
ญี่ปุ่น-สหรัฐ-เกาหลีใต้ เห็นพ้องยับยั้งภัยขีปนาวุธเกาหลีเหนือ
ญี่ปุ่น สหรัฐ และเกาหลีใต้ เห็นพ้องที่จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อยับยั้งภัยคุกคามจากขีปนาวุธของเกาหลีเหนือในระดับภูมิภาค
ญี่ปุ่น สหรัฐ และเกาหลีใต้ เห็นพ้องที่จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อยับยั้งภัยคุกคามจากขีปนาวุธของเกาหลีเหนือในระดับภูมิภาค
เกิดเหตุกราดยิงขึ้นที่เมืองฟิลาเดลเฟีย ของสหรัฐฯ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 9 คน ขณะที่ตำรวจกำลังตามล่าตัวผู้ก่อเหตุ
วอชิงตัน 7 พ.ย.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐเรียกร้องให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวอเมริกันช่วยกันปกป้องประชาธิปไตย หวังต้านทาน “กระแสสีแดง” ของพรรครีพับลิกันที่กำลังมาแรงในการเลือกตั้งกลางสมัยที่จะมีขึ้นในวันที่ 8 พฤศจิกายนตามเวลาสหรัฐ ซึ่งอาจปูทางให้โดนัลด์ ทรัมป์กลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง ประธานาธิบดีไบเดนวัย 79 ปี หาเสียงที่รัฐนิวยอร์กเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาสหรัฐ เรียกร้องให้ชาวอเมริกันออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งเพื่อปกป้องประชาธิปไตย และกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ผู้สนับสนุนทรัมป์บุกเข้าไปก่อจลาจลในอาคารรัฐสภาเมื่อต้นปี 2564 เพราะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีปลายปี 2563 เอเอฟพีตั้งข้อสังเกตว่า การที่ไบเดนไปช่วยหาเสียงให้นางแคธี โฮเคิล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ซึ่งเป็นรัฐฐานเสียงของพรรคเดโมแครต สะท้อนว่าพรรคเดโมแครตกำลังกังวลต่อกระแสของพรรครีพับลิกันที่มาแรง ด้านทรัมป์ วัย 76 ปี ไปช่วยผู้สมัครพรรครีพับลิกันในรัฐฟลอริดาหาเสียงที่เมืองไมแอมี แต่ดูเหมือนว่าอนาคตการเมืองของเขาจะเป็นที่สนใจมากกว่า เพราะฝูงชนพากันถือป้ายและตะโกนเรียกร้องให้เขากลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่ออีก 4 ปี ผลการหยั่งเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายพบว่า ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันมีคะแนนนำผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งกลางสมัยที่จะมีการเลือกตั้ง ส.ส.หมดทั้ง 435 ที่นั่ง และ ส.ว.1 ใน 3 จากทั้งหมด 100 คน เนื่องจากไม่พอใจเรื่องเงินเฟ้อสูงที่สุดในรอบ 40 ปี และมีคนลอบเข้าเมืองเพิ่มขึ้น ชาวอเมริกันหลายสิบล้านคนได้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าแล้ว ผลการเลือกตั้งกลางสมัยมักถูกมองว่าเป็นการลงประชามติต่อประธานาธิบดีที่อยู่ในตำแหน่ง หากประธานาธิบดีมีคะแนนนิยมต่ำกว่าร้อยละ […]
