
รัสเซียว่าสหรัฐส่งจรวดให้ยูเครนเพิ่มเสี่ยงเผชิญหน้าโดยตรง
รัสเซียระบุว่า การตัดสินใจของสหรัฐที่จะจัดส่งจรวดและเครื่องกระสุนล้ำสมัยให้แก่ยูเครนทำให้เกิดความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในการเผชิญหน้าโดยตรงระหว่างรัฐบาลรัสเซียกับองค์การสนธิสัญญาเหนือ หรือนาโต
รัสเซียระบุว่า การตัดสินใจของสหรัฐที่จะจัดส่งจรวดและเครื่องกระสุนล้ำสมัยให้แก่ยูเครนทำให้เกิดความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในการเผชิญหน้าโดยตรงระหว่างรัฐบาลรัสเซียกับองค์การสนธิสัญญาเหนือ หรือนาโต
สมเด็จพระสันตะปาปาหรือโป๊ปฟรานซิส ประมุขคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก ร้องขอให้ยกเลิกการปิดล้อมเพื่อขัดขวางการส่งออกข้าวสาลีของยูเครน โดยตรัสว่า ไม่ควรนำธัญพืชมาใช้เป็นอาวุธในการทำสงคราม
ยูเครนระบุรัสเซียยึดพื้นที่ของเมืองซีวีโรโดเนตสก์ ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมสำคัญทางตะวันออกของยูเครน ได้เกือบทั้งหมดแล้ว โดยที่รัสเซียได้ตั้งเป้าหมายบุกโจมตีเมืองนี้จนได้รับความเสียหายอย่างหนัก
เคียฟ 1 มิ.ย.- สหรัฐเผยว่าจะจัดส่งขีปนาวุธทันสมัยให้แก่ยูเครน เพื่อช่วยยูเครนบีบรัสเซียให้เปิดการเจรจาเพื่อยุติสงคราม ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐเขียนบทความแสดงความเห็นลงในหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ ฉบับวันอังคารว่า รัฐบาลสหรัฐจะจัดส่งระบบขีปนาวุธทันสมัยและเครื่องกระสุนเพิ่มเติมให้แก่ยูเครน เพื่อให้สามารถโจมตีเป้าหมายสำคัญในสมรภูมิได้แม่นยำมากขึ้น ที่ผ่านมาสหรัฐได้ดำเนินการอย่างรวดเร็วเรื่องการจัดส่งอาวุธและเครื่องกระสุนในจำนวนที่มีนัยสำคัญ เพื่อให้ยูเครนสามารถสู้รบในสมรภูมิ และมีจุดยืนที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่สามารถเป็นไปได้บนโต๊ะเจรจา เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐเผยว่า อาวุธที่สหรัฐจะจัดส่งให้ยูเครนจะมีเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องอัตตาจรเอ็ม142 (M142) รวมอยู่ด้วย ผู้บัญชาการกองทัพยูเครนเคยกล่าวเมื่อหนึ่งเดือนก่อนว่า เป็นอาวุธสำคัญที่จะใช้ตอบโต้การถูกรัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธ ส่วนเรื่องที่สหรัฐกังวลว่าจะถูกดึงเข้าไปพัวพันความขัดแย้งกับรัสเซียโดยตรงนั้น ยูเครนได้รับปากแล้วว่า จะไม่นำอาวุธของสหรัฐไปใช้โจมตีเป้าหมายในดินแดนรัสเซีย แต่จะใช้ขับไล่การรุกรานของรัสเซียในดินแดนยูเครนเท่านั้น เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐเผยด้วยว่า เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องอัตตาจรเอ็ม142 เป็นส่วนหนึ่งของอาวุธมูลค่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24,038 ล้านบาท) ที่จะจัดสรรให้ยูเครน และคาดว่ารัฐบาลจะแถลงรายละเอียดในวันนี้.-สำนักข่าวไทย
มารีอูปอล 31 พ.ค. – ผู้นำกลุ่มแบ่งแยกดินแดนของภูมิภาคโดเนตสก์ในยูเครนที่มีรัสเซียหนุนหลัง ระบุว่า เรือสินค้าที่บรรทุกเหล็กได้ออกเดินทางจากท่าเรือมารีอูปอลมุ่งหน้าสู่เมืองรอสตอฟของรัสเซีย ซึ่งตั้งอยู่ห่างออกไปทางตะวันออกของยูเครน ถือเป็นเรือลำแรกที่ออกจากท่าเรือนับตั้งแต่รัสเซียยึดเมืองมารีอูปอลได้ นายเดนิส ปูชิลิน หัวหน้ากลุ่มปกครองตนเองแห่งสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ เผยผ่านเทเลแกรม แอปพลิเคชันสนทนาออนไลน์แบบเข้ารหัสว่า เรือบรรทุกเหล็กแผ่นรีดร้อน 2,500 ตันได้ออกเดินทางจากเรือมารีอูปอลในวันนี้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่รัสเซียยึดเมืองมารีอูปอลจากยูเครน เรือลำนี้จะมุ่งหน้าสู่เมืองรอสตอฟของรัสเซีย ขณะที่ทางการยูเครนระบุว่า การขนส่งเหล็กจากเมืองมารีอูปอลไปยังรัสเซียถือเป็นการปล้น โดยที่รัสเซียตั้งเป้ายึดเมืองมารีอูปอลเพื่อใช้เป็นสะพานเชื่อมกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่สนับสนุนรัสเซียเข้ากับดินแดนไครเมียที่รัสเซียผนวกเป็นส่วนหนึ่งของตนในปี 2557 ก่อนหน้านี้ รัสเซียได้ยึดเมืองมารีอูปอล ซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญทางตอนใต้ของยูเครน ได้อย่างสมบูรณ์เมื่อช่วงต้นเดือนในขณะที่นักรบของยูเครนกว่า 2,400 นายที่ปักหลักอยู่ในโรงงานเหล็กอาซอฟสตอลประกาศยอมจำนนและมอบตัวต่อกองทัพรัสเซีย ด้านรัสเซียเผยเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าได้กลับมาเปิดท่าเรือมารีอูปอลเพื่อให้บริการในเชิงพาณิชย์อีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย
ยูเครนชี้ว่าในขณะนี้รัสเซียเพิ่มกำลังรบเต็มพิกัดแล้วในภูมิภาคดอนบาส ทำให้สถานการณ์ย่ำแย่หนักมาก ขณะเดียวกันผู้นำสหภาพยุโรปได้ตกลงออกมาตรการลงโทษรัสเซียรอบใหม่ ซึ่งรวมถึงการแบนน้ำมันรัสเซียด้วย
บรัสเซลส์ 31 พ.ค. – ผู้นำของสหภาพยุโรป หรืออียู เห็นพ้องในการระงับการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียคิดเป็นสัดส่วนกว่า 2 ใน 3 จากปริมาณนำเข้าทั้งหมด ในขณะที่กองทัพยูเครนกับรัสเซียกำลังเปิดฉากสู้รบกันในพื้นที่รอบนอกเมืองซีวีโรโดเนตสก์ ซึ่งเป็นเมืองสุดท้ายที่ยังอยู่ภายใต้การปกครองของยูเครนในภูมิภาคลูฮันสก์ของแคว้นดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครน นายชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป เผยเมื่อวันจันทร์ตามเวลาในเบลเยียมว่า ผู้นำของอียูได้ลงมติแบนการนำเข้านำมันจากรัสเซียในระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำอียูที่กรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม โดยมีผลบังคับใช้ในทันทีต่อการระงับนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียในสัดส่วนกว่า 2 ใน 3 หรือคิดเป็นกว่าร้อยละ 60 ซึ่งถือเป็นการตัดแหล่งรายได้สำคัญของรัสเซีย และเป็นการใช้มาตรการคว่ำบาตรครั้งรุนแรงที่สุดต่อรัสเซียนับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ นายมิเชลยังระบุว่า ผู้นำอียูได้ลงมติเห็นชอบให้ตัดธนาคารสเบอร์แบงก์ (Sberbank) ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่ที่สุดของรัสเซีย ออกจากระบบธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศ (SWIFT) และประกาศคว่ำบาตรสถานีวิทยุและโทรทัศน์ของทางการรัสเซียเพิ่มอีก 3 แห่ง นอกจากนี้ ผู้นำของอียู ซึ่งมีประเทศสมาชิก 27 ประเทศ ยังเห็นพ้องต้องกันว่า จะระงับการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 90 ภายในสิ้นปีนี้ ยกเว้นฮังการี ซึ่งเป็นประเทศที่ไม่มีพรมแดนติดทะเลและต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียเป็นหลัก ทำให้คณะผู้นำอียูรู้สึกวิตกกังวลว่าการแบนน้ำมันดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของฮังการี ประกาศดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่กองทัพรัสเซียยังคงเปิดฉากโจมตีแคว้นดอนบาส ซึ่งประกอบด้วยภูมิภาคลูฮันสก์และโดเนตสก์ อย่างหนักหน่วงเพื่อหวังยึดพื้นที่ให้ได้ทั้งหมด ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี […]
