ประชาธิปไตย

โซล 18 มี.ค.- เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธในเช้าวันนี้ ในระหว่างที่นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอยู่ระหว่างการเยือนกรุงโซลเพื่อร่วมประชุมว่าด้วยการพัฒนาประชาธิปไตยซึ่งมีผู้นำเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพ  กองทัพเกาหลีใต้ระบุว่า ขีปนาวุธพิสัยใกล้ของเกาหลีเหนือถูกยิงมาจากทางตอนใต้ของกรุงเปียงยางไปตกนอกชายฝั่งทางตะวันออกของคาบสมุทรเกาหลี  แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม  ด้านนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่นกล่าวประณามเกาหลีเหนือหลังได้รับรายงานเรื่องการยิงขีปนาวุธจากหน่วยยามฝั่ง ซึ่งในเวลาต่อมาญี่ปุ่นระบุว่าได้ตรวจพบการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ 2 ลูกมาตกนอกเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น  การยิงขีปนาวุธในวันนี้นับเป็นการยิงขีปนาวุธครั้งแรกในรอบ 2 เดือนของเกาหลีเหนือ.-816(814).-สำนักข่าวไทย

วอชิงตัน 17 มี.ค. – โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ อ้างว่า หากเขาแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายนนี้ ประชาธิปไตยของสหรัฐน่าจะถึงจุดจบ ทรัมป์หาเสียงกลางแจ้งกับผู้สนับสนุนที่เมืองเดย์ตัน รัฐโอไฮโอเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น เริ่มต้นด้วยการกล่าวสดุดีกลุ่มผู้สนับสนุนของเขาที่ถูกคุมขังข้อหาก่อจลาจลที่รัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 โดยเรียกคนเหล่านี้ว่า เพื่อนร่วมชาติและตัวประกัน พร้อมกับย้ำการกล่าวอ้างไร้มูลเรื่องเขาพ่ายการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2563 ให้แก่โจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครตเพราะมีการโกงเลือกตั้ง ทรัมป์กล่าวว่า หากเขาไม่ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ เชื่อว่าชาวอเมริกันจะไม่ได้มีการเลือกตั้งครั้งหน้า จากนั้นในระหว่างการหาเสียงเขาได้พูดเรื่องเก็บภาษีรถยนต์นำเข้าและเรื่องอุตสาหกรรมยานยนต์ของสหรัฐเผชิญการแข่งขันจากต่างชาติว่า หากเขาไม่ชนะเลือกตั้ง จะเกิดการนองเลือดทั้งประเทศ ทรัมป์ยังได้ใช้เวทีนี้ขอคะแนนเสียงจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งผิวดำและผู้พูดภาษาสเปน เพราะเป็นกลุ่มที่จะมีบทบาทสำคัญต่อการชี้ชะตาผลการเลือกตั้ง ผู้สื่อข่าวของนิวยอร์กไทมส์โพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์อธิบายเพิ่มเติมว่า ทรัมป์ใช้คำว่านองเลือดในการกล่าวถึงอุตสาหกรรมยานยนต์และเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่โฆษกทีมหาเสียงของไบเดนประณามทรัมป์ที่ใช้คำนี้ว่า เป็นพวกสุดโต่ง กระหายการแก้แค้น และข่มขู่จะใช้ความรุนแรงทางการเมือง.-814.-สำนักข่าวไทย

