ศาลฎีกา

โตเกียว 11 ก.ค.- ศาลฎีกาญี่ปุ่นมีคำตัดสินในวันนี้ให้ข้าราชการที่เป็นสตรีข้ามเพศชนะในคดีฟ้องร้องรัฐบาลเรื่องที่เธอถูกห้ามใช้ห้องน้ำหญิงในที่ทำงาน ศาลฏีกาญี่ปุ่นระบุในคำตัดสินว่า การห้ามโจทก์ใช้ห้องน้ำที่อยู่ใกล้สถานที่ทำงาน และบังคับให้เธอใช้ห้องน้ำที่อยู่ถัดไป 2 ชั้น เป็นเรื่องที่ไร้เหตุผลอย่างยิ่ง และเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่พนักงานคนอื่น ๆ มากเกินไป โดยละเลยอย่างไม่เป็นธรรมว่าโจทก์อาจจะเสียเปรียบอย่างไร นับเป็นครั้งแรกที่ศาลฎีกาญี่ปุ่นมีคำตัดสินเรื่องสภาพการทำงานของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศหรือแอลจีบีทีคิว (LGBTQ) เป็นรายบุคคล ผู้เชี่ยวชาญมองว่า คำตัดสินนี้อาจเปลี่ยนทัศนะที่คนในสังคมมีต่อพื้นที่เฉพาะของสตรี โจทก์ซึ่งเป็นสตรีข้ามเพศวัย 50 ปีเศษ ถูกนายจ้างคือกระทรวงเศรษฐกิจและการค้าบอกให้ใช้ห้องน้ำสตรีที่อยู่ถัดไป 2 ชั้นจากชั้นที่เธอทำงาน เธอแย้งว่า การห้ามเธอใช้ห้องน้ำสตรีที่อยู่ใกล้ที่สุดได้ทำลายศักดิ์ศรีของเธออย่างร้ายแรงที่สุด และละเมิดกฎหมายคุ้มครองพนักงานของรัฐไม่ให้ได้รับความเสียหายหรือสูญเสียในที่ทำงาน พร้อมกับแย้งด้วยว่า พนักงานสตรีคนอื่น ๆ ไม่มีใครแสดงความไม่พอใจเรื่องใช้ห้องน้ำร่วมกับเธอ ปี 2562 ศาลแขวงโตเกียวมีคำพิพากษายืนตามคำร้องของเธอ ว่า กระทรวงได้จำกัดสิทธิทางกฎหมายที่สำคัญเนื่องจากอัตลักษณ์ทางเพศของโจทก์ แต่ศาลสูงกลับคำพิพากษาในปี 2564  ว่า รัฐมีหน้าที่ที่ต้องคำนึงถึงความอายและกังวลใจของผู้อื่นที่ใช้ห้องน้ำร่วมกับโจทก์ จนกระทั่งศาลฎีกามีคำตัดสินในวันนี้ให้เธอชนะคดี.-สำนักข่าวไทย

