เดินสายแจงทูตสหภาพยุโรป-อังกฤษ ปมชายแดน

รัฐสภา 31 ก.ค.-ประธาน กมธ.การต่างประเทศ เดินสายชี้แจงทูตสหภาพยุโรป-อังกฤษ ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ห่วงข่าวปลอมบิดเบือนภาพไทย ย้ำไทยอดทน ยับยั้งชั่งใจทุกขั้นตอน ไม่ตอบโต้เกินจำเป็น ชี้ ต้องเข้มแข็งด้วยลำแข้งตัวเอง ขอประชาคมโลกแสดงจุดยืนต่อความรุนแรง พร้อมจับตาบทบาทประเทศที่สาม บอกถึงเวลาไทยต้องวางตัวอย่างรอบคอบและเข้มแข็ง


นางสาวสรัสนันท์ อรรณนพพร ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินสายพบคณะทูตสหภาพยุโรป และทูตอังกฤษ ถึงสถานการณ์ความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ตั้งแต่เกิดเหตุปะทะที่ชายแดนตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมาทางคณะกรรมาธิการการต่างประเทศได้เดินสายชี้แจงข้อเท็จจริง เป็นอันดับแรก เพราะมีความกังวลใจว่าการสื่อสารข่าว จากทั้งไทยและกัมพูชา มีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก จึงเป็นส่วนที่ต่างชาติไม่เข้าใจ และกังวลใจ กรรมาธิการจึงเดินสายไปชี้แจงกับประเทศ ที่เป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคง ที่อย่างน้อยได้แสดงถึงความกังวลใจในฐานะของฝ่ายนิติบัญญัติ เช่นที่ผ่านมาได้ชี้แจงกับประเทศจีน รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส และอีก 18 ประเทศ ขอสหภาพยุโรป ไปแล้ว ซึ่งจากนี้กรรมาธิการจะเดินสายพูดคุยและชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ และเรียกร้องให้มิตรประเทศแสดงจุดยืนต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้น และขอให้ทุกประเทศช่วยจับตาดูข้อเท็จจริงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมาประชาคมโลกเห็นถึงความสับสนที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร เพราะสำนักข่าวต่างประเทศต่างหยิบยกการแถลงข่าว จาก กัมพูชาที่มีการปลอมแปลงมารายงานข่าว ซึ่งเห็นว่าเป็นการปลอมแปลงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

เมื่อถามว่า ภายหลังที่ มีข้อตกลงการหยุดยิง แต่ยังเกิดการปะทะ จากฝ่ายกัมพูชาสถานทูตต่างๆมีความเข้าใจในเรื่องนี้หรือไม่ ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ กล่าวว่า แต่ละประเทศก็รับฟัง เพราะหลายประเทศโดยเฉพาะจากโซนยุโรป ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงจากเรื่องนี้ ดังนั้นจุดยืน สนับสนุนให้ทั้งสองฝ่ายยับยั้งชั่งใจ ในส่วนไทยก็ชัดเจนว่ายับยั้งชั่งใจมาโดยตลอด ซึ่งการปะทะที่เกิดขึ้น ทางฝั่งไทยไม่ได้เลือกที่จะปะทะให้เกิดความเสียหายต่อพลเรือน ไทยปกป้องตนเองเท่าที่จำเป็น และเท่าที่เห็นยังไม่มีภาพ ที่ชาวกัมพูชาได้รับความเสียหาย หรือพลเรือนเสียชีวิต ดังนั้นประชาคมโลกจึงจำเป็นต้องแสดงจุดยืนในเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนและพลเรือนได้รับความรุนแรง ซึ่งขัดแย้งกับกฎบัตรต่างๆ ที่ทั้งสองประเทศเป็นภาคีอยู่


เมื่อถามว่าแต่ละสถานสถานทูตมีความสงสัยหรือไม่ ที่เหตุการณ์เกิดการปะทะและยกระดับความรุนแรงขึ้น ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศกล่าวว่า เขาก็อยากฟังความ เห็นของฝ่ายนิติบัญญัติและนักการเมืองเช่นเดียวกันว่ามีความเห็นอย่างไร ขณะที่ประเทศในภูมิภาค ก็อยากทำความเข้าใจว่า เกิดอะไรขึ้นกับทั้งสองประเทศ ยังมีความเป็นกลางและไม่ได้ออกความเห็นมาก

