จีนแสดงจุดยืนหนุนการปรองดองไทย-กัมพูชา

ปักกิ่ง 14 ส.ค. – นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนกล่าววันนี้ว่า จีนแสดงการสนับสนุนไทยและกัมพูชาในการแก้ไขข้อพิพาทชายแดน และพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือตามความต้องการของทั้งสองประเทศ กระทรวงการต่างประเทศจีนระบุในแถลงการณ์สองฉบับว่า นายหวัง กล่าวว่าจีนสนับสนุนให้ประเทศไทยและกัมพูชาเสริมสร้างการเจรจา และหวังว่าทั้งสองประเทศจะสามารถสร้างความไว้วางใจร่วมกันและฟื้นฟูมิตรภาพระหว่างกันได้ นายหวังได้พบกับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและกัมพูชาแยกกันนอกรอบการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ที่มณฑลยูนนานทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ไทยและกัมพูชามีข้อขัดแย้งเหนือดินแดนชายแดนมานานหลายทศวรรษ และตกอยู่ในสถานการณ์ขัดแย้งนับตั้งแต่ทหารกัมพูชาเสียชีวิตจากการปะทะกันในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม การปะทะดังกล่าวได้ทวีความรุนแรงจนมีผู้เสียชีวิต ซึ่งถือเป็นการปะทะกันที่เลวร้ายที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ ก่อนที่จะมีการประกาศหยุดยิงในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม นายหวังยังได้กล่าวถึงความพร้อมของจีนในการเร่งการก่อสร้างรถไฟจีน-ไทย ส่งเสริมให้บริษัทจีนเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น และสร้างความมั่นใจในเสถียรภาพของห่วงโซ่การผลิตและอุปทานในภูมิภาค เขายังได้กล่าวกับนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีต่างประเทศของไทยว่า หวังว่าประเทศไทยจะให้การสนับสนุนด้านนโยบายและอำนวยความสะดวกแก่บริษัทจีนมากขึ้น ส่วนในการประชุมกับนายปรัก สุคน รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา นายหวังได้แสดงการสนับสนุนกัมพูชาในการรักษาเสถียรภาพทางการเมือง และกล่าวว่าจีนชื่นชมการปราบปรามการพนันออนไลน์และอาชญากรรมทางโทรศัพท์ในประเทศ เขายังแสดงความหวังว่ากัมพูชาจะดำเนินมาตรการที่เข้มงวดต่อไป เพื่อร่วมมือกับภูมิภาคในการต่อต้านกิจกรรมอาชญากรรมข้ามพรมแดน.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ฮุน มาเนต’ เสนอ ‘ทรัมป์’ ชิงโนเบลสันติภาพ

พนมเปญ 8 ส.ค. – นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชาส่งหนังสืออย่างเป็นทางการไปยังคณะกรรมการโนเบลของนอร์เวย์เพื่อเสนอชื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐเข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ หนังสือของนายฮุน มาเน็ต ลงวันที่ 7 สิงหาคม มีเนื้อหาว่า ในฐานะนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เขารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เสนอชื่อนายโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 45 และ 47 ให้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นการยกย่องผลงานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ในการส่งเสริมสันติภาพโลก การเสนอชื่อครั้งนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นถึงความซาบซึ้งของตัวเขาเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความกตัญญูอย่างสุดซึ้งของประชาชนชาวกัมพูชาสำหรับบทบาทสำคัญยิ่งของนายทรัมป์ในการฟื้นฟูสันติภาพและเสถียรภาพบริเวณชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทย ความเป็นผู้นำอันโดดเด่นของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งโดดเด่นด้วยความมุ่งมั่นในการแก้ไขข้อขัดแย้งและป้องกันสงครามหายนะผ่านการเจรจาต่อรองที่มีวิสัยทัศน์และสร้างสรรค์ แสดงให้เห็นล่าสุดในบทบาทสำคัญในการไกล่เกลี่ยการหยุดยิงโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไขระหว่างกัมพูชาและไทย การแทรกแซงอย่างทันท่วงทีนี้ ซึ่งช่วยป้องกันความขัดแย้งที่อาจสร้างความเสียหายร้ายแรง มีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันการสูญเสียชีวิตจำนวนมาก และปูทางไปสู่การฟื้นฟูสันติภาพระหว่างสองประเทศ สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงหนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จอันโดดเด่นของประธานาธิบดีทรัมป์ในการคลี่คลายความตึงเครียดในภูมิภาคที่ผันผวนที่สุดของโลก การแสวงหาสันติภาพอย่างต่อเนื่องผ่านการทูตของเขาสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของอัลเฟรด โนเบล อย่างสมบูรณ์แบบ นั่นคือการยกย่องเชิดชูผู้ที่มีคุณูปการอันโดดเด่นต่อภราดรภาพระหว่างประเทศและการส่งเสริมสันติภาพ ด้วยเหตุผลเหล่านี้ เขาหวังว่าการเสนอชื่อนายโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ให้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพจะได้รับการพิจารณาเป็นอย่างดี.-816.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาปัดขู่ถอนสัญชาติ-ยึดที่ดิน ทำแรงงานแห่กลับ

