ผู้นำสหรัฐ-จีนปิดฉากประชุมสุดยอดแบบออนไลน์ครั้งแรก
ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐและประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนปิดฉากการประชุมสุดยอดแบบออนไลน์ครั้งแรกแล้ว ประเด็นหารือหลักเป็นเรื่องไต้หวัน ซินเจียงและฮ่องกง
ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐและประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนปิดฉากการประชุมสุดยอดแบบออนไลน์ครั้งแรกแล้ว ประเด็นหารือหลักเป็นเรื่องไต้หวัน ซินเจียงและฮ่องกง
วอชิงตัน/ปักกิ่ง 16 พ.ย. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้เริ่มการประชุมสุดยอดแบบเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ที่มุ่งเป้าแก้ไขความตึงเครียดเรื่องไต้หวันและประเด็นขัดแย้งอื่น ๆ โดยที่ผู้นำสหรัฐระบุว่า ทั้งสองฝ่ายควรพยายามหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง การประชุมสุดยอดแบบเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ของประธานาธิบดีไบเดนและประธานาธิบดีสีเปิดฉากขึ้นในวันนี้เมื่อเวลา 07.45 น. ตามเวลาในไทย หรือตรงกับเวลา 19.45 น. ของวันจันทร์ตามเวลาตะวันออกของสหรัฐ โดยที่ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวกับประธานาธิบดีสีว่า ทั้งสองประเทศต้องการ “ราวกั้น” เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาความขัดแย้ง และหวังว่าการประชุมในครั้งนี้จะเป็นไปอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมา ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีไบเดนให้คำมั่นว่าจะจัดการเกี่ยวกับประเด็นที่สหรัฐวิตกกังวล เช่น ปัญหาสิทธิมนุษยชนและภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีสีได้กล่าวกับประธานาธิบดีไบเดนว่า จีนกับสหรัฐต้องปรับปรุงการสื่อสารและเผชิญกับความท้าทายร่วมกัน ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นเรื่องไต้หวันและประเด็นความขัดแย้งอื่น ๆ ทั้งยังระบุว่า เขารู้สึกยินดีที่ได้พบกับ “มิตรเก่า” อย่างประธานาธิบดีไบเดนอีกครั้ง และพร้อมที่จะทำงานร่วมกับผู้นำสหรัฐเช่นกัน การประชุมสุดยอดในครั้งนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐเข้าร่วมหลายคน เช่น นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ และนายเคิร์ต แคมป์เบลล์ ที่ปรึกษาด้านนโยบายทวีปเอเชียของประธานาธิบดีไบเดน ส่วนเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนที่เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว เช่น นายหลิว เหอ […]
ปักกิ่ง 15 พ.ย. – สื่อของทางการจีนคาดการณ์ในวันนี้ว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน จะใช้การประชุมแบบเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ครั้งแรกร่วมกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ เพื่อเตือนให้สหรัฐวางมือจากเรื่องไต้หวัน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดีสีและประธานาธิบดีไบเดนมีกำหนดประชุมแบบเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ร่วมกันเป็นครั้งแรกในช่วงเช้าวันอังคารตามเวลาในจีน หรือตรงกับช่วงค่ำวันจันทร์ตามเวลาในสหรัฐ ในขณะที่ทั้งสองประเทศยังคงมีปัญหาขัดแย้งในประเด็นต่าง ๆ เช่น การค้า เทคโนโลยี ชนกลุ่มน้อยซินเจียงอุยกูร์ และไต้หวัน ขณะที่บทบรรณาธิการภาษาอังกฤษในหนังสือพิมพ์ไชนา เดลี ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน คาดการณ์ว่า ประธานาธิบดีสีอาจเน้นย้ำให้ประธานาธิบดีไบเดนรู้ว่ารัฐบาลจีนมุ่งมั่นจะทำให้การรวมชาติเป็นจริงในอนาคตอันใกล้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ในขณะเดียวกัน บทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์โกลบอลไทมส์ของทางการจีนระบุว่า การตั้งคำถามเกี่ยวกับไต้หวันเป็นสิ่งที่รัฐบาลจีนยอมรับไม่ได้อย่างยิ่ง สหรัฐต้องวางมือจากเรื่องไต้หวันและใช้ความยับยั้งชั่งใจเพื่อลดความเสี่ยงจากการปะทะกันทางยุทธศาสตร์ระหว่างทั้งสองประเทศ ส่วนผู้เชี่ยวชาญบางคนตั้งข้อสังเกตว่า การที่จีนให้ความสำคัญกับเรื่องไต้หวันเหนือประเด็นขัดแย้งอื่น ๆ สะท้อนให้เห็นว่าจีนไม่ต้องการจะเกิดความขัดแย้งทางอาวุธกับสหรัฐโดยไม่จำเป็น แม้ว่าจะสวนทางกับคำพูดและการกระทำครั้งล่าสุดของจีนที่ส่งฝูงบินรบจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเข้าไปยังเขตป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวัน. -สำนักข่าวไทย