โซล 7 พ.ย. – กองทัพเกาหลีเหนือระบุว่า การซ้อมรบร่วมกันระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐเป็นการกระทำที่ยั่วยุอย่างโจ่งแจ้งและเป็นการซ้อมรบที่อันตราย โดยเกาหลีเหนือได้จำลองการโจมตีฐานทัพและเครื่องบินรบของทั้งสองประเทศเพื่อเตรียมตอบโต้การซ้อมรบดังกล่าวไว้แล้ว สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือเคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือ รายงานอ้างแถลงการณ์ของกองทัพเกาหลีเหนือในวันนี้ว่า การซ้อมรบร่วมกันระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐภายใต้รหัส ‘วิจิเลินต์ สตอร์ม’ (Vigilant Storm) เป็นการกระทำที่ยั่วยุโดยมีเจตนาเพิ่มความตึงเครียด รวมถึงเป็นการซ้อมรบที่อันตรายและเข้าข่ายก้าวร้าวรุนแรง กองทัพเกาหลีเหนือได้จำลองการโจมตีรูปแบบต่าง ๆ เพื่อทำลายฐานทัพอากาศและฝูงบินของเกาหลีใต้กับสหรัฐ รวมถึงการโจมตีเมืองสำคัญของเกาหลีใต้อีกด้วย นอกจากนี้ กองทัพเกาหลีเหนือยังยืนยันว่า ได้ทดสอบยิงขีปนาวุธร่อน 2 ลูกไปตกในน่านน้ำนอกชายฝั่งเมืองอุลซัน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์และนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา รวมถึงการทดสอบยิงขีปนาวุธทิ้งตัวอีก 2 ลูกที่สามารถบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ได้ด้วย เคซีเอ็นเอยังรายงานว่า เสนาธิการกองทัพประชาชนเกาหลีเหนือ หรือเคพีเอ ได้กล่าวหารัฐบาลเกาหลีใต้กับสหรัฐว่าพยายามยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้าที่ไม่แน่นอนมากขึ้น พร้อมให้คำมั่นว่าจะขัดขวางการซ้อมรบร่วมกันของทั้งสองประเทศด้วยวิธีทางการทหารที่ยั่งยืน แน่วแน่ และรุนแรง ทั้งยังระบุว่า ยิ่งศัตรูเดินหน้าใช้วิธีทางทหารยั่วยุเกาหลีเหนือมากขึ้นเท่าใด เกาหลีเหนือก็จะยิ่งตอบโต้ศัตรูอย่างเต็มกำลังและไร้ความปราณีมากขึ้นเท่านั้น. -สำนักข่าวไทย
นิวยอร์ก 6 พ.ย.- นักดับเพลิงในนครนิวยอร์กของสหรัฐช่วยชีวิตผู้ติดอยู่ในห้องพักที่ห้อยตัวออกมานอกหน้าต่าง ขณะไฟไหม้ชั้นที่ 20 ของอาคารชุดพักอาศัยแห่งหนึ่ง เหตุเกิดเมื่อวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ คลิปที่มีผู้บันทึกจากโทรศัพท์เคลื่อนที่เห็นภาพน่าหวาดเสียว เมื่อผู้พักอาศัยคนหนึ่งห้อยตัวอยู่นอกหน้าต่างห้องพักชั้นที่ 20 ที่มีกลุ่มควันดำพวยพุ่งไม่หยุด และมีผู้พักอาศัยอีกคนยังอยู่ในห้องพักแต่เอนตัวด้านบนออกนอกหน้าต่าง โดยมีนักดับเพลิงคนหนึ่งกำลังเอื้อมมือลงไปดึงทั้งสองคน ก่อนที่นักดับเพลิงคนอื่น ๆ จะตามมาสมทบ และช่วยเหลือผู้พักอาศัยคนอื่น ๆ สำนักดับเพลิงนิวยอร์กแจ้งว่า มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 38 คน ส่วนสาเหตุไฟไหม้เกิดจากแบตเตอรีลิเธียมไอออนเชื่อมต่อกับอุปกรณ์พกพาขนาดเล็ก.-สำนักข่าวไทย
วอชิงตัน 6 พ.ย.- หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์เผยว่า สหรัฐขอยูเครนเป็นการส่วนตัวให้ส่งสัญญาณว่าพร้อมเจรจากับรัสเซีย เพื่อคงเสียงสนับสนุนจากนานาชาติต่อไป วอชิงตันโพสต์อ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐไม่ได้ต้องการบีบให้ยูเครนเปิดการเจรจา แต่คำนวณแล้วว่าการแสดงท่าทีพร้อมเปิดเจรจากับรัสเซียจะทำให้ยูเครนยังคงได้รับเสียงสนับสนุนจากนานาชาติต่อไป เจ้าหน้าที่สหรัฐและยูเครนต่างยอมรับว่า การที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนประกาศไม่ยอมเจรจากับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียอย่างเด็ดขาดสร้างความกังวลให้ยุโรป แอฟริกา และลาติอเมริกา เพราะเป็นภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากราคาอาหารและพลังงานที่ปรับเพิ่มขึ้นเพราะสงคราม ผู้นำยูเครนลงนามในคำสั่งวันที่ 4 ตุลาคม ประกาศอย่างเป็นทางการว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะเจรจากับผู้นำรัสเซีย แต่ยังไม่ปิดโอกาสเรื่องการเจรจากับรัสเซีย ขณะเดียวกันนายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐกล่าวระหว่างเยือนยูเครนเมื่อวันศุกร์ว่า รัฐบาลสหรัฐจะยังคงสนับสนุนยูเครนอย่างแน่วแน่และมั่นคง หลังจากผ่านพ้นการเลือกตั้งกลางสมัยในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ตามเวลาสหรัฐ กระทรวงกลาโหมสหรัฐเพิ่งประกาศให้ความช่วยเหลือด้านความมั่นคงครั้งใหม่แก่ยูเครนมูลค่า 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 14,920 ล้านบาท) รวมเป็นกว่า 18,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 678,678 ล้านบาท) แล้วนับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์.-สำนักข่าวไทย
โซล 5 พ.ย. – กองทัพเกาหลีใต้กล่าววันนี้ว่า เกาหลีเหนือทดสอบปล่อยขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยใกล้ 4 ลูก ออกไปยังทะเลด้านตะวันออกของเกาหลีเหนือในช่วงเช้าวันเสาร์ โดยชีปนาวุธบินออกไปไกลประมาณ 130 กิโลเมตรที่ระดับความสูงราว 20 กิโลเมตร การทดสอบยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือในวันนี้ เกิดขึ้นในช่วงเวลาระหว่าง 11.31 น.-11.59 น. ตามเวลาท้องถิ่น และเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่สหรัฐและเกาหลีใต้กำลังจะเสร็จสิ้นการซ้อมรบทางอากาศที่ดำเนินมาเป็นเวลา 6 วัน การซ้อมรบทางอากาศจัดขึ้นภายใต้ชื่อรหัส “วิจิแลนท์ สตอร์ม” (Vigilant Storm) ที่เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา คณะเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้กล่าวว่า การซ้อมรบครั้งนี้ มีเครื่องบินรบเข้าร่วมราว 240 ลำ และเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ บี-วันบี จำนวน 2 ลำ นับเป็นครั้งแรกที่มีการส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด บี-วันบี เข้าร่วมการซ้อมรบระหว่างสหรัฐกับเกาหลีใต้ตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา เกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธหลายระลอกในช่วงสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่าจะมีขีปนาวุธทิ้งตัวข้ามทวีป หรือ ไอซีบีเอ็ม รวมอยู่ด้วยแต่ประสบความล้มเหลวในตอนปล่อยขึ้นสู่อากาศ โดยการทดสอบดังกล่าวถูกหลายชาติประณาม ทั้งสหรัฐ เกาหลีใต้และญี่ปุ่น และยังทำให้เกิดกระแสคาดเดาว่า […]
อิหร่านจัดการเดินขบวนประจำปีที่รัฐบาลให้การสนับสนุนในวันนี้ เพื่อรำลึกถึงการบุกเข้ายึดสถานทูตสหรัฐในกรุงเตหะรานของอิหร่าน เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ปี 1979