พนมเปญ 8 ส.ค. – โฆษกกระทรวงแรงงานกัมพูชา แถลงปฏิเสธข่าวขู่ถอนสัญชาติ-ยึดที่ดินแรงงานกัมพูชาที่ทำงานในไทยหากไม่เดินทางกลับประเทศ อ้างที่แห่กลับช่วงนี้เพราะไม่พอใจที่กองทัพไทยรุกรากกัมพูชา รวมทั้งอยากกลับไปช่วยเศรษฐกิจชาติ จากกรณีที่แรงงานชาวกัมพูชาในไทยจำนวนมากเดินทางกลับประเทศในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แม้การสู้รบจะสิ้นสุดลง โดยมีกระแสข่าวว่า สาเหตุที่แรงงานกัมพูชาเดินทางกลับประเทศจำนวนมาก เนื่องจากถูกขู่ว่ารัฐบาลจะยึดที่ดินและถอนสัญชาติ ซึ่งสอดคล้องกับช่วงเวลาที่กฎหมายว่าด้วยการถอนสัญชาติ กัมพูชาเริ่มมีผลใช้บังคับพอดีนั้น ล่าสุด นายซุน เมษา โฆษกกระทรวงแรงงานและการฝึกอบรมวิชาชีพของกัมพูชา ได้แถลงปฏิเสธว่า รัฐบาลกัมพูชาไม่ได้ออกคำขู่ทั้งเรื่องถอนสัญชาติและยึดที่ดินดังกล่าว สาเหตุหลักที่ชาวกัมพูชารีบเดินทางกลับนั้นเป็นผลมาจากพวกเขาถูกกระทำจากกลุ่มหัวรุนแรงในไทยและทางการไทยก็ยังไม่ดำเนินการใดๆ กับคนเหล่านั้น รวมถึงยังไม่พอใจที่กองทัพไทยรุกรานกัมพูชา คนกัมพูชาเหล่านี้ทำตามคำร้องขอของ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต เป็นความปรารถนาของคนกัมพูชาที่ต้องการกลับมาช่วยเหลือเศรษฐกิจของชาติ ขอให้ชาวกัมพูชาและประชาคมโลกอย่าเชื่อรายงานเท็จเหล่านี้ โฆษกกระทรวงแรงงานฯ กัมพูชา อ้างอีกว่า ขณะนี้ชาวกัมพูชาประมาณ 750,000 คนที่ทำงานและพำนักอยู่ในไทยได้เดินทางกลับประเทศกัมพูชาแล้ว และขอแจ้งให้ทราบว่า กระทรวงแรงงานฯ ได้ดำเนินการรณรงค์ระยะที่ 2 เพื่อเปิดโอกาสให้ชาวกัมพูชาที่เพิ่งเดินทางกลับจากประเทศไทยได้มีโอกาสงานใน 300 ตำบลทั่วประเทศ พร้อมขอเชิญชวนผู้ประกอบการและเจ้าของธุรกิจชาวกัมพูชาในเขตอำเภอต่างๆ ร่วมเผยแพร่โอกาสงานมากมายในกัมพูชา ซึ่งรวมถึงโอกาสงานใหม่กว่า 550,000 ตำแหน่ง รวมถึงการฝึกอบรมด้านเทคนิคและวิชาชีพฟรี.-815.-สำนักข่าวไทย

