
อังกฤษจะสนับสนุนด้านการทหารแก่ยูเครนเพิ่มเติม
รัฐบาลอังกฤษกล่าวว่า อังกฤษจะให้การสนับสนุนด้านการทหารแก่ยูเครนเป็นมูลค่า 1 พันล้านปอนด์ หรือ ประมาณ 42,820 ล้านบาท
รัฐบาลอังกฤษกล่าวว่า อังกฤษจะให้การสนับสนุนด้านการทหารแก่ยูเครนเป็นมูลค่า 1 พันล้านปอนด์ หรือ ประมาณ 42,820 ล้านบาท
รัสเซียและยูเครน แลกตัวนักโทษระหว่าง ถือเป็นการแลกตัวนักโทษครั้งใหญ่สุด นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มบุกยูเครน
เคียฟ 30 มิ.ย. – ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซีย เสนอตัวเป็นผู้ส่งสารจากประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ไปถึงประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เพื่อหวังสร้างสันติภาพระหว่างรัสเซียกับยูเครน ประธานาธิบดีวิโดโดกล่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมกับประธานาธิบดีเซเลนสกีในขณะที่เดินทางเยือนยูเครนเมื่อวันพุธว่า แม้การประกาศหยุดยิงเป็นเรื่องยากที่จะสำเร็จ แต่เขาเล็งเห็นถึงความสำคัญของการแก้ปัญหาเพื่อสันติภาพ เขาได้เสนอตัวเป็นผู้ส่งสารจากประธานาธิบดีเซเลนสกีไปยังประธานาธิบดีปูติน ซึ่งจะมีกำหนดพบกันในขณะที่เขาเดินทางเยือนรัสเซียเป็นลำดับต่อไป ทั้งยังระบุว่า ทั่วโลกต้องช่วยกันทำให้ยูเครนกลับมาส่งออกอาหารได้อีกครั้ง และเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องรับประกันความปลอดภัยในการจัดส่งอาหารของยูเครน โดยเฉพาะการขนส่งทางทะเล ประธานาธิบดีวิโดโด ซึ่งขณะนี้เป็นประธานกลุ่มจี 20 ยังได้เชิญให้ประธานาธิบดีเซเลนสกีเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ที่อินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพและมีกำหนดจัดขึ้นที่เกาะบาหลีในเดือนพฤศจิกายนนี้ ขณะที่ประธานาธิบดีเซเลนสกีได้ตอบรับคำเชิญดังกล่าว แต่ระบุว่า เขาจะเข้าร่วมการประชุมผ่านระบบออนไลน์แบบเสมือนจริง หากยูเครนยังคงตกอยู่ในภาวะสงคราม ทั้งนี้ ประธานาธิบดีวิโดโดมีกำหนดเดินทางเยือนกรุงมอสโกเพื่อพบกับประธานาธิบดีปูตินเป็นลำดับต่อไป และเคยระบุก่อนหน้านี้ว่า เขาจะเรียกร้องให้ผู้นำรัสเซียประกาศหยุดยิงในยูเครน.-สำนักข่าวไทย
มอสโก 29 มิ.ย.- เงินรูเบิลของรัสเซียเมื่อเปรียบเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในวันนี้ปรากฏว่า แข็งค่าที่สุดในรอบ 7 ปี กระทบต่อรายได้ที่รัสเซียได้จากการส่งออกสินค้าเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและยูโร รยเตอร์รายงานว่า เมื่อเวลา 07:24 น.วันนี้ตามเวลามาตรฐานสากล ตรงกับเวลา 14:24 น.วันนี้ตามเวลาในไทย รูเบิลรัสเซียแข็งค่าขึ้นมากกว่าร้อยละ 3 ไปเคลื่อนไหวที่ 50.22 รูเบิลต่อดอลลาร์สหรัฐในตลาดแลกเปลี่ยนมอสโก หลังจากทดสอบระดับ 50.01 รูเบิลต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นการแข็งค่าที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2558 นอกจากนี้ยังแข็งค่าขึ้นร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับยูโร ไปเคลื่อนไหวที่ 52.89 รูเบิลต่อยูโร แข็งค่าที่สุดนับจากเดือนเมษายน 2558 ทั้งนี้ช่วงไม่นานก่อนที่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ รูเบิลรัสเซียยังซื้อขายที่ราว 80 รูเบิลต่อดอลลาร์สหรัฐ และ 90 รูเบิลต่อยูโร เพราะทางการรัสเซียยังไม่ควบคุมเงินทุน ประกอบกับมีกระแสวิตกเรื่องรัสเซียจะถูกคว่ำบาตร รูเบิลรัสเซียที่แข็งค่าขึ้นจะทำให้รายได้ที่รัสเซียได้จากการส่งออกสินค้าเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและยูโรมีมูลค่าลดลง รองนายกรัฐมนตรีอันเดร เบเลาซอฟของรัสเซียกล่าวเมื่อต้นเดือนนี้ว่า อุตสาหกรรมในรัสเซียจะอุ่นใจมากขึ้น หากรูเบิลอ่อนค่าลงมาอยู่ระหว่าง 70-80 รูเบิลต่อดอลลาร์สหรัฐ รอยเตอร์ระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้รูเบิลรัสเซียแข็งค่าขึ้นได้แก่ ทางการรัสเซียห้ามครัวเรือนถอนเงินฝากที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศ รายได้จากการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์เพิ่มขึ้น และยอดการนำเข้าสินค้าลดลง.-สำนักข่าวไทย
