ทหารสหรัฐอพยพคนออกจากสถานทูตในซูดาน

วอชิงตัน 23 เม.ย.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐเผยว่า กองทัพสหรัฐได้อพยพคนออกจากสถานทูตสหรัฐในกรุงคาร์ทูมของซูดานแล้ว และเรียกร้องให้ยุติการสู้รบ “ที่ไร้เหตุผล” ในกรุงคาร์ทูมระหว่างกองทัพกับกองกำลังกึ่งทหารของซูดาน ประธานาธิบดีไบเดนแถลงเมื่อเย็นวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐว่า เขาได้สั่งการในวันเสาร์ให้กองทัพสหรัฐปฏิบัติการนำบุคลากรของรัฐบาลสหรัฐออกจากกรุงคาร์ทูม และขณะนี้สถานทูตสหรัฐได้ระงับทำการเป็นการชั่วคราว เขามีความภาคภูมิใจในตัวเจ้าหน้าที่สถานทูตที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญและเป็นมืออาชีพ เสริมสร้างมิตรภาพและความสัมพันธ์ระหว่างชาวอเมริกันกับประชาชนชาวซูดาน ผู้นำสหรัฐยังเรียกร้องให้มีการหยุดยิงโดยทันทีและไร้เงื่อนไข เปิดทางให้แก่การเข้าถึงด้านมนุษยธรรม และเคารพเจตนารมณ์ของประชาชนชาวซูดาน ด้านนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐแถลงว่า ได้สั่งการให้อพยพเจ้าหน้าที่สถานทูตและครอบครัวออกจากซูดาน เนื่องจากมีความเสี่ยงด้านความมั่นคงที่ร้ายแรงและเพิ่มขึ้น สหรัฐขอย้ำเตือนทั้ง 2 ฝ่ายที่เป็นปรปักษ์กันให้ปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมสากล ซึ่งรวมถึงการคุ้มครองพลเรือน และขอเรียกร้องให้ขยายข้อตกลงหยุดยิงให้นอกเหนือไปจากช่วงตรุษอีดิลฟิตริด้วย นายทหารสหรัฐนายหนึ่งเผยว่า ปฏิบัติการอพยพคนออกจากสถานทูตสหรัฐในกรุงคาร์ทูมมีเจ้าหน้าที่เข้าร่วมเพียง 100 นายเศษ ใช้เฮลิคอปเตอร์ซีเอช-47 ชีนุกจำนวน 3 ลำบินจากจิบูตีไปยังเอธิโอเปียแล้วต่อไปยังซูดาน โดยใช้เวลาไม่ถึง 30 นาทีอพยพคนจากภาคพื้นดิน นายจอห์น เบส ปลัดกระทรวงต่างประเทศสหรัฐเผยว่า มีคนได้รับอพยพไม่ถึง 100 คน ซึ่งมีนักการทูตต่างชาติรวมอยู่ด้วย และไม่น่าจะมีการอพยพชาวอเมริกันครั้งใหม่ในเร็ววันนี้ ปฏิบัติการครั้งนี้ดำเนินการโดยกระทรวงกลาโหมเท่านั้น ส่วนกองหนุนเคลื่อนที่เร็วหรืออาร์เอสเอฟ (RSF) ซึ่งเป็นกองกำลังกึ่งทหารที่กำลังสู้รบกับกองทัพซูดานประสานงานเพียงว่าจะไม่ยิงทหารสหรัฐเท่านั้น ก่อนหน้านี้อาร์เอสเอฟเผยว่า ได้ประสานกับกองกำลังสหรัฐที่ประกอบด้วยเครื่องบิน 6 ลำเรื่องอพยพนักการทูตและครอบครัวออกจากซูดานในเช้าวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น.-สำนักข่าวไทย

