ออสเตรเลียคว่ำบาตรลูกสาวปูติน

ซิดนีย์ 22 เม.ย.- ออสเตรเลียออกมาตรการคว่ำบาตรและใช้คำสั่งห้ามเดินทางกับบุตรสาวของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย และบุตรสาวของนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กระทรวงต่างประเทศออสเตรเลียออกแถลงการณ์วันนี้ว่า ได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรและใช้คำสั่งห้ามเดินทางกับบุตรสาว 2 คนของผู้นำรัสเซียโดยไม่ได้ระบุชื่อ เป็นการดำเนินการตามอย่างชาติตะวันตก เช่น สหรัฐ อังกฤษ อย่างไรก็ดี เป็นที่รู้กันว่าปูตินมีบุตรสาว 2 คนคือ มารียา โวรันโซวา ผู้เชี่ยวชาญด้านต่อมไร้ท่อในเด็ก วัย 36 ปี และแคเตอรินา ตีโคโนวา นักวิทยาศาสตร์และอดีตนักเต้นรำกายกรรม วัย 35 ปี ส่วนปูตินและลาฟรอฟอยู่ในรายชื่อคว่ำบาตรของออสเตรเลียตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์แล้ว แถลงการณ์ระบุด้วยว่า มาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ยังครอบคลุมสมาชิกวุฒิสภารัสเซีย 144 คนที่สนับสนุนประธานาธิบดีปูติน ด้วยการให้ความเห็นชอบกับการรับรองโดยไม่ชอบธรรมว่า แคว้นโดเนตสก์และแคว้นลูฮันสก์ทางตะวันออกของยูเครนเป็นรัฐอิสระเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ นางมารีส เพย์น รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลียเสริมว่า ออสเตรเลียจะเดินหน้าทำให้รัสเซียเสียหาย ด้วยการมุ่งเล่นงานผู้ที่รับผิดชอบต่อการรุกรานยูเครนโดยไร้ความชอบธรรมและปราศจากการยั่วยุ สัปดาห์ที่แล้วออสเตรเลียเพิ่งเพิ่มการคว่ำบาตรทางการเงินกับรัฐวิสาหกิจของรัสเซีย 14 แห่ง และเมื่อรวมกับวันนี้มีบุคคลและนิติบุคคลรัสเซียถูกออสเตรเลียคว่ำบาตรรวมแล้วเกือบ 750 ราย.-สำนักข่าวไทย

อังกฤษเชื่อ “ปูติน” ประเมินสถานการณ์ยูเครนผิด

แคนเบอร์รา 31 มี.ค.- หน่วยข่าวกรองของอังกฤษเชื่อว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียประเมินสถานการณ์ในยูเครนผิด เนื่องจากคนสนิทบางคนไม่บอกความจริง พร้อมกับเตือนจีนอย่าเสี่ยงเข้าไปเป็นพันธมิตรกับรัสเซีย เซอร์ เจเรมี เฟลมมิง ผู้อำนวยการสำนักงานใหญ่การสื่อสารรัฐบาลหรือจีซีเอชคิว (GCHQ) ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรองและความมั่นคงของอังกฤษ กล่าวสุนทรพจน์ขณะเยือนออสเตรเลียว่า ทหารรัสเซียที่ขาดแคลนทั้งอาวุธและขวัญกำลังใจ ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่ง ทำลายยุทโธปกรณ์ของฝ่ายตนเอง และถึงขั้นยิงเครื่องบินของฝ่ายตนเองตกโดยไม่ตั้งใจ ขณะที่คณะที่ปรึกษาของปูตินไม่กล้าบอกความจริงกับเขา ทั้งหมดทั้งปวงนำมาซึ่งการคำนวณผิดพลาดตามที่ผู้นำชาติตะวันตกเคยเตือนปูตินมาก่อน และกลายเป็นสงครามส่วนตัวของปูตินที่ต้องแลกด้วยชีวิตผู้บริสุทธิ์ในยูเครน รวมไปถึงประชาชนคนธรรมดาในรัสเซียด้วย เซอร์ เจเรมีเตือนไปถึงจีนว่า อย่าเสี่ยงด้วยการใกล้ชิดกับรัสเซียมากเกินไป อย่าแลกผลประโยชน์ระยะยาวกับการเป็นพันธมิตรประเทศที่เพิกเฉยต่อกฎระเบียบสากล เขาเชื่อว่า ในขณะที่รัสเซียมองว่า จีนเป็นตลาดส่งออกน้ำมันและก๊าซ และเป็นช่องทางหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนจะมองความสัมพันธ์นี้แตกต่างออกไปเล็กน้อย แม้จีนไม่ประณามรัสเซียเรื่องรุกรานยูเครนเพราะจีนเล็งเข้ายึดไต้หวัน แต่ผู้นำจีนจะไม่ทำสิ่งที่อาจจำกัดการเคลื่อนไหวของตนเองในอนาคต.-สำนักข่าวไทย