วอชิงตัน 22 เม.ย.- ศาลฎีกาสหรัฐมีคำชี้ขาดคุ้มครองเป็นการชั่วคราวสิทธิการเข้าถึงยาเม็ดยุติการตั้งครรภ์หรือทำแท้งที่มีการใช้อย่างกว้างขวาง เท่ากับระงับคำตัดสินของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ห้ามหรือจำกัดการใช้ยาเม็ดทำแท้งอย่างเคร่งครัด ในคำชี้ขาดความยาว 1 ย่อหน้าเมื่อวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐ ศาลฎีกาไม่ได้แสดงความเห็นต่อรูปคดีที่กลุ่มต่อต้านการทำแท้งยื่นขอให้ห้ามการใช้มิฟิฟริสโตน (mifepristone) ซึ่งเป็นยาที่ใช้มากกว่าครึ่งหนึ่งในการทำแท้งในสหรัฐ โดยระบุเพียงว่า ยาขนานนี้ยังสามารถใช้ได้ต่อไปจนกว่าศาลอุทธรณ์หลายแห่งจะเสร็จสิ้นการตัดสินคดี อย่างไรก็ดี ผู้พิพากษาศาลฎีกาสายอนุรักษนิยม 2 ใน 6 คนจากองค์คณะทั้งหมด 9 คนไม่เห็นด้วยกับคำชี้ขาดนี้ ซึ่งเป็นคดีเกี่ยวกับการทำแท้งที่มีความสำคัญที่สุดนับจากศาลฎีกามีคำตัดสินยกเลิกสิทธิการทำแท้งตามรัฐธรรมนูญเมื่อเดือนมิถุนายน 2565 ศาลฎีกาสหรัฐมีคำชี้ขาดตามที่กระทรวงยุติธรรมยื่นฎีกาฉุกเฉินขอให้ระงับคำตัดสินของศาลระดับล่างที่ห้ามหรือจำกัดการใช้ยามิฟิพริสโตน หลังจากผู้พิพากษาศาลแขวงในรัฐเทกซัสมีคำตัดสินห้ามใช้ยาขนานนี้ตามที่กลุ่มต่อต้านการทำแท้งยื่นขอ ต่อมาศาลอุทธรณ์ในรัฐเดียวกันได้ระงับคำสั่งห้าม แต่ให้ใช้มาตรการจำกัดอย่างเคร่งครัดแทน ขณะนี้ศาลอุทธรณ์หลายแห่งกำลังพิจารณาคดีนี้อยู่ตามที่มีผู้ยื่นร้อง มิฟิพริสโตนได้รับอนุมัติจากสำนักงานอาหารและยาหรือเอฟดีเอ (FDA) ในปี 2543 เป็นยาเม็ดทำแท้งที่ใช้ร่วมกับยาไมโซพรอสตอล (misoprostol) สำหรับทำแท้งอายุครรภ์ไม่เกิน 10 สัปดาห์ เอฟดีเอประเมินว่า มีสตรีอเมริกันใช้ยาขนานนี้แล้วราว 5 ล้าน 6 แสนคน.-สำนักข่าวไทย

เยรูซาเล็ม 28 มี.ค.- นายกรัฐมนตรีเบนยามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลยอมระงับแผนการปฏิรูประบบตุลาการแล้ว หลังจากเป็นชนวนเหตุที่ทำให้คนนัดหยุดงานทั่วประเทศ เกิดความแตกแยกทางการเมือง และมีการประท้วงใหญ่มาหลายเดือน นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูแถลงโดยมีการแพร่ภาพกระจายเสียงเมื่อคืนวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ด้วยความรับผิดชอบต่อประเทศและด้วยเจตนารมณ์ที่ไม่ต้องการให้เกิดความแตกแยกในหมู่ประชาชน เขาจึงตัดสินใจระงับการพิจารณาวาระที่ 2 และวาระที่ 3 ของร่างกฎหมายปฏิรูประบบตุลาการ เพื่อให้มีเวลาในการเจรจา โดยจะเลื่อนไปพิจารณาในการประชุมสมัยหน้าที่จะเริ่มตั้งแต่ครึ่งหลังของเดือนเมษายน ด้านนายยาอีร์ ลาปิด ผู้นำฝ่ายค้านเผยว่า พร้อมเจรจาหากรัฐบาลมีความจริงใจ ขณะที่นายเบนนี แกนซ์ อดีตรัฐมนตรีกลาโหมและฝ่ายค้านคนสำคัญเผยว่า พร้อมเจรจาทันทีในการเจรจาที่มีประธานาธิบดีเป็นคนกลาง แผนการปฏิรูประบบตุลาการของรัฐบาลเนทันยาฮูสร้างความตึงเตรียดมาร่วม 3 เดือน เพราะจำกัดอำนาจของศาลฎีกาและให้นักการเมืองมีอำนาจมากขึ้นในการเลือกผู้พิพากษาศาลฎีกา นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูเพิ่งสั่งปลดรัฐมนตรีกลาโหมที่เรียกร้องให้ระงับกระบวนการพิจารณาร่างกฎหมายเพื่อเห็นแก่ความมั่นคงของประเทศ ขณะที่ประธานาธิบดีอิซฮาก เฮอร์โซกซึ่งไม่มีอำนาจทางการเมืองก็เรียกร้องลักษณะเดียวกัน ชาวอิสราเอลพากันประท้วงด้วยการนัดหยุดงานเพราะมองว่า แผนปฏิรูปนี้เป็นภัยต่อระบอบประชาธิปไตย อย่างไรก็ดี ทันทีที่เนทันยาฮูประกาศระงับการพิจารณาร่างกฎหมาย สหภาพแรงงานใหญ่ของอิสราเอลได้ขอให้สมาชิกยุติการนัดหยุดงานแล้ว.-สำนักข่าวไทย