วัคซีนโควิด

ปารีส 5 ธ.ค. – ฝรั่งเศสจะฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้แก่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป หลังรัฐบาลถูกตำหนิจากการเริ่มฉีดวัคซีนให้ประชาชนช้า นายโอลิวิเยร์ เวรอง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของฝรั่งเศส กล่าวว่า ทางการจะเร่งดำเนินแผนฉีดวัคซีนให้รวดเร็วและง่ายขึ้น ซึ่งรวมถึงการเตรียมเปิดศูนย์บริการฉีดวัคซีน 300 แห่งตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป และจะฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่มผู้สูงวัยที่มีอายุตั้งแต่ 75 ปีขึ้นไป ถึงที่พักอาศัยภายในสิ้นเดือนนี้ เขายังระบุอีกด้วยว่า ทางการจะเร่งสั่งซื้อวัคซีนให้อยู่ในระดับเดียวกับประเทศอื่นๆ ในทวีปยุโรป เพื่อเพิ่มปริมาณการจัดส่งวัคซีนให้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ นายเวรองยังกล่าวด้วยว่า ทางการยังไม่มีแผนที่จะผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดต่างๆ ในตอนนี้ เนื่องจากฝรั่งเศสมียอดผู้ป่วยติดเชื้ออยู่ในระดับสูง ดังนั้น ร้านอาหาร บาร์ พิพิธภัณฑ์ และโรงภาพยนตร์ ยังคงถูกสั่งปิดบริการ และคาดว่าจะไม่สามารถเปิดได้ตามกำหนดเดิมที่ตั้งไว้ในวันที่ 20 มกราคมนี้ ขณะนี้ฝรั่งเศสมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 2.6 ล้านคน สูงเป็นอันดับที่ 5 ของโลก และมีผู้เสียชีวิตกว่า 65,000 คน สูงเป็นอันดับที่ 7 ของโลก. -สำนักข่าวไทย

จาการ์ตา 5 ม.ค. – อินโดนีเซียจะเริ่มโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้ประชาชนทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 13 มกราคมเป็นต้นไป นายบูดี กูนาดี ซาดิคิน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของอินโดนีเซียระบุในถ้อยแถลงว่า ทางการจะเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ประชาชนในกรุงจาการ์ตาเป็นที่แรก โดยที่ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซียจะได้ฉีดวัคซีนเป็นคนแรก ขณะที่การฉีดวัคซีนในภูมิภาคอื่น ๆ ของประเทศจะเริ่มในอีก 2 วันหลังจากนั้น ก่อนหน้านี้ ทางการอินโดนีเซียเผยว่า จะฉีดวัคซีนของซิโนแวก ไบโอเทค บริษัทเวชภัณฑ์ของจีนให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานแนวหน้าราว 1.3 ล้านคนเป็นกลุ่มแรก กระทรวงสาธารณสุขของอินโดนีเซียรายงานวานนี้ว่า อินโดนีเซียพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 6,753 คน และมีผู้เสียชีวิต 177 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 772,000 คน และผู้เสียชีวิตราว 22,900 คน. -สำนักข่าวไทย

เม็กซิโกซิตี 5 ม.ค. – เม็กซิโกอนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่พัฒนาโดยแอสตราเซนเนกา/มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดของอังกฤษเป็นกรณีฉุกเฉินแล้ว นายอูโก โลเปซ-กาเตลล์ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงสาธารณสุขของเม็กซิโก ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มียอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในระดับสูงประกาศผ่านทวิตเตอร์ว่า หน่วยงานกำกับดูแลยาของเม็กซิโกได้อนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของแอสตราเซนเนกา ซึ่งถือเป็นวัคซีนขนานที่สองที่ผ่านการอนุมัติในเม็กซิโก โดยที่ทางการเม็กซิโกได้ทำข้อตกลงซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 77.4 ล้านโดสจากแอสตราเซนเนกา วัคซีนดังกล่าวยังได้รับการอนุมัติใช้ในอังกฤษ อินเดีย และอาร์เจนตินา ในขณะเดียวกันเม็กซิโกและอาร์เจนตินาได้ทำข้อตกลงกับแอสตราเซนเนกาในการผลิตวัคซีนขนานดังกล่าวเพื่อแจกจ่ายให้แก่กลุ่มประเทศลาตินอเมริกาอีกด้วย นอกจากนี้ ทางการเม็กซิโกยังทำข้อตกลงเบื้องต้นเพื่อซื้อวัคซีนจากคังซีโนไบโอโลจิกส์ บริษัทผู้ผลิตวัคซีนของจีน และเข้าร่วมโครงการโคแวกซ์ (COVAX) ที่เป็นโครงการจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ขององค์การอนามัยโลก รัฐบาลเม็กซิโกให้คำมั่นสัญญาว่า จะฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนทั่วประเทศเกือบ 129 ล้านคนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งถือเป็นความท้าทายด้านโลจิสติกส์ครั้งใหญ่ ก่อนหน้านี้ ทางการเม็กซิโกได้เริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์/ไบออนเทคให้แก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเป็นกลุ่มแรกเมื่อวันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมา ขณะนี้ เม็กซิโกมียอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 กว่า 127,000 คน และผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 1.4 ล้านคน. -สำนักข่าวไทย