ปูติน แสดงความยินดี ครบรอบ 6 ปี ก่อตั้งกองกำลังป้องกันชาติ

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แสดงความยินดีเนื่องในโอกาสครบรอบ 6 ปี การก่อตั้งกองกำลังป้องกันชาติ ที่เป็นกำลังหลักในการปฏิบัติการทางทหารในแคว้นดอนบาส ของยูเครน

“ไบเดน” ว่า “ปูติน” ไม่สามารถอยู่ในอำนาจต่อไป

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ กล่าวในระหว่างเยือนกรุงวอร์ซอร์ ของโปแลนด์เมื่อวานนี้ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ไม่สามารถอยู่ในอำนาจปกครองรัสเซียต่อไป ซึ่งถือเป็นการแสดงความเห็นที่รุนแรงทำให้เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวของสหรัฐต้องออกมาชี้แจงในเวลาต่อมาว่า ไม่ได้หมายความเรื่องการเปลี่ยนแปลงการบริหารประเทศของรัสเซียแต่อย่างใด

ปูตินระแวงหนัก ปลดคนในทำเนียบพันคน หวั่นถูกวางยาพิษ

นับตั้งแต่เปิดฉากทำสงครามกับยูเครน ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย เกิดอาการหวาดระแวงอย่างหนัก สั่งปลดเจ้าหน้าที่ทำเนียบเครมลินแล้วนับพันคน เปลี่ยนมานอนตอนเช้า และสั่งทดสอบหายาพิษในอาหารทุกมื้อ

เยอรมนี-สเปนเรียกร้องรัสเซียถอนทัพโดยเร็ว

นายกรัฐมนตรีเยอรมนีและสเปน หารือวิกฤติสงครามในยูเครน โดยร่วมกันเรียกร้องให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ถอนทัพออกจากยูเครนโดยเร็ว

สถานทูตยูเครนโต้กลับ “นี่เป็นสงครามของปูติน”

หลังจากทูตรัสเซียประจำประเทศไทย แถลงว่า ปฏิบัติการในยูเครนไม่ใช่สงคราม พร้อมชี้ถึงเหตุผลและความจำเป็น วันนี้ สถานทูตยูเครนในไทย ได้เปิดแถลงชี้ว่า นี่เป็นสงครามการรุกรานของ “ปูติน”

“ปูติน” พูดเรื่องยูเครนและชาติตะวันตก

มอสโก 17 มี.ค.- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียกล่าวปราศรัยล่าสุดเกี่ยวกับยูเครนและชาติตะวันตกเมื่อวานนี้ว่า การที่บรรดาประเทศตะวันตกยึดติดอยู่กับการครอบงำที่แตกสลายคือ ตัวขับเคลื่อนพื้นฐานที่ทำให้เกิดวิกฤติขณะนี้ เว็บไซต์รัสเซียทูเดย์หรืออาร์ที (RT) ซึ่งเป็นสื่อทางการรัสเซียรายงานว่า ประธานาธิบดีปูตินใช้การหารือกับผู้นำระดับภูมิภาคเรื่องมาตรการสนับสนุนทางสังคมและเศรษฐกิจเพื่อรับมือกับมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย พูดเรื่องความขัดแย้งกับยูเครน สาเหตุของความขัดแย้งและเป้าหมายของรัสเซียว่า การเปิดปฏิบัติการทางทหารพิเศษเป็นทางเลือกเดียวที่รัสเซียเหลืออยู่ เพื่อยุติเหตุนองเลือดนานหลายปีทางภาคตะวันออกของยูเครน เพราะการจำกัดขอบเขตของรัสเซียไว้ที่สาธารณรัฐในภูมิภาคดอนบาสที่แยกตัวจากยูเครนจะเป็นเพียงการผลักดัน “แนวหน้า” ไปทางตะวันตกเท่านั้น ไม่สามารถปลดชนวนสถานการณ์ความขัดแย้งได้ พร้อมกับกล่าวหายูเครนว่า เตรียมเปิดฉากบุกครั้งใหญ่เพื่อรวบสาธารณรัฐที่แยกตัวไปกลับคืน ทำให้พลเรือนและเด็กเกือบ 14,000 คนถูกสังหาร อีกทั้งยังหาทางโจมตีคาบสมุทรไครเมียที่แยกตัวจากยูเครนในปี 2557 แล้วมารวมกับรัสเซียผ่านการลงประชามติ ยูเครนได้รับแรงยุจากสหรัฐและชาติตะวันตกให้เตรียมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในดอนบาส แต่กองกำลังรัสเซียสามารถทำลายแผนการเหล่านี้ ประธานาธิบดีปูตินกล่าวหายูเครนว่า ต้องการมีอาวุธทำลายล้างอย่างระเบิดนิวเคลียร์เพื่อใช้กับรัสเซีย มีเครือข่ายห้องทดลองปฏิบัติการที่ทำโครงการอาวุธชีวภาพ เช่น เชื้อโรคต่าง ๆ โดยได้รับคำแนะนำและสนับสนุนทางการเงินจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐ รัฐบาลยูเครนที่มีตะวันตกเป็นเจ้านายได้เปลี่ยนยูเครนให้หันมาต่อต้านรัสเซียอย่างก้าวร้าว โดยไม่สนใจชะตากรรมของประชาชน และรับความช่วยเหลือทางทหารจากตะวันตกเพื่อให้การนองเลือดยืดเยื้อ ผู้นำรัสเซียระบุว่า ความปรารถนาของตะวันตกที่ต้องการคงไว้ซึ่งการครอบงำโลกคือ ต้นเหตุของวิกฤตในยูเครนและอีกหลายแห่งทั่วโลก วันนี้ทั้งโลกต้องสูญเสียให้แก่ความทะเยอทะยานของตะวันตกที่พยายามทุกวิถีทางเพื่อคงไว้ซึ่งการครอบงำที่แตกสลาย ตะวันตกที่ห่วงแต่ผลประโยชน์และผลกำไรนำโลกเข้าสู่สถานการณ์ปัจจุบัน ด้วยการตัดสินใจที่ผิดพลาดและตื้นเขินมาตลอดหลายปี เช่น การใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียที่กำลังส่งผลกระทบต่อคนทั่วไปในโลกตะวันตก แต่กลับพยายามโทษว่าเป็นความผิดของรัสเซีย อาร์ทีปิดท้ายรายงานด้วยการยกคำกล่าวของปูตินขึ้นเป็นข้อความตัวใหญ่ว่า เขาต้องการให้ชาวตะวันตกทั่วไปได้ยินคำพูดของเขาเช่นกัน การบอกกล่าวซ้ำ ๆ ว่าความลำบากในขณะนี้เป็นผลจากการกระทำที่เป็นปรปักษ์ของรัสเซีย และทางการต้องนำเงินของประชาชนมารับมือกับภัยของรัสเซียนั้น […]