โซล 4 พ.ย. – เกาหลีเหนือยิงปืนใหญ่ถล่มเขตกันชนทางทะเลระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากที่เกาหลีเหนือได้ทดสอบยิงขีปนาวุธเป็นจำนวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ ซึ่งรวมถึงการทดสอบยิงขีปนาวุธทิ้งตัวข้ามทวีปที่ประสบความล้มเหลวเมื่อวันพฤหัสบดี กองทัพเกาหลีใต้เผยวันนี้ว่า เกาหลีเหนือได้ยิงกระสุนปืนใหญ่ราว 80 นัดไปยังเขตกันชนทางทะเลระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้เมื่อเวลา 23.28 น. ของคืนวันพฤหัสบดีตามเวลาในเกาหลีใต้ หรือตรงกับเวลา 21.28 น. ของคืนเดียวกันตามเวลาประเทศไทย ทั้งยังระบุว่า การยิงปืนใหญ่ของเกาหลีเหนือเป็นการละเมิดข้อตกลงปี 2561 ที่มีการกำหนดเขตกันชนขึ้นเพื่อลดความตึงเครียดระหว่างทั้งสองประเทศ ขณะที่นายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ระบุว่า การทดสอบยิงขีปนาวุธทิ้งตัวข้ามทวีปของเกาหลีเหนือเข้าข่ายผิดกฎหมายและเป็นภัยต่อความมั่นคง รัฐบาลสหรัฐกับเกาหลีใต้ให้คำมั่นว่าจะร่วมมือกันเพื่อหาทางต่อต้านภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นของเกาหลีเหนือ ก่อนหน้านี้ เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธราว 30 ลูกในช่วงวันพุธถึงวันพฤหัสบดี ในจำนวนนี้ มีขีปนาวุธ 1 ลูกไปตกในพื้นที่ใกล้น่านน้ำของเกาหลีใต้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเกาหลีในปี 2496 ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญหลายรายให้ความเห็นว่า รัฐบาลเกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธหลายลูกในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเพื่อประท้วงการซ้อมรบร่วมกันระหว่างสหรัฐกับเกาหลีใต้ รวมถึงเตรียมความพร้อมในการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งใหม่ ซึ่งจะเป็นครั้งที่ 7 ของเกาหลีเหนือ ทั้งนี้ เกาหลีเหนือเคยออกมาระบุว่า การซ้อมรบทางอากาศร่วมกันของสหรัฐกับเกาหลีใต้ภายใต้รหัส ‘วิจิเลินต์ สตอร์ม’ (Vigilant Storm) หรือการระวังภัยทางอากาศ เป็นการซ้อมรบทางทหารที่รุนแรงและยั่วยุเพื่อตั้งเป้าโจมตีเกาหลีเหนือ พร้อมทั้งขู่สหรัฐกับเกาหลีใต้ว่าจะต้องชดใช้ด้วยความเสียหายครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์หากยังคงเดินหน้าซ้อมรบร่วมกันต่อไป.-สำนักข่าวไทย
โซล 3 พ.ย. – กองทัพอากาศของเกาหลีใต้เผยว่า เกาหลีใต้จะขยายปฏิบัติการซ้อมรบทางอากาศครั้งใหญ่ร่วมกับสหรัฐออกไป เนื่องจากเกาหลีเหนือได้ทดสอบยิงขีปนาวุธหลายลูกในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการกระทำที่มีเจตนายั่วยุ กองทัพอากาศของเกาหลีเหนือระบุในแถลงการณ์หลังจากที่เกาหลีเหนือได้ทดสอบยิงขีปนาวุธ 3 ลูกในวันนี้ว่า เกาหลีใต้ได้ตัดสินใจขยายระยะเวลาปฏิบัติการซ้อมรบทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดร่วมกับสหรัฐภายใต้รหัส ‘วิจิเลินต์ สตอร์ม’ (Vigilant Storm) หรือการระวังภัยทางอากาศ ซึ่งเริ่มซ้อมตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม เนื่องจากเกาหลีเหนือได้ทดสอบยิงขีปนาวุธหลายลูกในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการกระทำที่มีเจตนายั่วยุ ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่นระบุว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธทิ้งตัว 