“พล.อ.ณัฐพล​” ยันไร้ใบสั่งเจรจากัมพูชา ยึดอธิปไตย-ผลประโยชน์ชาติ

ทำเนียบ 29 ก.ค.- “พล.อ.ณัฐพล​” ยันไร้ใบสั่งเจรจากัมพูชา ยึดเรื่องอธิปไตยและผลประโยชน์ชาติเป็นหลัก ปัดถูกภาษีทรัมป์มัดคอเลยยอม ย้ำมี 7 เงื่อนไขให้กองทัพไปคุยต่อ รับไม่เชื่อใจกัมพูชาถ้ายิงมายิงกลับ ตอบโต้สมน้ำสมเนื้อ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ให้นานาชาติเห็นว่าไทย เคารพสังคมโลก


พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงสถานการณ์ไทยกัมพูชา หลังเดินทางไปเจรจาที่ประเทศมาเลเซียว่า ขอให้เชื่อมั่นในฐานะที่ ตนเป็นเจ้ากรมยุทธการทหารบก รับผิดชอบวางแผนการ เป็นเสนาธิการทหารบก ไปเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ แล้วปัจจุบันเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่รับผิดชอบในระดับรัฐบาล การมองจะมองในทุกมิติ และก่อนที่จะเดินทางไปมาเลเซีย ได้ประชุมกับผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผบ.เหล่าทัพว่าเวลาที่รับได้คือ 18:00 น. เมื่อวานนี้ แต่ทุกคนหนักใจเพราะฝ่ายกัมพูชาเคลื่อนย้ายกำลังเข้ามามาก โดยมีเงื่อนไข 7 ประการ ตามที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงไป ในการหยุดยิง แต่เมื่อไปถึงในที่ประชุมทางฝ่ายกัมพูชาขอที่ 24:00 น. ซึ่งก็ถือว่าพอรับได้ แต่ก็ห่วงใยเพราะเป็นเวลากลางคืน อยากให้เข้าใจว่าทำอะไรไม่ได้ทำคนเดียวทำร่วมกับกองทัพ โดยเงื่อนไขที่กองทัพบกขอมามี 6 ข้อ มอบให้แม่ทัพภาคที่ 1 และ 2 ไปคุย จนกว่าจะได้ข้อยุติจะเข้าสู่เงื่อนไขที่ 7 คือหารือจีบีซี ขอให้ทุกคนสบายใจได้ว่าเจรจาหยุดยิงไม่ใช่ทุกอย่างจะหยุดแต่ต้องมีการพูดเจรจากันต่อไป แต่การหยุดยิงทำให้ประชาชนไม่ได้รับผลกระทบจนสูญเสียชีวิต ปัจจุบันประชาชนเสียชีวิต 14 รายบาดเจ็บ 48 ราย ทหารเสียชีวิต 12 รายบาดเจ็บกว่า160 ราย อยากให้จินตนาการบางราย พิการ ขาขาด เป็นกำลังหลักในครอบครัวตนคิดทุกอย่าง เกี่ยวกับการสูญเสียที่เกิดขึ้น และแตกต่างกับผบ.เหล่าทัพอยากให้สังคมเข้าใจในเรื่องนี้ปัจจุบันมีทั้งประชาชนพลเรือนเสียชีวิต มีทหารเสียชีวิต ก่อนเดินทางไปมาเลเซียก็ได้พูดคุยกับ ผบ.เหล่าทัพเรื่องการยุทธว่าอาจไม่ได้คืบหน้าเร็ว

พลเอกณัฐพลได้ฝาก กระทรวงการต่างประเทศประนามกัมพูชาที่ไม่สนใจเรื่องที่หมายยิงพลเรือนโรงเรียนโรงพยาบาล ตั้งยิงอาวุธหนักไว้ในหมู่บ้านใช้ประชาชนชาวกัมพูชาเป็นโล่ห์ซึ่งถือว่าผิดหลักอนุสัญญาเจนีวา ทุกที่หมายมีกับระเบิด ถือผิดอนุสัญญาออตตาว่า ถ้าตนตกลงใจบอกเราทับให้เดินหน้าต่อไปก็จะมี ลูกน้องขาขาดเพิ่มขึ้น เวลานี้จะเร่งรัดไม่ได้ จะมีทหารขาขาดวันละ 1-2 ราย ซึ่งเป็นเรื่องที่เจ็บปวด ต้องคิดถึงครอบครัวของเขาด้วย


“สื่อมวลชนเอารูปผู้สูญเสียมาให้ดู แต่ละคนรูปร่าง แข็งแรงหน้าตาดีแต่แขนขาดถ้าเป็นลูกเป็นสามีท่านจะรู้สึกอย่างไร แต่ระดับผบ. เหล่าทัพจะไม่คิดแบบนี้ แบบที่ผทคิดไม่ได้ ซึ่งผมต้องคิดถึงทางเลือกว่ามีไหม อย่างน้อยการหยุดยิงมันชะลอความสูญเสียไปได้ แต่หยุดยิงแล้วจะต้องมีเงื่อนไขต่อไปที่ต้องคิดในระดับรัฐบาลหลายมิติ ซึ่งการที่ผมยอมรับร่วมเมื่อวานนี้เพราะเราทำภายใต้นโยบายรัฐบาล ด้านการต่างประเทศและเศรษฐกิจ คือทุกมิติที่ต้องชั่งน้ำหนัก ณ เวลาหนึ่งต้องชั่งน้ำหนักแบบนี้ แต่สัปดาห์หน้าอาจเป็นอีกแบบ ขอให้ทุกคน ไม่ต้องกังวล ” พลเอกณัฐพล กล่าว

