จาการ์ตา 4 ธ.ค. – อินโดนีเซียเตรียมฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้กลุ่มวัยทำงานก่อนกลุ่มผู้สูงอายุ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่และฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นแนวคิดที่สวนทางกับสหรัฐหรืออังกฤษที่ฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุก่อน
อินโดนีเซีย ซึ่งวางแผนที่จะเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่พัฒนาโดยซิโนแวก ไบโอเทค บริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของจีนให้แก่ประชาชนเป็นวงกว้างระบุว่า ทางการไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะยืนยันถึงประสิทธิภาพของวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุ เนื่องจากผลการทดลองทางคลินิกในประเทศมีอาสาสมัครเข้ารับการฉีดวัคซีนในช่วงอายุ 18-59 ปี เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียกล่าวว่า ไม่ได้ต้องการที่จะทำอะไรแตกต่างไปจากประเทศอื่น แต่จำเป็นต้องรอคำแนะนำจากหน่วยงานกำกับดูแลยาของอินโดนีเซียในการตัดสินใจวางแผนฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่มผู้สูงอายุ ขณะที่ศาสตราจารย์ปีเตอร์ คอลลิกนอน ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดวิทยาจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย (ANU) เผยว่า ไม่มีใครรู้แน่ชัดในประเด็นเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนให้คนกลุ่มใดก่อนจึงจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด ทั้งยังระบุว่า แนวทางดังกล่าวของอินโดนีเซียอาจช่วยชะลอการระบาดให้ช้าลงได้ แต่ก็ไม่อาจลดอัตราเสียชีวิตจากโรคโควิด-19
ในขณะเดียวกัน นายบูดี กูนาดี ซาดิคิน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียกล่าวว่า จำเป็นต้องฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน 181.5 ล้านคนหรือคิดเป็นร้อยละ 67 ของประชากรทั้งหมดเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ อีกทั้งยังต้องจัดหาวัคซีนราว 427 ล้านโดสเพื่อใช้สำหรับฉีดวัคซีน 2 โดส ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์หลายรายให้ความเห็นว่า หากอินโดนีเซียประสบความสำเร็จจากโครงการฉีดวัคซีนให้ประชาชนราว 100 ล้านคนจะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวแบบก้าวกระโดด เนื่องจากประชากรวัย 18-59 ปีจะหันกลับมาทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น เช่น การใช้จ่ายและการผลิต.-สำนักข่าวไทย