ขณะที่โซนประเทศที่ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย ก็มีความกังวลใจ เรื่องประเทศที่สามที่เข้ามาเกี่ยวข้อง จึงอยากทราบจุดยืนของไทย ต่อประเทศมหาอำนาจว่าเป็นอย่างไร

ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ ยังกล่าวว่า ทุกประเทศมีส่วนได้ส่วนเสีย ดังนั้นประเทศไทยจึงมีความจำเป็นที่ต้องเข้มแข็งด้วยลำแข้งตัวเอง เป็นโอกาสที่จะได้เห็นว่าใครเป็นมิตรประเทศของเราในที่เรามีปัญหา ได้เห็นความจริงใจจากหลายประเทศ ที่จะเข้ามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ ซึ่งเรื่องนี้ไทยต้องเข้มแข็งด้วยตัวเองและต้องมองให้ออกว่า กัมพูชามีจุดประสงค์อะไร และประเทศที่เกี่ยวข้องต้องการอะไร


“ไม่มีการปะทะไหน มาถึงความรุนแรงแค่เพราะว่าต้องการปราสาท มันน่าจะมีอะไรที่มากกว่านั้น ส่วนใหญ่การประทะจากทั่วโลก ล้วนแล้วแต่มาจากทรัพยากร เงินๆทองๆ ทั้งนั้น” นางสาวสรัสนันท์ กล่าว

สำหรับการประชุมคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ ในวันนี้ ที่เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงข้อมูลความรุนแรงและความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชานั้น ประธานกรรมาธิการการต่างประเทศ กล่าวว่า เป็นประเด็นที่ติดตามอยู่อย่างต่อเนื่องในกรอบของกรรมาธิการการต่างประเทศ และนอกเหนือจากนั้นเราอยากรู้ถึงสถานการณ์ปัจจุบันตามแนวชายแดน ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่หยุดยิงแล้ว การปะทะและการปฏิสัมพันธ์ของทหารเป็นอย่างไร จึงอยากสอบถาม ผู้ว่าราชการจังหวัดตามแนวชายแดน และตัวแทนกองทัพภาคที่2 ว่าหลังจากคุยกันที่มาเลเซีย ว่าจะมีการพูดคุยกันที่JBC จะเป็นไปในทิศทางไหน เพราะวงการพูดคุยRBC ยังไม่มีความคืบหน้า และหลายกรอบเป็นสิ่งที่เราทำกันอยู่แล้ว วันนี้อยากดูแนวทางของกระทรวงการต่างประเทศและใฝ่ความมั่นคงว่าต่อจากนี้ จะทำอย่างไรให้สถานการณ์คลี่คลายให้เร็วที่สุด

เมื่อถามว่า ในฐานะกรรมาธิการการต่างประเทศมองอย่างไร ต่อข้อเสนอแนะ จากนักวิชาการและฝ่ายการเมือง ที่ให้ฟ้องกัมพูชาต่อศาล อาญาระหว่างประเทศหรือ ICC ประธานกรรมาธิการการต่างประเทศกล่าวว่า สามารถทำได้แต่ยังไม่ถึงเวลา เพราะอาจเป็นการเขวี้ยงงูไม่พ้นคอ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากทางฝั่งไทยและกัมพูชา ดังนั้นการจะฟ้องศาลICC ต้องมีหลักฐานที่เพียงพอ และเท่าที่ดูกัมพูชายังมีคดีอื่นๆ ที่ไม่ได้รับการยอมรับจากประชาคมโลกมากอยู่แล้ว

“ดังนั้นไทยจึงต้องวางเป้าให้ดีว่าต้องการอะไร เราต้องการที่จะหยุดความรุนแรงเพื่อเจรจาไปเจรจาต่อ หรือพยายามกำจัดบุคคลหรือครอบครัวใดครอบครัวหนึ่งให้ออกจากซีน” นางสาวสรัสนันท์ กล่าว

ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ ที่เป็นตัวกลางในการเจรจาส่วนเกมการเมืองระดับภูมิภาค ยัง
ต้องจับตาดู เพราะยังมีความเคลื่อนไหวจากทางจีนและสหรัฐ ที่มีนัยสำคัญ อาจถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจะต้องตัดสินใจครั้งใหญ่ ว่าไทยจะวางตัวอยู่ในมิติไหน ให้เหมาะสมและเสียหายให้น้อยที่สุด โดยไม่เลือกฝั่ง เพราะตอนนี้การค้าถูกกดดันด้วยเรื่องภาษี ทำให้ทราบถึงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนของสหรัฐว่าต้องการกดดันไทยผ่านกรอบอะไรบ้าง จึงเป็นที่น่ากังวลว่าท้ายที่สุดแล้ว ว่าไทยถูกกดดันจากเกมของใคร

