สหรัฐ

ไฟป่าที่โหมไหม้และลุกลามไปยังย่านเศรษฐีบริเวณลากูนา ไนกูเอล ทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย สร้างความเสียหายให้กับบ้านหรูราว 20 หลัง แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

ไมอามี 12 พ.ค. – องค์การบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐ หรือเอฟเอเอ เผยว่า ผู้โดยสารคนหนึ่งที่ไม่มีประสบการณ์ขับเครื่องบินมาก่อน สามารถนำเครื่องบินส่วนตัวขนาดเล็กลงจอดได้อย่างปลอดภัยที่สนามบินในรัฐฟลอริดาเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น หลังนักบินมีอาการป่วยจนขับเครื่องบินต่อไม่ได้ เอฟเอเอระบุว่า ผู้โดยสารคนดังกล่าวสามารถนำเครื่องบินเซสนา 208 (Cessna 208) ซึ่งเป็นเครื่องบินใบพัดเดี่ยว ลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติปาล์มบีชในรัฐฟลอริดาได้อย่างปลอดภัยเมื่อเวลา 12.30 น. ของวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น หลังเครื่องบินลำนี้ได้ออกเดินทางจากเมืองมาร์ชฮาร์เบอร์ของบาฮามาส ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของรัฐฟลอริดา ได้เพียง 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยที่บนเครื่องบินมีนักบิน 1 คนและผู้โดยสาร 2 คน เอฟเอเอยังระบุว่า หลังออกเดินทางขึ้นสู่ท้องฟ้าได้ราว 1 ชั่วโมง นักบินแจ้งว่าเขารู้สึกไม่สบายก่อนที่จะหมดสติคาเก้าอี้ จากนั้นเครื่องบินก็ดิ่งลงสู่พื้นโลกอย่างรวดเร็วจนทำให้ผู้โดยสารคนหนึ่งตัดสินใจบังคับเครื่องบินแทนนักบินที่หมดสติทั้งที่เขาไม่มีประสบการณ์ขับเครื่องบินมาก่อน ข้อความบันทึกเสียงสนทนาระหว่างผู้โดยสารกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมจราจรทางอากาศระบุว่า ผู้โดยสารคนนี้สื่อสารกับเจ้าหน้าที่ว่า นักบินมีอาการป่วยจนไม่สามารถขับเครื่องบินได้ และเขาก็บังคับเครื่องบินไม่เป็น อีกทั้งยังไม่รู้ว่าตอนนี้กำลังบินอยู่เหนือพื้นที่ใด  อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมจราจรทางอากาศได้ให้คำแนะนำผู้โดยสารคนดังกล่าวเกี่ยวกับการรักษาระดับบินและการบินไปตามแนวชายฝั่งไปจนถึงการช่วยให้ผู้โดยสารคนนี้นำเครื่องบินลงจอดได้อย่างปลอดภัยที่ท่าอากาศยานปาล์มบีช ทั้งนี้ เอฟเอเอระบุว่า หลังลงจอดฉุกเฉินได้ที่ท่าอากาศยานดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวนักบินที่มีอาการป่วยไปรักษาในโรงพยาบาลใกล้เคียง ส่วนผู้โดยสารทั้งสองคนไม่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์สุดระทึกในครั้งนี้.-สำนักข่าวไทย

นายฮวง ซีเหลียน ทูตจีนประจำกรุงมะนิลากล่าววันนี้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างฟิลิปปินส์กับจีนจะมีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลว่าที่ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์

วอชิงตัน 12 พ.ค. – เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐเผยว่า สหรัฐต้องการให้บรรดาผู้นำของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีบทบาทมากขึ้นในการทำให้เมียนมาหวนกลับเข้าสู่เส้นทางระบอบประชาธิปไตยหลังเกิดเหตุรัฐประหารเมื่อปีก่อน ในขณะที่การประชุมระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐกับผู้นำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเปิดฉากขึ้นในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่กรุงวอชิงตันตามเวลาท้องถิ่น นายเคิร์ต แคมป์เบลล์ เจ้าหน้าที่ประสานงานภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐระบุว่า รัฐบาลสหรัฐจะสนับสนุนให้ใช้วิธีเจรจาทางการทูตมากขึ้นในประเด็นเกี่ยวกับเมียนมาในระหว่างการประชุมกับบรรดาผู้นำของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ในพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่กรุงวอชิงตัน สหรัฐคาดหวังให้อาเซียนจริงจังกับการเข้าไปมีส่วนร่วมเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลทหารเมียนมากับฝ่ายต่อต้านรัฐประหาร รวมถึงแนวทางทางการทูตเกี่ยวกับอนาคตของเมียนมา โดยที่สหรัฐจะยังคงมีบทบาทในการสนับสนุนและร่วมมือกับชาติพันธมิตรอื่น ๆ เพื่อแก้ไขปัญหานี้เช่นกัน ทั้งยังระบุว่า สหรัฐเห็นว่าอาเซียนได้เริ่มลงมือแก้ไขวิกฤตการณ์ในเมียนมา ซึ่งรวมถึงการแต่งตั้งทูตพิเศษเข้าไปเจรจากับนายพลของเมียนมา แต่ก็ยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ก่อนหน้านี้ อาเซียนได้ตัดสินใจไม่เชิญพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนจนกว่ารัฐบาลทหารเมียนมาจะยอมทำตามฉันทามติ 5 ข้อตามที่ตกลงไว้กับอาเซียนเมื่อปีก่อนเพื่อยุติสถานการณ์รุนแรงในประเทศนับตั้งแต่เกิดเหตุรัฐประหารและจับกุมบรรดาผู้นำพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งรวมถึงนางออง ซาน ซู จี เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ปีก่อน.-สำนักข่าวไทย

วอชิงตัน 11 พ.ค. – หน่วยข่าวกรองสหรัฐเตือนว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กำลังวางแผนทำสงครามยาวนานในยูเครน เพราะถึงแม้รัสเซียจะคว้าชัยชนะในภูมิภาคตะวันออกของยูเครนได้ ก็ไม่อาจยุติความขัดแย้งในครั้งนี้ แอวริล เฮนส์ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐ กล่าวรายงานต่อคณะกรรมาธิการวุฒิสภาสหรัฐเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า ประธานาธิบดีปูตินยังคงมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายที่เหนือกว่าการยึดภูมิภาคดอนบาส แต่ก็ประสบปัญหาด้านขีดความสามารถทางทหารรัสเซียในตอนนี้ ซึ่งสวนทางกับความต้องการของเขา ทั้งยังระบุว่า ผู้นำรัสเซียอาจกำลังรอให้การสนับสนุนยูเครนของสหรัฐและชาติยุโรปลดน้อยลง เนื่องจากปัญหาเงินเฟ้อ ขาดแคลนอาหาร และราคาพลังงานพุ่งสูงขึ้น อย่างไรก็ดี เฮนส์ตั้งข้อสังเกตว่า ประธานาธิบดีปูตินอาจหันไปใช้การโจมตีที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิมในสงครามครั้งนี้ แม้รัสเซียจะสามารถใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้ก็ต่อเมื่อผู้นำรัสเซียเห็นว่ามีภัยคุกคามต่อประเทศก็ตาม ขณะที่สกอตต์ แบริเออร์ ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ กล่าวว่า ขณะนี้รัสเซียกับยูเครนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มีฝ่ายใดเอาชนะกันได้ บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี ระบุว่า คำเตือนของหน่วยข่าวกรองสหรัฐมีขึ้นในขณะที่กองทัพรัสเซียยังคงบุกโจมตีภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครน อย่างหนักหน่วงเพื่อยึดครองพื้นที่ดังกล่าว หลังยูเครนสามารถต้านทานการโจมตีกรุงเคียฟจนรัสเซียต้องถอนกำลังออกไปในที่สุด ในขณะเดียวกัน กองทัพยูเครนอ้างว่าสามารถยึดพื้นที่ของ 4 เมืองในแคว้นคาร์คิฟ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน คืนจากรัสเซียได้แล้ว ด้านประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เผยว่า ยูเครนประสบความสำเร็จมากขึ้นเรื่อย ๆ จากการขับไล่กองทัพรัสเซียออกจากภูมิภาคคาร์คิฟ ซึ่งถูกรัสเซียเปิดฉากโจมตีอย่างหนักมาตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์. […]

