สส.ฝรั่งเศสผ่านร่าง กม.ใช้แต่ใบรับรองฉีดวัคซีนเท่านั้น

ปารีส 6 ม.ค.- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ฝรั่งเศสผ่านความเห็นชอบร่างกฎหมายเข้มงวดการใช้บัตรผ่านโควิดในการรับบริการสาธารณะ ด้วยการให้ใช้แต่ใบรับรองการฉีดวัคซีนเท่านั้น หลังจากอภิปรายอย่างดุเดือดนานถึง 3 วัน สส.ฝรั่งเศสผ่านความเห็นชอบร่างกฎหมายนี้ด้วยคะแนน 214 ต่อ 93 เสียง และงดออกเสียง 27 เสียงก่อนเวลา 05:30 น.วันนี้ตามเวลาฝรั่งเศส และจะต้องผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาที่จะพิจารณาในต้นสัปดาห์หน้า รัฐบาลต้องการให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 มกราคม แต่มีแนวโน้มจะล่าช้าเพราะการอภิปรายติดขัดในสภาผู้แทนราษฎร ร่างกฎหมายนี้กำหนดให้ผู้มีอายุ 12 ปีขึ้นไป ต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนในการเข้าร้านอาหาร สถานที่ทางวัฒนธรรม และรถโดยสารสาธารณะข้ามภูมิภาค โดยไม่สามารถใช้ผลการตรวจหาเชื้อเป็นลบเช่นในปัจจุบันได้อีกต่อไป ยกเว้นการเข้ารับบริการทางการแพทย์ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสถูกวิจารณ์อย่างหนัก จากการที่กล่าวเมื่อวันอังคารว่า ยุทธศาสตร์เรื่องโควิดของเขาจะก่อกวนผู้ไม่ฉีดวัคซีน ด้วยการเพิ่มมาตรการจำกัดเข้มงวดเพื่อจูงใจให้ไปฉีดวัคซีน ฝรั่งเศสมียอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 10 ล้าน 9 แสน 2 หมื่นคน มากเป็นอันดับ 5 ของโลก และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 124,800 คน มีอัตราการฉีดวัคซีนครบโดสแล้วร้อยละ 73.7.-สำนักข่าวไทย

ฝรั่งเศสเดินหน้าห้ามคนไม่ฉีดวัคซีนใช้ที่สาธารณะ

ปารีส 4 ม.ค.- รัฐบาลฝรั่งเศสจะเดินหน้าใช้กฎหมายห้ามผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ใช้บริการสถานที่สาธารณะและรถสาธารณะ แม้ว่าการอภิปรายกฎหมายนี้ในรัฐสภาสะดุดลงเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา นายเคลมองต์ โบน รัฐมนตรีกิจการยุโรปของฝรั่งเศสให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ในวันนี้ว่า วันที่ 15 มกราคมยังคงเป็นเป้าหมายการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวตามที่รัฐบาลกำหนดไว้ ปัจจุบันฝรั่งเศสบังคับใช้บัตรผ่านโควิดที่ต้องแสดงผลการตรวจหาเชื้อเป็นลบหรือใบรับรองการฉีดวัคซีนเมื่อจะใช้บริการร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ หรือรถไฟ แต่กฎหมายใหม่จะไม่เหลือทางเลือกให้แสดงผลการตรวจหาเชื้อเป็นลบ ส่งผลให้ผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนไม่สามารถใช้บริการสถานที่สาธารณะและรถสาธารณะได้อีกต่อไป กฎหมายนี้ถูกต่อต้านอย่างรุนแรงจากกลุ่มต่อต้านวัคซีน กลุ่มขวาจัด และกลุ่มซ้ายจัด แต่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลที่ครองเสียงข้างมากในสภา อย่างไรก็ดี การอภิปรายกฎหมายฉบับนี้ในสภาผู้แทนราษฎรต้องระงับไปหลังเที่ยงคืนวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น เนื่องจาก สส.ส่วนใหญ่ลงมติให้ระงับการอภิปราย ขณะที่ สส.ฝ่ายรัฐบาลไม่ได้อยู่ในที่ประชุมมากเพียงพอที่จะขัดขวางการลงมติได้ ประธาน สส.กลุ่มต่าง ๆ จะต้องกำหนดวันอภิปรายใหม่อีกครั้ง หากผ่านความเห็นชอบจาก สส. จะต้องให้ สว.เห็นชอบ จึงจะสามารถบังคับใช้ในวันที่ 15 มกราคมได้.-สำนักข่าวไทย

