ตำรวจอังกฤษปะทะผู้ประท้วงต่อต้านมุสลิม

ลอนดอน 31 ก.ค. – เกิดเหตุปะทะกันระหว่างตำรวจอังกฤษกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านมุสลิมในเมืองเซาท์พอร์ท ทางตอนเหนือของอังกฤษ ซึ่งเพิ่งเกิดเหตุมือมีดแทงเด็กหญิงเสียชีวิต 3 คน ในงานฝึกซ้อมเต้นรำเมื่อวันจันทร์ ผู้ประท้วงพากันขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ และมัสยิดที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว นอกจากนี้ยังทำลายและวางเพลิงรถตำรวจหลายคัน  ตำรวจเปิดเผยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่ารุนแรงอย่างที่ไม่เคยเผชิญมาก่อน  และมีตำรวจได้รับบาดเจ็บหลายคน บางคนศีรษะแตกมีเลือดอาบใบหน้า กลุ่มผู้ประท้วงเป็นผู้สนับสนุนสันนิบาตปกป้องอังกฤษที่เคยใช้ความรุนแรงในการประท้วงต่อต้านศาสนาอิสลามมาหลายครั้ง คลิปที่เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ได้ยินเสียงผู้ประท้วงตะโกนว่า พวกเขาต้องการประเทศกลับคืน การประท้วงมีขึ้นหลังเกิดเหตุวัยรุ่นชายอายุ 17 ปี ก่อเหตุแทงเด็ก ๆ ที่มาร่วมงานฝึกซ้อมเต้นรำ ซึ่งเป็นกิจกรรมสำหรับเด็กอายุ 6-11 ขวบ  นอกจากนี้มีเด็กเสียชีวิต 3 คนแล้ว ยังมีเด็กบาดเจ็บสาหัสอีก 5 คน มือมีดถูกคุมขังฐานต้องสงสัยฆาตกรรมและพยายามฆ่าหลัง แต่ตำรวจยังไม่เปิดเผยรายละเอียดของเขา โดยเผยเพียงว่าเกิดในอังกฤษ.-816(814).-สำนักข่าวไทย

ผู้นำเวเนซุเอลาชี้กลุ่มขวาสุดโต่งอยู่เบื้องหลังประท้วง

การากัส 30 ก.ค.- ประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโรของเวเนซุเอลาเผยว่า รัฐบาลของเขารู้วิธีจัดการกับการประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่กำลังเกิดขึ้นทั่วประเทศในขณะนี้ และระบุว่ากลุ่มขวาสุดโต่งอยู่เบื้องหลังการประท้วง ประธานาธิบดีมาดูโร วัย 61 ปี แถลงจากบ้านพักประจำตำแหน่งประธานาธิบดีในกรุงการากัส โดยมีการถ่ายทอดสดทางวิทยุและโทรทัศน์เมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า รัฐบาลได้ติดตามการก่อเหตุรุนแรงทั้งหมดที่ได้รับการยุยงจากกลุ่มขวาสุดโต่ง หากกลุ่มเหล่านี้ทำสิ่งที่เป็นอันตราย รัฐบาลจะจัดการ รัฐบาลรู้จักกลุ่มเหล่านี้เป็นอย่างดี หากมีการเคลื่อนไหวอีกครั้ง รัฐบาลจะร่วมกับภาคประชาสังคม กองทัพ และตำรวจจัดการกับกลุ่มเหล่านี้ โดยรู้ว่าจะปราบปรามการก่อเหตุรุนแรงได้อย่างไร ผู้นำเวเนซุเอลากล่าวด้วยว่า รัฐบาลมีคลิปบันทึกภาพการก่อเหตุรุนแรงที่สามารถเปิดเผยได้ประมาณ 100 คลิป และสามารถตราหน้าบุคคลเหล่านี้ว่าเป็นอาชญากรและผู้ก่อการร้าย กลุ่มขวาสุดโต่งเป็นผู้วางแผนเรื่องนี้ เพราะได้โวยวายว่ามีการโกงเลือกตั้งตั้งแต่ช่วง 15 วันก่อนที่จะมีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม และไม่ยอมลงนามในข้อตกลงว่าจะยอมรับผลการเลือกตั้ง.-814.-สำนักข่าวไทย