เมื่อถามถึงการที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรกัมพูชา แถลงกลางที่ประชุมระดับสูงของสหภาพรัฐสภา ที่เจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ว่าไทยละเมิดข้อตกลงหยุดยิงนั้น นางสาวสรัสนันท์ กล่าวว่า ตนในฐานะเลขาธิการหน่วยประจำชาติไทย ในสหภาพรัฐสภา หรือ IPU นั้น มองว่าเป็นสิทธิ์ของแต่ละคน ที่สามารถแสดงออกบนเวทีระหว่างประเทศ ส่วนสิ่งที่เกิดขึ้นฝ่ายนิติบัญญัติมีองค์กรระหว่างประเทศในหลายกรอบ ทั้ง IPU , สมัชชารัฐสภาอาเซียน หรือ AIPA กรอบอาเซียนและ สหภาพสมาชิกรัฐสภาเอเชียแปซิฟิก หรือ APPU ดังนั้นควรใช้กรอบความร่วมมือที่มีอยู่เพื่อสื่อสารไปยังสมาชิกทั่วโลกให้เกิดประโยชน์สูงสุด.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 163 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 20 ส.ค. – หนีไม่รอด รวบโจรสวมชุดไรเดอร์ บุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทอง 163 บาท พบของกลางบางส่วนซุกตู้ลำโพงในบ้าน จากกรณีคนร้ายแต่งตัวคล้ายไรเดอร์ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทอง พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน ก่อนกระโดดข้ามตู้หน้าร้าน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 163 บาท เป็นทองคำรูปพรรณประเภทสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท ประมาณ 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท, น้ำหนัก 3 บาท ประมาณ 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท ประมาณ 24 เส้น น้ำหนักรวม 48 บาท (รวมสร้อยข้อมือ 79 เส้น) ก่อนวิ่งขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่ด้านหน้า […]

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“ทศพล” รุดมอบมาลัย “ภูมิธรรม” หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่

กองบินตำรวจ 20 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เตรียมแถลงจับยาเสพติดลอตใหญ่ “ทศพล” รุดมอบมาลัย หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 8.00 น. ที่กองบินตำรวจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางมาขึ้นเครื่อง เพื่อไปแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดล็อตใหญ่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลตํารวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการ รมว.มหาดไทย ร่วมเดินทางด้วย ทั้งนี้เมื่อนายภูมิธรรมเดินทางมาถึง นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ที่ ครม. มีมติเมื่อ 19 ส.ค. แต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำพวงมาลัยมามอบให้นายภูมิธรรมและปลัดกระทรวงมหาดไทย และร่วมเดินทางกับคณะด้วย โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม อย่างไรก็ตามก่อนเดินทางเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รายงานสถานการณ์ยาเสพติดให้นายภูมิธรรมรับทราบ.-319.-สำนักข่าวไทย

มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง

กทม.19ส.ค.-มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำพู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” นั่งพ่อเมืองปากน้ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง อาทิ นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ว่าฯ สมุทรปราการ นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าฯ ตาก เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นผู้ว่าฯ ชลบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

EOD เก็บกู้ทำลายระเบิด M33 กลางบ้าน

ตรัง 20 ส.ค.- คนร้ายลอบขว้างระเบิด M33 ใส่บ้านในพื้นที่ ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ระเบิดทำงาน 1 ลูก อีก 1 ลูกไม่ทำงาน เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ทำลายเสียงดังสนั่น เร่งสืบสวนหาตัวคนร้าย-สอบปมเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด EOD จังหวัดตรัง ได้ทำการเก็บกู้และทำลายระเบิด M33 ที่ยังไม่ทำงาน ระหว่างทำลายเกิดเสียงดังสนั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณ ยางรถยนต์ที่ใช้เป็นอุปกรณ์ป้องกันแรงระเบิดปลิวลอยขึ้นฟ้า ควันฟุ้งกระจายไปทั่ว สร้างความแตกตื่นให้กับชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง  โดยเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นในพื้นที่บ้านยูงงาม ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบขว้างระเบิดเข้าใส่บ้านหลังหนึ่ง ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ เจ้าของบ้านเล่าว่าช่วงเกิดเหตุคนในบ้านกำลังนอนหลับ ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด 1 ครั้ง แต่ไม่กล้าออกมาดู กระทั่งเช้าพบหลุมระเบิดขนาดกว้างราว 2 ฟุต ลึก 1 ฟุต อยู่ข้างบ้าน จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ จากการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ทราบว่าบ้านหลังนี้เคยถูกลอบยิงมาแล้วหลายครั้ง จนเจ้าของบ้านต้องสร้างกำแพงสูงเพื่อป้องกัน แต่ล่าสุดกลับถูกลอบขว้างระเบิดแบบลูกเกลี้ยง […]