ฝรั่งเศสลดเวลากักโรคคนติดโควิดที่ฉีดวัคซีนครบโดส

ปารีส 2 ม.ค.- ฝรั่งเศสจะลดระยะเวลากักโรคสำหรับผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วจาก 10 วันเหลือ 7 วัน ตามอย่างหลายประเทศที่ลดเวลากักโรคเพื่อไม่ให้ธุรกิจสะดุดเพราะขาดคนทำงาน นายโอลิวิเยร์ เวรอง รัฐมนตรีสาธารณสุขฝรั่งเศสให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ที่ตีพิมพ์วันนี้ว่า ผู้ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วหากมีผลตรวจหาเชื้อเป็นบวกจะต้องกักโรค 7 วัน และจะลดลงเหลือ 5 วันหากมีผลตรวจหาเชื้อเป็นลบ ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนจะต้องกักโรคตัวเองเป็นเวลา 10 วัน และอาจจะลดลงเหลือ 7 วันหากมีผลตรวจหาเชื้อเป็นลบ นายเวรองระบุด้วยว่า เชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนแพร่ได้ง่ายมาก และไม่สามารถหยุดยั้งได้หากไม่นำมาตรการควบคุมเข้มงวดกลับมาใช้อีกครั้ง ด้านประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสกล่าวสุนทรพจน์ในวันส่งท้ายปีเก่าว่า ช่วงหลายสัปดาห์ข้างหน้าจะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก จะต้องเฝ้าระวังกันไปตลอดเดือนมกราคม แต่ไม่พูดถึงเรื่องใช้มาตรการเข้มงวดครั้งใหม่เพื่อควบคุมการระบาด และว่าการระบาดเพราะเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนในขณะนี้อาจเป็นการระบาดครั้งสุดท้าย ฝรั่งเศสมีผู้ติดโรคโควิด-19 รายใหม่ 219,126 คนเมื่อวันเสาร์ เกิน 200,000 คนเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน และสูงเป็นอันดับ 2 รองจากวันศุกร์ที่พบมากที่สุดที่ 232,200 คน ขณะที่ยอดติดเชื้อเฉลี่ยในช่วง 7 วันทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ที่ 157,651 คน […]

อังกฤษพบผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 เกือบ 2 แสนราย

สหราชอาณาจักร รายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 รายวันประจำวันพฤหัสบดีจำนวน 189,21 ราย ซึ่งมากที่สุดเป็นประวัติการณ์และผู้เสียชีวิต 332 ราย

“นิว แคลิโดเนีย” ลงประชามติเป็นเอกราชจากฝรั่งเศสหรือไม่

“นิว แคลิโดเนีย” ดินแดนโพ้นทะเลของฝรั่งเศสที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกจัดการลงประชามติในวันนี้ว่าจะแยกตัวเป็นเอกราชจากฝรั่งเศสหรือไม่ ซึ่งเป็นการจัดการลงประชามติครั้งที่ 3 และครั้งสุดท้ายในประเด็นเรื่องแยกตัวเป็นเอกราช

นิวแคลิโดเนียทำประชามติรอบ 3 ชี้ขาดแยกเอกราชจากฝรั่งเศส

นิวแคลิโดเนีย ดินแดนโพ้นทะเลของฝรั่งเศส เปิดทำประชามติรอบ 3 เพื่อชี้ขาดว่าจะแยกเอกราชจากฝรั่งเศสหรือไม่