กองทัพสหรัฐพร้อมอพยพคนออกจากสถานทูตในซูดาน

ฐานทัพอากาศรัมชไตน์ 22 เม.ย.- กองทัพสหรัฐเตรียมพร้อมอพยพคนออกจากสถานทูตสหรัฐในซูดานในระหว่างที่รัฐบาลกำลังพิจารณาว่า จะอพยพคนออกจากกรุงคาร์ทูมของซูดานที่สถานการณ์มีความไม่แน่นอนมากยิ่งขึ้นหรือไม่ ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐแถลงข่าวที่ฐานทัพอากาศรัมชไตน์ ซึ่งเป็นฐานทัพอากาศของสหรัฐที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเยอรมนีเมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า กองทัพได้ส่งกำลังพลบางส่วนเข้าไปในพื้นที่แล้วเพื่อสำรวจหลากหลายลู่ทางที่จะสามารถดำเนินการได้ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับคำสั่งให้ดำเนินการใด ๆ เจ้าหน้าที่สหรัฐ 2 คนคาดว่า จะมีการตัดสินใจเรื่องอพยพคนออกจากสถานทูตสหรัฐในเร็ว ๆ นี้ แต่ไม่แน่ชัดว่าจะมีการประกาศต่อสาธารณะหรือไม่ โฆษกความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวสหรัฐเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้อนุมัติเมื่อไม่กี่วันก่อนให้เคลื่อนกำลังพลของสหรัฐที่อยู่ใกล้ซูดานในกรณีที่ต้องเข้าไปช่วยอพยพนักการทูตอเมริกัน แต่ไม่ได้ระบุว่าเคลื่อนกำลังพลไปยังประเทศใด ด้าน พล.อ.มาร์ก มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมของสหรัฐได้หารือทางโทรศัพท์กับ พล.อ.อับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์มาน ผู้บัญชาการกองทัพของซูดานเมื่อวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐ เรื่องความปลอดภัยของชาวอเมริกันในซูดาน ขณะนี้ท่าอากาศยานในกรุงคาร์ทูมตกอยู่ท่ามกลางการสู้รบกันระหว่างกองกำลังของ 2 นายพลที่มีความขัดแย้งกัน และน่านฟ้าไม่มีความปลอดภัย ทำให้หลายประเทศรวมถึงสหรัฐไม่สามารถอพยพคนออกจากสถานทูตได้ นักการทูตตะวันตกคนหนึ่งชี้ว่า สถานการณ์ในกรุงคาร์ทูมไม่เอื้อต่อการอพยพอย่างยิ่ง เนื่องจากการสู้รบเกิดขึ้นในเมืองหลวงซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานทูตและท่าอากาศยาน คาดว่าสหรัฐจะมุ่งหาทางให้ทั้ง 2 ฝ่ายหยุดยิงให้ได้ เพื่อเป็นโอกาสในการอพยพคน ก่อนหน้านี้กระทรวงต่างประเทศสหรัฐยืนยันว่า มีชาวอเมริกัน 1 คนเสียชีวิตจากการสู้รบในซูดาน.-สำนักข่าวไทย

ขับรถชนพลเมืองสหรัฐ ตกใจบินกลับไทย

กรณีหญิงไทยในสหรัฐขับรถชนพลเมืองสหรัฐแล้วหนีกลับมากบดานที่ไทย ล่าสุดตำรวจไทยจับกุมตัวได้แล้ว หลังทางการสหรัฐประสานด้วยวาจาผ่านสถานทูต โดยผู้ก่อเหตุให้เหตุผลหนีเพราะตกใจ และยินดีกลับไปรับทราบข้อหา

ไอเอสอ้างยิงที่สถานทูตปากีสถานในอัฟกานิสถาน

กลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส (IS) อ้างว่า ก่อเหตุยิงที่สถานทูตปากีสถานในอัฟกานิสถาน ทำให้เจ้าหน้าที่อารักขาบาดเจ็บ 1 นาย ขณะที่เอกอัครราชทูตปากีสถานปลอดภัย

อิหร่านฉลองครบรอบการบุกยึดสถานทูตสหรัฐเมื่อปี 1979

อิหร่านจัดการเดินขบวนประจำปีที่รัฐบาลให้การสนับสนุนในวันนี้ เพื่อรำลึกถึงการบุกเข้ายึดสถานทูตสหรัฐในกรุงเตหะรานของอิหร่าน เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ปี 1979