นิวยอร์ก 29 มิ.ย.- ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนเรียกร้องให้ขับรัสเซียออกจากสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) และกล่าวหารัสเซียว่าเป็นรัฐก่อการร้าย ประธานาธิบดีเซเลนสกี กล่าวสุนทรพจน์ทางออนไลน์ต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นหรือยูเอ็นเอสซี (UNSC) เมื่อวันอังคารตามเวลาสหรัฐ เรียกร้องให้ขับรัสเซียออกจากยูเอ็นและกล่าวหารัสเซียว่าเป็นรัฐก่อการร้าย โดยระบุว่า ทั้งที่รัสเซียละเมิดหลักการพื้นฐานของยูเอ็นและระเบียบกฎหมายสากล แต่ก็ยังไม่ถูกลงโทษในระดับโลก เขาขอให้ยูเอ็นส่งคณะผู้แทนไปยังห้างสรรพสินค้าในเมืองเครเมนชุก ทางตอนกลางของยูเครนที่ถูกรัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีเมื่อวันจันทร์ และขอให้ตั้งอนุญาโตตุลาการสากลพิเศษขึ้นสอบสวนการกระทำของทหารรัสเซียในยูเครน ผู้นำยูเครนจบสุนทรพจน์ด้วยการขอให้ที่ประชุมยูเอ็นเอสซีสงบนิ่ง เพื่อรำลึกถึงชาวยูเครนทุกคนที่ถูกสังหารในสงครามนี้ ยูเอ็นเอสซีจัดการประชุมฉุกเฉินตามคำขอของยูเครน และเป็นวันที่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนเป็นวันที่ 125 แล้ว ผู้แทนถาวรประจำยูเอ็นของแอลเบเนีย ซึ่งเป็นประธานปัจจุบันของยูเอ็นเอสซีออกแถลงการณ์ร่วมในนามของแอลเบเนีย อังกฤษ ฝรั่งเศส ไอร์แลนด์ นอร์เวย์ สหรัฐ และยูเครนว่า ขอประณามด้วยถ้อยคำรุนแรงที่สุดต่อการสังหารพลเรือนด้วยการยิงขีปนาวุธ โดยเฉพาะการยิงขีปนาวุธโจมตีห้างสรรพสินค้าในเมืองเครเมนชุกของยูเครน เป็นการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานทางพลเรือนและประชาชนที่เป็นพลเรือนอย่างโจ่งแจ้ง.-สำนักข่าวไทย
ลอนดอน 29 มิ.ย.- นักวิเคราะห์ระบุว่า การที่สหภาพยุโรปหรืออียู (EU) ห้ามรับประกันเรือที่ขนส่งน้ำมันรัสเซียอาจทำให้รัสเซียเสียหายมากกว่ามาตรการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียโดยตรง อียูห้ามทำประกันเรือที่ขนส่งน้ำมันรัสเซียเป็นมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจชุดที่ 6 ต่อรัสเซียเพื่อลงโทษที่รุกรานยูเครน ครอบคลุมการขนส่งน้ำมันรัสเซียทางทะเลทั้งหมด หลังจากรัสเซียหาทางส่งออกน้ำมันไปจีนและอินเดียให้มากขึ้นเพื่อชดเชยที่ถูกคว่ำบาตรน้ำมัน นักวิเคราะห์ของคอมเมิร์ซแบงก์มองว่า มาตรการนี้จะมีผลต่อตลาดน้ำมันมากยิ่งไปกว่ามาตรการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียของอียู เพราะบริษัทต่าง ๆ จะไม่ได้รับอนุญาตให้ขนส่งน้ำมันรัสเซียทางทะเล หรือรับประกันการขนส่งดังกล่าว บริษัทประกันในอียูมีเวลาจนถึงสิ้นปีนี้ในการปฏิบัติตามมาตรการนี้ ส่วนบริษัทประกันในอังกฤษคาดว่าจะดำเนินรอยตาม อียูเคยใช้มาตรการเดียวกันนี้กับอิหร่านในปี 2555 เพราะเรื่องโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน ด้านนายดมิทรี เมเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซียที่ปัจจุบันเป็นรองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติยืนยันว่า รัสเซียสามารถหลบเลี่ยงมาตรการห้ามรับประกันของอียูด้วยการให้รัฐรับประกันการส่งออกน้ำมันเอง อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่า รัสเซียแทบจะไม่สามารถหลบเลี่ยงมาตรการของอียูได้ เนื่องจากบริษัทประกันอียูและอังกฤษครองตลาดการประกันภัยที่คุ้มครองและชดเชยความเสียหายให้แก่เจ้าของเรือผู้เอาประกันภัย (P&I) มากถึงร้อยละ 95 ของทั้งโลก.-สำนักข่าวไทย
เครเมนชุก 29 มิ.ย.- ยูเครนแจ้งว่า ยังมีคนสูญหายอยู่ 36 คน หลังจากรัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มห้างสรรพสินค้าในเมืองเครเมนชุก ทางตอนกลางของประเทศเมื่อวันจันทร์ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 18 คน ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนกล่าวในคลิปที่บันทึกเมื่อค่ำวานนี้ว่า ขีปนาวุธของรัสเซียยิงถูกห้างสรรพสินค้าแห่งนี้อย่างแม่นยำ เป็นการกระทำที่จงใจ เห็นได้ชัดเจนว่านักฆ่าชาวรัสเซียมีพิกัดที่ถูกต้อง และต้องการสังหารคนจำนวนมาก ด้านนางโรแมรี ดิการ์โล หัวหน้าฝ่ายการเมืองของสหประชาชาติหรือยูเอ็น กล่าวต่อคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นว่า ไม่มีคำจะใดจะใช้กล่าวถึงความไร้เหตุผล ความเปล่าประโยชน์และความโหดร้ายของสงครามนี้ได้ ยูเครนยืนยันว่า ไม่มีเป้าหมายทางทหารในบริเวณห้างสรรพสินค้าดังกล่าว แต่กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า ขีปนาวุธยิงโกดังที่เก็บอาวุธของตะวันตก ซึ่งเกิดระเบิดและไฟไหม้ลามไปยังห้างสรรพสินค้า และอ้างว่าในห้างไม่มีคนแล้ว แต่ผู้บาดเจ็บยืนยันว่า เหตุเกิดในขณะที่เธอและสามีกำลังเดินซื้อของอยู่.-สำนักข่าวไทย
ยูเครน 28 มิ.ย. – เกิดเหตุสลดครั้งใหญ่ในสงครามยูเครน เมื่อศูนย์การค้าในเมืองตอนกลางของประเทศถูกขีปนาวุธโจมตี จนมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 19 คน ทำให้รัสเซียถูกประณามว่า ก่ออาชญากรรมสงครามทำลายเป้าหมายพลเรือน. – สำนักข่าวไทย
อิหร่าน ซึ่งมีปริมาณก๊าซธรรมชาติสำรองในประเทศมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ได้สมัครเข้าเป็นสมาฃิกของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ที่มีการพัฒนาและการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว หรือ บริกส์ที่ประกอบด้วยบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้
เครเมนชุก 28 มิ.ย.- นักดับเพลิงและทหารยูเครนเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ใต้ซากห้างสรรพสินค้าที่ถูกรัสเซียยิงถล่ม มีผู้เสียชีวิตแล้ว 16 คน บาดเจ็บ 59 คน ด้านสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) และตะวันตกประณามการกระทำดังกล่าวของรัสเซีย ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนกล่าวในคลิปที่บันทึกช่วงค่ำวันจันทร์ว่า มีคนมากกว่า 1,000 คนอยู่ในห้างสรรพสินค้าในเมืองเครเมนชุก ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมทางตอนกลางของประเทศ ในช่วงที่ถูกรัสเซียยิงขีปนาวุธ 2 ลูก ไม่ใช่การยิงโดยไม่เจตนา แต่เป็นการโจมตีที่มีการคำนวณแล้ว คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก ด้านสำนักงานอัยการใหญ่ยูเครนเผยว่า มีการแจ้งคนหายมากกว่า 40 คน ครอบครัวผู้สูญหายพากันรอหน้าโรงแรมตรงข้ามกับจุดที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยตั้งฐานปฏิบัติการ รัสเซียยังไม่แสดงความเห็นใด ๆ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่นายดมิทรี โปลยันสกี รองเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็นกล่าวหายูเครนว่า ใช้เหตุการณ์นี้เรียกร้องความเห็นใจก่อนที่จะมีการประชุมสุดยอดองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโตวันที่ 28-30 มิถุนายน คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นหรือยูเอ็นเอสซีจะหารือเรื่องนี้ในวันอังคารตามที่ยูเครนร้องขอ โฆษกยูเอ็นกล่าวถึงการยิงถล่มห้างสรรพสินค้าว่าเป็นเรื่องน่าตำหนิ ขณะที่ผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศหรือจี 7 (G7) ออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า เป็นการกระทำที่น่ารังเกียจ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียและคนที่เกี่ยวข้องจะต้องรับผิดชอบ.-สำนักข่าวไทย
เคียฟ 27 มิ.ย.- เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นยูเครนเตือนประชาชนในเมืองลิซิชันสก์ในแคว้นลูฮันสก์ ทางตะวันออกสุดของยูเครน ให้เร่งอพยพออกนอกเมืองที่กำลังถูกกองกำลังรัสเซียถล่มอย่างหนักหน่วง นายเซอร์ฮีย์ ไฮได ผู้ว่าการแคว้นลูฮันสก์แจ้งผ่านแอปพลิเคชันเทเลแกรมในวันนี้ว่า ขอให้ชาวเมืองลิซิชันสก์และครอบครัวเร่งอพยพออกนอกเมืองโดยทันที เนื่องจากกำลังเกิดภัยร้ายแรงต่อชีวิตและสุขภาพ พร้อมกับระบุว่า สถานการณ์ในเมืองนี้ยากลำบากอย่างยิ่ง แต่ไม่ได้เปิดเผยว่า ยังมีพลเรือนอยู่ในเมืองจำนวนเท่าใด จากที่เคยมีอยู่ราว 100,000 คน ก่อนรัสเซียรุกรานยูเครน ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันผู้ว่าการแคว้นลูฮันสก์เผยว่า เมืองลิซิชันสก์ได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวงเพราะถูกกองกำลังรัสเซียยิงถล่ม หลังจากรัสเซียยึดเมืองเซียเวียโรโดเนตสก์ที่อยู่คนละฝั่งแม่น้ำโดเนตส์ได้อย่างเบ็ดเสร็จเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น.-สำนักข่าวไทย
มอสโก 27 มิ.ย.- สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รัสเซียผิดนัดชำระหนี้ต่างประเทศเป็นครั้งแรกนับจากปี 2461 หลังจากไม่สามารถชำระหนี้ภายในเส้นตายวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเพราะมาตรการคว่ำบาตรทำให้ชำระหนี้เจ้าหนี้ต่างชาติไม่ได้ บลูมเบิร์กระบุว่า รัสเซียมีกำหนดชำระดอกเบี้ยจำนวน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,544 ล้านบาท) เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม รัสเซียเผยว่าได้ชำระผ่านยูโรเคลียร์เพื่อให้บริษัทให้บริการทางการเงินแห่งนี้ชำระให้แก่เจ้าหนี้อีกที แต่มาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกทำให้ยูโรเคลียร์ไม่สามารถธุรกรรมดังกล่าวได้ และเมื่อไม่สามารถชำระภายใน 30 วันหลังวันครบกำหนด หรือภายในเย็นวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา จึงถือว่าผิดนัดชำระหนี้ ด้านยูโรเคลียร์แจ้งว่า ปฏิบัติตามมาตรการคว่ำบาตร แต่ไม่ระบุว่าการชำระเงินถูกบล็อก สหรัฐและชาติตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรทางการเงินต่อรัสเซีย หลังจากรุกรานยูเครนเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ ส่งผลให้รัสเซียถูกจำกัดการเข้าถึงเครือข่ายการทำธุรกรรมธนาคารระหว่างประเทศ กระทบต่อการชำระหนี้ให้แก่นักลงทุนทั่วโลก รัฐบาลรัสเซียยืนยันว่า ต้องการชำระหนี้ทั้งหมดให้ทันตามกำหนด และไม่ผิดนัดเลยจนกระทั่งเกิดกรณีล่าสุด รัสเซียมีหนี้เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐหรือยูโรจำนวน 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.42 ล้านล้านบาท) ในจำนวนนี้ครึ่งหนึ่งเป็นหนี้ต่างประเทศ รัสเซียผิดนัดชำระหนี้ต่างประเทศครั้งหลังสุดในปี 2461 ช่วงปฏิวัติบอลเชวิก เพราะวลาดิเมียร์ เลนิน ผู้นำคนคอมมิวนิสต์คนใหม่ไม่ยอมชำระหนี้ของจักรวรรดิรัสเซีย ส่วนการผิดนัดชำระหนี้ในประเทศครั้งหลังสุดเกิดขึ้นในปี 2541 เพราะเกิดวิกฤตเงินรูเบิลในช่วงที่รัฐบาลประธานาธิบดีบอริส เยลต์ซินปิดฉากอย่างโกลาหล.-สำนักข่าวไทย