สหรัฐเพิ่มฝรั่งเศสเป็นประเทศเสี่ยงโควิดสูงมาก

วอชิงตัน 7 ธ.ค.- ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐหรือซีดีซี (CDC) เพิ่มรายชื่อ 5 ประเทศในยุโรป หนึ่งในนั้นคือ จุดหมายท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างฝรั่งเศส ไว้ในรายชื่อประเทศที่มีความเสี่ยงสูงมากที่จะเดินทางเพราะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ซีดีซีเพิ่มชื่อฝรั่งเศส อันดอร์รา ไซปรัส ลิกเตนสไตน์ และโปรตุเกส ไว้ในประเทศเสี่ยงระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐ รวมทั้งเพิ่มชื่อจอร์แดนในตะวันออกกลาง และแทนซาเนียในแอฟริกาตะวันออก ไว้ในระดับสูงสุดด้วย ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปประเทศเสี่ยงระดับ 4 แต่หากจำเป็นต้องไปจะต้องฉีดวัคซีนให้ครบโดสก่อน ปัจจุบันมี 83 จุดหมายที่ถูกสหรัฐจัดไว้ในระดับ 4 เป็นจุดหมายที่มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 500 คนต่อผู้อาศัย 100,000 คนในช่วง 28 วัน นอกจากนี้สหรัฐยังออกระเบียบใหม่มีผลตั้งแต่วันจันทร์ตามเวลาสหรัฐ กำหนดให้ผู้โดยสารเครื่องบินมาจากต่างประเทศทุกคนต้องมีผลตรวจหาเชื้อเป็นลบภายใน 1 วันก่อนการเดินทาง เข้มงวดจากเดิมที่ต้องมีผลตรวจภายใน 3 วัน ด้านฝรั่งเศสแถลงเมื่อวันจันทร์ตามเวลาฝรั่งเศสว่า จะปิดไนต์คลับก่อนคริสต์มาส และจะเข้มงวดมาตรการรักษาระยะห่างสังคม เพื่อรับมือกับเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน แต่ยังไม่จำเป็นต้องล็อกดาวน์หรือเคอร์ฟิว และขณะนี้พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนแล้ว 25 คน นายกรัฐมนตรีฌอง กัสเต็กซ์กล่าวว่า […]

ไนจีเรียเฝ้าระวังระดับสูงหลังพบผู้ติดโอไมครอน

อาบูจา 2 ธ.ค.- ไนจีเรียซึ่งเป็นประเทศที่มีคนหนาแน่นที่สุดในทวีปแอฟริกาเพิ่มการเฝ้าระวังเป็นระดับสูง หลังจากพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอนแล้ว 3 คน ด้านฝรั่งเศสแจ้งพบผู้ติดเชื้อคนแรกในแคว้นปารีส เป็นผู้ที่เพิ่งเดินทางมาจากไนจีเรีย ศูนย์ควบคุมโรคไนจีเรียแถลงว่า ผลการตรวจบุคคล 3 คนที่มีประวัติเดินทางไปแอฟริกาใต้ได้ผลเป็นบวก ทั้งหมดเดินทางเข้าประเทศเมื่อสัปดาห์ก่อน ถือเป็นผู้ติดเชื้อกลุ่มแรกที่พบในไนจีเรีย ทางศูนย์ฯ ตั้งสมมติฐานว่า เชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนได้แพร่ไปทั่วโลกแล้ว อ้างอิงจากจำนวนประเทศแจ้งพบผู้ติดเชื้อที่มีเพิ่มขึ้น ดังนั้นไนจีเรียจะพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน ล่าสุดไนจีเรียได้ยกระดับคำแนะนำการเดินทาง ด้วยการกำหนดให้ผู้เข้าประเทศต้องจองและออกค่าใช้จ่ายในการตรวจหาเชื้อด้วยวิธีพีซีอาร์ในวันที่ 2 และ 7 ของการเข้าประเทศ รวมทั้งต้องแสดงผลตรวจหาเชื้อเป็นลบ 2 วันก่อนออกจากประเทศต้นทาง ขณะเดียวกันสำนักงานสาธารณสุขแคว้นปารีสหรืออิลเดอฟรองซ์ที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในฝรั่งเศส ประกาศว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกแล้ว เป็นผู้ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากไนจีเรีย ทางด้านแคนาดาเพิ่งเพิ่มชื่อไนจีเรียไว้ในรายชื่อประเทศที่ห้ามเข้า มีผลกับชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศเหล่านี้ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา หลังจากพบผู้ติดเชื้อ 5 คนที่เดินทางมาจากไนจีเรีย ขณะที่อินโดนีเซียก็ห้ามชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากไนจีเรีย และอีกหลายประเทศหากพำนักอยู่ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา ส่วนชาวอินโดนีเซียที่กลับมาจากประเทศเหล่านี้ต้องกักโรค 14 วัน.-สำนักข่าวไทย