ญี่ปุ่นเปิดสถานทูตในกรุงเคียฟอีกครั้ง

เคียฟ 5 ต.ค.- กระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นเปิดทำการสถานทูตในกรุงเคียฟของยูเครนอีกครั้งในวันนี้ เนื่องจากสถานการณ์ความปลอดภัยดีขึ้น หลังจากปิดไปนาน 7 เดือน เพราะรัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ นายฮิโรกาสุ มัตสึโนะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นแถลงในวันนี้ว่า รัฐบาลตัดสินใจเปิดสถานทูตในกรุงเคียฟอีกครั้ง ตามที่พิจารณาสถานการณ์ปัจจุบันแล้วว่า สามารถเปิดทำการได้ด้วยการดำเนินมาตรการความปลอดภัยอย่างเพียงพอ โดยจะให้บริการเฉพาะการรวบรวมข้อมูลและการประสานงานกับยูเครนและกลุ่มชาติอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศหรือจี 7 (G7) เท่านั้น เนื่องจากจะเปิดทำการด้วยเจ้าหน้าที่จำนวนจำกัดไปก่อนเพื่อความปลอดภัย โดยที่เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นก็กลับมาประจำการด้วย ส่วนบริการด้านกงสุลต่าง ๆ จะยังคงให้บริการที่สถานทูตญี่ปุ่นในกรุงวอร์ซอของโปแลนด์ และสำนักงานประสานที่เมืองเซสซูฟ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของโปแลนด์ ซึ่งดูแลพลเมืองญี่ปุ่นในยูเครนมาตั้งแต่เจ้าหน้าที่สถานทูตในกรุงเคียฟเดินทางออกจากยูเครนในเดือนเมษายน.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐจับชาย 2 คนมีอาวุธอ้างจะไปช่วยรบในยูเครน

วอชิงตัน 4 มี.ค.- ตำรวจสหรัฐจับกุมชาย 2 คนถืออาวุธใกล้สถานทูตยูเครนในกรุงวอชิงตัน และอ้างว่าจะไปช่วยยูเครนต้านทานการรุกรานของรัสเซีย หน่วยสืบราชการลับของสหรัฐเผยว่า เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นชาย 2 คนมีพฤติกรรมลับ ๆ ล่อ ๆ ใกล้รถคันหนึ่ง โดยอยู่ห่างจากสถานทูตยูเครนไปราว 3 ช่วงตึก ราวเวลา 09:00 น.วันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 21:00 น.วันเดียวกันตามเวลาในไทย ขณะที่สื่อในสหรัฐรายงานว่า ชายทั้ง 2 คนบอกกับตำรวจว่าขับรถมาจากรัฐอินดีแอนา ในเขตมิดเวสต์หรือตอนกลางค่อนไปทางตะวันตก เจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาเกี่ยวกับอาวุธปืนหลายกระทง วอชิงตันโพสต์รายงานว่า ตำรวจยึดได้ปืนยาว 1 กระบอก ปืนพกสั้น 2 กระบอก และชายหนึ่งในสองสวมชุดคล้ายเครื่องแบบทหาร ก่อนหน้านี้ฝ่ายเสนาธิการของยูเครนเผยว่า ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีได้ขอให้ชาวต่างชาติเดินทางมายูเครน และต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับชาวยูเครนในการต้านทานอาชญากรสงครามรัสเซีย นอกจากนี้ทางการยูเครนยังออกแถลงการณ์เชิญชวนอาสาสมัครไปแจ้งความประสงค์ตามสถานทูตยูเครนในประเทศที่อาศัยอยู่ด้วย.-สำนักข่าวไทย

