รัสเซีย

มอสโก 13 ธ.ค. – ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย จะไม่จัดงานแถลงข่าวประจำปีในปีนี้ ทั้งที่ประธานาธิบดีปูตินมักจัดงานดังกล่าวขึ้นเกือบทุกปีนับตั้งแต่ที่เขาดำรงตำแหน่งผู้นำรัสเซียในปี 2543 นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย เผยเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ประธานาธิบดีปูตินจะไม่จัดงานแถลงข่าวประจำปีนี้ที่มักมีกำหนดจัดขึ้นในช่วงสิ้นปี ทั้งยังระบุว่า ปีนี้ผู้นำรัสเซียได้พบปะพูดคุยกับสื่อมวลชนอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงระหว่างการเดินทางเยือนต่างประเทศอยู่แล้ว อย่างไรก็ดี นายเปสคอฟไม่ได้เผยถึงสาเหตุที่ทำให้ต้องยกเลิกการจัดงานดังกล่าว ซึ่งมักใช้เวลานานหลายชั่วโมง นอกจากนี้ รัฐบาลรัสเซียยังเผยว่า รัสเซียจะไม่จัดงานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ทำเนียบรัฐบาลรัสเซียเช่นกัน ในขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์รัฐบาลรัสเซียตั้งข้อสังเกตว่า การยกเลิกจัดงานแถลงข่าวประจำปีนี้ถือเป็นเรื่องผิดธรรมเนียมปฏิบัติ และมองว่าเป็นผลมาจากการทำสงครามในยูเครนของรัสเซีย ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีปูติน ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้นำรัสเซียมาตั้งแต่ปี 2543 มักจัดงานแถลงข่าวประจำปีในเดือนธันวาคมของทุกปี เพื่อใช้เป็นเวทีแถลงผลงานของรัฐบาลโดยมีการถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์ งานนี้ถือเป็นงานสำคัญทางการเมืองของรัสเซีย เนื่องจากประธานาธิบดีปูตินจะเป็นผู้ตอบคำถามจากนักข่าวและบุคคลทั่วไปที่เข้าร่วมงานด้วยตัวเอง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของรัฐบาลในด้านการเคารพสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและความโปร่งใสในการทำงาน โดยที่ผู้นำรัสเซียได้ใช้เวลาแถลงข่าวในงานดังกล่าวเมื่อปีก่อนนานกว่า 4 ชั่วโมง. -สำนักข่าวไทย

ฮานอย 8 ธ.ค. – บริษัทผลิตอาวุธของสหรัฐกับรัสเซียนำอาวุธยุทโธปกรณ์มาจัดแสดงและจัดบูธส่งเสริมการขายอากาศยานหลายรุ่นที่งานจัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ครั้งใหญ่ และครั้งแรกของเวียดนาม ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงฮานอย สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า เวียดนามได้จัดงานแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ครั้งใหญ่และครั้งแรกที่ฐานทัพอากาศในกรุงฮานอย ซึ่งมีบริษัทผลิตอาวุธ 174 แห่งจาก 30 ประเทศตบเท้าเข้าร่วมงานนี้ รวมถึงประเทศผู้ผลิตอาวุธรายใหญ่ทั้งหมดยกเว้นจีน ในขณะที่เวียดนามกำลังมองหาการจัดหาอาวุธจากหลากหลายประเทศ และอาจเริ่มผันตัวเป็นผู้ส่งออกอาวุธที่ผลิตขึ้นเอง ทั้งนี้ เวียดนามได้เชิญบริษัทผลิตอาวุธของจีนเข้าร่วมงานนี้ด้วย แต่จีนได้ปฏิเสธเข้าร่วมงานโดยไม่ได้ระบุเหตุผล ด้านนายกรัฐมนตรีฝ่าม มิงห์ จิ่งห์ ของเวียดนาม กล่าวในพิธีเปิดงานว่า รัฐบาลเวียดนามตั้งเป้าที่จะจัดหาอาวุธจากหลากหลายประเทศเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการป้องกันประเทศและประชาชนเวียดนามท่ามกลางสถานการณ์ท้าทายที่เพิ่มมากขึ้น นายมาร์ค แน็ปเปอร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำเวียดนาม กล่าวในงานนี้ว่า งานแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าเวียดนามได้พยายามที่จะก้าวไปสู่เวทีระดับโลกที่มีความหลากหลายและทันสมัย โดยสหรัฐต้องการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามดังกล่าวของเวียดนาม ทั้งยังระบุว่า สหรัฐต้องการช่วยสนับสนุนความร่วมมือทางทหารกับเวียดนาม โดยเฉพาะความร่วมมือเรื่องเรือยามฝั่งและเครื่องบินฝึกเป็นหลัก นอกจากนี้ สหรัฐยังพร้อมที่จะหารือเรื่องความจำเป็นด้านการป้องกันประเทศกับเวียดนามอีกด้วย โดยเฉพาะเรื่องขีดความสามารถในการป้องกันทางทะเล ในขณะเดียวกัน โรโซโบรอนเอ็กซ์ปอร์ต (Rosoboronexport) รัฐวิสาหกิจนำเข้าและส่งออกอาวุธของรัสเซีย ได้เปิดบูธขนาดใหญ่เพื่อจัดแสดงอาวุธของรัสเซียที่งานนี้ด้วย เช่น โดรน รถหุ้มเกราะ เฮลิคอปเตอร์ อากาศยาน และอาวุธขนาดเล็ก ขณะที่ผู้อำนวยการฝ่ายทั่วไปของโรโซโบรอนเอ็กซ์ปอร์ต ระบุในแถลงการณ์ว่า บริษัทพร้อมที่จะหารือกับเวียดนามในด้านการเป็นพันธมิตรทางอุตสาหกรรมและการก่อสร้างศูนย์ปฏิบัติการด้านระบบโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งนี้ รัสเซียถือเป็นผู้จัดหาอาวุธรายใหญ่ของเวียดนามคิดเป็นสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 80 […]