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เตรียมจัดประชุมสุดยอดผู้นำแบบเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ในสัปดาห์หน้า แต่ยังไม่ได้กำหนดวันจัดประชุมที่แน่นอน
วอชิงตัน 7 ต.ค. – เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐระบุเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า สหรัฐกับจีนได้ตกลงที่จะจัดการประชุมเสมือนจริงระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนก่อนสิ้นปีนี้ หลังจากที่เสร็จสิ้นการเจรจาระดับสูงเพื่อตั้งเป้าฟื้นฟูการติดต่อสื่อสารของทั้งสองประเทศ เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐระบุว่า นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ กับนายหยาง เจี๋ยฉือ นักการทูตระดับสูงของจีน ได้จัดประชุมแบบไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าฟังที่โรงแรมของท่าอากาศยานแห่งหนึ่งในเมืองซูริคของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งถือเป็นการพบปะกันครั้งแรกของบุคคลทั้งสองนับตั้งแต่ปิดฉากการประชุมร้อนแรงที่ไร้ความคืบหน้าที่รัฐอะแลสกาของสหรัฐเมื่อเดือนมีนาคม ทั้งยังระบุว่า นายซัลลิแวนได้กล่าวถึงข้อกังวลเกี่ยวกับประเด็นขัดแย้งต่าง ๆ เช่น กิจกรรมของจีนในทะเลจีนใต้ ปัญหาสิทธิมนุษยชน และท่าทีของรัฐบาลจีนต่อฮ่องกง ชนกลุ่มน้อยมุสลิมในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ และไต้หวัน อย่างไรก็ดี การประชุมดังกล่าว ซึ่งใช้เวลากว่า 6 ชั่วโมง ดำเนินไปอย่างสร้างสรรค์และตรงไปตรงมา โดยมีบรรยากาศแตกต่างจากการประชุมที่รัฐอะแลสกาอย่างมาก นอกจากนี้ สหรัฐและจีนยังได้ตกลงที่จะจัดการประชุมทวิภาคีแบบเสมือนจริงระหว่างผู้นำของทั้งสองประเทศก่อนสิ้นปีนี้อีกด้วย ในขณะเดียวกัน กระทรวงต่างประเทศของจีนระบุในแถลงการณ์ว่า นายหยางได้บอกนายซัลลิแวนว่า การเผชิญหน้าของสหรัฐกับจีนมีแต่จะสร้างความเสียหายต่อทั้งสองประเทศและทั่วโลก จีนกับสหรัฐตกลงที่จะดำเนินการเพื่อให้เกิดการสื่อสารเชิงกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง การจัดการความเห็นที่ต่างกันอย่างเหมาะสม และหลีกเลี่ยงปัญหาขัดแย้งและการเผชิญหน้า.-สำนักข่าวไทย
วอชิงตัน 6 ต.ค. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐกล่าวเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า เขาได้พูดคุยกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนในประเด็นเกี่ยวกับไต้หวัน และทั้งสองประเทศตกลงที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงเรื่องไต้หวัน ในขณะที่เกิดความตึงเครียดระหว่างไต้หวันกับจีนที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ประธานาธิบดีไบเดนระบุว่า เขาได้พูดคุยกับประธานาธิบสีในประเด็นเกี่ยวกับไต้หวันแล้ว ทั้งสองประเทศตกลงจะปฏิบัติตามข้อตกลงเรื่องไต้หวัน และเขาคิดว่าจีนไม่ควรทำอย่างอื่นนอกจากปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าว ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์สตั้งข้อสังเกตว่า ประธานาธิบดีไบเดนมีท่าทีสนับสนุน ‘นโยบายจีนเดียว’ ที่มีมายาวนานของสหรัฐ ซึ่งถือเป็นการยอมรับรัฐบาลจีนอย่างเป็นทางการมากกว่ารัฐบาลไต้หวันและกฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวัน (Taiwan Relation Act) และแสดงให้เห็นว่า สหรัฐตัดสินใจที่จะสานสัมพันธ์ทางการทูตกับจีนแทนไต้หวันโดยขึ้นอยู่กับความคาดหวังว่า อนาคตของไต้หวันจะถูกกำหนดโดยแนวทางที่เป็นไปในทางสันติ ก่อนหน้านี้ ไต้หวันระบุว่า ฝูงบินจีน 148 ลำได้เข้ามาในน่านฟ้าทางใต้และตะวันตกเฉียงใต้ในเขตป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวันเป็นเวลาสี่วันติดต่อกันนับตั้งแต่วันศุกร์ ซึ่งเป็นวันชาติจีน ขณะที่นายเนด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ว่า สหรัฐรู้สึกวิตกกังวลอย่างมากที่จีนดำเนินกิจกรรมทางทหารที่ยั่วยุใกล้ไต้หวัน ซึ่งถือเป็นการทำให้เกิดความไม่มั่นคง เสี่ยงต่อการเกิดข้อผิดพลาด และทำลายสันติภาพในภูมิภาคดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ปฏิเสธข่าวประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ไม่รับข้อเสนอจากนายไบเดนในการหารือแบบตัวต่อตัวกับเขาเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยระบุว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง
นางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ ได้เข้าพบบรรดาผู้นำระดับสูงของเวียดนามในวันนี้ และประกาศให้การสนับสนุนในหลายด้านที่สำคัญ เช่น การยกระดับความมั่นคงทางทะเลเพื่อตอบโต้อิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของจีนในทะเลจีนใต้
เซี่ยงไฮ้/ฮานอย 25 ส.ค. – สื่อของทางการจีนกล่าวหานางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ ว่าพยายามผลักดันให้เกิดความแตกแยกระหว่างจีนกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการระบุว่ารัฐบาลจีนบีบบังคับและข่มขู่ให้ประเทศเหล่านั้นสนับสนุนการอ้างสิทธิเหนือพื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้ของจีน หนังสือพิมพ์ไชนา เดลี ของทางการจีนระบุในบทบรรณาธิการวันนี้ว่า ในขณะที่นางแฮร์ริสกล่าวหาจีนว่าบีบบังคับและข่มขู่ประเทศต่าง ๆ ให้สนับสนุนจีนในการอ้างสิทธิเหนือพื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้ เธอเองก็เพิกเฉยและเดินหน้าบีบบังคับและข่มขู่ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เข้าร่วมกับสหรัฐเพื่อควบคุมจีนเช่นกัน ทั้งยังระบุว่า คำปราศรัยของนางแฮร์ริสที่สิงคโปร์เป็นการกล่าวโจมตีจีนอย่างไร้เหตุผล และความมุ่งมั่นเพียงอย่างเดียวของสหรัฐต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็คือการทำให้เกิดความแตกแยกหว่างจีนกับประเทศในภูมิภาคดังกล่าว ในขณะเดียวกัน นางแฮร์ริสได้เดินทางถึงกรุงฮานอยของเวียดนามในวันนี้ โดยกล่าวว่า สหรัฐจำเป็นต้องเพิ่มแรงกดดันและท้าทายต่อการใช้กำลังบีบบังคับของจีนเหนือพื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้ ก่อนหน้านี้ นางแฮร์ริสได้เดินทางเยือนสิงคโปร์เป็นที่แรกในกำหนดการเยือนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นเวลา 7 วัน โดยมุ่งเป้าฟื้นฟูความสัมพันธ์ในทวีปเอเชียและต้านทานอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของจีน.-สำนักข่าวไทย
สิงคโปร์ 24 ส.ค. – นางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวหาจีนว่าบีบบังคับและข่มขู่ประเทศต่าง ๆ ให้สนับสนุนการอ้างสิทธิที่ไม่ชอบธรรมเหนือพื้นที่ในทะเลจีนใต้ ในระหว่างการเดินทางเยือนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เธอระบุว่ามีความสำคัญต่อความมั่นคงของสหรัฐ นางแฮร์ริสกล่าวปราศรัยในสิงคโปร์วันนี้ว่า สหรัฐรู้ว่ารัฐบาลจีนยังคงบีบบังคับ ข่มขู่ และอ้างสิทธิเหนือดินแดนส่วนใหญ่ในทะเลจีนใต้ ทั้งที่ศาลอนุญาโตตุลาการถาวรในกรุงเฮกของเนเธอร์แลนด์ได้ตัดสินไม่ยอมรับการอ้างสิทธิโดยไม่ชอบธรรมของจีนในปี 2559 แต่จีนก็ยังคงกระทำการที่ทำลายกฎเกณฑ์และคุกคามอำนาจอธิปไตยของประเทศต่าง ๆ ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า ความร่วมมือระหว่างสหรัฐกับสิงคโปร์ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก มีความสำคัญสูงสุดสำหรับรัฐบาลสหรัฐ นอกจากนี้ พื้นที่ดังกล่าวยังมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงและความมั่งคั่งของสหรัฐเช่นกัน นางแฮร์ริสได้เริ่มปฏิบัติภารกิจเดือนทางเยือนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นเวลา 7 วันตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยเริ่มจากสิงคโปร์เป็นที่แรกและต่อด้วยเวียดนาม เพื่อต้านทานอิทธิพลทางเศรษฐกิจทั่วโลกและความมั่นคงที่เพิ่มขึ้นของจีน รวมถึงจัดการข้อกังวลเกี่ยวกับการอ้างสิทธิเหนือพื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้ ทั้งนี้ การเบี่ยงความสนใจไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นสิ่งที่รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวด ในขณะที่สหรัฐเลิกสนใจข้อกังวลด้านความปลอดภัยแบบเดิม ๆ ด้วยการถอนกำลังทหารสหรัฐออกจากอัฟกานิสถาน.-สำนักข่าวไทย
ฮานอย 14 ก.ค. – นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ระบุว่า สหรัฐรู้สึกกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ในเมียนมา และเรียกร้องให้สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ดำเนินการเพื่อยุติความรุนแรงและฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตยในเมียนมา ในระหว่างการประชุมทางไกลร่วมกับคณะรัฐมนตรีต่างประเทศของ 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน นายเนด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐระบุในแถลงการณ์ว่า นายบลิงเคนเรียกร้องให้อาเซียนเร่งดำเนินการตามหลักฉันทามติ 5 ประการในทันทีและแต่งตั้งทูตพิเศษเพื่อประสานงานแก้ปัญหาวิกฤตในเมียนมา ทั้งยังขอให้ปล่อยตัวผู้ที่ถูกคุมขังอย่างไม่ยุติธรรมทั้งหมดในเมียนมา และเร่งฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตยในเมียนมาด้วย นอกจากนี้ นายบลิงเคนยังเน้นย้ำว่า สหรัฐปฏิเสธข้ออ้างสิทธิทางทะเลโดยมิชอบด้วยกฎหมายในทะเลจีนใต้ และระบุว่า สหรัฐขอยืนเคียงข้างกลุ่มผู้อ้างสิทธิในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ต้องเผชิญกับการบีบบังคับจากจีน นายฮิชามมุดดิน ฮุสเซน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของมาเลเซียกล่าวว่า เขาหวังว่าการประชุมในวันนี้จะเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงพันธสัญญาที่สดใสจากความร่วมมือระดับพหุภาคีของสหรัฐในภูมิภาคนี้ ประเทศสมาชิกอาเซียนเข้าใจดีว่ารัฐบาลสหรัฐชุดก่อนไม่ได้ให้ความสำคัญกับระบบพหุภาคีมากนัก แต่เป็นเรื่องน่ายินดีที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน กลับยอมรับความร่วมมือในระดับพหุภาคี ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า หนทางดังกล่าวเป็นทางเดียวที่จะสร้างความมั่นคง สันติภาพ ความมั่งคั่ง และเสถียรภาพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่จีนระบุวันนี้ว่า จีนไม่เห็นด้วยอย่างมากกับจุดยืนที่ผิดของสหรัฐจากกรณีที่นายบลิงเคนระบุว่า สหรัฐปฏิเสธข้ออ้างสิทธิทางทะเลโดยมิชอบด้วยกฎหมายในทะเลจีนใต้ ทั้งนี้ นายบลิงเคนได้เข้าร่วมการประชุมทางไกลผ่านระบบออนไลน์กับคณะรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของ 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ประธานาธิบดีไบเดนเข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐในเดือนมกราคม และมีขึ้นท่ามกลางความวิตกกังวลในกลุ่มนักการทูตและกลุ่มอื่น ๆ ว่า รัฐบาลสหรัฐไม่ได้ให้ความสำคัญมากพอกับภูมิภาคที่สำคัญต่อยุทธศาสตร์ระดับภูมิภาคของตนเพื่อตอบโต้จีนที่กำลังแผ่ขยายอำนาจมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย
นพ. แอนโทนี เฟาชี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อระดับแนวหน้าของสหรัฐเรียกร้องให้จีนเปิดเผยข้อมูลทางการแพทย์ของชาวจีน 9 คนที่มีอาการป่วย ซึ่งอาจเป็นเบาะแสสำคัญว่า โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาดครั้งแรกจากการรั่วไหลที่ห้องปฏิบัติการทดลองในเมืองอู่ฮั่นของจีนหรือไม่