“ทรัมป์” อ้างประชาธิปไตยสหรัฐจะถึงจุดจบถ้าเขาแพ้เลือกตั้ง

วอชิงตัน 17 มี.ค. – โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ อ้างว่า หากเขาแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายนนี้ ประชาธิปไตยของสหรัฐน่าจะถึงจุดจบ

ทรัมป์หาเสียงกลางแจ้งกับผู้สนับสนุนที่เมืองเดย์ตัน รัฐโอไฮโอเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น เริ่มต้นด้วยการกล่าวสดุดีกลุ่มผู้สนับสนุนของเขาที่ถูกคุมขังข้อหาก่อจลาจลที่รัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 โดยเรียกคนเหล่านี้ว่า เพื่อนร่วมชาติและตัวประกัน พร้อมกับย้ำการกล่าวอ้างไร้มูลเรื่องเขาพ่ายการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2563 ให้แก่โจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครตเพราะมีการโกงเลือกตั้ง ทรัมป์กล่าวว่า หากเขาไม่ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ เชื่อว่าชาวอเมริกันจะไม่ได้มีการเลือกตั้งครั้งหน้า จากนั้นในระหว่างการหาเสียงเขาได้พูดเรื่องเก็บภาษีรถยนต์นำเข้าและเรื่องอุตสาหกรรมยานยนต์ของสหรัฐเผชิญการแข่งขันจากต่างชาติว่า หากเขาไม่ชนะเลือกตั้ง จะเกิดการนองเลือดทั้งประเทศ ทรัมป์ยังได้ใช้เวทีนี้ขอคะแนนเสียงจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งผิวดำและผู้พูดภาษาสเปน เพราะเป็นกลุ่มที่จะมีบทบาทสำคัญต่อการชี้ชะตาผลการเลือกตั้ง

ผู้สื่อข่าวของนิวยอร์กไทมส์โพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์อธิบายเพิ่มเติมว่า ทรัมป์ใช้คำว่านองเลือดในการกล่าวถึงอุตสาหกรรมยานยนต์และเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่โฆษกทีมหาเสียงของไบเดนประณามทรัมป์ที่ใช้คำนี้ว่า เป็นพวกสุดโต่ง กระหายการแก้แค้น และข่มขู่จะใช้ความรุนแรงทางการเมือง.-814.-สำนักข่าวไทย