พลเอกณัฐพล กล่าวว่า คำนึงถึงความรู้สึกประชาชนในส่วนที่เหลือด้วยที่อยากจะให้ทหารทำอะไรที่มากกว่านี้ นอกจากนี้ห่วงลูกน้องที่เสียชีวิต และต้องยอมรับการตัดสินใจ ณ ปัจจุบันหลังจากนั้นค่อยมาคุยเงื่อนไขกัน เงื่อนไขคือกลไก RBCแบบไม่เต็มคณะ คุยจนกว่าจะได้ข้อยุติถึงเข้า RBC ที่เป็นทางการ หลังข้อตกลงจบก็จะเข้าสู่จีบีซี ซึ่งต้องใช้เวลาและยืนยันได้ว่าไม่ใช่เจรจาหยุดยิงแล้วจะมานั่งกินข้าวด้วยกัน เตะตะกร้อด้วยกันมีการแลกเปลี่ยนการเยือน แต่ต้องระยะหนึ่งซึ่งบอกไม่ได้ว่าเมื่อไร ยืนยัน รัฐบาลและกองทัพยึดอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติขอให้สบายใจได้

เมื่อถามว่า ทำไมไม่ ยื่นเงื่อนไขการเจรจา ให้ถอนอาวุธหนัก ออกนอกพื้นที่ เพราะได้ข้อสรุปที่เหมือนข้อเสนอของกัมพูชาทั้งหมด พลเอกณัฐพลกล่าวว่าต้องให้ระดับแม่ทัพไปพูดคุยต่อ ว่าอะไรจะเคลื่อนย้ายอย่างไร กำลังเดิม กำลังเพิ่มเติม ต้องไปลงในรายละเอียดให้กองทัพมีส่วนร่วมในการพูดคุย ถ้าไม่จบก็คือไม่จบ


เมื่อถามว่า การให้กองทัพไปคุยจะจบหรือไม่ พลเอกณัฐพลกล่าวว่าไม่จบก็ไม่จบอาจจะยิงกันใหม่ได้ ยืนยันไม่ใช่เรื่องภาษีทรัมป์มัดคอไว้อยู่ จึงได้ยอมแต่พิจารณาทุกเรื่อง อยากพูด ให้เข้าใจไม่ใช่มองมุมเดียวแล้วกล่าวหา พยายามตั้งใจให้ดีที่สุดแล้ว คิดทุกอย่าง

เมื่อถามว่าเชื่อใจกัมพูชาในข้อตกลง หยุดยิงหรือไม่เพราะขณะนี้ยังคงมีความเคลื่อนไหวรัฐมนตรีช่วยกลาโหมยอมรับว่าไม่ได้เชื่อ ต้องมีสิ่งพิสูจน์ เมื่อวานก็บอกตามตรงว่าอยากได้ความเชื่อมั่น ความไว้วางใจ ทั้งนี้ต้องให้กองทัพ ไปพูดคุยและดูว่ามีการดำเนินการตามนั้นหรือไม่และให้รายงานมาว่าไม่ทำตามข้อตกลง มันเป็นกระบวนการในการที่จะมอบความรับผิดชอบในสิ่งที่ต้องรับผิดชอบตนเชื่อใจถึงแม้จะนำ 6 ข้อมาพูดคุยตรงนั้น กลับมาอาจจะมีทั้ง กองทัพและประชาชน ส่วนที่พอใจและไม่พอใจ จึงให้กองทัพไปคุยกัน

เมื่อถามว่า ข้อสังเกตที่ฝ่ายการเมือง เจรจาให้หยุดยิงกันแต่ฝ่ายทหาร ยังตกลงไม่ได้แล้วไม่ปฏิบัติตาม พลเอกณัฐพงษ์บอกว่าก็คงต้องอยู่กันอย่างนี้ต่อไป ยิงมาก็ยิงไป เมื่อเช้าก็อนุญาตไปแล้วว่าถ้าเขายิงมาเราก็ให้ยิงไป ตอบโต้กันไปขณะที่ เรื่องการปรับกำลัง ต้องให้ทางกองทัพไปพูดคุยต่อแล้วย้ำว่าเป็นการพูดคุยแบบมีเงื่อนไขให้แม่ทัพคุยกันไปเรื่อยๆถ้าไม่รู้เรื่องก็คุยกันต่อไปถ้ายิงมาก็ยิงตอบโต้ไปก็ทำทั้งสองอย่าง