จีน-ญี่ปุ่นปฏิเสธข่าวบริจาคโดรนให้กัมพูชา-ไทย

กรุงเทพฯ 6 ส.ค. – จีนปฏิเสธข่าวที่ว่าได้บริจาคโดรนให้กัมพูชา เพื่อใช้ตามแนวชายแดน ในขณะเดียวกันญี่ปุ่นก็ปฏิเสธข่าวที่ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะจัดหาอากาศยานต่อสู้ไร้คนขับ ให้กับประเทศไทย เฟซบุ๊กของสถานทูตจีนประจำประเทศไทยโพสต์ข้อความระบุว่า โฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ตอบคำถามสื่อมวลชนที่ว่ามีรายงานข่าวจากบางสำนักอ้างว่าจีนได้บริจาคโดรนให้แก่กัมพูชา เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยระบุว่าจากการตรวจสอบแล้วขอยืนยันว่ารายงานข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ภาพที่ถูกนำไปใช้ในรายงานข่าวเหล่านั้นเป็นภาพที่ถ่ายในระหว่างงานสาธิตการบิน ซึ่งจัดโดย “บริษัท ไชนา เนชั่นแนล แอโร-เทคโนโลยี อิมพอร์ต แอนด์ เอ็กซ์พอร์ต คอร์ปอเรชั่น” (China National Aero-Technology Import & Export Corporation) หรือ “แคทิค” (CATIC) ในกัมพูชาเมื่อเดือนมกราคม 2024 และไม่มีความเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ปัจจุบันแต่อย่างใด ฝ่ายจีนขอยืนยันอีกครั้งว่านับตั้งแต่ความขัดแย้งตามแนวชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชาปะทุขึ้น จีน ในฐานะที่เป็นประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นมิตร ได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อลดความตึงเครียดด้วยวิธีการของตนเอง จีนไม่ได้แสวงหาผลประโยชน์ใดๆ จากเรื่องนี้ และสนับสนุนให้อาเซียนในการอำนวยความสะดวกเพื่อหาทางออกทางการเมืองสำหรับสถานการณ์ระหว่างไทยและกัมพูชาผ่านแนวทางของอาเซียน จีนพร้อมที่จะสื่อสารอย่างใกล้ชิดกับประเทศในภูมิภาค ได้แก่ ไทย กัมพูชา และมาเลเซีย เพื่อมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในการเสริมสร้างการหยุดยิงให้มีความมั่นคงและฟื้นฟูสันติภาพและเสถียรภาพโดยเร็วที่สุด ในขณะเดียวกันสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำกรุงพนมเปญของกัมพูชา ออกแถลงการณ์เผยแพร่ทางเฟซบุ๊กของสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำกัมพูชา ชี้แจงข่าวลือที่แพร่กระจายในขณะนี้ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนที่จะจัดหาโดรนรบให้กับประเทศไทย สถานทูตฯ ขอยืนยันว่าข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง และขอชี้แจงอย่างชัดเจนว่าทางการญี่ปุ่นไม่เคยมีแผนที่จะมอบอุปกรณ์ประเภทนี้ให้แก่ไทย […]

คนกัมพูชาหันไปใช้สินค้าในประเทศแทนสินค้าไทย

พนมเปญ 6 ส.ค. – ผู้บริโภคชาวกัมพูชา เปลี่ยนไปใช้บริการสินค้าท้องถิ่นมากขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกแทนสินค้าไทย หลังเกิดการปะทะทางทหารบริเวณพรมแดนระหว่างกัมพูชากับไทย ผู้บริโภคชาวกัมพูชา กำลังหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นและมองหาทางเลือกอื่นแทนสินค้าไทย นับตั้งแต่เกิดการปะทะระหว่างกองทัพทั้งสองประเทศตามแนวชายแดนที่เป็นข้อพิพาท เมื่อ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยในกรุงพนมเปญ ร้านกาแฟท้องถิ่นคึกคักไปด้วยลูกค้า ต่างจากร้านกาแฟไทยชื่อดังซึ่งเคยเป็นที่นิยมของชาวกัมพูชาในเมืองหลวง แต่ตอนนี้แทบไม่มีลูกค้าเข้าใช้บริการ ในช่วงหลายปีมานี้ สินค้าแบรนด์ไทยขยายตัวอย่างรวดเร็วในกัมพูชา โดยมีสถานีบริการน้ำมันกว่า 180 แห่ง, ร้านกาแฟกว่า 250 แห่ง ร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารกว่า 100 แห่งที่บริษัทไทยเป็นเจ้าของ ทั้งหมดนี้ล้วนพบว่าจำนวนผู้บริโภคลดลงอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ผู้บริโภคชาวกัมพูชาหลายคนบอกว่า พวกเขาเริ่มหันมาอุดหนุนสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศมากขึ้น จากปัญหาความขัดแย้งบริเวณชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทย หลายคนบอกว่าตอนนี้ไม่อยากอุดหนุนสินค้าไทย อยากใช้ของกัมพูชามากกว่า และหวังว่าสินค้ากัมพูชาจะเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากขึ้น ส่วนผู้ค้าปลีกและผู้นำเข้าสินค้าในท้องถิ่นบอกว่า พวกเขารู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคเช่นกัน พนักงานซูเปอร์มาร์เก็ตรายหนึ่งบอกว่า เมื่อก่อนลูกค้ามองหาสินค้าไทย แต่ตอนนี้พวกเขาเริ่มมองหาสินค้ากัมพูชาและสนับสนุนสินค้ากัมพูชามากขึ้น ร้านค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่งบอกว่า จะปรับเปลี่ยนการจำหน่ายสินค้าเพื่อสนับสนุนสินค้าแบรนด์ท้องถิ่นให้มากขึ้น หลังจากการประชุมนัดพิเศษที่มีนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำมาเลเซียเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นเมื่อ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา กัมพูชาและไทยตกลงที่จะหยุดยิงทันทีโดยไม่มีเงื่อนไขมีผลบังคับใช้ในเวลาหลังเที่ยงคืนวันดังกล่าว ยุติการปะทะกันนาน 5 วัน.-815.-สำนักข่าวไทย