รัสเซีย โจมตีโรงงานผลิตเนื้อสัตว์ ในเมืองมิโคลาอีฟ อ้างปฏิบัติการพิเศษทางทหารมีเป้าหมายเพื่อกวาดล้างชาวยูเครนชาตินิยม ที่คุกคามชาวรัสเซีย
มอสโก 30 พ.ค. – นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย ปฏิเสธข่าวประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ป่วยว่าไม่เป็นความจริง หลังสื่อหลายแห่งรายงานว่าผู้นำรัสเซียมีอาการป่วยหนักและอาจเป็นโรคมะเร็ง นายลาฟรอฟให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ของฝรั่งเศสว่า ประธานาธิบดีปูตินปรากฏตัวต่อสาธารณชนอยู่เป็นประจำทุกวัน ผู้คนที่มีสติดีต่างเห็นตรงกันว่าผู้นำรัสเซียยังคงมีสุขภาพแข็งแรงและไม่มีสัญญาณของอาการป่วยหรือโรคภัยไข้เจ็บ ชาวรัสเซียยังคงเห็นประธานาธิบดีปูตินอ่านและกล่าวคำปราศรัยผ่านทางหน้าจอโทรทัศน์ได้เหมือนปกติ ก่อนหน้านี้ สื่อหลายแห่งได้เผยแพร่รายงานที่ไม่ได้รับการยืนยันว่า ประธานาธิบดีปูติน ซึ่งจะมีอายุครบ 70 ปีในปีนี้ อาจป่วยเป็นโรคมะเร็ง ขณะที่บางสื่อได้รายงานอ้างคำพูดของแหล่งข่าวไม่เผยนามในหน่วยข่าวกรองอังกฤษที่ระบุว่า ผู้นำรัสเซียมีอาการป่วยหนักเมื่อสัปดาห์ก่อน การให้สัมภาษณ์ของนายลาฟรอฟมีขึ้นในขณะที่กองทัพรัสเซียยังคงเดินหน้าบุกโจมตีแคว้นดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครน โดยรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศรัสเซียระบุว่า การปลดแอกภูมิภาคทางตะวันออกของยูเครนเป็นสิ่งที่รัสเซียต้องทำเป็นอันดับแรกโดยไม่มีเงื่อนไข พร้อมทั้งเน้นย้ำว่ารัสเซียถูกทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงจากแนวคิดที่ว่ารัสเซียต่อสู้กับยูเครนเพราะต้องการกำจัดกลุ่มนีโอนาซีในยูเครน.-สำนักข่าวไทย
มอสโก 30 พ.ค.- สื่อรัสเซียรายงานอ้างนายอันตอน ซิลวานอฟ รัฐมนตรีคลังรัสเซียว่า รัสเซียจะชำระหนี้พันธบัตรที่ออกขายในตลาดยูโรหรือยูโรบอนด์ โดยใช้กลไกเดียวกับที่ให้ประเทศคู่ค้าชำระค่าก๊าซของรัสเซียเป็นสกุลเงินรูเบิลของรัสเซีย แต่ทำในลักษณะกลับกัน หนังสือพิมพ์เวโดมอสตีอ้างคำกล่าวของนายซิลวานอฟว่า ผู้ถือยูโรบอนด์ที่ต้องการรับการชำระหนี้จากรัสเซียจะต้องเปิดบัญชีเงินฝากสกุลเงินต่างประเทศและบัญชีเงินฝากสกุลเงินรูเบิลกับธนาคารรัสเซีย เป็นกลไกเดียวกับที่ประเทศคู่ค้าชำระค่าก๊าซธรรมชาติที่รัสเซียคิดเป็นสกุลเงินต่างประเทศ แล้วรัสเซียแปลงเป็นเงินรูเบิลแทนคู่ค้า การชำระหนี้ยูโรบอนด์จะทำในลักษณะกลับกัน ด้วยการที่รัสเซียชำระเป็นสกุลเงินรูเบิลแล้วแปลงเป็นสกุลเงินต่างประเทศแทนผู้ถือพันธบัตร การใช้กลไกแบบนี้ช่วยให้รัสเซียสามารถหลีกเลี่ยงการใช้ระบบการชำระเงินของชาติตะวันตก เพราะทำผ่านศูนย์รับฝากเงินแห่งชาติของรัสเซียที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน เนื่องจากสถาบันการเงินของรัสเซียถูกชาติตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรจากเรื่องสงครามยูเครน รัฐมนตรีคลังรัสเซียยืนยันเมื่อวันศุกร์ว่า รัสเซียจะชำระหนี้ต่างประเทศเป็นสกุลเงินรูเบิลต่อไป และใช้ทุกวิถีทางรักษาสถานะความเป็นลูกหนี้ที่เชื่อถือได้.-สำนักข่าวไทย