“ถ้าไม่เจรจาหยุดยิงจะแรงกว่านี้ เป็นการยิงด้วยปืนเล็กอาวุธที่ไม่ใหญ่ ถ้ามีการใช้จรวดหลายลำกล้อง BSL03 หรือฝ่ายเรามีการใช้กำลังกองทัพจะถือเป็นการละเมิดที่ทำให้นานาชาติเขาเห็นแต่ถ้าเมื่อเขาใช้เราก็จะไม่หยุด จะมีการตอบโต้ที่สมน้ำสมเนื้อสมเหตุสมผล แสดงเจตนารมณ์ให้นานาชาติเห็นว่าประเทศไทย เคารพในสังคมโลกตามกฎหมายระหว่างประเทศแต่ต้อง เป็นขั้นตอนไปวันนี้แบบนี้พรุ่งนี้เป็นอีกแบบนึงก็ได้ ขอให้เข้าใจว่าเราไม่ได้ไปเกี้ยเซี๊ยกับใครทั้งสิ้น ยึดหลักผลประโยชน์ของชาติ

เมื่อถามว่ามีใบสั่งหรือไม่ พลเอกณัฐพลหล่าวว่า ไม่มีใบสั่งคนอย่างผมไม่ได้สนใจว่าต้องมาเติบโตทางการเมืองสื่อบางคนก็รู้อยู่แล้วพอจบภารกิจไม่ให้ทำตนก็กลับบ้าน มีความสุขไม่ต้องมาเจอคนด่าแบบนี้ ถ้ายังอยู่ก็ทำให้ดีที่สุดคิดถึงผลประโยชน์ของชาติ ตนไม่สนใจเรื่องใบสั่งจะเอาเกียรติยศตนมาแลกทำไม เป็นทหารมาทั้งชีวิต คิดว่าเพียงพอแล้วไม่ต้องเป็นห่วง การที่ยืนตอบนานๆเพื่อให้สื่อข้าใจและจะได้ทำความเข้าใจกับสังคม ทั้งนี้ทราบว่าอาจจะมีบางส่วนที่ไม่เข้าใจ

สำหรับประชาชนในพื้นที่ควรจะปฏิบัติตัวอย่างไรพลเอกณัฐพล กล่าวว่า ให้ฟังกระทรวงมหาดไทย ที่จะคอยมาดูแลพี่น้องประชาชนซึ่งจะร่วมประเมินสถานการณ์กับกองทัพ ซึ่งตอนแรกหากมีการหยุดยิงอย่างชัดเจน กระทรวงมหาดไทยคงเคลื่อนย้ายประชาชนกลับแต่ถ้าเป็นในลักษณะนี้คงรอสักระยะ กระทรวงพาณิชย์กระทรวงการคลังก็จะดูผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ ขณะที่ตนได้เรียนให้รัฐบาลดูแลด้วยไม่ใช่ปล่อยให้กองทัพหรือกระทรวงกลาโหมดำเนินการแต่เพียงลำพัง ให้กระทรวงอื่นมาช่วยด้วย

“ต้องขออภัยจริงๆเมื่อวานตั้งแต่เริ่มออกเดินทางจนกระทั่งกลับมาดัชนีความสุขผมไม่มีเลย กลับมาถึงดอนเมืองไปพบผู้ช่วยทหาร สูงสุดและ ผบ.เหล่าทัพว่าถ้ามันออกอย่างนี้จะทำยังไง ซึ่งได้ช่วยให้ความเห็น ร่วมกันเพื่อไปดำเนินการต่อ” พลเอกณัฐพล กล่าว.-319 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ไทยฝนฟ้าคะนอง ตกหนักบางแห่ง

กทม. 13 ก.ย.-กรมอุตุฯ รายงานไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักบางแห่งในภาคอีสาน ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตะวันออก และใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน […]

“พล.ท.บุญสิน” ยันยังไม่ดำเนินการโครงการอบรมโดรนเกษตร

กทม. 12 ก.ย.- “พล.ท.บุญสิน” แจงบริษัทเอกชนมามอบของ-ถ่ายรูป พร้อมเสนอโครงการอบรมโดรนเกษตร ยืนยันยังไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อวันที่ 12 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่มีบริษัทเอกชนเข้ามาถ่ายรูปร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 2 โดยมีการนำโครงการ “อบรมการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ให้กับทหารเพื่อเป็นการเพิ่มทักษะ เพื่อใช้ในการเกษตร” วานนี้ (11 ก.ย.) ว่า บริษัทดังกล่าวได้เข้ามาพบเหมือนกับพี่น้องประชาชนและบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาพบมอบของ เพียงแต่ว่าทางบริษัทนี้เข้ามานำเสนอโครงการโดรน ตนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมาก เพียงแต่รับฟังไว้ ประมาณ 10 นาที ทางคณะดังกล่าวก็ขอถ่ายภาพ ก่อนเดินทางกลับ “ผมยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการดำเนินการทำอะไรเลย ยังไม่ผ่านการตรวจสอบให้รอบคอบ ยืนยันอีกครั้งยังไม่ได้ดำเนินการอะไรทั้งนั้น” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313.-สำนักข่าวไทย

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย