พลังงาน

เคียฟ 25 มี.ค.- รัสเซียโจมตีคลังเก็บก๊าซของยูเครนที่อยู่ใต้ดินเมื่อวันอาทิตย์ เป็นปฏิบัติการล่าสุดของการใช้ขีปนาวุธยิงทำลายแหล่งผลิตไฟฟ้าของยูเครนอย่างต่อเนื่อง ด้านผู้นำยูเครนเผยว่า ปฏิบัติการของรัสเซียทำให้ชาวเมืองคาร์คิฟมากถึง 200,000 คน ไม่มีไฟฟ้าใช้ นาฟโตฮาฟ (Naftogaz) บริษัทพลังงานของทางการยูเครนแจ้งว่า เกิดเหตุโจมตีคลังเก็บก๊าซใต้ดิน แต่ไม่กระทบต่อการส่งก๊าซให้แก่ครัวเรือนและภาคธุรกิจที่เป็นลูกค้า เนื่องจากคลังอยู่ใต้ดินลึก และขณะนี้กำลังดำเนินการซ่อมแซมอุปกรณ์ที่ถูกโจมตีเสียหาย คลังเก็บก๊าซใต้ดินส่วนใหญ่ของยูเครนตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของประเทศ มีศักยภาพที่จะเก็บได้ 30,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ด้านประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนโพสต์คลิปเมื่อคืนวันอาทิตย์ว่า ทางการกำลังทำให้พื้นที่ต่าง ๆ กลับมามีไฟฟ้าใช้ตามปกติอีกครั้งหลังจากตกเป็นเป้าโจมตีของรัสเซียอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดรัสเซียโจมตีแหล่งผลิตและส่งกระแสไฟฟ้าหลายแห่งเมื่อวันศุกร์ และแหล่งพลังงาน 3 แห่งเมื่อเช้าวันอาทิตย์ ทำให้ชาวเมืองคาร์คิฟที่เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของยูเครน มีประชากรกว่า 1.4 ล้านคน ไม่มีไฟฟ้าใช้มากกว่า 200,000 คน กระทรวงพลังงานยูเครนแจ้งว่า ได้นำเข้ากระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 14,900 เมกะวัตต์-ชั่วโมง และระงับการส่งออก หลังจากถูกรัสเซียโจมตีอย่างต่อเนื่อง ดีเทค (DTEK) ผู้ผลิตพลังงานเอกชนรายใหญ่ที่สุดในยูเครนเผยว่า สูญเสียกำลังผลิตถึงครึ่งหนึ่งจากเหตุโจมตีเมื่อวันศุกร์ ขณะที่อูเครเนอร์โฮ (Ukrenergo) ผู้ดูแลสายส่งไฟฟ้าเผยว่า ได้รับความเสียหายไม่ต่ำกว่า 90 ล้านยูโร […]

ดูไบ 11 ก.พ.- กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ (IMF) เผยว่า มีความมั่นใจในแนวโน้มเศรษฐกิจ แม้ว่ามีความไม่แน่นอนเรื่องสงครามและภูมิรัฐศาสตร์ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังคงมีความยืดหยุ่นอยู่ เว็บไซต์ของไอเอ็มเอฟเผยแพร่สุนทรพจน์ที่นางคริสตาลินา กอร์เกียวา กรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟกล่าวต่อที่ประชุมสุดยอดรัฐบาลโลกที่ดูไบว่า แม้ว่ายังมีความไม่แน่นอนสูงอยู่ ไอเอ็มเอฟค่อนข้างมั่นใจเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ เพราะเศรษฐกิจโลกมีความสามารถในการฟื้นคืนได้อย่างน่าแปลกใจ และได้พูดถึงความขัดแย้งในฉนวนกาซาว่า เหตุการณ์ไม่แน่นอนที่มีความผิดปกตินี้ได้เพิ่มความท้าทายให้แก่เศรษฐกิจที่ยังคงฟื้นตัวจากเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่ผ่านมา ดังนั้นหากทำให้ความขัดแย้งนี้ขยายวงกว้างขึ้น ก็จะทำให้อันตรายทางเศรษฐกิจรุนแรงยิ่งขึ้น ผู้จัดการไอเอ็มเอฟกล่าวด้วยว่า ในวันจันทร์นี้ไอเอ็มเอฟจะเผยแพร่รายงานที่แสดงให้เห็นว่า การทยอยยกเลิกการอุดหนุนพลังงานจะช่วยให้ตะวันออกกลางประหยัดเงินได้ 336,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 12 ล้านล้านบาท) เทียบเท่ากับขนาดเศรษฐกิจของอิรักและลิเบียรวมกัน นอกจากนี้ยังช่วยลดแรงจูงใจในการก่อมลภาวะ และเพิ่มการใช้จ่ายทางสังคม ทั้งนี้ในรายงานฉบับปรับปรุงที่เผยแพร่เมื่อเดือนมกราคม ไอเอ็มเอฟได้ปรับลดประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจของตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือลงเหลือร้อยละ 2.9 ในปีนี้.-814.-สำนักข่าวไทย