เจ้านโรดม รณฤทธิ์ สิ้นพระชนม์

พนมเปญ 29 พ.ย.- เจ้านโรดม รณฤทธิ์ อดีตคู่แข่งและพันธมิตรทางการเมืองของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ผู้นำกัมพูชา สิ้นพระชนม์แล้วช่วงเช้าวานนี้ ที่ประเทศฝรั่งเศส รัฐมนตรีสารสนเทศของกัมพูชาเผยว่า ได้รับแจ้งจากสำนักพระราชวังกัมพูชาว่า เจ้านโรดม รณฤทธิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศกัมพูชา และพระเชษฐาต่างพระมารดากับพระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี พระมหากษัตริย์กัมพูชาองค์ปัจจุบัน สิ้นพระชนม์แล้วที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นฝรั่งเศส ขณะมีพระชันษา 77 ปี แต่ไม่เปิดเผยสาเหตุของการสิ้นพระชนม์ ขณะที่ผู้ช่วยคนหนึ่งของเจ้านโรดม รณฤทธิ์ เผยว่า พระองค์มีปัญหาสุขภาพตั้งแต่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างรุนแรงในกัมพูชาเมื่อปี 2561แล้ว และพระองค์เคยเดินทางไปยังกรุงปารีสในปี 2562 เพื่อรักษากระดูกเชิงกรานหักด้วย คาดว่าพระศพของพระองค์เตรียมถูกส่งกลับมายังกัมพูชาในเร็วๆ นี้ ด้านนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ของกัมพูชา ผู้ซึ่งเคยเป็นทั้งมิตรและคู่แข่งทางการเมืองของเจ้านโรดม รณฤทธิ์ ส่งจดหมายแสดงความเสียใจถึงครอบครัว เพื่อน และกลุ่มผู้สนับสนุนของเจ้านโรดม รณฤทธิ์ โดยระบุว่า การสิ้นพระชนม์ของเจ้านโรดม รณฤทธิ์ เปรียบเหมือนการสูญเสียสมาชิกราชงศ์ผู้ทรงเกียรติ ผู้รักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ส่วนชาวกัมพูชาจำนวนมากในกรุงพนมเปญก็ต่างบอกว่าเสียใจกับการจากไปของเจ้านโรดม รณฤทธิ์ โดยเฉพาะการที่พระองค์สิ้นพระชนม์ยังต่างบ้านต่างเมือง […]