จาการ์ตา 4 ธ.ค. – อินโดนีเซียเตรียมฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้กลุ่มวัยทำงานก่อนกลุ่มผู้สูงอายุ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่และฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นแนวคิดที่สวนทางกับสหรัฐหรืออังกฤษที่ฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุก่อน อินโดนีเซีย ซึ่งวางแผนที่จะเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่พัฒนาโดยซิโนแวก ไบโอเทค บริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของจีนให้แก่ประชาชนเป็นวงกว้างระบุว่า ทางการไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะยืนยันถึงประสิทธิภาพของวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุ เนื่องจากผลการทดลองทางคลินิกในประเทศมีอาสาสมัครเข้ารับการฉีดวัคซีนในช่วงอายุ 18-59 ปี เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียกล่าวว่า ไม่ได้ต้องการที่จะทำอะไรแตกต่างไปจากประเทศอื่น แต่จำเป็นต้องรอคำแนะนำจากหน่วยงานกำกับดูแลยาของอินโดนีเซียในการตัดสินใจวางแผนฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่มผู้สูงอายุ ขณะที่ศาสตราจารย์ปีเตอร์ คอลลิกนอน ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดวิทยาจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย (ANU) เผยว่า ไม่มีใครรู้แน่ชัดในประเด็นเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนให้คนกลุ่มใดก่อนจึงจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด ทั้งยังระบุว่า แนวทางดังกล่าวของอินโดนีเซียอาจช่วยชะลอการระบาดให้ช้าลงได้ แต่ก็ไม่อาจลดอัตราเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในขณะเดียวกัน นายบูดี กูนาดี ซาดิคิน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียกล่าวว่า จำเป็นต้องฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน 181.5 ล้านคนหรือคิดเป็นร้อยละ 67 ของประชากรทั้งหมดเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ อีกทั้งยังต้องจัดหาวัคซีนราว 427 ล้านโดสเพื่อใช้สำหรับฉีดวัคซีน 2 โดส ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์หลายรายให้ความเห็นว่า หากอินโดนีเซียประสบความสำเร็จจากโครงการฉีดวัคซีนให้ประชาชนราว 100 ล้านคนจะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวแบบก้าวกระโดด เนื่องจากประชากรวัย 18-59 ปีจะหันกลับมาทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น เช่น การใช้จ่ายและการผลิต.-สำนักข่าวไทย

โซล 4 ธ.ค. – เกาหลีใต้กำลังพิจารณาการยื่นขออนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของแอสตราเซนเนกา บริษัทเวชภัณฑ์ของอังกฤษ กระทรวงความปลอดภัยอาหารและยาของเกาหลีใต้คาดว่าจะอนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของแอสตราเซนเนกาเป็นกรณีฉุกเฉินในอีก 40 วัน ซึ่งจะถือเป็นการอนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ขนานแรกของประเทศท่ามกลางสถานการณ์ที่มียอดผู้ป่วยติดเชื้อและผู้เสียชีวิตพุ่งสูงขึ้นจากการระบาดระลอกล่าสุด เกาหลีใต้ได้ลงนามในข้อตกลงซื้อวัคซีนจำนวน 20 ล้านโดสจากแอสตราเซนเนกาในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และคาดว่าจะได้รับวัคซีนล็อตแรกเร็วสุดภายในเดือนนี้ นอกจากนี้ เกาหลีใต้ยังได้ทำข้อตกลงซื้อวัคซีนกับบริษัทอีก 3 ราย ได้แก่ ไฟเซอร์ จอห์นสันแอนด์จอห์นสันในเครือแจนส์เซน โมเดอร์นา ซึ่งทั้งสามรายเป็นบริษัทยาของสหรัฐ และโครงการโคแวกซ์ (COVAX) ที่เป็นโครงการจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ขององค์การอนามัยโลก ทำให้มีวัคซีนเพียงพอที่จะฉีดให้ประชาชนราว 56 ล้านคน ซึ่งถือว่าสูงกว่าจำนวนประชากรทั้งหมดของเกาหลีใต้ที่มี 52 ล้านคน ทั้งนี้ เกาหลีใต้วางแผนที่จะเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในเดือนหน้า และจะฉีดวัคซีนให้แก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและกลุ่มคนเปราะบางเป็นอันดับแรก.-สำนักข่าวไทย