เจ้าหน้าที่กลาโหมฝ่ายไทย-กัมพูชาเริ่มหารือที่มาเลเซีย

กัวลาลัมเปอร์ 5 ส.ค. – เจ้าหน้าที่กลาโหมฝ่ายไทยและกัมพูชาเริ่มเจรจาเบื้องต้นที่ประเทศมาเลเซียเมื่อวานนี้ ก่อนการประชุมระดับรัฐมนตรีกลาโหมในวันพฤหัสบดี ขณะที่ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างทั้งสองฝ่ายยังเปราะบาง การเจรจาเบื้องต้นระหว่างเจ้าหน้าที่กลาโหมของไทยและกัมพูชา เริ่มต้นขึ้นเมื่อวานนี้ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ก่อนการประชุมระดับรัฐมนตรีในวันพฤหัสบดี ขณะที่ข้อตกลงหยุดยิงที่เปราะบาง ยังคงดำเนินต่อไปเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ หลังจากทั้งสองประเทศบรรลุข้อตกลงหยุดยิง ที่มีขึ้นหลังมีการปะทะกันตามแนวพรมแดนระหว่างกัมพูชาและไทยนาน 5 วัน ในที่ประชุมที่มาเลเซียเป็นเจ้าภาพเมื่อวันจันทร์สัปดาห์ที่แล้ว โดยมีสหรัฐฯ และจีนเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย การประชุมระดับเลขาธิการ ซึ่งกองทัพมาเลเซียเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นที่โรงแรมวิสมา เปอร์วีรา มีตัวแทนจากทั้งสองประเทศเข้าร่วม 54 คน เพื่อวางรากฐานสำหรับเสถียรภาพที่ยั่งยืน หลังเกิดการปะทะทางทหารบริเวณแนวพรมแดนครั้งเลวร้ายที่สุดระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในรอบกว่าทศวรรษ รวมถึงการยิงปืนใหญ่และใช้เครื่องบินรบนานหลายวัน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 43 ราย ชาวบ้านทั้งสองฝ่ายอพยพรวมกันมากกว่า 300,000 คน โมฮัด นิซัม จัฟฟาร์ ผู้บัญชาการกองทัพบกมาเลเซีย เผยว่า ขณะนี้ ทั้งไทยและมาเลเซียอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการหารือเกี่ยวกับขอบเขตอำนาจหน้าที่ หรือ ทีโออาร์ (TOR) ที่เสนอไว้ และการจัดตั้งกองกำลังติดตามผู้ช่วยทูตฝ่ายกลาโหมชั่วคราว ซึ่งจะนำไปสู่การจัดตั้งคณะผู้ตรวจสอบอาเซียนอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ ยังมีการหารือเรื่องการปรับปรุงรูปแบบการสนับสนุนที่อาจต้องการจากมหาอำนาจ พร้อมเสริมว่า มาเลเซีย สหรัฐฯ และจีนจะเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

รัฐบาลยันยังไม่มีฝ่ายใดยึด “ปราสาทตาควาย”