วอชิงตัน 10 พ.ค. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ระบุว่า เขารู้สึกเป็นห่วงประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ว่าจะหาทางออกจากสงครามยูเครนไม่เจอ และเขากำลังพยายามหาวิธีรับมือในประเด็นนี้ ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ประธานาธิบดีปูตินมีความเชื่อผิด ๆ ว่าการเปิดฉากบุกโจมตียูเครนจะทำลายองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต และทำลายสหภาพยุโรป หรืออียู แต่กลับยิ่งทำให้สหรัฐและชาติยุโรปหลายประเทศสนับสนุนและยืนหยัดเคียงข้างยูเครน ทั้งยังระบุว่า ประธานาธิบดีปูตินเป็นคนที่เก่งในการวางแผนเพื่อให้ตนเองได้เปรียบ ตอนนี้เขารู้สึกเป็นห่วงว่าผู้นำรัสเซียจะหาทางออกจากสงครามยูเครนไม่เจอ และเขากำลังหาวิธีรับมือในประเด็นนี้ ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีไบเดนได้ลงนามในกฎหมายให้ยืม-เช่า (Land-lease Act) ที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาว เพื่อเปิดทางให้สหรัฐเร่งส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ให้แก่ยูเครนนำไปใช้ป้องกันการบุกรุกจากรัสเซีย ผู้นำสหรัฐยังส่งสัญญาณว่า เขาพร้อมยอมอ่อนข้อทางการเมืองในรัฐสภาเพื่อให้สภาอนุมัติเงินช่วยเหลือยูเครนอีก 33,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.1 ล้านล้านบาท) อย่างรวดเร็ว ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า การลงนามในกฎหมายให้ยืม-เช่าของประธานาธิบดีไบเดนถือเป็นย่างก้าวครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ เขามั่นใจว่ายูเครนจะชนะสงครามในครั้งนี้เพื่อปกป้องประชาธิปไตยในยูเครนและทวีปยุโรปดังเช่นสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ 77 ปีก่อนที่ฝ่ายสัมพันธมิตร ซึ่งรวมถึงสหรัฐ สามารถเอาชนะนาซีเยอรมนีได้ ก่อนหน้านี้ สหรัฐเคยใช้กฎหมายให้ยืม-เช่าในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ไปให้ชาติพันธมิตรต่อสู้กับนาซีเยอรมนี.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐจะคว่ำบาตรสถานีโทรทัศน์ 3 แห่งในรัสเซีย และจะหยุดการซื้อโฆษณา การให้บริการด้านเทคโนโลยีออกอากาศ และอุปกรณ์ต่างๆ แก่สื่อในรัสเซีย

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ลงนามในคำสั่งจัดส่งอาวุธเพิ่มเติมมูลค่า 150 ล้านดอลลาร์ให้กับยูเครน ซึ่งประกอบไปด้วยการจัดหากระสุนปืนใหญ่ เรดาร์และอุปกรณ์อื่น ๆ โดยเป็นความช่วยเหลือครั้งใหม่เพื่อช่วยเหลือยูเครนในการรับมือกับการรุกรานของรัสเซีย

วอชิงตัน 6 พ.ค. – กระทรวงกลาโหมของสหรัฐปฏิเสธว่าไม่ได้ให้ข้อมูลข่าวกรองแก่ยูเครนเกี่ยวกับตำแหน่งที่อยู่ของนายพลรัสเซียในสนามรบเพื่อให้กองทัพยูเครนสามารถสังหารนายพลเหล่านี้ตามรายงานข่าวก่อนหน้าของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ นายจอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ระบุว่า สหรัฐได้ส่งหน่วยข่าวกรองทหารไปช่วยเหลือยูเครนในการป้องกันประเทศจริง แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งที่ตั้งนายพลระดับสูงของรัสเซียในสนามรบ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจโจมตีศัตรูของกองทัพยูเครนตามที่นิวยอร์กไทมส์รายงาน ขณะที่สถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีของสหรัฐรายงานว่า สหรัฐได้ส่งข้อมูลข่าวกรองให้แก่ยูเครนเพื่อจมเรือรบของรัสเซียในเดือนเมษายน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ไม่เผยนามของสหรัฐกล่าวถึงรายงานนี้ว่า สหรัฐให้ข้อมูลข่าวกรองแก่ยูเครนเพื่อให้ระวังภัยคุกคามจากเรือรบของรัสเซียในทะเลดำและเตรียมป้องกันการโจมตีทางทะเลเท่านั้น แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลจำเพาะเพื่อให้ยูเครนจมเรือดังกล่าว และสหรัฐก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการตัดสินใจของยูเครน ก่อนหน้านี้ ยูเครนประสบความสำเร็จจากการโจมตีนายพลระดับสูงของรัสเซียหลายนาย รวมถึงการโจมตีในพื้นที่ใกล้แนวรบด้านหน้าของรัสเซียในภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นจุดที่เชื่อว่า นายพลวาเลรี เกราซิมอฟ เสนาธิการใหญ่ของกองทัพรัสเซียและรัฐมนตรีช่วยกระทรวงกลาโหมรัสเซีย กำลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกองทหาร.-สำนักข่าวไทย

นายหวัง ฉีซาน รองประธานาธิบดีจีน มีแผนการที่จะเดินทางไปเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนใหม่ของนายยุน ซอก ยอล ในสัปดาสห์หน้า