ชาวเวเนซุเอลาประท้วงผลเลือกตั้งประธานาธิบดี

การากัส 30 ก.ค.- ประชาชนในย่านผู้มีรายได้น้อยในกรุงการากัสของเวเนซุเอลา ออกมาประท้วงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี หลังจากประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโร ชนะการเลือกตั้ง เมื่อวันอาทิตย์ ได้ดำรงตำแหน่งต่อเป็นสมัยที่ 3 การชุมนุมเมื่อคืนวันจันทร์เกิดขึ้นในย่านที่ปกติแล้วเป็นฐานเสียงสนับสนุนรัฐบาล ผู้อาศัยในย่านนี้เผยว่า ทั้งชุมชนกำลังเรียกร้องขอเสรีภาพ ดังนั้นมาดูโรจะต้องพ้นจากตำแหน่งไปพร้อมกับเหล่าอาชญากรของเขา และทั้งหมดจะต้องรับโทษคุมขัง ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันมีการชุมนุมในหลายเมืองทั่วเวเนซุเอลา รวมทั้งจุดที่ใกล้กับทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงการากัส และสำนักงานของคณะกรรมการการเลือกตั้งหลายแห่ง มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 คนจากเหตุรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับการนับคะแนนเลือกตั้งและการประท้วง เหตุการณ์ชุมนุมประท้วงเกิดขึ้นหลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศว่า ประธานาธิบดีมาดูโรชนะการเลือกตั้ง ได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 3 แต่สำนักสำรวจอิสระหลายแห่งไม่เชื่อผลการเลือกตั้งดังกล่าว ขณะที่ผู้นำฝ่ายค้านและผู้สังเกตการณ์จากต่างประเทศพากันเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งเปิดเผยผลคะแนน.-816(814).-สำนักข่าวไทย

ประท้วงต้านโอลิมปิกที่กรุงปารีสของฝรั่งเศส

กลุ่มผู้ประท้ววงราว 300 คน ซึ่งมาจากกลุ่มพันธมิตรด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม รวมตัวชุมนุมกันที่กรุงปารีสเมื่อเย็นวานนี้เพื่อต่อต้านการจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่กรุงปารีสกำลังจะเป็นเจ้าภาพ

นักเคลื่อนไหวสภาพภูมิอากาศประท้วงที่สนามบินแฟรงก์เฟิร์ต

สนามบินแฟรงค์เฟิร์ต ซึ่งเป็นท่าอากาศยานที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่นมากที่สุดของเยอรมนี กลับมาให้บริการอีกครั้งหนึ่งหลังจากต้องระงับเที่ยวบินเป็นจำนวนมากในข่วงเช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น เนื่องจากกลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภุมิอากาศขวางรันเวย์ด้วยการติดกาวร่างกายตนเองไว้กับรันเวย์

ชาวสเปนเดินหน้าประท้วงต้านนักท่องเที่ยว

ชาวสเปนยังคงออกมาชุมนุมประท้วงต่อต้านนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้นจนส่งผลกระทบต่อคนในพื้นที่

ศาลสูงบังกลาเทศยกเลิกโควตางานภาครัฐเกือบทั้งหมด

ศาลสูงสุดของบังกลาเทศสั่งให้ยกเลิกโควตางานในภาครัฐเกือบทั้งหมดที่เป็นชนวนให้เกิดการประท้วงใหญ่ที่มีนักศึกษาเป็นแกนนำ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 114 ราย

บังกลาเทศขยายเคอร์ฟิวขณะรอศาลพิจารณาปมโควตางานภาครัฐ

บังกลาเทศขยายระยะเวลามาตรการห้ามออกนอกเคหะสถานหรือเคอร์ฟิวในวันนี้ออกไปอีก เพื่อควบคุมการประท้วงที่มีนักศึกษาเป็นแกนนำที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 114 ราย

กองทัพบังกลาเทศบังคับใช้เคอร์ฟิว หลังเกิดเหตุประท้วงใหญ่

ทหารบังกลาเทศเดินลาดตระเวนไปตามท้องถนนที่อยู่ในสภาพร้างผู้คนในกรุงธากา วันนี้ ระหว่างที่มีการประกาศใช้มาตรการห้ามออกนอกเคหสถาน หรือเคอร์ฟิว เพื่อหยุดการประท้วงที่มีนักศึกษาเป็นแกนนำต่อต้านการกำหนดโควตาตำแหน่งงานในหน่วยงานรัฐบาล ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 105 คน ในสัปดาห์นี้

กรุงธากาของบังกลาเทศเสียหายจากการประท้วง

สภาพในกรุงธากาของบังกลาเทศเต็มไปด้วยซากรถยนต์จำนวนมากที่ถูกไฟเผาตามท้องถนน ขณะที่อาคารหลายแห่งก็มีร่องรอยของการถูกวางเพลิง

