินกว่า 100% ก่อนหน้านี้ ด้านโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีนรายงานข่าวนี้เช่นกัน ว่าประธานาธิบดีสีได้แจ้งต่อผู้นำสหรัฐว่าความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อขจัดการแทรกแซง แม้กระทั่งการก่อวินาศกรรมทุกรูปแบบ พร้อมกันนี้ผู้นำจีนยังกล่าวชื่นชมการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่นครเจนีวาเมื่อเดือนที่แล้วว่าเป็นก้าวสำคัญที่นำไปสู่การแก้ปัญหาเศรษฐกิจและการค้าระหว่างกันและในการสนทนาครั้งนี้ผู้นำทั้งสองต่างก็เชื้อเชิญให้แต่ละฝ่ายเดินทางมาเยือนด้วย.-816.-สำนักข่าวไทย

1 3 4 5 6 7 590
...