ปักกิ่ง 4 ธ.ค. – จีนระดมฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้แก่ประชาชนหลายล้านคนก่อนถึงฤดูกาลท่องเที่ยวช่วงเทศกาลตรุษจีนในเดือนหน้า สื่อของทางการจีนรายงานว่า รัฐบาลได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสแรกให้แก่ชาวกรุงปักกิ่งกว่า 73,000 คนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาที่รวมถึงเจ้าหน้าที่ชุมชนและพนักงานขับรถประจำทาง เจ้าหน้าที่้ด้านสาธารณสุขจีนเพิ่งอนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แบบมีเงื่อนไขของซิโนฟาร์ม บริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของจีนเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยที่บริษัทดังกล่าวเผยว่า วัคซีนที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพป้องกันโรคโควิด-19 สูงถึงร้อยละ 79 ขณะที่สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีนเผยแพร่ภาพชาวจีนจำนวนมากยืนต่อแถวหน้าโรงพยาบาลท้องถิ่นและศูนย์สุขภาพประจำชุมชนหลายแห่ง และมีอีกหลายคนที่กำลังรออ่านแบบฟอร์มให้ความยินยอม รวมถึงรอตรวจวัดอุณหภูมิก่อนที่จะได้รับการฉีดวัคซีน ทั้งนี้ ทางการจีนได้วางแผนฉีดวัคซีนให้ประชาชนอีกหลายล้านคนในช่วงฤดูหนาวนี้ก่อนที่จะถึงเทศกาลตรุษจีนในช่วงกลางเดือนหน้า ซึ่งเป็นฤดูการเดินทางท่องเที่ยวของจีน คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนรายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 33 คน เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าที่มี 24 คน ในจำนวนนี้ มีผู้ป่วยติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 20 คน และผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศ 13 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 87,100 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 4,630 คน.-สำนักข่าวไทย

อินเดียรับรองวัคซีนแอสตราเซนเนกาเป็นการฉุกเฉินแล้ว ส่งผลให้โครงการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนจะเริ่มขึ้นภายในไม่กี่วันนี้

ไทเป 30 ธ.ค. – ไต้หวันจะซื้อวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จำนวน 10 ล้านโดสจากแอสตราเซนเนกา บริษัทเวชภัณฑ์ของอังกฤษ และพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่แตกต่างไปจากสายพันธุ์เดิมเป็นรายแรก ทางการไต้หวันวางแผนซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 30 ล้านโดส ซึ่งจะทำให้มีวัคซีนเพียงพอสำหรับประชาชนร้อยละ 65 จากประชากรทั้งหมด และจะฉีดให้แก่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ก่อน ในจำนวนนี้ มีวัคซีนของแอสตราเซนเนกา 10 ล้านโดส วัคซีนของโครงการโคแวกซ์ (COVAX) ที่เป็นการจัดสรรโดยองค์การอนามัยโลกอีก 4.76 ล้านโดส และกำลังอยู่ในระหว่างเจรจากับอีกบริษัทหนึ่งด้วย โดยคาดว่าไต้หวันจะได้รับวัคซีนล็อตแรกเร็วสุดในเดือนมีนาคมปีหน้า นายเฉิน สือจง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของไต้หวันกล่าวว่า เขาต้องการให้มีการใช้ระบบหนังสือรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อผ่อนคลายการเดินทางระหว่างประเทศให้แก่ผู้ที่ฉีดวัคซีน นายเฉินยังกล่าวต่อว่า ไต้หวันพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่แตกต่างไปจากสายพันธุ์เดิมเป็นรายแรกแล้ว ผู้ป่วยติดเชื้อคนดังกล่าวเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลและมีอาการคงที่หลังเดินทางกลับมาจากอังกฤษเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาและมีผลตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นบวก ทั้งนี้ ตั้งแต่วันศุกร์เป็นต้นไป ทางการไต้หวันจะใช้มาตรการควบคุมการเดินทางเข้าประเทศที่เข้มงวดยิ่งขึ้น รวมถึงใช้คำสั่งระงับการเดินทางเข้าประเทศของชาวต่างชาติทุกคนที่ไม่มีใบอนุญาตพำนักอาศัย แต่จะอนุโลมให้เฉพาะผู้ที่มีเหตุผลด้านมนุษยธรรมเท่านั้น. -สำนักข่าวไทย