จอร์เจีย 10 มี.ค.- โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวหาโจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนปัจจุบันว่า เป็นภัยต่อประชาธิปไตย ทรัมป์ วัย 77 ปี กล่าวในการหาเสียงที่รัฐจอร์เจียเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า เมื่อไม่กี่คืนก่อนทุกคนได้ฟังการปราศรัยแถลงผลงานและนโยบายประจำต่อรัฐสภาหรือสเตทออฟเดอะยูเนียน (State of the Union) ของไบเดนที่เต็มไปด้วยความโกรธเกลียด ไบเดนเป็นภัยต่อประชาธิปไตยจากการที่นำรัฐบาล สำนักสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ และกระทรวงยุติธรรมมาใช้เป็นอาวุธ เป็นคนที่ไร้ความสามารถอย่างสิ้นเชิง ปราศรัยสุนทรพจน์ที่ทำให้เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายและสุดโต่งอย่างที่ไม่เคยมีประธานาธิบดีคนใดทำมาก่อน ทรัมป์อ้างด้วยว่า ประธานาธิบดี ไบเดน วัย 81 ปี เพิ่งกล่าวขอโทษทางโทรทัศน์ในเรื่องที่เรียกฆาตกรที่ฆ่านักศึกษาพยาบาลวัย 22 ปี ในรัฐจอร์เจียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่า เป็นผู้ลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย และคิดว่าควรเรียกว่าผู้ลอบเข้าเมืองไร้เอกสาร ทรัมป์กล่าวว่า ไบเดนควรขอโทษที่ไปขอโทษฆาตกรมากกว่า รัฐจอร์เจียมีคดีอาญาค้างคาเรื่องฟ้องร้องทรัมป์บ่อนทำลายการเลือกตั้งปี 2563 เป็นรัฐสมรภูมิ (Battleground State หรือ Swing State) ที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกันและเดโมแครตมีโอกาสชนะเท่ากัน โดยในการเลือกตั้งปี 2563 ไบเดนคว้าชัยชนะในรัฐนี้ ทำให้ทรัมป์กล่าวหาว่ามีการโกงเลือกตั้ง อย่างไรก็ดี คาดว่าทรัมป์จะได้รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งที่รัฐจอร์เจีย ซึ่งจะมีขึ้นในวันอังคารนี้ […]

ชาวเมียนมารวมตัวชุมนุมกันหน้าศูนย์การประชุมและนิทรรศการในนครเมลเบิร์น สถานที่จัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน-ออสเตรเลีย นัดพิเศษ เรียกร้องให้อาเซียนและออสเตรเลียช่วยเหลือการฟื้นฟูประชาธิปไตยในเมียนมา

นาโกย่า 22 ก.พ.- สตรีจากเมียนมาที่เคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยเผยวันนี้ว่า เธอได้รับสถานภาพผู้ลี้ภัยในญี่ปุ่นแล้ว หลังจากยื่นขอเมื่อเดือนกันยายน 2566 โดยอ้างเรื่องถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง เว็บไซต์สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า มินต์ มินต์ เอ วัย 28 ปี เดินทางมาญี่ปุ่นในเดือนมกราคม 2562 ในฐานะผู้ฝึกงานทางเทคนิค เธอเรียกร้องประชาธิปไตยในเมียนมาด้วยการตระเวนบรรยายและระดมทุนนอกเวลาทำงาน การที่กองทัพรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ทำให้เธอไม่สามารถกลับบ้านได้ ขณะที่พี่ชายวัย 20 ปี และมารดาวัย 55 ปีที่สนับสนุนกลุ่มต่อต้านรัฐบาลถูกกองทัพสังหารในปี 2565 เธอเผยทั้งน้ำตาขณะมารับเอกสารที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองระดับภูมิภาคนาโกย่าว่า ตื้นตันใจมากที่เจ้าหน้าที่ยิ้มและแสดงความยินดีกับเธอขณะมอบหนังสือรับรองสถานภาพผู้ลี้ภัย เธอจะเดินหน้าทำงานจากนอกประเทศเพื่อให้เมียนมามีสันติภาพต่อไป เกียวโดอ้างข้อมูลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่นว่า ปี 2565 มีชาวเมียนมา 298 คนยื่นขอสถานภาพผู้ลี้ภัยในญี่ปุ่น และมีผู้ได้รับสถานภาพในปีเดียวกันจำนวน 26 คน.-814.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีใต้จะเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดเพื่อประชาธิปไตย (Summit for Democracy) ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 18-20 มีนาคมนี้ ภายใต้แนวคิด “ประชาธิปไตยเพื่อคนรุ่นอนาคต” (Democracy for Future Generations)

โทนี ชุง นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยฮ่องกง อดีตแกนนำกลุ่มสนับสนุนให้ฮ่องกงเป็นอิสระจากจีน กล่าววานนี้ว่า เขาเดินทางไปยังประเทศอังกฤษแล้วและได้ยื่นขอลี้ภัยการเมืองในอังกฤษอย่างเป็นทางการแล้ว