ทำแผนโจรชิงทอง 123 บาท สารภาพเป็นหนี้นอกระบบ

สมุทรปราการ 20 ส.ค.- โจรชิงทองกลางห้างดังสมุทรปราการ 123 บาท ทำแผนรับสารภาพกู้เงินมาลงทุนร้านซ่อมรถ เสียดอกรายวันแต่หมุนเงินไม่ทัน จึงก่อเหตุ  กรณีนายวีรวัฒน์ อายุ 31 ปี บุกเดี่ยวควงปืนก่อเหตุชิงทองรูปพรรณน้ำหนัก 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท ที่ร้านทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ  ก่อนจะอาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีเส้นทางที่ไร้กล้องวงจรปิด โดยเหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา ต่อมา ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พบว่าผู้ต้องหานำรถจักรยานยนต์ที่ใช้หลบหนีไปทิ้งบ่อปลาแห่งหนึ่งในซอยวัดคอลาด แล้วหลบหนีต่อไป จึงไล่เรียงเบาะแสจนพบหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพัก เมื่อวาน (19 ส.ค.) จึงนำหมายค้นบ้านนายวีรวัฒน์ พร้อมแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมกับของกลางทองรูปพรรณซุกซ่อนไว้ในตู้ลำโพงหน้าบ้าน และใส่ในถุงพลาสติกฝังดินใต้ต้นไม้ข้างบ้าน รวมตรวจยึดทองคืนได้ประมาณ 90 บาท ยังเหลือทองคำอีก 33 บาท อยู่ระหว่างสอบขยายผล  ผู้ต้องหาสารภาพว่า ก่อเหตุเพราะเป็นหนี้นอกระบบจากการกู้ยืมมาลงทุนร้านซ่อมรถและต้องเสียดอกเบี้ยเดือนละไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท จึงหมุนเงินไม่ทัน จากนั้นคิดวางแผนในการก่อเหตุ ประมาณ 1 […]

บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงงบฯ 2.6 หมื่นล้าน กลับงบกลางฉุกเฉิน

ทำเนียบฯ 20 ส.ค.-บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงงบค้างท่อ 2.6 หมื่นล้าน กลับงบกลางฉุกเฉิน เน้นเศรษฐกิจชายแดน รองรับผลกระทบภาษี “ทรัมป์” และเหตุจำเป็น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ (บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ) หลังจากรัฐบาลจัดสรรงบกระตุ้นเศรษฐกิจรอบแรก 1.15 แสนล้านบาท รอบสอง 1.8 หมื่นล้านบาท เพื่อจัดสรรเงินให้กับกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย 10,000 ล้านบาท และกองทุนเงินให้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา (กยศ.) 8,488 ล้านบาท นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การจัดสรรให้กับหน่วยงานต่างๆ ในรอบแรกพบว่า มีหน่วยงานจัดซื้อจัดจ้างไม่ทัน จึงดึงงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลือค้างท่อ 2.6 หมื่นล้านบาท กลับเข้ามาอยู่ในงบกลางสำรองฉุกเฉิน เพื่อนำมาพิจารณาใช้ในเรื่องจำเป็น เช่น การฟื้นเศรษฐกิจแดนไทย-กัมพูชา การใช้งบรองรับผลกระทบจากภาษีนำเข้าสหรัฐร้อยละ 19 ในบางรายการ หากส่วนราชการใดต้องการใช้งบดังกล่าว ต้องจัดซื้อจัดจ้างให้แล้วเสร็จภายใน 30 ก.ย.นี้ โดยสำนักงบประมาณจะพิจารณาในการจัดสรรงบให้ สำหรับผลกระทบจากภาษีศุลกากรสหรัฐ ยอมรับว่า รายย่อยที่ได้รับผลกระทบ […]