เตหะราน 4 พ.ย. – อิหร่านจัดการเดินขบวนประจำปีที่รัฐบาลให้การสนับสนุนในวันนี้ เพื่อรำลึกถึงการบุกเข้ายึดสถานทูตสหรัฐในกรุงเตหะรานของอิหร่าน เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ปี 1979
ภาพที่เผยแพร่ทางโทรทัศน์ของรัฐบาลอิหร่านแสดงให้เห็นการเดินขบวนต่อต้านอเมริกันที่มีประชาชนทั่วประเทศหลายหมื่นคนเข้าร่วม พร้อมกับร้องเพลงต่อต้านอเมริกัน เด็กนักเรียนถือป้ายสนับสนุนการบุกยึดสถานทูตสหรัฐในครั้งนั้น และบางคนโบกธงชาติอิหร่าน เมื่อปี 1979 กลุ่มนักศึกษาอิหร่านเคร่งศาสนาบุกเข้าไปในสถานทูตสหรัฐในกรุงเตหะรานด้วยความไม่พอใจสหรัฐ และจับตัวนักการทูตและชาวอเมริกัน 52 คนไว้เป็นตัวประกันอยู่ภายในสถานทูตเป็นเวลา 444 วัน ซึ่งส่งผลให้ทั้งสองประเทศกลายเป็นปรปักษ์กันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ในขณะที่มีการชุมนุมที่จัดโดยกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลอิหร่าน อีกด้านหนึ่งการเดินขบวนประท้วงรัฐบาลอิหร่านก็ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่หญิงสาวชาวอิหร่านเชื้อสายเคิร์ด วัย 22 ปี ที่มีชื่อว่า มาห์ซา อามินี เสียชีวิตขณะถูกตำรวจควบคุมตัวเมื่อวันที่ 16 กันยายน หลังจากเธอถูกจับกุมฐานแต่งกายไม่เหมาะสม โดยเธอถูกกล่าวหาว่าทำผิดกฎการสวมฮิญาบ เพราะมีเส้นผมโผล่ออกมาให้เห็นนอกผ้าคลุมศีรษะ สำนักข่าวของกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลกล่าววันนี้ว่า มีผู้ประท้วงเสียชีวิตไปแล้ว 300 รายจากเหตุไม่สงบที่เกิดขึ้น ซึ่งมีเยาวชนรวมอยู่ด้วย 47 ราย ส่วนอีก 37 รายเป็นสมาชิกกองกำลังความมั่นคงของรัฐบาล นอกจากนั้นแล้วมีผู้ถูกจับกุมกว่า 14,000 ราย และนักศึกษา 385 ราย ในการประท้วงที่เมือง 134 แห่ง และมหาวิทยาลัย 132 แห่ง อิหร่านกล่าวโทษว่า สหรัฐและศัตรูต่างชาติทำให้เกิดความไม่สงบ โดยมีเป้าหมายเพื่อบั่นทอนเสถียรภาพอิหร่าน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีประกาศจะปลดปล่อยอิหร่าน และกล่าวว่า ผู้ประท้วงจะประสบความสำเร็จในการปลดปล่อยตนเอง ในขณะที่ประธานาธิบดีเอเบราฮิม ไรซี ของอิหร่านกล่าวตอบโต้ว่า เขาอยากจะบอกนายไบเดนว่า อิหร่านเป็นอิสระมา 43 ปีแล้ว.-สำนักข่าวไทย