นายกฯขอส.ส.คำนึงความจำเป็นใช้งบขับเคลื่อนประเทศ

ทำเนียบรัฐบาล 11 ก.พ.-นายกฯ ระบุสภาจะอภิปรายก่อนหรือลงมติร่างพ.ร.บ.งบ 63 เลยเป็นเรื่องที่วิปสองฝ่ายจะหารือกัน แต่ขอให้คำนึงถึงความจำเป็นต้องใช้งบประมาณแก้ปัญหาประเทศ  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เกี่ยวกับกรณีสภาผู้แทนราษฎรลงมติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 วาระ 2 และวาระ 3 ใหม่ที่ควรจะให้อภิปรายเพิ่มเติมหรือควรจะลงมติเลย ว่า เป็นหน้าที่ของวิปรัฐบาลและฝ่ายค้านจะหารือร่วมกันตามกรอบที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว และให้ถือเป็นเรื่องของสภา “ปัญหาเกิดขึ้นที่จุดไหนก็ต้องไปแก้ที่จุดนั้น แต่ถ้าเป็นไปได้ อยากให้ทุกคนคำนึงถึงความจำเป็นของการใช้จ่ายงบประมาณด้วย เพราะสถานการณ์ขณะนี้มีหลายอย่างที่จำเป็นต้องใช้งบประมาณขับเคลื่อน โดยเฉพาะภาคเศรษฐกิจ รวมทั้งการแก้ปัญหาจากผลกระทบในด้านต่าง ๆ หลายด้าน” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย  

นายกฯระบุรัฐมนตรีทุกคนพร้อมตอบซักฟอก

ทำเนียบรัฐบาล 28 ม.ค.-นายกฯ มั่นใจรัฐมนตรีพร้อมแจงญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ขอให้ส.ส.ฝ่ายค้านถามแล้วให้อยู่ฟังคำตอบด้วย ส่วนจะนำร่างพ.ร.บ.งบ 63เข้าโหวตในสภาใหม่หรือไม่ ต้องรอศาลรธน.วินิจฉัยก่อน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)  กรณีฝ่ายค้านตั้งเป้าอภภิปรายนายกฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงและพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า รัฐมนตรีทุกคนมีความพร้อมชี้แจงและวันนี้() 28 ม.ค.ได้สั่งการในที่ประชุมครม.ให้รัฐมนตรีทุกคนช่วยชี้แจงด้วย เพราะเป็นเรื่องการตอบคำถาม  “ที่สำคัญคนถามก็ควรจะอยู่ฟังคำตอบด้วย ไม่ใช่ตั้งคำถามแล้วก็ไม่อยู่ในห้องประชุมไม่ฟังคำตอบ ขณะที่ประชาชนต้องมีสติ รู้ว่าข้อมูลใดจริง ข้อมูลใดเท็จ ยืนยันว่าที่ผ่านรัฐบาลทำเต็มที่ทุกเรื่อง วันนี้เข้าสู่กระบวนการประชาธิปไตยเต็มรูปแบบ ได้รับการจัดอันดับการยอมรับจากต่างประเทศในอันดับที่ 38 ซึ่งเลื่อนขึ้นมามากที่สุดในโลก แล้วจะมาบอกว่าผมไม่ได้รับการยอมรับได้อย่างไร ที่ผ่านมาผมไม่เคยหาวิธีหลบเลี่ยงการทำงานในสภา จึงขอให้ความเชื่อมั่น” นายกรัฐมนตรี กล่าว ส่วนกรณีฝ่ายค้านเสนอให้นำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรเพื่อลงมติใหม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อน ขณะเดียวกันรัฐบาลได้ศึกษาแนวทางออกไว้บ้างแล้ว  “เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของสภานิติบัญญัติและศาลที่ควรต้องหาทางออกให้ประเทศร่วมกัน มั่นใจว่าถ้าทุกฝ่ายช่วยกันคิดช่วยกันทำหาทางออกวิกฤติการเบิกจ่ายงบงประมาณ จะทำให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด หวังว่าทุกฝ่ายจะตั้งใจทำเพื่อประเทศดีที่สุด” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย

...