มอสโก 8 ธ.ค. – ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ยอมรับว่า กองทัพรัสเซียอาจต้องปฏิบัติการสู้รบในยูเครนยืดเยื้อเป็นเวลายาวนาน แต่จะไม่มีการใช้คำสั่งระดมพลเป็นครั้งที่ 2 ในตอนนี้ ประธานาธิบดีปูติน ซึ่งไม่ค่อยพูดถึงเรื่องช่วงเวลาที่ใช้ในการสู้รบกับยูเครนนับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากบุกโจมตียูเครนมาเป็นเวลากว่า 9 เดือน กล่าวกับผู้สนับสนุนในการประชุมที่มีการถ่ายทอดผ่านทางโทรทัศน์เมื่อวันพุธว่า กองทัพรัสเซียอาจต้องปฏิบัติการสู้รบในยูเครนยืดเยื้อเป็นเวลายาวนาน  แม้ตอนนี้มีความเสี่ยงต่อการใช้อาวุธนิวเคลียร์ในยูเครนเพิ่มขึ้น แต่รัสเซียจะไม่ตัดสินใจใช้อาวุธดังกล่าวโดยพลการเด็ดขาด ประธานาธิบดีปูตินยังกล่าวว่า รัสเซียได้สั่งระดมทหารกองหนุนราว 150,000 นายจากทั้งหมด 300,000 นายในเดือนกันยายนและตุลาคมเพื่อเข้าไปปฏิบัติการในยูเครน ส่วนทหารที่เหลืออีก 150,000 นายกำลังเข้ารับการฝึกซ้อมรบอยู่ในศูนย์ฝึกทหาร ทั้งยังระบุว่า ขณะนี้ รัสเซียยังไม่มีเหตุผลจำเป็นที่จะต้องใช้คำสั่งระดมพลครั้งที่ 2 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า แม้กองทัพรัสเซียจำเป็นต้องประกาศถอนกำลังทหารออกจากสนามรบ ซึ่งรวมถึงการเสียเมืองเคอร์ซอน ทางตอนใต้ของยูเครนที่รัสเซียยึดไว้คืนกลับไปให้ยูเครน แต่ประธานาธิบดีปูตินก็ระบุว่า เขาไม่ได้รู้สึกเสียใจที่สั่งเปิดฉากบุกโจมตียูเครน ทั้งยังระบุว่า รัสเซียได้บรรลุผลจากปฏิบัติการพิเศษทางทหารแล้ว นั่นคือ การผนวกแคว้นทั้งสี่ของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียในเดือนกันยายน.-สำนักข่าวไทย

วอชิงตัน 7 ธ.ค. – นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐไม่ได้สนับสนุนหรือเปิดทางให้ยูเครนโจมตีพื้นที่ที่อยู่ลึกเข้าไปในประเทศรัสเซีย หลังรัสเซียกล่าวหายูเครนว่าใช้ฝูงโดรนโจมตีฐานทัพอากาศ 3 แห่ง โดยมีฐานทัพ 2 แห่งที่ตั้งอยู่ห่างจากยูเครนหลายร้อยกิโลเมตร นายบลิงเคนกล่าวเมื่อวันอังคารตามเวลาในสหรัฐว่า รัฐบาลสหรัฐไม่ได้สนับสนุนหรือเปิดทางให้ยูเครนโจมตีพื้นที่ที่อยู่ลึกเข้าไปในรัสเซีย แต่สหรัฐเข้าใจว่าชาวยูเครนต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากทุกวันนับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากบุกโจมตียูเครนตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. และตระหนักดีว่ายูเครนมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่สามารถนำมาใช้ป้องกันตัวเอง ดินแดน และเสรีภาพของประเทศชาติได้ นอกจากนี้ นายบลิงเคนยังกล่าวหารัสเซียว่าพยายามทำลายระบบโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือนเพื่อให้ชาวยูเครนขาดความอบอุ่น น้ำประปา และไฟฟ้า โดยตั้งเป้าใช้ฤดูหนาวเป็นอาวุธในยูเครน ในขณะเดียวกัน นายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐจะไม่ขัดขวางยูเครน หากยูเครนต้องการที่จะพัฒนาขีดความสามารถในการโจมตีระยะไกล ทั้งยังระบุว่า ขณะนี้ สหรัฐได้มอบเงินกว่า 19,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 667,430 ล้านบาท) ให้แก่ยูเครนเพื่อช่วยเหลือด้านความมั่นคง ก่อนหน้านี้ รัสเซียได้ออกมากล่าวหาว่ายูเครนส่งฝูงโดรนโจมตีฐานทัพอากาศ 2 แห่งที่แคว้นไรยาซันและแคว้นซาราตอฟของรัสเซีย โดยฐานทัพอากาศเหล่านี้เป็นลานจอดเครื่องบินทิ้งระเบิดที่ทำลายระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของยูเครน ทั้งยังระบุว่า ยูเครนได้โจมตีฐานทัพอากาศอีกแห่งในแคว้นคูสก์ที่มีพรมแดนติดยูเครนเมื่อวันอังคาร.-สำนักข่าวไทย