บังกลาเทศปิดมหาวิทยาลัยทุกแห่งอย่างไม่มีกำหนด

ธากา 17 ก.ค.- บังกลาเทศประกาศว่า จะปิดมหาวิทยาลัยทุกแห่งอย่างไม่มีกำหนดตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทั้งของรัฐและของเอกชน หลังจากการประท้วงต่อต้านระบบโควต้ารับราชการกลายเป็นเหตุรุนแรง มีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 คน บาดเจ็บอีก 10 กว่าคน คณะกรรมาธิการเงินอุดหนุนมหาวิทยาลัยมีคำสั่งเมื่อค่ำวันอังคารให้มหาวิทยาลัยทุกแห่งปิดการเรียนการสอน และให้นักศึกษาออกจากมหาวิทยาลัยทุกแห่งโดยทันที ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย นอกจากนี้ยังรวมถึงโรงเรียนมัธยมศึกษา วิทยาลัย และสถานศึกษาอื่น ๆ ด้วย นักศึกษาในบังกลาเทศประท้วงมาหลายสัปดาห์ เนื่องจากไม่พอใจระบบโควต้าที่สงวนตำแหน่งงานรับราชการไว้ร้อยละ 56 โดยแบ่งเป็นร้อยละ 30 ให้แก่ครอบครัวนักต่อสู้ในสงครามเรียกร้องเอกราชจากปากีสถานปี 2514, ร้อยละ 10 ให้แก่สตรี, ร้อยละ 10 ให้แก่ผู้มาจากเขตด้อยพัฒนา, ร้อยละ 5 ให้แก่ชุมชนคนพื้นเมือง และร้อยละ 1 ให้แก่คนพิการ ขณะที่คนหนุ่มสาวชาวบังกลาเทศเกือบ 32 ล้านคนไม่มีงานทำ หรือออกจากระบบการศึกษา จากจำนวนประชากรทั้งประเทศ 170 ล้านคน การประท้วงรุนแรงขึ้นเมื่อนายกรัฐมนตรีเชค ฮาสินาไม่ทำตามข้อเรียกร้องของผู้ประท้วง โดยอ้างเรื่องกระบวนการทางศาล และตราหน้าผู้ประท้วงด้วยคำที่บังกลาเทศเคยใช้เรียกผู้ถูกกล่าวหาว่าคบคิดกับกองทัพปากีสถานช่วงสงครามเรียกร้องเอกราช การประท้วงกลายเป็นความรุนแรงในสัปดาห์นี้ เมื่อผู้ประท้วงจำนวนมากปะทะกับสมาชิกกลุ่มนักศึกษาของพรรคสันนิบาตอวามี ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ตำรวจใช้กระสุนยางและแก๊สน้ำตาสลายการประท้วงที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ […]

ภาคธุรกิจฝรั่งเศสหวั่นประเทศเกิดปัญหาหลังเลือกตั้ง

เอ็กซองโพรวองซ์ 7 ก.ค.- กลุ่มผู้นำภาคธุรกิจในฝรั่งเศสกังวลว่า จะเกิดความผันผวนทางการเมือง กลุ่มผู้กำหนดนโยบายการเมืองที่ไร้ประสบการณ์ การประท้วงตามท้องถนน และอาจเกิดการล้มละลายตาม ๆ กัน ในอีกไม่เดือน หลังการเลือกตั้งสมาชิกสมัชชาแห่งชาติรอบ 2 ในวันนี้ กลุ่มผู้นำภาคธุรกิจที่เข้าร่วมการประชุมประจำปีที่เมืองเอ็กซองโพรวองซ์ ทางตอนใต้ของประเทศระหว่างวันที่ 5-6 กรกฎาคมแสดงความกังวลว่า หากไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมากเด็ดขาด ก็อาจจะไม่สามารถตั้งรัฐบาลผสมหลังการเมือง ทำให้ประเทศไร้เสถียรภาพ เกิดความไม่สงบทางสังคม ขณะเดียวกันนักการเมืองที่อยู่แถวหน้าของผู้ที่จะมีอำนาจล้วนแต่ไร้ประสบการณ์ในการบริหารประเทศ หากความผันผวนทางการเมืองไม่มีสัญญาณว่าจะสงบลงโดยเร็ว ภาคธุรกิจจะต้องแบกรับต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น และอาจมีบริษัทผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภาคธุรกิจเป็นกลุ่มหลักที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการปฏิรูปสนับสนุนภาคธุรกิจที่ประธานาธิบดีเอมานูว์แอล มาครงดำเนินมาตั้งแต่รับตำแหน่งสมัยแรกในปี 2560 แต่พรรคเนชันแนลแรลลีหรืออาร์เอ็น (RN) ที่เป็นพรรคขวาจัดต้องการยกเลิกนโยบายของมาครงที่ขยายอายุเกษียณจาก 62 ปีเป็น 64 ปี ขณะที่นิวป็อปปูลาร์ฟรอนต์ (New Popular Front) ที่เป็นการจับมือกันของพรรคฝ่ายซ้ายต้องการฟื้นนโยบายเก็บภาษีความร่ำรวย และขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอีกร้อยละ 14 ผลการเลือกตั้งรอบแรกเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน อาร์เอ็นได้คะแนนร้อยละ 29.26 นิวป็อปปูลาร์ฟรอนต์ได้คะแนนร้อยละ 28.21 และอองซอมเบลอ (Ensemble) พันธมิตรสายกลางที่มีพรรคของมาครงเป็นแกนนำได้คะแนนร้อยละ 21.28.-814.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 4 5 6 120
...