แนะชาวจีนในยูเครนติดธงชาติที่รถหากต้องออกนอกบ้าน

ปักกิ่ง 24 ก.พ.- สถานทูตจีนในกรุงเคียฟของยูเครนขอให้ชาวจีนในยูเครนอยู่แต่ในบ้าน และติดธงชาติจีนไว้บนรถหากจำเป็นต้องขับรถออกนอกบ้าน หลังจากรัสเซียเริ่มโจมตียูเครนแล้วในวันนี้ สถานทูตจีนเตือนว่า สถานการณ์ในยูเครนขณะนี้เลวร้ายลงอย่างมาก และมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น ความเป็นระเบียบในสังคมมีโอกาสกลายเป็นความจลาจล ดังนั้นขอเตือนพลเรือนจีนให้อยู่แต่ในบ้าน และหากจำเป็นต้องขับรถออกนอกบ้าน ขอให้ติดธงชาติจีนไว้ในส่วนที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนของรถ รอยเตอร์รายงานว่า ช่วงที่กองทัพเลบานอนสู้รบกับอิสราเอลในปี 2549 นักการทูตชาวจีนและครอบครัวอพยพออกจากสถานทูตจีนในกรุงเบรุตของเลบานอนด้วยการติดธงชาติจีนไว้บนรถ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้าหมายโจมตีโดยไม่เจตนา จนถึงขณะนี้จีนยังไม่ได้แจ้งให้พลเรือนเดินทางออกจากยูเครน ก่อนหน้านี้สถานทูตจีนเพียงแต่เตือนให้ชาวจีนกักตุนสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวันอย่างอาหารและน้ำเอาไว้.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียอพยพคนออกจากสถานทูตในยูเครน

แคนเบอร์รา 13 ก.พ.- ออสเตรเลียเผยว่ากำลังอพยพคนออกจากสถานทูตในกรุงเคียฟของยูเครน เนื่องจากสถานการณ์บริเวณพรมแดนยูเครน-รัสเซียตึงเครียดขึ้นอย่างรวดเร็ว และเรียกร้องจีนอย่านิ่งเงียบต่อวิกฤตนี้ นางมารีส เพย์น รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลียแถลงวันนี้ว่า เจ้าหน้าที่สถานทูตออสเตรเลียในกรุงเคียฟได้รับคำสั่งให้ย้ายไปยังสำนักงานชั่วคราวในเมืองลวิฟ ทางตะวันตกของยูเครนที่อยู่ห่างจากพรมแดนด้านโปแลนด์ประมาณ 70 กิโลเมตร ส่วนพลเรือนชาวออสเตรเลีย กระทรวงขอให้เดินทางออกจากยูเครนด้วยยานพาหนะทางพาณิชย์โดยทันที ด้านนายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลียแถลงว่า สถานการณ์ในขณะนี้ถึงจุดที่อันตรายอย่างยิ่งแล้ว การกระทำเผด็จการแต่ฝ่ายเดียวของรัสเซียที่กำลังข่มขู่และรังแกยูเครนเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้อย่างสิ้นเชิงและอย่างเด็ดขาด ออสเตรเลียขอเรียกร้องให้จีนแสดงตัวเพื่อยูเครน เพราะจีนวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลออสเตรเลียเรื่องรัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย สหรัฐ ญี่ปุ่นและอินเดียประชุมหารือที่ออสเตรเลียเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่กลับยังคงนิ่งเงียบต่อเรื่องที่รัสเซียระดมกำลังพลบริเวณชายแดนยูเครน พร้อมกับยืนยันว่า ออสเตรเลียไม่เคยนิ่งเฉยต่อพันธมิตรเผด็จการที่หาทางรังแกประเทศอื่น.-สำนักข่าวไทย