ทำเนียบ 31 ก.ค.- “จิรายุ” โฆษกรัฐบาล ยันยังไม่มีฝ่ายใดยึดครอง “ปราสาทตาควาย” ทหารทั้งสองฝ่ายควบคุมพื้นที่คนละด้าน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่ากองทัพบกแถลงกรณีกระแสข่าวว่าไทยสูญเสียการควบคุม “ปราสาทตาควาย” ให้แก่กัมพูชา ว่าไม่เป็นความจริง พร้อมยืนยันว่าทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชายังไม่มีฝ่ายใดยึดครองปราสาทดังกล่าวได้ เนื่องจากข้อตกลงหยุดยิงที่มีผลอยู่ในขณะนี้ ทำให้ทหารของทั้งสองฝ่ายควบคุมพื้นที่คนละด้านของโบราณสถาน ซึ่งฝ่ายไทยยังคงปฏิบัติตามข้อตกลงและเคารพกติกาสากลอย่างเคร่งครัด โดยไม่มีการดำเนินการทางทหารในพื้นที่มรดกทางวัฒนธรรม ก่อนการประชุม ศบ.ทก. เวลา 09.20 น. พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้อำนวยการ ศบ.ทก. ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ย้ำถึงข่าวลือและข้อมูลบิดเบือนที่เผยแพร่ในโซเชียลมีเดียอย่างต่อเนื่อง ว่าเป็นเพียงกระแสที่พยายามปลุกปั่นความเข้าใจผิดในสังคม พร้อมขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลจากกองทัพหรือหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ซึ่งจะเป็นแหล่งข่าวที่ถูกต้องและเป็นทางการ ล่าสุด กองทัพภาคที่ 2 ยังยึด “เนิน 350” บริเวณปราสาทตาควายไม่ได้ เหตุหยุดยิงก่อน แต่ทหารไทย – กัมพูชา วางกำลังประกบห่างตัวปราสาทฯ 50 เมตร ล่าสุดกองทัพภาคที่ 2 แถลง ว่า […]

เดินสายแจงทูตสหภาพยุโรป-อังกฤษ ปมชายแดน

รัฐสภา 31 ก.ค.-ประธาน กมธ.การต่างประเทศ เดินสายชี้แจงทูตสหภาพยุโรป-อังกฤษ ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ห่วงข่าวปลอมบิดเบือนภาพไทย ย้ำไทยอดทน ยับยั้งชั่งใจทุกขั้นตอน ไม่ตอบโต้เกินจำเป็น ชี้ ต้องเข้มแข็งด้วยลำแข้งตัวเอง ขอประชาคมโลกแสดงจุดยืนต่อความรุนแรง พร้อมจับตาบทบาทประเทศที่สาม บอกถึงเวลาไทยต้องวางตัวอย่างรอบคอบและเข้มแข็ง นางสาวสรัสนันท์ อรรณนพพร ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินสายพบคณะทูตสหภาพยุโรป และทูตอังกฤษ ถึงสถานการณ์ความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ตั้งแต่เกิดเหตุปะทะที่ชายแดนตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมาทางคณะกรรมาธิการการต่างประเทศได้เดินสายชี้แจงข้อเท็จจริง เป็นอันดับแรก เพราะมีความกังวลใจว่าการสื่อสารข่าว จากทั้งไทยและกัมพูชา มีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก จึงเป็นส่วนที่ต่างชาติไม่เข้าใจ และกังวลใจ กรรมาธิการจึงเดินสายไปชี้แจงกับประเทศ ที่เป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคง ที่อย่างน้อยได้แสดงถึงความกังวลใจในฐานะของฝ่ายนิติบัญญัติ เช่นที่ผ่านมาได้ชี้แจงกับประเทศจีน รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส และอีก 18 ประเทศ ขอสหภาพยุโรป ไปแล้ว ซึ่งจากนี้กรรมาธิการจะเดินสายพูดคุยและชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ และเรียกร้องให้มิตรประเทศแสดงจุดยืนต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้น และขอให้ทุกประเทศช่วยจับตาดูข้อเท็จจริงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมาประชาคมโลกเห็นถึงความสับสนที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร เพราะสำนักข่าวต่างประเทศต่างหยิบยกการแถลงข่าว จาก กัมพูชาที่มีการปลอมแปลงมารายงานข่าว ซึ่งเห็นว่าเป็นการปลอมแปลงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เมื่อถามว่า ภายหลังที่ มีข้อตกลงการหยุดยิง แต่ยังเกิดการปะทะ […]

