ปล่อยตัว

เมลเบิร์น 10 ม.ค. – ผู้พิพากษาของศาลออสเตรเลียสั่งให้ทางการออสเตรเลียปล่อยตัวโนวัค ยอโควิช นักเทนนิสมือวางอันดับ 1 ของโลกจากเซอร์เบียร์ ออกจากศูนย์กักตัวคนต่างชาติ โดยระบุว่า การตัดสินใจเพิกถอนวีซ่าเดินทางเข้าประเทศของรัฐบาลออสเตรเลียเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล แอนโทนี เคลลี ผู้พิพากษาของศาลออสเตรเลีย สั่งให้ทางการออสเตรเลียปล่อยตัวยอโควิช วัย 35 ปี ออกจากศูนย์กักตัวคนต่างชาติภายใน 30 นาที และต้องคืนหนังสือเดินทาง รวมถึงเอกสารเดินทางอื่น ๆ ให้ด้วย ซึ่งทำให้ยอโควิชมีโอกาสที่จะเข้าร่วมการแข่งขันเทนนิสออสเตรเลียน โอเพ่น และลุ้นคว้าแชมป์แกรนด์สแลมครั้งที่ 21 เพื่อทำลายสถิติโลกแซงหน้าโรเจอร์ เฟเดอเรอร์ นักหวดชาวสวิส และราฟาเอล นาดาล นักหวดชาวสเปน ซึ่งทั้งสามคนคว้าแชมป์แกรนด์สแลมทั้งหมด 20 ครั้งเท่ากัน ขณะที่ทนายของรัฐบาลกลางออสเตรเลียกล่าวต่อศาลว่า รัฐมนตรีกำกับดูแลด้านการตรวจคนเข้าเมืองของออสเตรเลียจะใช้สิทธิที่มีอยู่เพื่อดำเนินการเพิกถอนวีซ่าของยอโควิชอีกครั้ง ทั้งนี้ ยอโควิชได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมฟังการพิจารณาคดีแบบเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ร่วมกับทนายของเขา แต่ยังไม่มีผู้ใดพบเห็นยอโควิชในที่สาธารณะนับตั้งแต่เดินทางถึงนครเมลเบิร์นของออสเตรเลีย ก่อนหน้านี้ ยอโควิชถูกกักตัวอยู่ในโรงแรมของศูนย์กักตัวคนต่างชาติที่ใช้เป็นสถานที่กักตัวผู้ต้องขังที่ขอลี้ภัยระยะยาวมาตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ขณะที่ทนายความของยอโควิชแย้งว่า การที่ยอโควิชมีประวัติติดเชื้อโควิดมาก่อนทำให้เขากลายเป็นผู้ได้รับข้อยกเว้นทางการแพทย์จากข้อกำหนดฉีดวัคซีนโควิดครบสองโดสในกลุ่มผู้เดินทางที่ไม่ใช่ชาวออสเตรเลียที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศ อย่างไรก็ดี รัฐบาลออสเตรเลียระบุว่า ชาวต่างชาติไม่มีสิทธิได้รับข้อยกเว้นในการเดินทางเข้าประเทศ และยังตั้งข้อสงสัยที่ยอโควิชได้รับข้อยกเว้นดังกล่าว ทั้งเน้นย้ำว่า แม้ยอโควิชชนะการพิจารณคดีในศาล แต่ทางการก็จะใช้สิทธิกักตัวเขาอีกครั้งและส่งตัวออกนอกประเทศออสเตรเลีย.-สำนักข่าวไทย