สถานทูตสหรัฐฯ จัดสัมมนาเสริมสร้างความเข้าใจเชิงลึกแก่สื่อไทย

กรุงเทพฯ​ 16 พ.ย.​ – สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยร่วมกับสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย (TJA) จัดการสัมมนาสำหรับผู้สื่อข่าวไทย เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของสหรัฐ รวมทั้งสร้างความเข้าใจเชิงลึกว่าด้วยความร่วมมือระดับทวิภาคีทุกภาคส่วนระหว่าง 2 ประเทศ นายไมเคิล ฮีธ (Michael Heath) อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐ ฯ​ประจำประเทศไทย กล่าวในพิธีเปิดการสัมมนา “นโยบายเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐ ภายใต้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน” ว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่สถานทูตสหรัฐฯ ได้จัดโครงการร่วมกับสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เพื่อให้ข้อมูลและจุดมุ่งหมายที่สำคัญของนโยบายการต่างประเทศของสหรัฐ โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับไทย ซึ่งเป็นพันธมิตรสนธิสัญญาที่เก่าแก่และยาวนานที่สุดของสหรัฐในเอเชีย ทั้งนี้ สถานทูตสหรัฐฯ​ ประจำประเทศไทย ถือเป็นสถานทูตใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ในโลกของสหรัฐ รองจากกรุงแบกแดดในอิรัก โดยมีเจ้าหน้าที่และหน่วยงานของสหรัฐจำนวนมากประจำการปฏิบัติภารกิจภารกิจในประเทศไทย ตอกย้ำให้เห็นว่า กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นหุ้นส่วนที่แนบแน่นครอบคลุมภาคีทุกส่วนของไทย ด้านนายมงคล บางประภา นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า งานสัมมนาครั้งนี้เป็นโครงการแรกที่สมาคมฯ​ จัดขึ้นหลังการผ่อนคลายมาตรการ ควบคุมโรคโควิด-19 โดยเชื่อมั่นว่าจากการสัมมนาครั้งนี้ ผู้สื่อข่าวไทยจะได้มุมมองเกี่ยวกับการดำเนินงานของสถานทูตสหรัฐฯ​ อย่างถูกต้องและครอบคลุมมากขึ้น นอกจากนี้ ดร. ประพีร์ อภิชาติสกล อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒและอุปนายกสมาคมอเมริกาศึกษาในประเทศไทย ยังได้กล่าวปาฐกถาเกี่ยวกับนโยบายการต่างประเทศของสหรัฐ​ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน […]

สถานทูตเกาหลีใต้จัดกิจกรรมฉลองวันชาติด้วยการส่งเสริมวัฒนธรรมไทย-เกาหลี

กรุงเทพฯ 5 ต.ค.- สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทยจัดกิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรมไทยและเกาหลีในโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดงานวันชาติเกาหลีในรูปแบบออนไลน์ ฯพณฯ นายอี อุก-ฮ็อน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย ประธานจัดงานฉลองเนื่องในวันสถาปนาสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งถือเป็นวันชาติ เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เกาหลีและไทยได้ผนึกกำลังร่วมมือกันในด้านต่างๆ เช่น การดูแลสุขภาพ เศรษฐกิจ การศึกษา และวัฒนธรรม ทำให้ทั้ง 2 ประเทศสามารถเอาชนะโควิด-19 ไปด้วยกัน และเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่ดียิ่งขึ้น ด้าน ดร.วัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวแสดงความยินดีที่ทั้งสองประเทศรักษาความสัมพันธ์ใกล้ชิด และจะแบ่งปันความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนด้วยการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม งานฉลองวันชาติของสาธารณรัฐเกาหลีประจำปีนี้ จัดในรูปแบบออนไลน์ ถ่ายทอดผ่านเพจ Facebook ของศูนย์วัฒนธรรมเกาหลี (http://facebook.com/koreanculturalcenterTH ) เพื่อป้องกันการรวมกลุ่มกันในสถานการณ์โควิด-19 และเพื่อให้คนไทยได้ร่วมเฉลิมฉลองกันได้ นอกจากกิจกรรมการมอบอาหารเกาหลีแก่ผู้ยากไร้ในกรุงเทพฯ แล้ว ยังมีการแสดงศิลปะวัฒนธรรมของไทยและเกาหลีด้วย เช่น ‘ระบำกฤษดาภินิหาร’ โดยนักแสดงจากวิทยาลัยนาฏศิลป์ การแสดง ‘ซัมโด-ซามุลโนรี’ ของนักเรียนจากโรงเรียนนานาชาติเกาหลีในประเทศไทย ซึ่งเป็นการแสดงดนตรีเคาะจังหวะแบบดั้งเดิมของเกาหลีโดยใช้เครื่องดนตรี 4 […]

ตาลีบันเข้าเมืองหลวงอัฟกานิสถานแล้ว

เจ้าหน้าที่อัฟกานิสถานแจ้งว่า กลุ่มตาลีบันเข้ากรุงคาบูลแล้วในวันนี้ ด้านสหรัฐใช้เฮลิคอปเตอร์อพยพนักการทูตออกจากสถานทูต

1 2 3 4 5 6 9
...