อังกฤษ-ฝรั่งเศสเห็นพ้องหยุดแก๊งค้ามนุษย์หลังเหตุเรือล่ม

ลอนดอน 25 พ.ย. – อังกฤษกับฝรั่งเศสจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อหยุดผู้อพยพที่เดินทางข้ามช่องแคบอังกฤษ หลังเกิดเหตุเรือลอบขนผู้อพยพล่มในช่องแคบดังกล่าวเมื่อวันพุธจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 27 ราย ซึ่งถือเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตในช่องแคบอังกฤษมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2557 บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ และประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ระบุว่า ขบวนการค้ามนุษย์ทำให้ชีวิตของผู้อพยพตกอยู่ในความเสี่ยง หลังเกิดเหตุโศกนาฏกรรมขึ้นในช่องแคบอังกฤษเมื่อวันพุธ นายกรัฐมนตรีจอห์นสัน กล่าวว่า เขารู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อหยุดยั้งขบวนการค้ามนุษย์ ทั้งยังระบุว่า แม้อังกฤษกับฝรั่งเศสจะเห็นพ้องต้องกันว่าจำเป็นต้องลงมือมากขึ้นเพื่อหยุดขบวนการนี้ แต่ก็เป็นเรื่องยากที่อังกฤษจะโน้มน้าวให้ฝรั่งเศสทำตามแนวทางที่อังกฤษเห็นว่าเหมาะสมต่อสถานการณ์ และมองว่าการที่รัฐบาลฝรั่้งเศสพยายามสั่งห้ามเรือผู้อพยพออกจากฝั่งนั้นยังไม่เพียงพอ โดยหวังว่าฝรั่้งเศสจะมีข้อเสนอใหม่ที่ทำให้เกิดการลาดตระเวนร่วมกันในน่านน้ำฝรั่งเศส ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ของทางการฝรั่งเศสระบุว่า ประธานาธิบดีมาครงได้กล่าวกับนายกรัฐมนตรีจอห์นสันว่า เขาคาดหวังความร่วมมือจากอังกฤษอย่างเต็มเปี่ยม และจะไม่โยงสถานการณ์ดังกล่าวให้เป็นประเด็นทางการเมือง ก่อนหน้านี้ อังกฤษได้ให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนเงินให้ฝรั่งเศสราว 62.7 ล้านปอนด์ (2,790 ล้านบาท) ในช่วงปี 2564-2565 เพื่อช่วยในการเพิ่มหน่วยลาดตระเวนตามแนวชายฝั่ง การเฝ้าระวังทางอากาศ และโครงสร้างพื้นฐานด้านความปลอดภัยที่ท่าเรือ.-สำนักข่าวไทย

“หมอยง” ความหวังหลายประเทศ ฝรั่งเศสพัฒนาวัคซีนเชื้อตาย

กรุงเทพฯ 24 พ.ย.-“หมอยง” ย้ำโควิด-19 จะคงอยู่กับเรา ลดการป่วย-เสียชีวิต ต้องได้รับวัคซีน รอภูมิคุ้มกันหมู่ไม่ได้ พร้อมเผยล่าสุดฝรั่งเศสกำลังพัฒนาวัคซีนเชื้อตายให้มีประสิทธิภาพสูง จำลองให้คล้ายการติดเชื้อมากที่สุด ทำให้หลายประเทศในยุโรป ตั้งความหวังและจองไว้เป็นจำนวนมาก ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กวันนี้ (24พ.ย.) เรื่อง โควิด-19 โรคนี้จะคงอยู่กับเรา เดิมเมื่อมีการระบาดใหม่ๆ เรามีความพยายามที่จะกวาดล้าง ให้ได้เหมือนกับโรค SARS ที่ระบาดในปี 2003 แต่แล้วก็ไม่สามารถที่จะกำจัดได้ โรคได้ระบาดไปทั่วโลก pandemic ต่อมาได้มีการคิดถึงภูมิคุ้มกันหมู่ เพื่อจะยุติการระบาดของโรค แนวคิดการเร่งสร้างภูมิคุ้มกันด้วยวัคซีนจึงเป็นทางออก ให้ประชากรส่วนใหญ่มีภูมิต้านทาน เพื่อปกป้องประชากรส่วนน้อยที่ไม่มีภูมิต้านทาน โดยคาดการณ์ตามอํานาจการกระจายโรค อยู่ที่ 2-3 ก็จะใช้ภูมิต้านทานหมู่ประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นต์ ก็น่าจะยุติบรรเทาลงได้ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมเป็นสายพันธุ์เดลต้า การแพร่กระจายของโรคใด้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีการระบาดรอบใหม่เกิดขึ้นปัจจุบันเรารู้แล้วว่า วัคซีนป้องกันความรุนแรงของโรค ลดการป่วยตาย ลดการนอนโรงพยาบาลให้ระบบสาธารณสุขคงอยู่ได้ ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ ความหวังภูมิคุ้มกันหมู่ จึงไม่สามารถที่จะให้โรคสงบลงได้ จากบทเรียนของไข้หวัดใหญ่ วัคซีนก็ไม่สามารถที่จะป้องกันการติดเชื้อได้ […]

1 31 32 33 34 35 110
...