“ปูติน” รับอาสาสมัครจากตะวันออกกลางช่วยรบในยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียเปิดไฟเขียวในวันนี้ ให้นำอาสาสมัครนักรบจากตะวันออกกลางมาร่วมกองทัพรัสเซียในการช่วยรบในยูเครน

“มาครง” ยังไม่ตัดขาด “ปูติน” หลังรุกรานยูเครน

นีซ 7 มี.ค.- ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสยังคงติดต่อสื่อสารกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย แม้ว่าผู้นำโลกหลายคนหันหลังให้ผู้นำรัสเซีย ตั้งแต่สั่งกองทัพใช้ปฏิบัติการทางทหารในยูเครนตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ประธานาธิบดีมาครงในฐานะประธานวาระปัจจุบันของสหภาพยุโรปหรืออียู (EU) พยายามใช้วิถีทางทางการทูตสกัดการเกิดสงครามแต่ไม่เป็นผล อย่างไรก็ดี เขายังคงสนทนากับประธานาธิบดีปูติน โดยนับได้ 4 ครั้งตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ และ 11 ครั้งตลอดเดือนกุมภาพันธ์ นายเบนจามิน ฮัดดัน สมาชิกพรรคอ็องมาร์ชของมาครงเผยว่า ประธานาธิบดีต้องการเปิดช่องทางทางการทูตเอาไว้ เผื่อปูตินอาจต้องการคลี่คลายความตึงเครียดและหาทางออกจากวิกฤต ขณะเดียวกันก็เป็นตัวแทนในการสนทนากับปูตินแทนประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครน หวังได้ความเมตตาบางอย่าง เช่น หยุดยิงบางพื้นที่ เปิดเส้นทางหลบหนีอย่างปลอดภัยให้แก่พลเรือนที่ติดอยู่ในพื้นที่ปะทะ และการจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ด้านนายฌอง-อีฟว์ เลอ ดริยอง รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสกล่าวถึงเสียงวิจารณ์เรื่องมาครงติดกับดักเก่า ๆ ของยุโรปที่มักเอาใจรัสเซียว่า ประธานาธิบดีไม่ได้ไร้เดียงสา แต่เขารู้ว่าต้องใช้วิธีใด รู้ลักษณะและนิสัยของผู้นำรัสเซีย ซิลเวีย โคลอมโบ ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของอียู สถาบันระหว่างประเทศในกรุงโรมของอิตาลีมองว่า มาครงแตกต่างจากผู้นำยุโรปคนอื่น ๆ ตรงที่เขาเต็มใจจะถูกจับจ้องจากทุกฝ่ายเพื่อผลักดันนโยบายต่างประเทศที่วางไว้ เขาเคยให้การต้อนรับประธานาธิบดีปูตินครั้งแรกที่พระราชวังแวร์ซายส์ในปี 2560 หลังจากนั้น […]

