มอสโก 30 เม.ย.- รัสเซียประกาศตอบโต้โปแลนด์และผลประโยชน์ของโปแลนด์ในรัสเซีย หลังจากโปแลนด์ยึดโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ใกล้สถานทูตรัสเซียในกรุงวอร์ซอ โดยอ้างว่าเป็นทรัพย์สินของกรุงวอร์ซอ
กระทรวงต่างประเทศรัสเซียแถลงว่า รัสเซียมองว่าเป็นอีกหนึ่งการกระทำอันเป็นปรปักษ์ของทางการโปแลนด์ และเป็นการฝ่าฝืนอย่างร้ายแรงต่ออนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตปี 2504 ที่ให้ความคุ้มกันสถานที่ของคณะผู้แทนทางการทูต กระทรวงจะดำเนินมาตรการตอบโต้อย่างรุนแรงต่อทางการโปแลนด์และผลประโยชน์ของโปแลนด์ในรัสเซีย ด้านนายเซอร์เก อันเดรเยฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำโปแลนด์ ประณามว่าเป็นการรุกล้ำสถานที่ทางการทูตอย่างผิดกฎหมาย ทั้งที่มีครูและเจ้าหน้าที่โรงเรียนอาศัยอยู่ที่ชั้นล่างของโรงเรียน พร้อมกับยืนยันว่าโรงเรียนแห่งนี้จะเปิดทำการต่อไปในฐานะทรัพย์สินของสถานทูตรัสเซีย เพราะสิ่งสำคัญที่สุดของสถานทูตคือการดูแลความปลอดภัยและผลประโยชน์ของลูกจ้างและครอบครัว
พีเอพี (PAP) ซึ่งเป็นสำนักข่าวแห่งชาติของโปแลนด์ รายงานเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า รองนายกเทศมนตรีกรุงวอร์ซอได้ประกาศว่า ทางการเข้ายึดโรงเรียนมัธยมที่ตั้งอยู่ใกล้กับสถานทูตรัสเซีย คนของสถานทูตรัสเซียไม่ยอมเปิดประตูให้เข้าไป จนกระทั่งเห็นว่าทางการวอร์ซอไม่ยอมถอย จึงยอมให้กุญแจในที่สุด และมีรถบรรทุกหลายคันติดป้ายทะเบียนทางการทูตเข้ามาขนของออกจากโรงเรียน ขณะที่นายกเทศมนตรีกรุงวอร์ซอทวีตว่า โรงเรียนแห่งนี้ไม่มีสถานภาพทางการทูต จึงไม่มีความคุ้มกันใด ๆ และว่าสหพันธรัฐรัสเซียถูกสั่งในปี 2559 ให้จ่ายเงินมากกว่า 7.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (มากกว่า 252 ล้านบาท) พร้อมดอกเบี้ย เนื่องจากครอบครองสถานที่อย่างผิดกฎหมาย ด้านโฆษกกระทรวงต่างประเทศโปแลนด์แถลงว่า อาคารแห่งนี้เป็นของทางการกรุงวอร์ซอที่เข้ายึดตามคำสั่งของเจ้าพนักงานศาล
โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนสำหรับบุตรหลานของนักการทูต ตั้งขึ้นช่วงคริสต์ทศวรรษ 1970 โดยอยู่ในอาคารที่เป็นของชายชาวโปแลนด์คนหนึ่งในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อมาถูกทางการโปแลนด์ยึดเป็นของรัฐในปี 2488 แล้วถูกรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์ส่งมอบให้แก่ทางการสหภาพโซเวียตในปี 2496 กระทรวงต่างประเทศโปแลนด์แถลงในเดือนมีนาคม 2565 หลังจากรัสเซียรุกรานยูเครนว่า ศาลโปแลนด์มีคำสั่งให้รัสเซียต้องคืนอาคารต่าง ๆ ให้มาอยู่ในความดูแลของโปแลนด์.-สำนักข่าวไทย