พนมเปญ 17 พ.ย. – กัมพูชาปล่อยตัวนักเคลื่อนไหวทางการเมือง นักกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม และเยาวชน 26 คนที่ถูกตั้งข้อหายุยงปลุกปั่นเพื่อต่อต้านรัฐบาลแล้ว ในขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนมองว่าสัญญาณดังกล่าวเป็นแนวโน้มในเชิงบวก แต่ยังมีนักเคลื่อนไหวอีกเป็นจำนวนมากที่ยังถูกคุมขัง โฆษกกระทรวงยุติธรรมของกัมพูชายืนยันกับสำนักข่าวรอยเตอร์สในวันนี้ว่า ทางการกัมพูชาได้ปล่อยตัวนักเคลื่อนไหวที่ถูกคุมขัง พร้อมทั้งปฏิเสธว่าไม่ได้ถูกนานาชาติกดดันให้ทำเช่นนั้น และการปล่อยตัวนักเคลื่อนไหวส่วนหนึ่งในครั้งนี้มีขึ้นเพื่อลดความแออัดในเรือนจำ ขณะที่กลุ่มปกป้องสิทธิมนุษยชน ฮิวแมนไรตส์วอตช์ ระบุว่า กลุ่มนักเคลื่อนไหวที่ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำในระหว่างวันที่ 5-12 พ.ย. ได้แก่ สมาชิกกลุ่มมาเธอร์ เนเจอร์ แคมโบเดีย (Mother Nature Cambodia) ซึ่งเป็นกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านการทำลายสิ่งแวดล้อม นักเคลื่อนไหวของพรรคฝ่ายค้านกัมพูชา และนายรง ชุน ผู้นำสหภาพแรงงานกัมพูชา แต่พวกเขายังคงถูกตั้งข้อหายุยงปลุกปั่นเหมือนเดิม ทั้งยังระบุว่า ยังมีนักโทษทางการเมืองอีก 60 คนที่ถูกทางการควบคุมตัวไว้ ในขณะเดียวกัน แบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการกลุ่มฮิวแมนไรตส์วอตช์ประจำภูมิภาคเอเชีย กล่าวว่า นับเป็นข่าวดีที่ทางการกัมพูชาได้ปล่อยตัวนักโทษทางการเมืองที่ถูกคุมขังโดยมิชอบทั้ง 26 คน แต่พวกเขาก็อาจจะถูกจับกุมอีกครั้งได้ตลอดเวลา ส่วนนาลี พิลอร์ก ผู้อำนวยการสันนิบาตกัมพูชาเพื่อการส่งเสริมและปกป้องสิทธิมนุษยชน (LICADHO) ได้เรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาปล่อยตัวเยาวชนและนักเคลื่อนไหวทางการเมืองรายอื่น ๆ โดยไม่มีเงื่อนไข เนื่องจากพวกเขาไม่ควรถูกคุมขังจากการวิพากษ์วิจารณ์ในประเด็นเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมหรือหลักนิติธรรมของกัมพูชาในที่สาธารณะ.-สำนักข่าวไทย

แม่ชีชาวโคลอมเบียซึ่งถูกกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ในมาลี จับตัวไปเป็นเวลา 4 ปี เดินทางกลับถึงประเทศแล้ว

โตเกียว 16 พ.ย.- รัฐบาลญี่ปุ่นปฏิเสธว่า ไม่เกี่ยวข้องกรณีมีข่าวว่าชาวญี่ปุ่นมีส่วนร่วมกับอดีตนักการทูตสหรัฐในการเจรจาให้เมียนมาปล่อยตัวผู้สื่อข่าวชาวอเมริกันที่ต้องโทษจำคุก 11 ปี สถานีโทรทัศน์เมียวดีของกองทัพเมียนมารายงานว่า เมียนมาได้นิรโทษกรรมนายแดนนี เฟนส์เตอร์ บรรณาธิการนิตยสารฟรอนเทียร์เมียนมา วัย 37 ปี เมื่อวันจันทร์ ตามคำขอของนายบิล ริชาร์ดสัน อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ รวมทั้งนายโยเฮอิ ซาซากาวะ ประธานมูลนิธินิปปอน และนายฮิเดโอะ วาตานาเบะ อดีตรัฐมนตรีไปรษณีย์และโทรคมนาคมของญี่ปุ่น นายโยชิมาสะ ฮายาชิ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นตอบข้อถามเรื่องนี้ระหว่างการแถลงข่าวว่า เขาทราบเรื่องนายซาซากาวะพบกับ พลเอกอาวุโสมิน อ่องหล่าย ผู้นำสูงสุดของเมียนมา แต่นายซาซากาวะไม่ได้ไปในฐานะตัวแทนรัฐบาลญี่ปุ่น และกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นไม่ได้เป็นธุระจัดการในเรื่องนี้ นายซาซากาวะวัย 82 ปี นอกจากเป็นประธานมูลนิธิใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นแล้ว ยังได้รับแต่งตั้งเป็นทูตพิเศษของญี่ปุ่นเพื่อความปรองดองแห่งชาติในเมียนมาตั้งแต่ปี 2556 สื่อทางการเมียนมาลงข่าวหน้าหนึ่งเรื่องที่เขาเข้าพบผู้นำสูงสุดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้เขายังพบกับรัฐมนตรีสาธารณสุขเมียนมา หารือเงื่อนไขที่ญี่ปุ่นจะบริจาควัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้เมียนมา โดยรับปากว่าจะบริจาควัคซีนมูลค่า 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 98 ล้านบาท) แต่ไม่ชัดเจนว่าเป็นการบริจาคในนามมูลนิธิหรือรัฐบาลญี่ปุ่น อีกทั้งยังเดินทางไปเยี่ยมรัฐยะไข่ และรับปากบริจาคเงิน 8.5 […]