สื่อหยุดรายงานข่าวหลัง “ปูติน” ใช้กฎหมาย “ข่าวเท็จ”

ลอนดอน 5 มี.ค.- สื่อระดับสากลหลายแห่งระงับการรายงานข่าวในรัสเซียแล้วเพื่อคุ้มครองผู้สื่อข่าว หลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียออกกฎหมายใหม่กำหนดโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี กับผู้เผยแพร่ข่าวเท็จ บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษหรือบีบีซี บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงแคนาดา สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ซีเอ็นเอ็น และซีบีเอสนิวส์ของสหรัฐประกาศงดการรายงานข่าวในรัสเซีย ขณะที่สื่ออื่น ๆ งดให้นักข่าวในรัสเซียเป็นผู้เขียนข่าว หลังจากรัสเซียหาทางตอบโต้การทำสงครามข่าวสาร โดยอ้างว่าศัตรูอย่างสหรัฐและพันธมิตรตะวันตกแพร่กระจายข่าวเท็จหวังให้ชาวรัสเซียเกิดความแตกแยก รัสเซียบล็อคเฟซบุ๊กโดยอ้างว่าเลือกปฏิบัติต่อสื่อรัสเซียและจำกัดการเข้าถึงทวิตเตอร์ ขณะที่รัฐสภาผ่านความเห็นชอบการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาให้การเผยแพร่ข่าวเท็จเป็นความผิดที่มีโทษปรับเงินหรือจำคุก และกำหนดโทษปรับเงินผู้เรียกร้องให้คว่ำบาตรรัสเซียเรื่องรุกรานยูเครนด้วย สำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียรายงานว่า วุฒิสภาเป็นผู้ร่างกฎหมายแก้ไขดังกล่าว และได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรหรือสภาดูมาที่ระบุว่า หากข่าวเท็จนำมาซึ่งผลร้ายแรง ผู้กระทำผิดจะถูกจำคุกสูงสุด 15 ปี จากนั้นส่งให้ประธานาธิบดีปูตินลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย

“ไบเดน” ใช้การแถลงต่อสภาประณาม “ปูติน”

วอชิงตัน 2 มี.ค.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ใช้การแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภา หรือ “สเตท ออฟ เดอะ ยูเนียน” ประณามประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เรื่องรุกรานยูเครน ประธานาธิบดีแถลงต่อสภาเมื่อค่ำวันอังคารตามเวลาสหรัฐ นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่รับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคมปีก่อน โดยเขาขอให้ทุกคนยืนขึ้นปรบมือเพื่อแสดงความสนับสนุนชาวยูเครนที่กำลังเผชิญการรุกรานจากรัสเซีย และเปิดฉากวิจารณ์ประธานาธิบดีปูตินว่า คำนวณสถานการณ์ผิดอย่างร้ายแรง ขณะนี้เศรษฐกิจรัสเซียกำลังซวนเซ ทั้งหมดต้องโทษปูตินที่คิดว่า บุกเข้าไปในยูเครนแล้วโลกจะเปลี่ยนไป แต่กลับเจอกำแพงแห่งความแข็งแกร่งที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน และชาวยูเครนทุกคนได้แสดงให้เห็นถึงความไม่กลัว ความกล้าหาญ และความมุ่งมั่นที่เป็นแรงบันดาลใจให้ทั้งโลก สงครามของปูตินเป็นสิ่งที่ไตร่ตรองไว้ก่อนทั้งที่ไม่มีการยั่วยุ ปูตินไม่ยอมรับความพยายามทางการทูต และคิดผิดว่าชาติตะวันตกและองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต จะไม่ตอบโต้ ผู้นำสหรัฐประกาศด้วยว่า สหรัฐจะห้ามเครื่องบินรัสเซียเข้าน่านฟ้า เช่นเดียวกับที่หลายประเทศได้ดำเนินการแล้ว ด้านนางจิล ไบเดน สตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐ ได้เชิญนางออคซานา มาร์คาโรวา เอกอัครราชทูตยูเครนประจำสหรัฐ เดินทางพร้อมกับขบวนรถของประธานาธิบดีจากทำเนียบประธานาธิบดี มาเป็นแขกรับเชิญในการแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภา ขณะเดียวกันผลสำรวจของรอยเตอร์/อิปซอสที่เสร็จสิ้นในวันเดียวกันพบว่า ผู้ตอบร้อยละ 43 พอใจท่าทีของประธานาธิบดีไบเดนที่มีต่อรัสเซีย เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 34 […]

1 7 8 9 10 11 17
...