3 ลูกในวันนี้ ซึ่งคาดว่าอาจมีขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยไกลข้ามทวีปรวมอยู่ด้วย ซึ่งเป็นขีปนาวุธที่มีพิสัยทำการระยะไกลที่สุดของเกาหลีเหนือ และได้รับการออกแบบให้สามารถบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ไปยังอีกฟากของโลกได้ พร้อมระบุว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยใกล้อีกอย่างน้อย 2 ลูกในครั้งนี้ด้วย ขณะที่สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นรายงานว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ 2 ลูกที่ความสูงระดับ 50 กิโลเมตรและมีพิสัยการยิง 350 กิโลเมตร ส่วนสำนักข่าวยอนฮัพของเกาหลีใต้รายงานอ้างกองทัพเกาหลีใต้ที่ระบุว่า เกาหลีเหนือได้ทดสอบยิงขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยไกลข้ามทวีป แต่ประสบความล้มเหลว.-สำนักข่าวไทย
โซล 3 พ.ย.- สำนักข่าวเอพีวิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกาหลีเหนือระดมยิงขีปนาวุธเกือบ 30 ลูกในช่วง 2 วันนี้ว่า เป็นการตอบโต้ตามที่ได้ประกาศไว้ หลังจากที่ได้แสดงความไม่พอใจอย่างยิ่งที่เกาหลีใต้และสหรัฐจัดการซ้อมรบในขณะนี้ พร้อมกับตั้งคำถามว่าสถานการณ์จะลุกลามไปมากกว่านี้หรือไม่ เอพีมองว่า ที่ผ่านมาเกาหลีหนือมักใช้วิธีเพิ่มการยั่วยุจนกว่าจะได้รับความสนใจจากสหรัฐ เพื่อต่อรองให้ผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรหรือยื่นข้อเรียกร้องต่าง ๆ นักสังเกตการณ์ระบุว่า เกาหลีเหนือใช้การแสดงความไม่พอใจในหลายระดับมาโดยตลอด มีตั้งแต่การใช้ถ้อยคำรุนแรงในสื่อของทางการ ไปจนถึงการยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้แบบที่ยิงเมื่อวันพุธ หากมากไปกว่านั้นจะเป็นการยิงขีปนาวุธพิสัยกลางที่เคยร่อนข้ามญี่ปุ่นไปตกในมหาสมุทรแปซิฟิก การยิงขีปนาวุธข้ามทวีปจากพื้นที่ใกล้กรุงเปียงยางของเกาหลีเหนือในวันนี้ และการทดสอบนิวเคลียร์ อย่างไรก็ดี เกาหลีเหนือตระหนักดีว่า สถานการณ์โลกในขณะนี้ทำให้ต้องเรียกร้องความสนใจมากกว่าปกติ เนื่องจากสหรัฐกำลังมุ่งหน้าเรื่องเลือกตั้งกลางสมัยที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ ขณะที่ชาติตะวันตกมุ่งให้ความสำคัญกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่วนเกาหลีใต้กำลังอยู่ในช่วงไว้ทุกข์ให้แก่ผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมที่อิแทวอน นักวิชาการในเกาหลีใต้มองว่า หากเกาหลีเหนือทดสอบนิวเคลียร์ครั้งใหม่อาจเป็นผลเสียต่อเกาหลีเหนือเอง เพราะช่วง 30 ปีที่ผ่านมา สมดุลอย่างคร่าว ๆ ระหว่างสองเกาหลีเกิดจากการที่เกาหลีใต้มีศักยภาพอาวุธธรรมดาที่ได้เปรียบเกาหลีเหนือมากและการเป็นพันธมิตรกับสหรัฐ กับการที่เกาหลีเหนือยังมีศักยภาพอาวุธนิวเคลียร์ขั้นเริ่มต้น หากเกาหลีใต้เริ่มสร้างศักยภาพอาวุธนิวเคลียร์ของตนเองขึ้นเมื่อใด สมดุลนี้จะยุติลงทันที.-สำนักข่าวไทย
สหรัฐเรียกร้องให้ทุกประเทศทั่วโลกบังคับใช้มาตรการลงโทษเกาหลีเหนือ โดยระบุว่า เกาหลีเหนือละเมิดมติของสหประชาชาติด้วยการทดสอบปล่อยขีปนาวุธข้ามทวีป