ย่างกุ้ง 19 ต.ค. – สื่อท้องถิ่นของเมียนมารายงานว่า รัฐบาลทหารเมียนมาได้ปล่อยตัวนักโทษทางการเมืองหลายร้อยคนออกจากเรือนจำอินเส่งในนครย่างกุ้ง ซึ่งรวมถึงโฆษกพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือเอ็นแอลดี ของนางออง ซาน ซู จี และนายซากะนา นักแสดงตลกชื่อดังของเมียนมา สำนักข่าวเสียงประชาธิปไตยแห่งเมียนมา (Democratic Voice of Burma) รายงานอ้างคำพูดนายมนยวา อ่อง ชิน โฆษกพรรคเอ็นแอลดีของนางซู จี ที่กล่าวในระหว่างเดินทางจากเรือนจำอินเส่งกลับบ้านเมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำมาหาเขาในวันเดียวกัน และบอกว่าจะพากลับบ้าน ทั้งนี้ โฆษกพรรคเอ็นแอลดีคนดังกล่าวถูกจับกุมตัวตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุรัฐประหาร และถูกคุมขังในเรือนจำมาเป็นเวลา 8 เดือน นอกจากนี้ ยังมีนักโทษทางการเมืองอีกหลายคน เช่น สมาชิกรัฐสภาและนักข่าว ที่ได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันจันทร์ในเมืองอื่น ๆ เช่น มัณฑะเลย์ ล่าเสี้ยว เมะทีลา และมะริด สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ภาพและคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ในสื่อโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นนักโทษทางการเมืองหลายคนที่ได้รับการปล่อยตัวและเดินทางกลับบ้านเพื่อพบกับครอบครัวอีกครั้ง ขณะที่อีกหลายรูปเป็นภาพรถบัสหลายคันออกเดินทางจากประตูทางเข้าด้านหลังของเรือนจำอินเส่ง โดยมีผู้โดยสารบนรถโบกมือผ่านหน้าต่างให้ฝูงชนที่มารวมตัวกันอยู่ด้านนอกเรือนจำ ทั้งนี้ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองหลายรายตั้งข้อสังเกตว่า คำสั่งปล่อยตัวนักโทษทางการเมืองเป็นอุบายของรัฐบาลทหารเมียนมาที่พยายามสร้างความเชื่อมั่นในระดับนานาชาติอีกครั้ง หลังสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน […]

นางเมิ่ง หว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ “หัวเว่ย” บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีน และลูกสาวของผู้ก่อตั้งบริษัท เดินทางออกจากแคนาดาเพื่อกลับบ้านในประเทศจีนแล้วเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากบรรลุข้อตกลงกับอัยการสหรัฐเพื่อยุติคดีที่เธอถูกกล่าวหาว่า มีพฤติกรรมฉ้อโกงจากการตั้งบริษัทขึ้นมาบังหน้าเพื่อลักลอบทำธุรกิจกับอิหร่าน