เคียฟ 30 พ.ค. – กองทัพรัสเซียยังคงยิงปืนใหญ่โจมตีเมืองสำคัญทางตะวันออกเฉียงใต้ในแคว้นดอนบาสของยูเครนอย่างหนักหน่วง ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศรัสเซียระบุว่า การโจมตีดังกล่าวเป็นสิ่งที่รัสเซียต้องทำเป็นอันดับแรกโดยไม่มีเงื่อนไข ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ว่า กองทัพรัสเซียได้ยิงปืนใหญ่โจมตีโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญร้อยละ 90 ในเมืองซีวีโรโดเนตสก์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของภูมิภาคลูฮันสก์ในแคว้นดอนบาสที่ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของยูเครน และมีเขตที่พักอาศัยกว่าร้อยละ 60 ถูกโจมตีจนพังเสียหายยับเยินเช่นกัน นอกจากนี้ เมืองดังกล่าวถูกตัดขาดจากสื่อสารอีกด้วย พร้อมให้คำมั่นว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อต้านทานการโจมตีของรัสเซีย กองทัพยูเครนในแคว้นดอนบาสเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า ทหารยูเครนต้องตั้งรับป้องกันการโจมตีอย่างหนักจากรัสเซียในวันอาทิตย์ทั้งวัน ทั้งยังระบุว่า กองทัพรัสเซียได้ยิงปืนใหญ่ใส่เขตชุมชน 46 แห่งของภูมิภาคโดเนตสก์และลูฮันสก์ รวมถึงอาคารของพลเรือนอีก 62 แห่ง ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย และได้รับบาดเจ็บ 2 คน ขณะที่นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย เผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า การปลดแอกแคว้นดอนบาส ซึ่งเป็นแหล่งอุตสาหกรรมสำคัญของยูเครนที่ประกอบด้วยภูมิภาคลูฮันสก์และโดเนตสก์ เป็นสิ่งที่รัสเซียต้องทำเป็นอันดับแรกโดยไม่มีเงื่อนไข.-สำนักข่าวไทย
ลอนดอน 29 พ.ค.- นายอังเดร เคลิน เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำอังกฤษเผยกับสื่ออังกฤษว่า เขาไม่เชื่อว่ารัสเซียจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีในการทำสงครามกับยูเครน นายเคลินให้สัมภาษณ์บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษหรือบีบีซีว่า กองทัพรัสเซียมีระเบียบที่เคร่งครัดมากในการใช้อาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี โดยจะใช้เมื่อรัฐถูกคุกคามเท่านั้น ไม่ใช่ความขัดแย้งแบบที่กำลังเกิดขึ้นกับยูเครนในขณะนี้ บีบีซีอธิบายเพิ่มเติมว่า อาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี (tactical nuclear weapons) ใช้ในพิสัยค่อนข้างใกล้ ตรงข้ามกับอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์ (strategic nuclear weapons) ที่สามารถยิงจากพิสัยไกลและอาจจุดชนวนสงครามนิวเคลียร์เต็มรูปแบบ อาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีครอบคลุมอาวุธหลายประเภท รวมถึงระเบิดและขีปนาวุธขนาดเล็กที่ใช้ในสนามรบ เชื่อกันว่ารัสเซียมีอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีราว 2,000 ลูก ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียสั่งยกระดับความเตรียมพร้อมของกองกำลังนิวเคลียร์เป็นระดับสูง หลังจากเปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ได้ไม่นาน จึงถูกมองว่าเป็นการเตือนว่าจะใช้อาวุธนิวเคลียร์กับยูเครน เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำอังกฤษยังได้ปฏิเสธเรื่องทหารรัสเซียระดมยิงปืนใหญ่ใส่พลเรือน และกล่าวถึงข้อกล่าวหาเรื่องทหารรัสเซียก่ออาชญากรรมสงครามในเมืองบูจา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟเมื่อเดือนมีนาคมว่า เป็นการสร้างเรื่อง เพราะนายกเทศมนตรีเมืองบูจายืนยันในตอนแรกว่า ทหารรัสเซียออกจากเมืองไปแล้ว ทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ไม่มีศพบนถนน และเมื่อผู้ดำเนินรายการของบีบีซีถามย้ำว่า ทุกอย่างที่เห็นล้วนเป็นการสร้างเรื่องขึ้นหรือ เขาตอบกลับว่า รัสเซียมองว่าเป็นการสร้างเรื่องเพื่อขัดขวางการเจรจาเท่านั้น ยูเครนเผยว่า พบศพในเมืองบูชาประมาณ 1,000 ศพ ขณะที่สหประชาชาติหรือยูเอ็นเผยว่า พบการสังหารพลเรือนอย่างผิดกฎหมายราว 50 ครั้ง และมีศพพลเรือนถูกฝัง 270 […]