กัมพูชา-ไทยยืนยันทำตามข้อตกลงหยุดยิงในที่ประชุมไตรภาคีกับจีน

ปักกิ่ง 30 ก.ค. — เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศของจีนรายงานว่ากัมพูชาและไทยยืนยันความมุ่งมั่นว่าจะปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงในการประชุมไตรภาคีอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งจีน กัมพูชา และไทยจัดขึ้น ณ นครเซี่ยงไฮ้ ในวันพุธ (30 ก.ค.) โดยมีซุน เว่ยตง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงฯ พร้อมคณะผู้แทนจากกัมพูชาและไทยเข้าร่วม สำนักข่าวซินหัว รายงานว่ากัมพูชาและไทยยืนยันกับจีนว่าจะปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง พร้อมแสดงความขอบคุณบทบาทเชิงบวกของจีนในการคลี่คลายสถานการณ์ โดยการประชุมครั้งนี้ดำเนินไปด้วยบรรยากาศที่จริงใจตรงไปตรงมา เป็นมิตร และสามัคคีปรองดอง จีนดำเนินบทบาทเชิงสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่องในการสนับสนุนกัมพูชาและไทยแก้ไขข้อพิพาทชายแดนอย่างสันติ และการประชุมครั้งนี้ถือเป็นความพยายามทางการทูตล่าสุดของจีนในเรื่องดังกล่าว.-813.-สำนักข่าวไทย

อินโดนีเซียพร้อมช่วยยุติขัดแย้งไทย-กัมพูชา

จาการ์ตา 30 ก.ค. – ประธานาธิบดีอินโดนีเซียแถลงให้การสนับสนุนมาเลเซียอย่างเต็มที่ในการรักษาเสถียรภาพในภูมิภาค ลดระดับความขัดแย้งระหว่างกัมพูชาและไทย พร้อมให้ความช่วยเหลือทุกที่และทุกเวลา ประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต ผู้นำอินโดนีเซีย และนายกรัฐมนตรี อันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย จัดการประชุมปรึกษาหารือประจำปีครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นการเจรจาระดับสูงระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2560 ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงจาการ์ตา ระบุภายหลังการหารือว่า อินโดนีเซียกำลังสื่อสารอย่างแข็งขันกับมาเลเซียเพื่อสนับสนุนการลดระดับความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา หนึ่งวันหลังจากที่ผู้นำมาเลเซีย ในฐานะประธานสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ได้ช่วยเจรจาข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งเป็นประเทศสมาชิก การประชุมปรึกษาหารือประจำปีระหว่างผู้นำอินโดนีเซียและมาเลเซีย ซึ่งไม่ได้จัดตั้งแต่ปี 2560 เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 และการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในทั้งสองประเทศ ทำหน้าที่เป็นกลไกทวิภาคีระดับสูงสุดระหว่างทั้งสองประเทศ มีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์และรอบด้าน ปราโบโว เริ่มต้นการประชุมด้วยการแสดงความยินดีกับอันวาร์ในความเป็นผู้นำ ความสำเร็จในการไกล่เกลี่ยข้อขัดแย้งในภูมิภาค และอำนวยความสะดวกให้กับข้อตกลงหยุดยิง เขาพร้อมสนับสนุนบทบาทของมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนในการรักษาเสถียรภาพในภูมิภาคอย่างเต็มที่ ส่วนอินโดนีเซียพร้อมให้ความช่วยเหลือทุกที่และทุกเวลา เพื่อให้อาเซียนแก้ไขข้อขัดแย้งโดยสันติวิธีเสมอ ผ่านกระบวนการปรึกษาหารือ การพินิจพิเคราะห์ และเจรจา ส่วนอันวาร์กล่าวกับปราโบโวว่า ความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนมีความสำคัญต่อการรักษาความมั่นคงในภูมิภาค และในขณะนี้ ประเทศสมาชิกอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ บรูไน และฟิลิปปินส์ จะเป็นผู้รับผิดชอบในการติดตามกระบวนการสันติภาพนี้ ประเทไทยและกัมพูชาปะทะกันอย่างหนักตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่แล้ว คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า 30 […]

“พล.อ.ณัฐพล​” ยันไร้ใบสั่งเจรจากัมพูชา ยึดอธิปไตย-ผลประโยชน์ชาติ

ทำเนียบ 29 ก.ค.- “พล.อ.ณัฐพล​” ยันไร้ใบสั่งเจรจากัมพูชา ยึดเรื่องอธิปไตยและผลประโยชน์ชาติเป็นหลัก ปัดถูกภาษีทรัมป์มัดคอเลยยอม ย้ำมี 7 เงื่อนไขให้กองทัพไปคุยต่อ รับไม่เชื่อใจกัมพูชาถ้ายิงมายิงกลับ ตอบโต้สมน้ำสมเนื้อ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ให้นานาชาติเห็นว่าไทย เคารพสังคมโลก พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงสถานการณ์ไทยกัมพูชา หลังเดินทางไปเจรจาที่ประเทศมาเลเซียว่า ขอให้เชื่อมั่นในฐานะที่ ตนเป็นเจ้ากรมยุทธการทหารบก รับผิดชอบวางแผนการ เป็นเสนาธิการทหารบก ไปเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ แล้วปัจจุบันเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่รับผิดชอบในระดับรัฐบาล การมองจะมองในทุกมิติ และก่อนที่จะเดินทางไปมาเลเซีย ได้ประชุมกับผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผบ.เหล่าทัพว่าเวลาที่รับได้คือ 18:00 น. เมื่อวานนี้ แต่ทุกคนหนักใจเพราะฝ่ายกัมพูชาเคลื่อนย้ายกำลังเข้ามามาก โดยมีเงื่อนไข 7 ประการ ตามที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงไป ในการหยุดยิง แต่เมื่อไปถึงในที่ประชุมทางฝ่ายกัมพูชาขอที่ 24:00 น. ซึ่งก็ถือว่าพอรับได้ แต่ก็ห่วงใยเพราะเป็นเวลากลางคืน อยากให้เข้าใจว่าทำอะไรไม่ได้ทำคนเดียวทำร่วมกับกองทัพ โดยเงื่อนไขที่กองทัพบกขอมามี 6 ข้อ มอบให้แม่ทัพภาคที่ 1 และ 2 ไปคุย จนกว่าจะได้ข้อยุติจะเข้าสู่เงื่อนไขที่ 7 คือหารือจีบีซี ขอให้ทุกคนสบายใจได้ว่าเจรจาหยุดยิงไม่ใช่ทุกอย่างจะหยุดแต่ต้องมีการพูดเจรจากันต่อไป […]

ยังได้ยินเสียงระเบิดช่วงเช้ามืดใกล้ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 29 ก.ค.- สถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสุรินทร์ ภาพรวมมีการหยุดยิงตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนตามข้อตกลง แต่บางจุดผู้นำหมู่บ้านยืนยันว่ายังได้ยินเสียงปะทะ ทีมข่าวลงพื้นที่ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ใกล้พื้นที่ปราสาทตาควาย หลังเมื่อวานนี้มีการปะทะกันอย่างหนัก จนถึงเวลาเส้นตายเที่ยงคืนที่ผ่านมา ตามข้อตกลงหยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไข จากกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย หารือกับผู้นำกัมพูชาที่มาเลเซีย ช่วงบ่ายวานนี้ อย่างไรก็ตาม ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่ง ยืนยันว่ายังได้ยินเสียงระเบิด และการปะทะกันประปราย ในช่วงตีสองถึงตีสาม จึงแปลกใจ เพราะคิดว่าจะมีการหยุดยิงตามข้อตกลง โดยเมื่อวานนี้ มีการปะทะหนักที่สุด กระสุนปืนตกสร้างความเสียหายให้หมู่บ้านรวม 5 จุด ที่เสียหายมากที่สุด คือที่พักสงฆ์ ถูกกระสุนปืน ค. ลง 3 ลูก เวลาประมาณ 11:30 น. ทำให้อาคารเก็บของ หลังคาทะลุ ผนังพัง พบรอยสะเก็ดตามผนัง และหลังคากุฎิภายในบริเวณเดียวกันเสียหายรวม 6 ห้อง นายเอกอนันต์ ศรีอินทร์ นายอำเภอพนมดงรัก ลงพื้นที่มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมระบุว่า ผลกระทบการสู้รบเมื่อวานอยู่ระหว่างการรอรับรายงานความเสียหายในพื้นที่ต่างๆ ส่วนวันก่อนมีกระสุนมาตกในพื้นที่กว่า 50 […]

1 2 3 14
...